บทที่ 209 ร่วมมือ

บทที่ 209 ร่วมมือ

“เถ้าแก่หลิว พวกเราคงไม่รอให้คุณอยู่ร่วมทานมื้อเย็น ดังนั้นหากมีธุระก็ขอเชิญกลับด้วยตัวเองนะครับ” อู๋ฝานบอกกับเถ้าแก่หลิว

ถ้ามีธุระอะไรงั้นเหรอ? ธุระสำคัญที่สุดตอนนี้จะมีอะไรอื่นอีก ก็ต้องซื้อร้านนี้มาให้ได้ยังไงเล่า!

เถ้าแก่หลิวร้องคำรามอยู่ในใจ

ทว่าเถ้าแก่หลิวทราบดีว่าเวลานี้ไม่ควรแสดงความโกรธออกมา เขาไม่ใช่เด็กน้อย ย่อมทราบดีว่าอะไรเป็นอะไร

“ไม่คิดมาก่อนเลยว่าเถ้าแก่อู๋จะสนใจกิจการค้าไม้อะไรทำนองนี้ด้วย แต่คนในภูเขาย่อมไม่รู้จักโลกภายนอก เถ้าแก่อู๋ไม่เคยทำกิจการด้านนี้มาก่อน ย่อมไม่มีทางเข้าใจหลักการค้าของวงการนี้ ไม่กลัวว่าจะทำเงินสูญเปล่าเหรอครับ?” เถ้าแก่หลิวเอ่ยถาม

“เสียเงิน? ผมไม่กลัวเลยครับ” อู๋ฝานตอบกลับ “อีกอย่างผมไม่เข้าใจแล้วไง ยังมีคนอื่นที่เข้าใจไม่ใช่เหรอครับ? อย่างเถ้าแก่เจ้าเป็นไงครับ?”

“หมายความว่ายังไง?” เถ้าแก่หลิวมองอู๋ฝานอย่างสับสน กระทั่งเจ้าหย้าหนานก็ยังต้องมองอีกฝ่าย เพราะไม่อาจเข้าใจความหมายในถ้อยคำของชายหนุ่ม

“ผมวางแผนเปิดโรงไม้ร่วมกับเถ้าแก่เจ้า รวมถึงโรงงานเฟอร์นิเจอร์ด้วยครับ ไม่ทราบว่าเถ้าแก่เจ้าจะคิดเห็นยังไงครับ?” อู๋ฝานหันมองหน้าเจ้าหย้าหนาน พร้อมกับเอ่ยคำถาม

แม้เถ้าแก่หลิวดูไม่ใช่คนดี แต่คำพูดนี้ของเขาก็เป็นเรื่องจริงอย่างไม่ต้องสงสัย คนในภูเขาย่อมไม่รู้จักโลกภายนอก อู๋ฝานที่คิดเข้ามาในวงการนี้ ทั้งหมดก็เพราะจำนวนไม้ที่มีในครอบครองอย่างมหาศาล ไม้หายากทั้งหลายเหล่านั้นล้วนเป็นทรัพยากรอันยอดเยี่ยม ถ้าเขาไม่เลือกเข้าวงการนี้ ค้าขายไม้เพียงอย่างเดียว ก็ออกจะเป็นเรื่องน่าเสียดายจนเกินไป เพราะมันไม่อาจทำเงินได้มากนัก

ทว่าอู๋ฝานไม่มีความเข้าใจอะไรต่อธุรกิจในด้านนี้ ดังนั้นจึงต้องการคนที่อยู่ในแวดวงและทราบดีมาช่วยเหลือ ดังนั้นเจ้าหย้าหนานจึงถือเป็นตัวเลือกที่เหมาะสม

