ตอนที่ 63

Earth’s Best Gamer

ช่วงเช้าตรู่ ภายในศาลเจ้าหลักของภูเขามังกรคู่

ท้องฟ้ายังคงมืดครื้ม แต่ทางเข้าห้องโถงก็เต็มไปด้วยผู้คน

“ในที่สุดฉันก็จะได้เห็นพิธีกรรมต้อนรับคนในตำนาน!” ผู้เล่นชายสองคนที่มาในช่วงสองวันที่ผ่านมากล่าวอย่างตื่นเต้น

“เฮ้ หากพวกนายกลับมาเกิดไวกว่านี้ พวกนายก็คงจะได้เห็นการต้อนรับเช่นเดียวกับฉัน”

เสียงของคุณชายบักฟังดูยินดี

เขาดูเหมือนจะลืมไปว่าเขามีดวงตาที่ฟกช้ำได้อย่างไร

“ทำไมนายถึงทำตัวนิ่งเฉยล่ะ? นายคิดว่าเราทุกคนเหมือนนายงั้นเหรอ? โดนมอนเตอร์ฆ่าตั้งแต่ครึ่งวันหลังจากที่เราเข้ามาครั้งแรก” ผู้เล่นชายคนใหม่ตอบกลับมา

“ถูกต้อง!”

ผู้เล่นอีกคนเห็นด้วย

“บัดซ* พวกนายอยากตายงั้นเหรอ…”

คุณชายบักโกรธมัก เขาพับแขนเสื้อขึ้นมาและเผยให้เห็นภาพน้ำเต้าทั้งเจ็ดที่ใช้ปกปิดรอยสักหญิงสาวจากประเทศซากุระ เขาต้องการที่จะโจมตีพวกเขา

“หยุดเถึยงกันได้แล้ว การอัญเชิญจะเริ่มขึ้นแล้ว!”

พวกเขาทั้งสามคนยืนอยู่ราวกับผู้คุ้มกัน ซวีเสวียผู้ที่อยู่ตรงกลางจ้องมองไปที่จีเย่ผู้ที่วางเครื่องบูชายัญในห้องโถงด้วยสายตาที่อ่อนโอนและส่งเสียงไม่พอใจออกมา

ต้องบอกว่าในฐานะดารา เธอยังคงมีข้อได้เปรียบที่คนอื่นไม่มี ด้วยการที่จีเย่ไม่ได้จัดการผู้เล่นใหม่อีกต่อไป เธอจึงประสบความสำเร็จในการรวบรวมมือใหม่สามคนได้สำเร็จ

เรื่องนี้ทำให้ซวีเสวียผู้ที่เดิมทีอยู่เพียงลำพังก็สามารถลุกขึ้นมาเป็น ‘มือใหม่รุ่นก่อน’ ได้เหมือนคนอื่น

ท้ายที่สุดแล้ว ผู้ที่มาภูเขามังกรคู่ได้ถูกสังหารในการต่อสู้หรือไม่ก็ถิ่นฐานของพกวเขาถูกทำลาย

ไม่ว่าจะเป็นเพราะอะไร เนื่องจากพวกเขากล้าหาญที่จะเข้าสู่ระบบอย่างรวดเร็ว มันก็หมายความว่าพวกเขาไม่ได้กลัวความตายมากเกินไป!

ฟริ้งง!

ภายในศาลเจ้าที่ถูกเปลี่ยนแปลงมาจากวัด มังกรสีเหลืองสองตัวก็โผล่ออกมาอีกครั้งและพ่นแสงสีทองไปที่วิญญาณแห่งอารยธรรมและหยกวิญญาณที่อยู่ด้านล่าง

ไม่เหมือนกับเครื่องบูชายัญระดับสามัญที่ใช้กับเป่ยซานในครั้งก่อน หยกวิญญาณได้สร้างความผันผวานทันทีเมื่อมันสัมผัสกับแสงสีทองที่พ่นออกจากมังกร มันฉายภาพขยายบนท้องฟ้าของห้องโถง เผยให้เห็นเงาทหารสี่คนที่ถูกสังหารโดยวิญญาณขั้นผู้บัญชาการ พวกเขาลอยอยู่บนทะเลอันไร้ที่ขอบเขตที่เกิดจากก๊าซสีดำ

“วา!”

“พ่อ!”

