บทที่ 153 ยายเมิ่ง อายุขัยล้านปี

ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ

บทที่ 153 ยายเมิ่ง อายุขัยล้านปี

หานเจวี๋ยได้ยินวาจาของอีกฝ่าย ในใจก็คิดใคร่ครวญ

หมายความว่าอย่างไร

อยากชักชวนเขา?

อยากรับเขาเป็นศิษย์?

อยากยึดร่างเขา?

ยึดร่าง!

ในใจหานเจวี๋ยสับสนไปครู่หนึ่ง

เขาหน้าตาหล่อเหลาเพียงนี้ อีกทั้งคุณสมบัติยังสูงส่งเช่นนี้ หากเปลี่ยนเป็นเทพเซียน คาดว่าล้วนตาลุกวาว!

“ที่บริเวณนี้ถูกพลังเวทของข้าตัดขาดแล้ว ไม่มีผู้ใดสามาถตรวจพบการมีตัวตนของเจ้ากับข้าได้ พวกเราสามารถพูดคุยกันได้อย่างสบายใจ” น้ำเสียงแหบพร่าดังขึ้นอีกครั้ง

หานเจวี๋ยเอ่ยถามอย่างระมัดระวังว่า “ไม่ทราบว่าสถานะของผู้อาวุโสคือ…”

เสียงแหบพร่าเอ่ยตอบกลับมาว่า “ข้ามาจากสะพานอนิจจัง”

สะพานอนิจจัง?

นั่นไม่ใช่สะพานแห่งหนึ่งหรอกหรือ

สะพานอนิจจังแปลงกาย?

ช้าก่อน!

ยายเมิ่ง!

ในใจของหานเจวี๋ยสั่นสะท้าน ยายเมิ่งคิดจะทำอะไร

ชักชวนเขาไปเป็นลูกสมุนหรือ

“ศิษย์ที่เจ้ารับเข้ามาใหม่ เจ้ารู้แก่นแท้ของนาง ใช่หรือไม่”

หานเจวี๋ยเอ่ยถามอย่างแคลงใจว่า “นางมีแก่นแท้อย่างไร บุตรแห่งสวรรค์ของจวนเซียนสวรรค์? หรือว่าท่านเป็นผู้อยู่เบื้องหลังจวนเซียนสวรรค์นั้น”

เซียนอิสระก็สามารถมองทะลุแก่นแท้ของมหาเวทได้ หากเรื่องนี้แพร่งพรายออกไป จะต้องสร้างความหวาดกลัวให้กับผู้คนอย่างแน่นอน

“ไม่รู้จริงๆ หรือ บรรดาศิษย์และศิษย์หลานของเจ้าเหล่านั้นล้วนไม่ใช่พวกธรรมดาดาษดื่น” น้ำเสียงแหบพร่ากล่าวกลั้วหัวเราะล้อเลียน

หานเจวี๋ยนิ่งเงียบ

น้ำเสียงแหบพร่ากล่าวต่อไปว่า “ข้าจะเข้าเรื่องเลยแล้วกัน ถูหลิงเอ๋อร์เป็นมหาเวทกลับชาติมาเกิดของเผ่าจอมเวทของข้า การที่นางสามารถหาเจ้าพบได้ต้องเป็นเพราะว่าเจ้าสามารถทำให้นางแกร่งขึ้นได้ มหาเวทแต่ละคนล้วนมีความสามารถพิเศษที่มีแต่กำเนิด ความสามารถพิเศษของถูหลิงเอ๋อร์ก็คือการสามารถรับรู้ถึงโอกาสวาสนาที่เอื้อประโยชน์ต่อตนเองมากที่สุดล่วงหน้าผ่านความฝัน นี่ก็คือเหตุผลที่นางสามารถมีชีวิตอยู่รอดท่ามกลางมหาเคราะห์ของจอมเวทปีศาจ ก่อนหน้านี้เจ้าก็เคยมายังยมโลกแล้ว ข้าจำกลิ่นอายของเจ้าได้ เพราะอย่างนั้นยามที่ถูหลิงเอ๋อร์หาเจ้าพบ ข้าจึงตรวจสอบเจ้าเป็นพิเศษ เจ้าไม่มีแรงกรรม และไม่มีภูมิหลังใหญ่โต แต่เจ้ากลับสามารถมาถึงจุดนี้ได้ บางทีเจ้าอาจจะกลายเป็นความหวังของเผ่าจอมเวท”

ความหวังของเผ่าจอมเวท?

