บทที่4ตอนที่8

โนโซมุเผชิญหน้ากับยักษ์นั่นตรงซากศพของหมาป่า

ไซคลอปส์

แม้ว่าจะไม่อันตรายเทียบเท่ามังกรที่บินทยานท่ามกลางท้องฟ้าและพ่นลมหายใจได้ แต่มันก็เป็นมอนแรงค์ A

เป็นเรื่องยากสำหรับนักผจญภัยทั่วๆไปที่จะจัดการมันด้วยตัวคนเดียว ต้องเป็นคนแรงค์ A ขึ้นไปและใช้เวทย์ได้คล่องด้วย

อย่างไรก็ตาม โนโซมุที่ไม่แม้แต่ใช้เวทย์เริ่มต้นได้ และไม่มีการโจมตีระยะไกลเลยแม้แต่น้อย เป็นคู่ต่อสู้ที่เขาเสียเปรียบเป็นอย่างมาก

ไซคลอปส์ยิ้มให้กับโนโซมุ บางทีพยายามกำลังข่มขู่โนโซมุอยู่

ปกติแล้วเขาจะถออย เมื่อพิจารณาถึงความเสี่ยงในการต่อสู้กับสัตว์อสูรที่ทรงพลังในอาณาเขตของมัน

อย่างไรก็ตามสำหรับโนโซมุในตอนนี้ที่ไม่คิดถึงอนาคต

“อยากจะเข้าไปในป่าเพื่อลืมทุกอย่าง”

แม้ว่าจะพยายามลบเลือนความทรงจำอันแสนปวดใจที่ถูกเพื่อนรักหักหลังและสูญเสียเป้าหมายในการใช้ชีวิต เขาถือดาบคาตานะไว้แน่นเพื่อขจัดความลังเลในจิตใจ

แม้ว่าเขาจะอยู่ในสภาพจิตใจเช่นนี้ แต่เขาก็ไม่ปลดปล่อย “พันธนาการ”เพราะยังคงลังเลใจอยู่

ความกังวลเกี่ยวกับเทียแมทซึ่งนั่นไม่ทำให้เขาไม่ปล่อยตัวไปตามอารมณ์เหล่านั้น

แต่เขาก็ลังเลเพียงเรื่องนั้นเท่านั้น ตอนนี้เขาไม่ได้กังวลเลยว่าจะต้องฆ่ายักษ์ตรงหน้านี้

บางทีไซคลอปส์เองก็รู้สึกถึงจิตวิญญาณนักสู้ของโนโซมุ โดยถือกระบองขนาดใหญ่เท่าตัวของมนุษย์

◇◆◇

คนแรกที่ชิงลงมือคือโนโซมุ เขาวิ่งเข้าหาไซคลอปส์ขณะที่เสริมความสามารถทางกายภาพ

ไซคอลปส์เหลือบมองโนโซมุซึ่งกำลังมุ่งหน้ามาหามัน และหยิบกระบองขนาดใหญ่เพื่อไล่แมลงตัวเล็กๆ

โนโซมุพยายามปัดป้องกระบองที่ถูกฟาดมาทางเขาด้วยดาบคาตานะ……。

「ย๊ากส์!」

พลังนั้นแตกต่างกันเกินไปจนไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ ร่างกายท่อนบนที่เปิดกว้างและลำตัวสูงใหญ่

ไซคลอปส์ดึงกระบองกลับและพยายามจะซัดเข้าไปที่โนโซมุป้องกันตัวเองไม่ได้จากทิศตรงข้าม

โนโซมุก้มลงและพยายามหลบกระบองที่เข้ามาตรงหน้า

เมื่อรู้สึกว่ากระบองผ่านหัวไปแล้วโนโซมุพยายามลุกขึ้นทันที แต่ไซคลอปส์ก็พยายามฟาดกระบองลงไปอีก

โนโซมุหยุดยืนขึ้นและกลิ้งไปด้านข้างขณะนอนราบกับพื้นเพื่อหลบกระบอง

กระบองกระแทกลงพื้นติดข้างๆโนโซมุและแรงกระแทกนั่นก็ทำให้พื้นสั่นสะเทือน ทำให้ดินและทรายกระจัดกระจายไปทั่ว

