“ฉันจะไปที่สวนสมุนไพรเพื่อดับไฟ เจ้าไปที่บ้านของผู้อาวุโสคนอื่นๆ และนำผู้อาวุโสที่มีอยู่ทั้งหมดจากฝั่งเราเข้าไปในสวนสมุนไพรด้วย! เร็วเข้า!” โม่ ชองหลิน สั่งให้หัวหน้าเจ้าหน้าที่ลาดตระเวน และภาพเงาอ้วนของเขาหายไปราวกับลมที่พัดผ่านจากดวงตาของหัวหน้าเจ้าหน้าที่ลาดตระเวน

หัวหน้าเจ้าหน้าที่ลาดตระเวนอยากจะร้องไห้จริงๆ แต่ไม่มีน้ำตาไหลออกมา อาการบาดเจ็บที่เขาได้รับจากโม่ ชองหลิน นั้นรุนแรงมาก และถ้าเขาเข้าไปในบ้านของผู้อาวุโสเหล่านั้นทั้งหมดแล้วปลุกพวกเขาให้ตื่นในเวลานี้ พวกเขาจะโกรธและตบเขาแรงๆ สักสองสามทีอีกก็ได้

ด้วยอาการของเขาในปัจจุบันนี้ การตบอย่างรุนแรงเพียงไม่กี่ครั้งจากผู้อาวุโสในขั้นสร้างรากฐานก็น่าจะเพียงพอแล้วที่จะฆ่าเขาได้อีกสองสามรอบ!

คำสั่งจากผู้อาวุโสนี้ไม่เหมือนกับการบอกให้เขาไปตายหรอกหรือ!

แต่ก็จะทำยังไงได้ เขาทำได้เพียงทำตามคำสั่ง และไปบอกผู้อาวุโสเหล่านั้น เพราะการไม่ทำตามคำสั่งนั้นเป็นสิ่งที่น่ากลัวกว่าความตรายเสียอีก

ขณะที่หัวหน้าเจ้าหน้าที่ลาดตระเวนไปหาลุงของเสี่ยวเฮย ถังลี่เสวี่ยก็แอบกลับเข้าไปในห้องเก็บยาอีกครั้ง

เมื่อเปิดใช้งาน [ร่างเทพ] เธอก็เดินผ่านประตูห้องและเข้าไปได้อย่างง่ายดายเช่นเคย

‘ทุกอย่างเป็นไปตามแผนของฉัน! เผาสวนสมุนไพรเพื่อสร้างความวุ่นวาย ปล้นสมุนไพรที่สำคัญที่สุดในสวนสมุนไพร แล้วในขณะที่เจ้าหน้าที่ลาดตระเวนทั้งหมดวุ่นวายกับการดับไฟ เขาก็จะออกจากห้องนี้โดยไม่มีใครคอยระวัง ฉันจะกลับมาที่นี่และกวาดยาทั้งหมดในห้องนี้ให้เกลี้ยงเลย! ฮิฮิฮิ…’

แต่เสียงหัวเราะของถังลี่เสวี่ยหยุดลงเมื่อเธอเห็นสุนัขล่าเนื้อแห่งนรกหลายตัวที่ยังคงเฝ้าและลาดตระเวนอยู่ภายในห้อง

‘โอ้ใช่… ฉันเกือบลืมเกี่ยวกับสุนัขตัวใหญ่เหล่านี้! เห้อ… โอ้ เอาล่ะ มารีบจัดการอย่างรวดเร็วและเก็บขวดยาทั้งหมดบนชั้นวาง ก่อนที่เจ้าหน้าที่ลาดตระเวนเหล่านั้นจะสังเกตเห็นสิ่งผิดปกติ!’

สุนัขล่าเนื้อแห่งนรกเหลืออยู่สิบสองตัว ตั้งแต่ที่ถังลี่เสวี่ยได้ฆ่าหนึ่งในนั้นไปแล้ว เธอไม่ได้วางแผนที่จะต่อสู้กับพวกมันโดยตรง เพราะคิดว่าจะใช้เวลามากเกินไป! ดังนั้นเธอจึงเหลือวิธีเดียวในการจัดอย่างรวดเร็ว…คือ ลอบโจมตี!