ยายเมิ่งเป็นเผ่าจอมเวทหรือ

หานเจวี๋ยรีบประมวลผลในใจอย่างรวดเร็ว

“ขอเพียงเจ้านำทางพาถูหลิงเอ๋อร์บรรลุเป็นจักรพรรดิเซียน เจ้าก็คือคนสำคัญของเผ่าจอมเวท”

หานเจวี๋ยกล่าวอย่างใคร่รู้ว่า “จักรพรรดิเซียนคือขอบเขตใดกัน เซียนทอง?”

“เหนือเซียนทองขึ้นไป ก็คือจักรพรรดิเซียน”

“ไม่ขอปิดบังท่านแล้ว วังสวรรค์อาจจะกวาดล้างโลกมนุษย์ที่ข้าอาศัยอยู่ ท่านสามารถช่วยพูดให้หน่อยได้หรือไม่”

“ไม่ได้ วังสวรรค์ปกครองเมืองยมบาล ข้าไม่มีอำนาจแทรกแซง”

“เช่นนั้นหากข้าช่วยเผ่าจอมเวท ข้าจะได้รับสิ่งใด”

“หากตัวเจ้าตายไป ข้าสามารถให้ที่พักพิงแก่เจ้าได้”

“…”

หานเจวี๋ยจนวาจา

เขารู้สึกว่าตัวเองถูกแหย่เล่นเข้าเสียแล้ว

เขาหันมาแล้วเอ่ยถามว่า “เช่นนั้นท่านช่วยจัดแจงหาสถานที่ที่ข้าสามาถพักอาศัยในยมโลกให้สักแห่ง แบบไม่ถูกรบกวนได้หรือไม่”

“เรื่องนี้ไม่มีปัญหา”

หานเจวี๋ยถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอกคราหนึ่ง นี่ยังพอไหว

“เพราะอย่างนั้น นับว่าเจ้ารับปากแล้ว?” น้ำเสียงแหบพร่าเอ่ยถาม

หานเจวี๋ยเอ่ยตอบว่า “ข้าค่อนข้างถูกชะตากับถูหลิงเอ๋อร์อยู่เช่นกัน ยิ่งไม่ต้องพูดถึงว่านางกราบไหว้ข้าเป็นอาจารย์แล้ว”

อีกฝ่ายเผยไพ่ออกแล้ว ขืนหานเจวี๋ยปฏิเสธ เกรงว่าคงไปไหนไม่ได้แล้ว

[ยายเมิ่งเกิดความประทับใจในตัวท่าน ระดับความประทับใจในขณะนี้คือ 3 ดาว]

หานเจวี๋ยรีบตั้งจิตดั้งเดิมเป็นศูนย์กลาง เปิดใช้งานแบบจำลองการทดสอบ

เขาหายายเมิ่งพบแล้ว เริ่มต่อสู้กันทันที

หนึ่งวินาทีต่อมา

เขาปราชัยในพริบตา

หานเจวี๋ยกลับไม่ได้ประหลาดใจแต่อย่างใด เขาเพียงแต่อยากคัดลอกข้อมูล หลังจากนี้จะถือเอายายเมิ่งมาเป็นแบบอย่าง

ในสายตาของยายเมิ่ง หานเจวี๋ยแค่หลับตาเพียงวินาที ราวกับกำลังครุ่นคิดอะไรอยู่

หานเจวี๋ยประสานหมัดกล่าวว่า “ผู้เยาว์ยังต้องทะลวงระดับต่อ ไม่รบกวนผู้อาวุโสแล้ว”

“อืม”

น้ำเสียงของยายเมิ่งดังลอยมา

หานเจวี๋ยไม่คิดอะไรให้มากความ เพ่งจิตดูดเก็บปราณแห่งวัฏจักร เพิ่มจิตดั้งเดิมให้แข็งแกร่ง

เขาเพียรบำเพ็ญเซียนกลับสู่ความสงบอีกครั้ง พวกสิงหงเสวียนและหลี่ชิงจื่อก็ทยอยจากไป ตั้งหน้าฝึกบำเพ็ญต่อ

บรรดาศิษย์และศิษย์หลานก็ไม่ได้วิพากษ์วิจารณ์กันนานนัก

สามปีต่อมา

ภายในถ้ำเทวาฟ้าประทาน

จิตดั้งเดิมของหานเจวี๋ยกลับเข้าสู่กายเนื้อ สภาพของตัวเขาทั้งหมดแปรเปลี่ยน สมบัติวิญญาณ ยอดสมบัติทั่วทั้งร่างส่องประกายระยิบระยับ ดุจดั่งเทพเซียน

เขากลายเป็นเซียนอิสระวัฏจักรอย่างสมบูรณ์!