โนโซมุยืนขึ้นโดยใช้แรงนั่นเป็นตัวผลัก

ดูเหมือนว่าการโจมตีเมื่อกี้นี้จะเป็นการล่อเขา

ยังไงก็ตามไซคลอปส์ไม่ได้ตามเขา

เห็นได้ชัดว่าไซคลอปส์มันกำลังหัวเราะลั่นกับท่าทางอันแสนน่ารังเกียจของโนโซมุ

อย่างไรก็ตาม โนโซมุไม่ได้สนใจเพียงเอาแต่สนว่ากำลัง “จะฆ่ามันยังไง”

โนโซมุคิดไปเรื่อยๆ ขณะที่พุ่งเข้าหาไซคลอปส์

โนโซมุไม่ได้รับบาดเจ็บจากการต่อสู้กับหมาป่า แต่ถึงกระนั้นตัวเขาก็ไม่ได้ยินดีปรีดาอะไรเขาประมาณตนเองอยู่เสมอ และพยายามใช้กลยุทธ์ของเขาเพื่อจัดการพวกมัน

อย่างไรก็ตามเนื่องจากโนโซมุไม่สามารถใช้เวทย์ได้ จึงมีเพียงการต่อสู้ระยะประชิดเท่านั้นที่เป็นทางออก คิเองก็มีพอสำหรับโจมตีระยะไกลหรอก แต่ไม่ควรจะเอาไปใช้แบบนั้นเพราะมันไม่แน่นอน

(พอคิดได้เช่นนั้น การโจมตีระยะไกลนั้นใช้ไม่ได้เลย…………)

โนโซมุไม่เคยคิดว่าจะเจอกับไซคลอปส์ ปกติมันจะอยู่ลึกกว่านี้ไปอีกและไม่ปรากฏตัวออกมา

นั้นคือเหตุผลที่มันแข็งแกร่ง มันกินได้แม้กระทั่งกระดูกไม่เหลือซากแน่นอน ผมเองก็ไม่มีประสบการณ์ต่อสู้กับไซคลอปส์ไม่มีทางเลือกนอกจากใช้ความรู้ที่ผมอ่านในหนังสือ

(สิ่งที่อันตรายของมันก็คือการเปิดใช้งาน “ดวงตาแห่งความบ้าคลั่ง”…………)

ดวงตาแห่งความบ้าคลั่ง

นั่นคือความสามารถของไซคลอปส์

สัญชาตญาณแห่งความกลัวจะที่ทำให้ฝ่ายตรงข้ามต้องหนี ความแข็งแกร่งของกล้ามเนื้อที่เพิ่มขึ้นสองเท่าและสูญเสียสติความคิดไป

หากเจ้านี่แข็งแกร่งขึ้นเป็นสองเท่านั่นก็ไม่ใช้เพียงแค่โจมตีแรงขึ้นแต่ยังเร็วขึ้นเป็นสองเท่าด้วย

หากเป็นเช่นนั้นโอกาสชนะของโนโซมุก็จะต่ำลงไปอีก

(เป้าหมายเดียวก็คือการโจมตีจุดตายในคราวเดียว!)

วิธีเดียวที่จะไม่ให้มันใช้ดวงตาแห่งความบ้าคลั่งก็คือการโจมตีทีเดียวตาย หากโจมตีแบบครึ่งๆกลางๆจนมันบาดเจ็บจะเปิดใช้งานความสามารถก็ขึ้นกับเวลา

โชคดีตอนนี้ไซคลอปส์ยังไม่เห็นโนโซมุเป็นตัวอันตราย

(การจะทำเช่นนั้นก็จำเป็นจะต้องเข้าใกล้มันให้ได้……)

ท้ายที่สุดปัญหาก็ถูกแก้ไข

ความแตกต่างทางร่างกายของโนโซมุกับยักษ์มันใหญ่มาก

อีกทั้งความแข็งแกร่งของกล้ามเนื้อมันไม่ธรรมดา ยักษ์มันไม่ได้เรียนวิชาป้องกันตัวหรือวิชาดาบหรอก แต่ความแข็งแกร่งของกล้ามเนื้อนั่นเป็นจุดเด่นของมัน