ร่างกายที่โปร่งใสของถังลี่เสวี่ยเดินผ่านชั้นวาง และเธอเดินเข้าไปใกล้หางของสุนัขล่าเนื้อแห่งนรก

‘คุณชอบเล่นกับไฟใช่ไหม? มาลองใช้เปลวไฟของฉันกับก้นของคุณดูหน่อยมั้ยล่ะ!’

[ลมหายใจเพลิง]!

ถังลี่เสวี่ยปิดการใช้งาน [ร่างเทพ] ของเธอ และเปลวไฟสีน้ำเงินเข้มออกจากปากของเธอ!

ฟู่วว~~!

ตอนแรกถังลี่เสวี่ยวางแผนที่จะเผาตูดของสุนัขล่าเนื้อแห่งนรก แล้วค่อยๆ เล่นจนตาย แต่ใครจะรู้ว่า เปลวไฟแห่งความภาคภูมิใจของเธอนั้นทรงพลังเกินไป และมันก็เปลี่ยนสุนัขล่าเนื้อแห่งนรกให้กลายเป็นความว่างเปล่าแทบจะในทันที แม้แต่เถ้าถ่านของมันก็ไม่มีเหลืออยู่เลย!

ถังลี่เสวี่ยกลืนน้ำลายของเธอเสียงดัง ขณะที่เหงื่อเย็นของเธอเริ่มไหลออกมา

สุนัขล่าเนื้อแห่งนรกอาจเป็นสัตว์ร้ายระดับ [ไม่ธรรมดา] ที่อ่อนแอที่สุด และพลังป้องกันของมันก็ต่ำอย่างน่าสมเพช แต่ HP ของมันยังมีมากกว่า 10,000! แต่เปลวไฟสีน้ำเงินเข้มของเธอทำจัดการมันได้ในครั้งเดียว…

‘มันเป็นเรื่องมหัศจรรย์ที่สุดสำหรับฉันที่จะมีชีวิตรอดเมื่อได้หลอมรวมเข้ากับเปลวไฟอันตรายแบบนี้!’

จากนั้นร่างเล็ก ๆ ของถังลี่เสวี่ยก็สั่น เมื่อเธอรู้สึกว่ามีบางอย่างในร่างกายของเธอกำลังสื่อถึงเธอ

‘ให้ตายเถอะ! ฉันแค่ต้องการหลอมรวมกับคุณ ไม่ใช่เพื่อฆ่าคุณซะหน่อย! ถ้าฉันอยากจะฆ่าจริงๆ คุณคงตายไปแล้วตอนนี้!‘

‘บ้าจริง! เปลวไฟนี้ยังคงอยู่ในร่างกายของฉันสินะ?! มันเกิดขึ้นได้อย่างไรกัน!’

ถังลี่เสวี่ยรู้สึกได้ว่าเปลวไฟแห่งความภาคภูมิใจ มองดูเธอเต็มไปด้วยความรังเกียจ และมันก็เงียบไปเพราะมันขี้เกียจเกินกว่าจะสนใจเกี่ยวกับความตกใจและความไม่เชื่อของเธอ

อย่างไรก็ตาม เธอไม่มีเวลากังวลเกี่ยวกับเรื่องนั้น เนื่องจากนัขล่าเนื้อแห่งนรกที่เหลือสัมผัสได้ถึงหนึ่งในสหายของมันที่หายไป และพวกมันก็ได้มาตรวจสอบบริเวณที่ถังลี่เสวี่ยยังคงยืนอยู่!

ความสามารถในการต่อสู้ของสุนัขล่าเนื้อแห่งนรกนั้นไม่สูงนัก แต่พวกมันมีจมูกที่แหลมคมมาก! พวกมันสามารถสัมผัสได้ทันที่ที่หนึ่งในสหายของมันที่หายไปจากการดมกลิ่นของมัน

ในความเป็นจริง ถ้าถังลี่เสวี่ยไม่มีทักษะแฝง [อำพลาง] ของเธอเปิดใช้งานตลอดเวลา เธอคงจะถูกสุนัขล่าเนื้อเหล่านั้นพบในทันทีที่เธอเข้ามา!