เมื่อเทียบกับการทะลวงและความแข็งแกร่งทั้งร่างก่อนหน้านี้ องอาจขึ้นมากกว่าร้อยเท่า!

หานเจวี๋ยเรียกดูหน้าต่างค่าสถานะของตนเอง:

[ชื่อ: หานเจวี๋ย]

[อายุขัย: 779/129,4000]

[เผ่าพันธุ์: มนุษย์เซียน]

[ตบะ: ระดับเซียนอิสระวัฏจักรระยะต้น]

[วิชายุทธ์: วิชาวัฏจักรหกวิถี (สามารถสืบทอดได้)]

[วิชาเวท: ดรรชนีกระบี่เทพ ย่างก้าวลวงตาเจ็ดชั้น สามกระบี่แยกเงา (ไร้เทียมทาน) ตราประทับเก้ามังกรขจัดมาร มหาวายุอัสนี วิชาเทพวายุ วิชาเผยโฉม]

[พลังวิเศษ: พลังดูดวิญาณหกสาย กระบี่ฟ้าสังหารเทพปีศาจ ค้ำฟ้าเสมือนพสุธา เมฆตีลังกา พลังเทพหมื่นกระบี่ คำสาปตถาคต ตราประทับหกวิถี ปราณกระบี่ฟ้าดิน (ไท่อี่) ดรรชนีกระบี่โลกาสวรรค์ทลายภพ (ไท่อี่) ภูษาเอกภพ ประตูวัฏจักร วิชาอัญเชิญเทพ]

[อาวุธเวท: เข็มขัดเก็บสมบัติ กระบี่กิเลน เชือกพันธนาการปีศาจ ระฆังเพลิงอัคคี (สมบัติวิญญาณระดับหก) มงกุฎแก้วเจ้าเหมันต์ (สมบัติวิญญาณระดับสี่) หนังสือแห่งความโชคร้าย (ยอดสมบัติไท่อี่) ภูษาเทพพสุธาต้านวิญญาณ (สมบัติวิญญาณระดับสาม) สร้อยเซียนคุ้มจิต (สมบัติวิญญาณระดับสาม) เบาะสงบจิตใจ (สมบัติวิญญาณระดับหกขั้นไท่อี่) กำไลวิเศษบรรลุสวรรค์ (สมบัติวิญญาณชั้นเลิศ) เกราะอ่อนทองม่วง (สมบัติวิญญาณระดับแปดขั้นไท่อี่) รองเท้าขึ้นสวรรค์เก้าชั้นฟ้า (สมบัติวิญญาณระดับหกขั้นไท่อี่) กำไลวิญญาณ (สมบัติวิญญาณระดับห้าขั้นไท่อี่) เกี้ยวดวงชะตามังกรจักรพรรดิ (สมบัติวิญญาณระดับสองขั้นไท่อี่) อาภรณ์ดวงชะตาจักรพรรดิสูงศักดิ์ (ยอดสมบัติไท่อี่)]

[พลังวิเศษที่สร้างเอง: ไตรวิสุทธิ์กำราบภูมิ (ขั้นไท่อี่)]

[มรรคกระบี่: จิตกระบี่หวนคืน (ขั้นไท่อี่)]

[ของวิเศษคู่ชีวิต: กระบี่พิพากษาอนธการ]

[คุณสมบัติรากวิญญาณ: ร่างวิญญาณหกสาย ประกอบไปด้วยรากวิญญาณขั้นสูงสุดวายุ อัคคี วารี พสุธา พฤกษา อัสนี เสริมดวงชะตาอีกหนึ่งขั้น]

[ดวงชะตาแต่กำเนิดมีดังนี้]

[ไม่เป็นสองรองใคร: คุณสมบัติเซียน มหาเสน่ห์ขั้นสูงสุด]

[ชะตาเซียนกระบี่: คุณสมบัติมรรคกระบี่ระดับสูงสุด ความสามารถในการเข้าใจมรรคกระบี่ระดับสูงสุด]

[ความไวของท่าร่าง: คุณสมบัติท่าร่างระดับสูงสุด]

[ทายาทจักรพรรดิเซียน: ได้รับวิชายุทธ์บำเพ็ญเซียนชั้นเลิศหนึ่งชุด…]

อายุขัยหนึ่งล้านสองแสนเก้าหมื่นปี!