พลังของไม้กระบองที่ถือและถูกฟาดลงก็บดขยี้ศัตรูได้ง่ายๆแล้ว หากป้องกันไม่ดีก็เตรียมตัวแบน

นอกจากนี้กล้ามเนื้อมันฟื้นฟูได้อย่างรวดเร็ว รอยขีดข่วนนิดหน่อยทำไรไม่ได้หรอก

「ก๊ากกกๆๆๆๆๆๆ!」

เมื่อโนโซมุคิดว่าจะจัดการกับมันยังไง คราวนี้เป็นตาของมันบุกบ้าง

เนื่องจากมันพยายามจะจัดการโนโซมุด้วยการฟาดกระบองจากด้านบน โนโซมุจึงหยุดคิดเรื่องอื่นและหลบการโจมตี

กระบองนั่นส่งเสียงสะเทือนลั่นและจะพุ่งเข้าใส่โนโซมุ

โนโซมุก้มลงหลบการโจมตีกระบองผ่านหน้าผมไปคลื่นแรงลมนั่นทำให้ผมของโนโซมุปลิวไสว

วินาทีที่กระบองกระแทกลงกับพื้น พื้นดินก็กระจายอีกครั้ง

โนโซมุอ่านการโจมตีของฝ่ายตรงข้ามจากโครงร่างที่มองเห็นได้ผ่านม่านฝุ่นบางๆ

คราวนี้ไซคลอปส์ฟาดมาทางด้านข้าง

โนโซมุก้มต่ำลงแต่คราวนี้มันก็ฟาดลงมา

โนโซมุก้าวตัวไปทางซ้ายและเขยิบไปด้านข้างเพื่อหลบกระบองนั่น

การโจมตีและป้องกันจนแทบไม่ได้หยุดหายใจ การต่อสู้อันแสนยาวนานระหว่างโนโซมุและไซคลอปส์ได้เริ่มขึ้นแล้ว การต่อสู้จะจบลงก็ต่อเมื่ออีกฝ่ายแหลกสลายไป

◇◆◇

การต่อสู้ระหว่างโนโซมุและไซคลอปส์ยังคงดำเนินต่อไป แต่เป็นฝ่ายโน้นที่ได้โจมตีอยู่ฝ่ายเดียว

ฝั่งโน้นใช้ทั้งกระบองและกำปั้นของมันกระหน่ำโจมตีโนโซมุ

ในทางกลับกันโนโซมุก็ยังคงโฟกัสไปที่การหลบการโจมตีอย่างเฉียดฉิว ถ้าสามารถเข้าใกล้มันได้ละก็ แต่การโจมตีของมันรุนแรงมากจนไม่สามารถเข้าไปในใกล้รอบๆตัวมันได้เลย

ถ้าโนโซมุใช้เวทย์ได้ละก็ หรือมีคนที่ใช้เวทย์ได้ เขาก็คงไม่ลำบากมาก

ไซคลอปส์นั้นแข็งแกร่งเป็นพิเศษด้านกายภาพ แต่อ่อนแอกับเวทย์

สำหรับไอริสที่สามารถใช้เวทย์ได้ในทันทีและทิม่าที่สามารถปล่อยเวทย์ขนาดใหญ่ได้ก็สามารถหยุดการเคลื่อนไหวและฆ่ามันได้ง่ายๆแน่นอน

หากเป็นเปลวเพลิงหรือสายฟ้าละก็ มันสามารถเผาผิวหนังของมันและสร้างความเสียหายภายในได้

แม้ว่าจะฆ่าไม่ได้ แต่ก็สร้างความเสียหายให้พอตัว ทำให้ทิศทางการต่อสู้เปลี่ยนไป

แต่ว่าเรื่องแบบนั้นโนโซมุทำไม่ได้ ถ้าทำแบบนั้นการต่อสู้ของโนโซมุจะยิ่งยากเข้าไปใหญ่