ประการแรก เจ้าหย้าหนานและพ่อของเธอนั้น ไม่ว่าใครต่างก็อยู่ในแวดวงนี้มาอย่างยาวนาน ประสบการณ์เป็นสิ่งที่มีอย่างไม่ต้องสงสัย อีกทั้งยังเข้าใจวงการนี้เป็นอย่างดี และเจ้าหย้าหนานเองก็ยังมีความรู้สึกรักผูกพันกับร้านแห่งนี้ ถ้าได้เธอร่วมมือ เธอย่อมยินดีดำเนินกิจการต่อจากใจ ไม่จำเป็นต้องให้ชายหนุ่มต้องกังวลใดทั้งสิ้น

ในอนาคตอู๋ฝานอาจมีกิจการที่มากยิ่งกว่านี้ เขาย่อมไม่อาจลงทุนด้านเวลาและเรี่ยวแรงไปกับกิจการใดกิจการหนึ่งได้ การหาตัวคนที่มีความสามารถในวงการดังกล่าวมาช่วยเหลือ ย่อมอำนวยความสะดวกในทุกทาง

เหมือนเฉินปิงเหยาและหลิวอี้เตาที่อยู่ในร้านอาหาร ที่นี่ก็ต้องมีคนเช่นเดียวกัน เช่นนั้นเขาจึงจะสามารถวางใจได้ และตัวเลือกนั้นคือเจ้าหย้าหนาน

แน่นอนว่าทั้งหมดนี้เป็นแนวคิดของอู๋ฝาน เรื่องนี้ยังจำเป็นต้องให้เจ้าหย้าหนานเป็นคนเห็นพ้องตัดสินใจ

“เรื่องนี้..” เจ้าหย้าหนานลังเลเล็กน้อย ราวกับไม่ทราบว่าควรตอบอะไรดี อย่างไรแล้วเรื่องนี้อู๋ฝานก็ไม่ได้บอกกับเธอมาก่อน ดังนั้นเธอจึงยังไม่ได้เตรียมใจและไตร่ตรอง

“ถ้ารับปาก ผมจะช่วยจัดการเรื่องคำสั่งซื้อให้ครับ” อู๋ฝานโยนเหยื่อล่อออกไป

“จริงเหรอคะ?!” เจ้าหย้าหนานตอบกลับด้วยอาการประหลาดใจ

คำสั่งซื้อที่มีปัญหา ตอนนี้เปรียบดังขุนเขาใหญ่ที่กดทับเจ้าหย้าหนาน มันทำเธอแทบไม่สามารถหายใจได้อย่างสะดวก เพราะเมื่อไม่อาจจัดการสะสางคำสั่งซื้อดังกล่าวได้ ครอบครัวของเธอก็อาจไม่สามารถรักษาอะไรเอาไว้ได้เลย ไม่เพียงแต่ร้านค้าและโรงงาน แต่ยังรวมถึงบ้าน รถ และทรัพย์สินทั้งหลายด้วย ทั้งหมดจะต้องสูญเสียไป อาจถึงขนาดเป็นเหตุให้ครอบครัวต้องไปใช้ชีวิตอยู่ข้างถนนที่แสนอันตราย เพราะเหตุนั้นเจ้าหย้าหนานจึงเกลียดชังเถ้าแก่หลิว ต่อให้ต้องตายเธอก็ไม่มีทางขายที่แห่งนี้ให้อีกฝ่าย!

เพราะเรื่องราวทั้งหมดมันเริ่มต้นจากอีกฝ่าย!

และถ้าอู๋ฝานสามารถช่วยเหลือเธอให้สามารถจัดการคำสั่งซื้อจนเรียบร้อยได้ ขุนเขาใหญ่ที่กดทับตัวเจ้าหย้าหนานจะเลือนหายไป วิกฤตที่ครอบครัวของเธอกำลังเผชิญก็คงไม่ถึงขนาดทำให้ต้องตกระกำลำบาก