เมื่อเห็นสิ่งนี้ เสียงร้องก็ดังขึ้นในห้องโถงทันที พวกเขาเป็นคนใกล้ชิดของทหารที่เสียชีวิตทั้งสี่คน จีเย่อนุญาตให้พวกเขาเข้าห้องโถงเพื่อเข้าร่วมพิธ๊กรรมเป็นพิเศษ

อย่างไรก็ตาม พวกเขาไม่ได้หมกมุ่นอยู่กับความโศกเศร้ามากเกินไป ตามที่หลู่จือเซินกล่าว ตราบใดที่ถิ่นฐานยังคงเติบโต ก็มีโอกาสที่พวกเขาจะฟื้นคืนชีพขึ้นมา

“น้ำบริสุทธิ์ครึ่งชามสว่างไหสวไปทั่วจักรวาล ยันต์สั่งการภูติผีและเทพเจ้า ใช้ยันต์แปดเหลี่ยมและดาบไม้ในมือสังหารปีศาจ…”

ในห้องโถงหลัก เสียงที่ดังและชัดเจนดังขึ้นในขณะที่มันท่องข้อความ

“นี่คือ…”

จีเย่ตกตะลึง

“นี่คือะไร… บทกวีในการแสดงหุ่นเชิดมืองั้นเหรอ? หรือบทกวีเพื่อดึงดูดความสนใจ?”

“มีการกล่าวถึงในฟอรั่มว่าวีรบุรุษยอดนิยมบางคนจะสร้างปรากฏการณ์บางอย่างเมื่อพวกเขาปรากฏออกมา พวกเขาจะบรรยายชีวิตของพวกเขา!”

สำหรับมือใหม่ด้านนอกห้องโถง พวกเขาบางคนค้นพบมันแปลกใหม่ ในขณะที่คนอื่นพยายามที่จะเข้าใจบทกวี แววตาของพวกเขาสว่างขึ้นม

ฟริ้งง!

แสงสีขาวจากวิญญาณแห่งอารยธรรมสว่างขึ้นและเปลี่ยนเป็นร่างที่สวมชุดคลุมเต๋าแปดเหลี่ยมสีเหลือง

จากนั้นเขาก็ก้าวไปข้างหน้า สร้างตราประทับมือด้วยนิ้วของเขาและชี้ไปที่หยกวิญญาณ ทันใดนั้นหยกวิญญาณสีดำก็สลายไป

ทะเลสีดำอันไร้ที่สิ้นสุดที่ล้อมรอบทหารก็แตกเป็นเสี่ยงๆ วิญญาณที่หลงเหลืออยู่ก็เปลี่ยนเป็นสีขาวและลอยเข้าไปในห้องโถง ปล่อยให้มังกรคู่ดูดกลืนและพ่นวิญญาณที่ฟื้นฟูเล็กน้อยของพวกเขาออกมา!

“นี่ไม่ใช่… ลุงเก้างั้นเหรอ?”

เมื่อพวกเขาเห็นใบหน้าของชายสวมชุดคลุม ผู้เล่นใหม่ส่วนใหญก็เผยให้เห็ยสีหน้าที่ประหลาดใจ

นี่เป็นเพราะพวกเขาคุ้นเคยกับรูปลักษณ์และการแต่งตัวของผู้ที่มาใหม่คนนี้มากเกินไป

“แต่ทำไมถึงเป็นลุงเก้าล่ะ?”

“เขาไม่ได้อยู่ในถิ่นฐานชาวจีนข้ามโพ้นทะเลเหรอ? เป็นไปได้มั้ยว่าในดินแดนแห่งมรดก ถิ่นฐานที่แตกต่างกันสามารถต้อนรับวีรบุรุษที่คล้ายกันสองคนได้?”

“นั่น… เป็นไปไม่ได้ หากเป็นแบบนั้น เมื่อซุนหงอคงหลายสิบคนเผชิญหน้ากัน พวกเขาจะไม่สู้กันจนจักรวาลถูกทำลายเลยเหรอ? เราไม่สามารถบอกได้ว่าใครคือราชาวานรตัวจริง!”

เนื่องจากการปิดกั้นข่าวสารเกี่ยวกับหมู่บ้านเร็น แม้แต่ผู้เล่นใหม่สองคนก็ไม่รู้อะไรเลย

ผู้คนต่างตื่นเต้นเป็นอย่างมากที่ลุงเก้าลงมา แต่พวกเขาก็อดไม่ได้ที่จะแสดงสีหน้างงงวย

“ฉันเข้าใจแล้ว”

“ในกรณีนั้น ชนพื้นเมืองที่ถูกทำลายสามารถย้ายไปยังถิ่นฐานอื่นได้ อาจเป็นเพราะเครื่องบูชายัญที่เกี่ยวข้องกับเผ่าวิญญาณมีส่วนเกี่ยวข้องกับลุงเก้า!”