◇◆◇

「ก๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกก!」

โชคดีที่ไซคลอปส์โจมตีโนโซมุไม่โดนเลยแม้แต่น้อย

ไซคลอปส์ที่รู้สึกว่าโนโซมุไม่ใช่ภัยคุกคามแต่ก็เป็นคนหนังเหนียวที่ฆ่าไม่ได้สักที

นี่เป็นโอกาสดีสำหรับโนโซมุ การโจมตีของมันเริ่มร้อนรน และช่วงเวลาระหว่างการโจมตีมันเริ่มมีช่องว่าง

(ยัง…ยังเร็วเกินไปที่จะจัดการ……ต้องรอให้มันโกรธมากกว่านี้……)

โนโซมุหลบการโจมตีของมันไปเรื่อยๆและรอเวลามาถึง จุดมุ่งหมายคือตอนที่มันถึงขีดจำกัดแล้วนั่นเอง และในที่สุดมันก็มาถึงจนได้

「กร๊ากกกกกกกกกกกกกกกก!」

ในที่สุดความอดทนของมันก็ถึงขีดจำกัด มันเหวี่ยงไม้กระบองและฟาดเข้าหาโนโซมุ

พร้อมกับเสียงคำรามอันก้อง ไม้กระบองของมันก็โจมตีเร็วขึ้นในทันที มันตัดผ่านอากาศยามค่ำคืนและเข้าใกล้โนโซมุ

「ตอนนี้แหละ!!!」

โนโซมุพุ่งเข้าหากระบองนั่นด้วยความเร็วเต็มที่ เมื่อมองจากภายนอกแล้วดูเป็นการกระทำอันบ้าบิ่น และดูเหมือนว่าในที่สุดความกลัวที่หยั่งรากลึกมาจนถึงขีดจำกัดจนสับสน

แต่ว่าการกระทำของโนโซมุไม่ได้บ้าบิ่น

อาวุธด้ามยาว ประเภทจำพวก ดาบ กระบองและขวาน ไม่ว่าจะเล็กหรือใหญ่มันก็มีวงโคจรในการโจมตีเป็นวงกลม ดังนั้นพลังในการโจมตีของมันจึงเน้นความคมและพลังเข้าว่า

กล่าวคือยิ่งอยู่ห่างจากระยะโจมตี พลังมันก็จะเบาลง

เมื่อการโจมตีของไซคลอปส์ที่หมดความอดทน โนโซมุก็เข้าถึงปลายกระบองยักษ์ได้สำเร็จ

อย่างไรก็ตาม แม้พลังจะต่ำลงแต่ความแข็งแกร่งของมันก็ไม่ใช่สิ่งที่โนโซมุจะรับมันตรงๆได้

โนโซมุเองก็เหวี่ยงดาบจากด้านบนเช่นเดียวกับมัน แม้ว่าจะก้าวผ่านช่องว่างระหว่างมันมาได้ แต่เขาก็ไม่สามารถเข้าใกล้กว่านี้ได้

อย่างไรก็ตามจุดประสงค์ของโนโซมุไม่ใช่ตัวมันแต่เป็นตัวกระบองนี่

โนโซมุฟาดดาบลงไปที่ส่วนบนของกระบองนอกจากนี้ยังทุ่มไปด้วยพลังเต็มที่และบิดร่างกายไปด้านข้าง

จากนั้นร่างของโนโซมุก็ไหลไปตามทิศทางที่เขาฟันดาบออกไปในเวลาเดียววิถีของกระบองก็ถูกเบี่ยงเบนออกไปเล็กน้อยในทิศตรงข้าม

โนโซมุเองก็รู้ตัวดีว่าไม่สามารถกันการโจมตีได้ก็เลยใช้แรงผลักของกระบองนั่นกับใช้ตัวดาบเบี่ยงวิถีกระบองออกไป

อย่างไรก็ตาม หากพลาดก็เท่ากับตาย หากทำจังหวะเร็วเกินไปดาบจะแตกเป็นเสี่ยงๆ และหากช้าไปก็จะโดนพลังนั่นกดทับจนถูกบดขยี้ไปเลย

มันเป็นการเดินอยู่บนเส้นด้าย แต่โนโซมุก็ก้าวผ่านมันมาได้และที่สุดก็บุกเข้าถึงเขตของมัน