ดังนั้นตอนที่ได้ยินคำพูดของอู๋ฝาน เธอจึงแสดงอาการตื่นเต้นและยินดีออกมา

“แน่นอนครับ” อู๋ฝานพยักหน้าตอบรับ

คำสั่งซื้อที่เป็นหลุมพรางกับดักนั้น ไม่ใช่ต้องการเพียงแค่ไม้ชิงชัน แต่ยังมีไม้ล้ำค่าประเภทอื่นอีก มูลค่าของตัวไม้อย่างเดียวก็สูงเกินกว่ายี่สิบล้านเข้าไปแล้ว ถ้าอู๋ฝานช่วยเหลือเจ้าหย้าหนานจัดการคำสั่งซื้อดังกล่าวได้สำเร็จ ก็เทียบเท่าการลงทุนด้วยเงินกว่ายี่สิบล้าน อย่างไรแล้วไม้เหล่านั้นก็จำเป็นต้องซื้อหามาเข้ากระบวนการผลิตอีกครั้งหนึ่ง

ทว่าอู๋ฝานแทบไม่ต้องแคะกระปุกนำเงินยี่สิบล้านออกมา เพราะไม้ที่ต้องการตามคำสั่งซื้อ ตัวเขามีอยู่เต็มแน่นที่ภูเขาด้านหลังของหมู่บ้านเร้นลับ ขอเพียงไปตัดมันมาก็ใช้ได้แล้ว

“ตกลงค่ะ ขอแค่ช่วยฉันจัดการคำสั่งซื้อนี้ได้สำเร็จ ฉันรับปากจะทำงานให้ค่ะ” ได้เห็นอู๋ฝานยืนยัน เจ้าหย้าหนานจึงไร้ซึ่งความลังเลอีก “ยกเว้นเงินดำเนินการที่โรงงาน ที่เหลือถือว่าฉันกู้ยืมจากคุณอู๋นะคะ หลังจากนี้ฉันจะทยอยจ่ายคืนให้ค่ะ”

เจ้าหย้าหนานทราบดีว่าอู๋ฝานไม่มีทางช่วยเหลือจัดการคำสั่งซื้อโดยไม่คิดค่าใช้จ่าย อย่างไรแล้วมันก็ต้องลงเงินเป็นจำนวนมหาศาล และระหว่างเธอกับอู๋ฝานนั้นไม่ได้มีความสัมพันธ์อะไรต่อกันทั้งสิ้น แค่ชายหนุ่มออกปากให้ความช่วยเหลือ ก็มากพอทำเธอรู้สึกซาบซึ้งแล้ว เธอย่อมไม่คิดเอาเปรียบอีกฝ่ายในด้านอื่น ๆ

“ตามนั้นครับ” อู๋ฝานตอบรับ “นอกจากนี้เรื่องโรงงาน ผมจะแบ่งหุ้นส่วนไว้ให้หนึ่งในสิบก็แล้วกันครับ ส่วนจะรับไว้หรือไม่นั้นตัดสินใจเองได้เลย”

“ค่ะ!” เจ้าหย้าหนานตอบรับอย่างไม่ลังเล

แม้ว่าด้วยเหตุนี้จะทำให้มูลค่าขายออกของโรงงานจะต่ำกว่าที่ควรได้ แต่หนทางที่ได้รับมานั้น ทำให้ครอบครัวของเจ้าหย้าหนานยังมีส่วนแบ่งในโรงงาน อีกทั้งโรงงานนั้นก็เป็นของครอบครัวเธอก่อตั้งขึ้น สำหรับเจ้าหย้าหนานแบบนี้ถือเป็นเรื่องดีที่สุดแล้ว

อย่างไรเธอก็ติดค้างอู๋ฝานเป็นเงินจำนวนมาก จึงไม่ใส่ใจถ้าหากจะต้องติดเพิ่มอีกสักเล็กน้อย

“งั้นก็ไม่น่ามีปัญหาอะไรแล้วครับ พวกเราทำสัญญากันตอนนี้ได้เลย ส่วนผมจะรีบนำไม้มาส่งให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ครับ” อู๋ฝานตอบรับ