เช่นเดียวกับที่สุนัขล่าเนื้อแห่งนรกที่สามารถตรวจจับได้จากประสาทสัมผัสที่แหลมคม ถังลี่เสวี่ยก็สามารถตรวจจับพวกมันได้โดยใช้ [การได้กลิ่นที่เพิ่มมากขึ้น] ร่วมกับ [การได้ยินที่เพิ่มมากขึ้น] ของเธอเช่นกัน!

เธอดับเปลวไฟสีน้ำเงินเข้มของเธออย่างรวดเร็ว และเปิดใช้งาน [ร่างเทพ] ของเธอ ร่างของเธอกลับมองไม่เห็นเมื่อมีสุนัขล่าเนื้อแห่งนรกเข้ามาหาเธอ ไม่มีร่องรอยการสู้รบ หรือเผาอะไรของเธอเลย

‘อะไร? มองหาบางสิ่งงั้นหรอ? ฮิฮิฮิ… ฉันมีเซอร์ไพรส์ให้! ฉันหวังว่าพวกคุณจะชอบมัน! ฉันเรียกมันว่า… [ศรเพลิง]!’

นี่เป็นอีกหนึ่งทักษะงานฝีมือของถังลี่เสวี่ยจากเปลวไฟสีน้ำเงินเข้มของเธอ

ทักษะงานฝีมือของเธอทั้งหมดมีข้อดีและข้อเสียในตัวเอง นั่นคือเหตุผลที่เธอพยายามสร้างทักษะหลายอย่างเพื่อรับมือกับสถานการณ์ทุกประเภท

[ลมหายใจแห่งไฟ] มีผลการเผาไหม้ที่น่ากลัว แต่ไม่มีพลังทำลายล้างมากเท่าไร

[ระเบิดไฟ] มีผลของการระเบิดที่น่าทึ่งและได้รับผลกระทบเป็นบริเวณกว้าง แต่เธอต้องบีบอัดเปลวไฟสีน้ำเงินของเธอก่อน จึงจะใช้งานได้

[ศรเพลิง] นี้สร้างขึ้นจากเปลวไฟสีน้ำเงินเข้มของเธอซึ่งควบแน่นจนกลายเป็นของแข็ง สามารถใช้ได้ทันที เช่น [ลมหายใจแห่งไฟ] และมีพลังเจาะทะลุสูง แต่ไม่มีพลังทำลายล้างมากเท่ากับ [ระเบิดไฟ]

ยิ่งไปกว่านั้น เธอสามารถสร้างมันไว้ในที่ที่เธอชอบ ตราบใดที่สถานที่นั้นยังอยู่ห่างจากเธอไม่เกินสามเมตร

ตัวอย่างเช่น ตอนนี้ถังลี่เสวี่ยหยุดการใช้งาน [ร่างเทพ] และซ่อนตัวอยู่หลังชั้นวาง [ศรเพลิง] ของเธอกำลังควบแน่นอยู่เหนือสุนัขล่าเนื้อแห่งนรกสามตัวที่ยังคงยุ่งอยู่กับการค้นหาเพื่อนที่หายไปของพวกเขา

ฉึก… ฉึก… ฉึก… ฉึก… ฉึก… ฉึก…!!!

ลูกศรเปลวไฟสีน้ำเงินยาวหกลูกตกลงมาบนสุนัขล่าเนื้อแห่งนรกสามตัว แทงลึกเข้าไปในกะโหลกของพวกมัน เจาะสมองของพวกมัน ออกจากคางของพวกมัน และฆ่าพวกมันทั้งสามตัวในคราวเดียว!

‘เหลืออีกแปดตัวสินะ!’

ถังลี่เสวี่ยสร้างลูกศรเปลวไฟอีกเก้าลูกที่ลอยอยู่เหนือศีรษะของเธอโดยมุ่งไปที่ด้านหน้าของเธอพร้อมที่จะยิงศัตรูที่เข้ามาในสายตาของเธอ!