โนโซมุใส่พลังลงไปในดาบและกระโดดขณะที่ใส่แรงทั้งหมด เพื่อหวังฟันคอของมันให้ขาดไป

ช่วงเวลาที่โนโซมุกำลังจะฟันดาบลงไปด้วยการควบคุมคิอันยอดเยี่ยมของโนโซมุ……ทันใดนั้นร่างของโนโซมุก็ปลิวไป

◇◆◇

มันสะบัดตัวผมออกด้วยมือข้างเดียวราวกับตบแมลงวัน

แค่นั้นเองร่างกายของผมก็ปลิวไสวเหมือนใบไม้ที่ลอยไปตามลม

การฟันแห่งความตายนั่นไม่โดนที่คอของมันแต่โดนที่แก้มของมันเท่านั้นเอง

「อ่ออก! อั่ก!」

วินาทีที่ถูกซัดจนปลิวตัวผมก็กระแทกกับพื้นอย่างแรง ร่างกายส่งเสียงดังกรุบกร๊อบและมีอาการปวดอย่างรุนแรงตามร่างกาย

「แค่ก อะเฮือก!」

รสชาติของเลือดนั้นกระจายไปทั่วทั้งปาก

ความเจ็บปวดที่ท้องเมื่อสัมผัสมัน บางทีอวัยวะภายในคงแหลกไปแล้ว

ผมหยิบยาที่ใส่ในกระเป๋าขึ้นมาดื่ม

ตอนนั้นผมใช้อุปกรณ์ทั้งหมดกับเทียแมท แต่ผมก็ซื้อมาเติมเพิ่มแล้ว

อาการปวดที่ท้องลดลง แต่ความเจ็บปวดที่แล่นไปทั่วร่างยังไม่จางหาย

(อั่ก! แย่แล้ว…………)

ไม่สามารถจบมันด้วยการดาบเดียว แถมตอนนี้มันหงุดหงิดด้วย…………。

「ก๊าาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาก!!!!」

ไซคลอปส์ตัวมันถูกย้อมกลายเป็นสีแดงและกล้ามเนื้อของมันก็พองตัวจนเกิดเสียงดัง ความสามารถของมัน “ดวงตาแห่งความบ้าคลั่ง” ถูกเปิดใช้งานแล้ว

ไซคลอปส์ที่โดนคนที่คิดว่าไม่น่าจะทำอะไรมันได้ทำร้ายเข้า มันโกรธอย่างมากและมองเขาเป็นศัตรูทันที

ความกดดันของไซคลอปส์ที่มีมาทางนี้เริ่มมากขึ้น ผลจากการกดันทำให้ร่างกายของมันดูใหญ่ขึ้น

หากเห็นภาพนี้แล้วมนุษย์ธรรมดาทั่วไปจะทำได้แค่ขาสั่นวิ่งไม่ไหว พวกทหารก็ทำได้แค่หนีเตลิด

◇◆◇

(เวรเอ้ย! ไอ้สมองกล้ามนี่!!)

อย่างไรก็ตาม มันก็หมือนกับผม แต่ผมน่ะตื่นตัวก่อนที่จะสู้แต่แรกแล้ว

ผมดันไปเปิดสวิตซ์ของมันเข้า และแม้ว่าผมจะทำพลาดไปแล้ว แต่โอกาสจะหนีมันไม่มี

ตอนนี้บาดแผลเองก็ถูกรักษาแล้ว การต่อสู้ไม่น่าจะส่งผลอะไรมากนัก

ทันทีที่รู้ว่ายังสู้ได้ตัวผมก็ยืนขึ้นและจับดาบ

อารมณ์ที่อยากจะอาละวาดมันเพิ่มมากขึ้นไปอีกจากความผิดพลาดครั้งที่แล้ว ตอนนี้หัวใจของผมที่บอบช้ำกำลังบอกว่าให้ล้มเจ้ายักษ์ตัวนี้ลงให้ได้

「โอววววววววววววววววววววววววววววววววว!!」

มันวิ่งเข้ามาหาผม ไซคลอปส์วิ่งมาด้วยความเร็วสูงกล้ามเนื้อและความแข็งแกร่งเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่า