ยังจะมีผู้ใดอีก!

หานเจวี๋ยยืดอกในทันที

เพดานอายุขัยที่พุ่งทะยานเป็นสิ่งที่หานเจวี๋ยชอบเห็นมากที่สุด

หานเจวี๋ยอดกลั้นความตื่นเต้นดีใจ เรียกดูค่าความสัมพันธ์ เพื่อตรวจสอบตบะของยายเมิ่ง

[ยายเมิ่ง: เซียนแท้ไท่อี่ระยะต้น เทพภูตยมโลก สร้างขึ้นโดยจอมเวทบรรพชน หลบซ่อนอยู่ในเมืองยมบาล รับผิดชอบวัฏจักรเวียนว่ายตายเกิด มุ่งมั่นหมายใจเสริมความแกร่งให้เผ่ามหาเวท ระดับความประทับใจในขณะนี้คือ 3 ดาว]

เซียนแท้ไท่อี่!

มิน่าถึงสู้ไม่ได้!

หานเจวี๋ยลอบดีใจ เคราะห์ดีที่ตนไม่ได้สมองฝ่อปฏิเสธยายเมิ่งไป หาไม่คงต้องตายอยู่ที่ยมโลกแน่แล้ว

เช่นนี้ก็ดี จากนี้หลังจากคนที่เขาเป็นกังวลนั่งนิพพานจากไปแล้ว เขาสามารถทักทายปราศรัยกับยายเมิ่ง ให้ยายเมิ่งไม่ต้องป้อนน้ำแกงยายเมิ่งให้แก่พวกนางได้

เพียงแต่กล่าวไปแล้ว เผ่ามาร เผ่าจอมเวทล้วนซ่อนตัวอยู่ในยมโลก

หรือว่ายมโลกเป็นสถานที่ลี้ภัยของเผ่าพันธุ์ที่พ่ายแพ้สงคราม

หานเจวี๋ยหยิบมงกุฎปีกหงส์ไท่ซีออกมา เริ่มทำให้มันยอมรับเจ้าของ

หลายชั่วยามต่อมา

เขาสวมมงกุฎปีกหงส์ไท่ซี ตัดสินใจมอบมงกุฎแก้วเจ้าเหมันต์ให้กับสิงหงเสวียน

หานเจวี๋ยหยิบหนังสือแห่งความโชคร้ายออกมา เริ่มสาปแช่งจูเชวี่ย

ส่วนนักพรตเต๋าเจวี๋ยเหยี่ยน ก็ไม่ได้น่ากลัวพอสำหรับเขาอีกแล้ว

หานเจวี๋ยตัดสินใจรอให้เขามาหาตนเองถึงที่

เขาสาปแช่งไปพลาง ตรวจสอบจดหมายไปพลาง

ดูจากจดหมายแล้ว ดูเหมือนนว่าแดนบำเพ็ญพรตจะสันติสุขยิ่งนัก

มีก็แค่จี้เซียนเสินที่พบการโจมตีจากมารแท้หลายสิบครั้ง จากนั้นก็ไม่มีข่าวคราวของมารแท้อีก

หรือว่าจี้เซียนเสินจะกวาดล้างเหล่ามารแท้หมดแล้ว

ดีนี่!

เจ้าหมอนี่ออกจะเหี้ยมโหดไปหน่อย ไม่ได้มีภูมิหลังของชาติภพก่อนที่เด่นชัด แต่กลับโดดเด่นเหนือกลุ่มผู้ที่มีดวงชะตายิ่งใหญ่มากมายขึ้นมาได้ สำเร็จเป็นบุตรแห่งสวรรค์อันดับหนึ่งในใต้หล้า!

หานเจวี๋ยตรวจสอบภาพประจำตัวของจี้เซียนเสิน พบว่าตบะของเจ้าหมอนี่บรรลุถึงระดับมหายานขั้นสี่แล้ว

ระดับความเร็วในการทะลวงนี่โหดเหี้ยมยิ่งนัก!

เพียงด้อยกว่าข้าเท่านั้น!

………………………………………………………………