การให้เจ้าหย้าหนานยังคงถือหุ้นส่วน อู๋ฝานย่อมคาดหวังให้เธอมีแรงใจในการทำงานมากขึ้น หากการเสียสละส่วนแบ่งไปบ้างสามารถซื้อใจอีกฝ่ายกลับคืนมาได้ ชายหนุ่มย่อมยินดีที่จะทำ อีกทั้งเจ้าหย้าหนานยังรักและผูกพันกับสถานที่แห่งนี้ อย่างไรก็ต้องช่วยเขาหาเงินให้ได้มากขึ้น

ด้วยเหตุนี้ไม่ว่าจะคิดอย่างไร ก็ถือเป็นการค้าที่ดีกับทั้งสองฝ่าย

“ค่ะ” เจ้าหย้าหนานราวกับได้รับชีวิตกลับคืนมาอีกครั้ง ตอนนี้เธอไม่ได้มีท่าทีประหนึ่งคนตายเช่นก่อนหน้าอีกต่อไปแล้ว

เถ้าแก่หลิวที่ชมเรื่องราวทั้งหมดนิ่งงันไป เขาได้เป็นประจักษ์พยานถึงข้อตกลงทั้งหมดนี้ เพียงแต่ เขาไม่ได้คาดจะเห็นเรื่องราวดำเนินไปแบบนี้ ทำไมคนทั้งสองถึงร่วมมือกันได้? เพราะอะไรพวกเขาจึงตกลงกันแบบนี้ได้ แค่พูดคุยกันตรงนี้ก็ตกลงโอนเสร็จสรรพแล้ว?

“ยัยหนู” เถ้าแก่หลิวยังคิดพยายามทำอะไรบางอย่าง

ทว่าเจ้าหย้าหนานไม่คิดเปิดโอกาสให้เขาพูด “ทำไมยังไม่ไปอีกล่ะคะ เสี่ยวฝาน รบกวนส่งแขกด้วย”

เสี่ยวฝานเป็นชายหนุ่มคนที่อู๋ฝานได้พบครั้งแรกตอนมาถึง อีกฝ่ายตอนนี้เป็นลูกจ้างเพียงคนเดียวของที่นี่แล้ว ตอนนี้เมื่อได้ยินคำของเจ้าหย้าหนาน จึงรีบเข้ามาผลักเถ้าแก่หลิวอย่างไม่คิดไว้หน้า

“ไม่ต้อง ฉันไปเองได้!” เถ้าแก่หลิวเห็นแล้วว่าแผนการของตนเองผิดพลาดใหญ่โต แม้ใจไม่ยินดี แต่ก็ไม่อาจอยู่ที่นี่ต่อได้แล้ว ไม่อย่างงั้นจะยิ่งกลายเป็นตัวตลกชวนขบขัน

ก่อนจะออกไป เถ้าแก่หลิวยังหันหน้ามามองอู๋ฝานและเจ้าหย้าหนาน พร้อมกับเผยรอยยิ้มเย็นยะเยือกที่มุมปาก

คิดทำคำสั่งซื้อให้เสร็จงั้นเหรอ?

อย่าฝัน!

ตราบใดที่ไม่สามารถทำให้คำสั่งซื้อสำเร็จได้ ก็เท่ากับการลงทุนยี่สิบล้านครั้งที่สองนี้สูญเปล่า นอกจากนั้นยังจะต้องจ่ายค่าชดเชยอีกหลายสิบล้าน เถ้าแก่หลิวไม่เชื่อว่าอู๋ฝานจะมีเงินมากมายขนาดนั้นลงทุนต่อเนื่องได้

เมื่อถึงเวลานั้น อย่างไรก็ต้องขายกิจการทั้งหมด ถึงตอนนั้นเขาก็ยังพอจะมีโอกาส

ไม่ช้าก็เร็วกิจการทั้งหมดจะต้องตกเป็นของเขา!

เถ้าแก่หลิวเดินออกไปพร้อมกับใจที่คิดเช่นนั้น