ผมเองก็เคลื่อนที่ด้วย “ก้าวพริบตา” มันหันหลังและฟาดกระบองลงที่ๆผมเคยอยู่ทันที

เขาพยายามหลีกเลี่ยงการโจมตีของมันโดยใช้ “ก้าวพริบตา” เป็น “ก้าวพริบตา-ดาบเริงระบำ-”และเคลื่อนไหวอันแสนซับซ้อนแต่ว่าการโจมตีของผมแทบจะทำอะไรมันไม่ได้เลย

◇◆◇

「อั่กกกกกกกกก!」

โนโซมุรู้ตัวว่าเขาหลบไม่ได้ตลอด แรงกระแทกที่กระทบเข้ามาทำให้ร่างกายสั่นสะท้าน การโจมตีดั่งพายุลูกใหญ่กำลังโถมเข้ามา

หลีกเลี่ยงการโจมตีหนักๆโดยใช้การรักษาพลังกายไว้ตามที่ชิโนะเคยสอน

ทุกครั้งที่ไซคลอปส์ฟาดไม่กระบองรอบๆโนโซมุ ลมแรงๆจะถูกพัดออกมาและมีตะกอนดินจำนวนมากปลิวกระจายไปทั่ว

โนโซมุสามารถหลบการโจมตีที่เร็วขึ้นถึงสองเท่าของไซคลอปส์ได้ง่ายๆ เพราะการโจมตีอันซ้ำซาก

“ดวงตาแห่งความบ้าคลั่ง”แน่นอนว่าเพิ่มพลังกายให้สองเท่าและก็แลกกับสติปัญญาที่สูญเสียไป

ผลก็คือการโจมตีของมันอ่านง่ายมาก และทำให้โนโซมุเลือกจังหวะที่จะสวนกลับได้

อย่างไรก็ตามช่องว่างระหว่างการโจมตีที่ปลดปล่อยจากพลังกายที่เพิ่มขึ้นสองเท่าก็นับว่าเป็นอันตราย

กระบองแห่งความตายที่ฟาดฟันลงมาด้านหน้าแม้จะเอาดาบที่อัดพลังคิต้านเอาไว้ก็ยังทำให้ร่างกายต้องแข็งทื่อ

โนโซมุหลบได้ดีกว่าเพราะเขาเคยเจอการโจมตีที่ทรงพลังกว่านี้มาแล้ว

เทียแมท ชิโนะ รูกาโต้

พวกเขาเหล่านั้นเหนือกว่าไซคลอปส์นี่และการต่อสู้กับพวกนั้นแลกมาด้วยเลือดเนื้อทั้งนั้น ไม่เพียงทางด้านร่างกายแต่รวมถึงจิตวิญญาณของนักสู้ด้วย

อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าเขาจะอ่านการโจมตีของมันได้มากแค่ไหน เขาก็รู้ตัวดีว่าไม่มีเวลาให้มาคิดถึงเรื่องในวันวาน

(จงทำยังไงก็ได้ ! ไม่ว่าทางไหนก็มีแต่ต้องลงมือทำเท่านั้น!!!)

ขณะที่มันเหวี่ยงกระบองลงมา โนโซมุก็นึกย้อนกลับไป

มันไล่ตามโนโซมุทันที ไซคลอปส์ที่สูญเสียเหตุผลจะไม่หยุดจนกว่าจะทำลายศัตรูตรงหน้าจนราบคาบ

มันยังคงพุ่งเข้าหาโนโซมุต่อไป ตัดผ่านหมอกควันที่ก่อขึ้น

ในขณะนั้นเองโนโซมุก็ตั้งเท้ายึดแน่นกับพื้นและกดแรงทั้งหมดลงที่นิ้วก้อยกดทับพื้นดินเพื่อยึดร่างกาย

เมื่อเห็นมันเข้ามาเขาก็เริ่มบีบส้นเท้า

เลือดที่ไหลออกมาจากผิวหนังของโนโซมุเนื่องจากพลังคิที่อัดแน่นจนเทียบได้กับภาพลวงตาเหล่านั้น แต่โนโซมุยังคงอัดพลังคิต่อไปเลือดไหลออกมาไม่หยุดจนเท้าของเขาเป็นสีแดงสด