จีเย่เริ่มตระหนักแล้ว

เนื่องจากผู้เล่นสามารถฟื้นคืนชีพได้ตามกฏของเกม จึงมีความเป็นไปได้ที่เอ็นพีซีจะเกิดใหม่ได้!

อย่างไรก็ตาม ผู้เล่นมีบทลงโทษความตาย ดังนั้นราคาสำหรับการคืนชีพของชนพื้นเมืองคืออะไร?

จีเย่ตรวจสอบคุณสมบัติของลุงเก้า

[หลินจิ่ว]

[ระดับ : วิสามัญอันดับ 1]

[ขั้น : ผู้บัญชาการ]

[รายละเอียด : เต๋าเหมาซานจากยุคสาธารณรัฐจีน เขามีความสามารถในการปราบผีและปีศาจ เขาเก่งในศิลปะสายฟ้าห้าแฉก]

[ประสบความสำเร็จในการต้อนรับวีรบุรุษมนุษย์ แต้มเกียรติยศที่ได้รับ : 30!]

นอกเหนือจากนั้น จีเย่ก็ยังได้รับการแจ้งเตือนในใจของเขา

“ลุงเก้า ดีใจมากที่คุณมาที่นี่”

“เมื่อคุณอยู่ใกล้ๆ เราก็ไม่จำเป็นต้องกังวลเกี่ยวกับการโจมตีของเผ่าวิญญาณอีกแล้ว”

ไม่กี่นาทีต่อมา ในห้องโถงหลักของภูเขามังกรคู่ หลู่จือเซินพร้อมกับจีเย่และลุงเก้ามานั่งด้วยกัน ผู้อาวุโสฮูเฟิงเสิร์ฟชาให้พวกเขา

“เผ่าวิญญาณ?”.

ลุงเก้าผู้ที่กำลังดื่มชาแทบจะทำฝาถ้วยชาหล่นเนื่องจากมือที่สั่นของเขา

“ขอโทษด้วยท่านหัวหน้า ฉันไม่รู้ว่าทำไม แต่ฉันเกลียดชื่อนี้”

ลุงเก้าขมวดคิ้วหนาด้วยความงงงวย

“ลุงเก้า คุณไม่รู้เกี่ยวกับเผ่าวิญญาณงั้นเหรอ?”

จีเย่ผงะในขณะที่เขาเอ่ยถาม

“ฉัน… ฉันจำไม่ได้เลย ฉันคิดว่าฉันสูญเสียความทรงจำ…”

ลุงเก้าขมวดคิ้วและจมดิ่งในความคิด

ลุงเก้าสูญเสียความทรงจำ

เขาดูเหมือนจะลืมทุกอย่างเกี่ยวกับตัวตนของเขา รวมถึงการถูกทำลายของหมู่บ้านเร็น

เห็นได้อย่างชัดเจนว่านี่คือบทลงโทษความตายที่ชนพื้นเมืองได้รับหลังจากถิ่นฐานถูกทำลาย

อันที่จริง มันไม่ใช่แค่ความจำเสื่อม

เป็นที่ทราบกันดีว่าลุงเก้าแต่เดิมแล้วเป็นวีรบุรุษขั้นเหนือชั้น แต่เครื่องบูชายัญหยกวิญญาณที่เขาใช้ก่อนหน้านี้เป็นแค่ขั้น ‘ยอดยเยี่ยม’ เท่านั้น

เห็นได้อย่างชัดเจนว่าลุงเก้าถูก ‘ลดขั้น’!

บทลงโทษความตายดังกล่าวหยักกว่าผู้เล่นที่เป็นผู้ถูกเลือกอย่างไม่ต้องสงสัย

จีเย่ไม่รู้ว่าเขาควรรู้สึกเสียใจกับเรื่องนี้หรือรู้สึกยินดี ท้ายที่สุดแล้วหากลุงเก้าไม่ได้ถูกลดขั้น ลุงเก้าก็จะไม่ถูกนำมาที่ภูเขามังกรคู่

อย่างไรก็ตาม จากประสบการณ์ของเขา ขั้นสามารถเพิ่มขึ้นได้ผ่านการบ่มเพาะ นอกเหนือจากนั้น แม้ว่าเขาจะถูกลดขั้น แต่ลุงเก้าก็มีแนวโน้มที่จะแข็งแกร่งกว่าวีรบุรุษทั่วไปมาก

อย่างน้อยเขาก็ไม่มีปัญหาในการจัดการเผ่าวิญญาณ!