ลูกศรเปลวเพลิงเก้าลูกคือขีดจำกัดของเธอ เธอไม่สามารถสร้างมากกว่านั้นด้วยความแข็งแกร่งของเธอในปัจจุบัน!

แต่เธอเชื่อว่าในอนาคตเมื่อความแข็งแกร่งของเธอเพิ่มขึ้นจนถึงระดับที่ไม่สามารถจินตนาการได้ เธอสามารถสร้างลูกศรเปลวไฟสีน้ำเงินได้หลายแสนลูกในคราวเดียว และเธอชอบที่จะดูว่าศัตรูของเธอจะรอดจากเธอได้อย่างไรในเวลานั้น!

ถังลี่เสวี่ยฆ่าสุนัขล่าเนื้อแห่งนรกที่เหลืออย่างง่ายดายด้วย [ศรเพลิง] ของเธอ และเธอก็เอาแกนอสูรของพวกมันทั้งหมดมา แล้วยัดมันทั้งหมดลงในกระเป๋าอวกาศของเธอ

นี่เป็นเหตุผลที่เธอไม่ใช้ [ลมหายใจแห่งไฟ] ของเธอเพื่อฆ่าสุนัขล่าเนื้อแห่งนรกทั้งหมด เนื่องจากเปลวไฟสีน้ำเงินเข้มจะเผาไหม้ทุกสิ่งทุกอย่างรวมถึงแกนสัตว์อสูรด้วย!

การเผาแกนอสูรอันล้ำค่าของพวกมันช่างสิ้นเปลืองเสียจริง! ถึงตอนนี้เธอสามารถบอกได้ว่าเธอก็ค่อนข้างรวยแล้ว แต่ก็ไม่มีเหตุผลอะไรที่เธอจะทิ้งมันไปให้เปลืองเปล่าๆ!

ถังลี่เสวี่ยลูบอุ้งเท้าทั้งสองของเธอด้วยความตื่นเต้นเมื่อเธอมองไปที่ห้องเก็บของขนาดใหญ่ที่เต็มไปด้วยยาเม็ด!

ชั้นวางหลายชั้นหลายร้อยชั้นเต็มไปด้วยเม็ดยาที่เก็บไว้ในขวดนับไม่ถ้วน!

‘ฉันจะได้ EXP เท่าไหร่ถ้าฉันกินยาเหล่านี้ทั้งหมด! ไม่… ไม่… ฉันไม่สามารถกินมันหมดได้ภายในหนึ่งหรือสองวัน! ทั้งหมดนี้น่าจะเพียงพอสำหรับฉันที่จะกินเป็นเวลาหลายปี!

สาวกทั้งหมดในนิกายปีศาจอสูรจะต้องกระอักเลือดออกมาหลายครั้ง หากพวกเขาได้ยินคำพูดของถังลี่เสวี่ย คลังยานี้สามารถทำให้สาวกหลายพันคนในนิกายใช้ได้เป็นเวลาหลายปี แล้วสำหรับเธอคนเดียวล่ะ? เธอจะกินครั้งละเท่าไหร่กัน?

ถังลี่เสวี่ยไม่ทราบว่าในขณะที่เธอยังคงยุ่งอยู่กับการเก็บขวดยาทั้งหมดในห้องเก็บยา ลุงของเสี่ยวเฮยก็มาถึงสวนสมุนไพรแล้วตอนนี้!

“ฉันจะจัดการกับเปลวไฟนี้เอง! พวกคุณทุกคนไปเปิดใช้งาน [พื้นที่ล็อควิญญาณ] ทันที!” โม่ ชองหลิน ออกคำสั่งอย่างเข้มงวดต่อฝูงชนที่กำลังวุ่นวาย

แม้ว่าโม่ ชองหลินจะมีร่างกายที่อ้วนท้วน แต่ทุกคนก็กลัวเขา แต่เจาก็มีพรสวรรค์จอวการเป็นผู้นำที่ยิ่งใหญ่ ที่สามารถทำให้ผู้คนสงบลงได้อย่างง่ายดาย และพวกเขาก็ฟังคำสั่งอย่างไม่มีเงื่อนไขใดๆ