มันเหวี่ยงกระบองจากด้านบนในแนวทแยงราวกับว่ากำลังไล่ต้อน เมื่อกระบองพุ่งเข้ามาดวงตาของโนโซมุเบิกกว้าง จากนั้นโนโซมุก็ปลดปล่อยคิทั้งหมดออกมา

เขาก้มตัวลงและกลิ้งตัวลงกับพื้นจากนั้นก็พุ่งเข้าหาไซคลอปส์ด้วยความรวดเร็ว

ในขั้นต้นความแตกต่างของโนโซมุกับไซคลอปส์นั้นมากกว่าสองเท่าได้ การโจมตีของมันที่ปล่อยมาจากด้านบนโนโซมุ และเนื่องจากร่างกายที่ขนาดต่างกันจึงมีช่องว่างพอที่จะเข้าไปภายใต้เท้าของมัน

จุดประสงค์คือต้องการเข้าไปใกล้ตัวมันที่เปิดช่องว่าง

ความแข็งแกร่งทางกายภาพที่เพิ่มสองเท่าเป็นอันตรายแน่นอน แต่ความเร็วเพิ่มขึ้นสองเท่าไม่ได้ทำให้การรับรู้ของมันดีขึ้น

ดังนั้นมันเลยกระโดดถอยหลังหนึ่งครั้งและพยายามหนีจากศัตรู จากตอนแรกตัวเขาอยู่ในจุดต่ำสุดของตัวมัน มันรีบพุ่งออกมันด้วยความเร็วทั้งหมด

แม้จะมีความเร็วและพละกำลังมหาศาล แต่ความรู้สึกของมันก็ยังคงเหมือนเดิม นั่นทำให้เกิดช่องว่างระหว่างระบบความคิดของมันไปชั่วขณะหนึ่ง

การกระทำของโนโซมุเล็งถึงสิ่งนั้นไว้แล้ว

◇◆◇

ช่วงเวลาที่กระบองถูกเหวี่ยงลงราวกับว่ามันบดขยี้ศัตรูจนมองไม่เห็นตัวศัตรูแล้วนั้น

มุมมองของยักษ์ที่แคบนั้นไม่สามารถตามการเคลื่อนไหวของผมทัน

เมื่อโนโซมุไปอยู่ใต้เท้าของมันเขาดึงมีดออกมาและอัดคิเอาไว้

เดิมทีมันเป็นมีดทำครัวที่ไม่ควรใช้ในการต่อสู้แต่เนื่องจากการอัดพลังคิอย่างรุนแรงทำให้มันคบราวกับดาบเวทย์ชั่วขณะ

โนโซมุแทงมีดเข้าไปในเข่าของมันและดึงตัวด้ามออกมา

ใบมีดฝังลึกเข้าไปในเข่าของมันเหมือนกับลิ่ม มันไม่สามารถดึงมีดออกได้เพราะด้ามโดนถอนออกไปแล้ว

ยิ่งไปกว่านั่นขณะที่มันกำลังคุกเข่าลง เพื่อพยายามดึงมีดออก แต่ว่ามีดนั่นมันแทงเข้ากระดูกจนหักและทำลายข้อต่อของหัวเข่ามันแล้ว

ร่างกายของไซคลอปส์นั้นเองเอียงและล้มลงมันพยายามพยุงร่างของมันด้วยมือทั้งสองข้างเพื่อไม่ให้ล้มลงไป แต่โนโซมุเองก็ดักรออยู่ตรงนั้นแล้ว โนโซมุอัดคิทั้งหมดไปในดาบจนแน่นขนัด

และนี่เองคือเป้าหมายของโนโซมุ

มันเป็นวิธีจัดการไซคลอปส์ในทีเดียวโดยที่ผนึกการทำงานของมือทั้งสองของมันเอาไว้

ใบมีดของโนโซมุถูกปล่อยออกมาใบมีดที่พ้ดผ่านกระแสลมและในที่สุด คอของไซคลอปส์ก็ถูกตัด

◇◆◇

「เอือกกกกกกกกกก! อาาาาาาาาาาาาา! อาาาาาาาาาา!」

เลือดพุ่งออกมาจากคอของมัน ย้อมพื้นที่ทั้งหมดให้กลายเป็นสีแดง

ผมคุกเข่าลงกับพื้นเพราะความเหนื่อยล้าที่เกิดขึ้นจากการใช้งานพลังใจจนถึงขีดสุด และสู้อย่างสุดความสามารถ และความเครียดอันมากมายที่ทำเอาจนหายใจไม่ออก

หัวของผมมันทื่อไปหมดเพราะล้าจนถึงขีดสุดและคิดอะไรไม่ออกแล้ว

อย่างไรก็ตาม ความอยากจะอาละวาดนี่มันยังไม่ลดลงเลย อยากจะอาละวาดให้มากกว่านี้ แม้จะฆ่าไปเท่าไรมันก็รู้สึกยังไม่สาสมแก่ใจ

(……ปะ-เป็น———แ-บ—……)

เสียงของจิตวิญญาณมันดังขึ้นอยู่ก้องไปทั่วหู ผมไม่สามารถควบคุมความปราถนาที่จะทำตามเสียงนั่นได้

“ปลดปล่อยไปเลยอย่าอดกลั้น!!”“อยกาจะทำลายทุกอย่างที่ขวางหน้าให้หมด!!”

ในขณะที่เหตุผลยังคงหลงเหลืออยู่ในตอนท้ายเสียงนั่นก็หยุดลงดั่งสิ้นหวัง เสียงที่ดังก้องเข้ามาในหูของผม ผมรีบหันไปมองตามเสียงนั่น มีภาพที่ปรากฏขึ้นตามความสงสัยในหัวของผม

◇◆◇

ไม่ใช่หนึ่งหรือสองที่นั่นมีไซคลอปส์อย่างน้อย 10 ตัว

มียักษ์เล็กตัวน้อยที่กำลังไล่ฆ่ายักษ์ใหญ่กว่าตัวเองหน่อยหนึ่ง มันมีตาเพียงลูกเดียวบนใบหน้า เป็นไซคลอปส์ขนาดย่อยนั่นเอง

มีพวกมันสามตัวอยู่ทางด้านหลัง

「ก๊าาาาาาาาาาาก!」「ก๊าสสสสสสสสสสสส!!」

ทันทีที่พวกมันเหลือบมองมาที่ผมและพบศพไร้หัวของไซคลอปส์ตรงหน้า ดวงตาของพวกมันก็แดงก่ำ

ร่างกายของมันหนาขึ้น

บางทีไซคลอปส์ที่ผมฆ่าน่าจะเป็นสหายของกลุ่มนี้ มันโกรธที่เห็นเพื่อนมันถูกฆ่า และมันจะฆ่าผมที่เป็นตัวต้นเหตุ

「ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า…………」

ทนต่อไปไม่ไหวอีกแล้ว ในสภาพอันแสนเหน็ดเหนื่อย ไม่สามารถสู้หรือหนีได้

เสียงหัวเราะแห้งๆที่ออกมาจากปากของผม ผมกำลังจ้องมองกำแพงที่ขวางกั้นตรงหน้า

(เมื่อ……ไร——จะ—ถึ———…………)

ตอนนี้ตัวผมได้ยินเสียงในจิตใจอย่างชัดเจน ผมพบเหตุผลที่จะทำลายข้อสงสัยสุดท้ายเพื่อความอยู่รอดแล้ว ผมสังเกตเห็นมัน

วางมือลงบนโซ่ที่ผูกมัดร่างกายตัวผมเอาไว้ เมื่อตระหนักได้ว่ามังกรใหญ่ยักษ์สีดำกำลังปรากฏอยู่ข้างๆตัวผม แต่ผมก็ไม่ลังเลเพราะนี่เป็นทางเดียวที่จะรอด ความลังเลพลันได้หายไป

สิ่งที่เหลืออยู่คือความหลงใหลที่อยากจะให้มันมอดไหม้ไม่เหลือซาก“อยากจะบดขยี้ทุกสิ่ง!!”มีแต่แรงกระตุ้นแห่งการทำลายล้าง

ผมปล่อยทุกอย่างออกไปแม้กระทั่งความคิด ปล่อยทุกอย่างให้เป็นไปตามความต้องการ จากนั้นตัวผมก็ทำลาย “โซ่” ที่พันธนาการร่างเอาไว้