บทที่ 134 ซีเว่ย: ฉันเลือกที่จะขอความช่วยเหลือ

“แต่อัสลาน…” ซีเว่ยยกกะโหลกขึ้นมาด้วยหนวดเล็ก ๆ สองอันของเขาแล้วถามอย่างสงสัย “ท่านไม่ได้พูดว่าสมาชิกของวิหารล่องหนมักจะช่วยเหลือซึ่งกันและกันหรอกเหรอ ข้าคิดว่าตอนนี้ ถึงเวลาแล้ว!”

จากนั้นเขาก็ถือหัวกะโหลกไว้ข้างหน้าตัวเองด้วยท่าทางเหมือน ‘ขอทาน’ “ช่วยข้าด้วยการสนับสนุนทางการเงินถ้าท่านทําได้ หรือไม่ก็ด้วยอํานาจศักดิ์สิทธิ์ของท่าน”

“….”

สิงโตมองดูซีเว่ยอย่างเหยียดหยาม “ในฐานะเทพเจ้า เจ้าไม่ห่วงหน้าตัวเองเลยรึ?”

จากนั้นเขาก็ตระหนักว่าคําพูดนั้นไม่มีผลต่อซีเว่ย เขามองดูลูกบอลที่ยังคงกะพริบแสงเงียบ ๆ

ลูกบอลเรืองแสงไม่มีหน้า…

“ท่านไม่สนับสนุนพลังของท่านหน่อยหรอ เป็นไปได้ไหมที่ท่านกลัวเทพสมุทร ท่านกลัวที่จะช่วยข้า”

ซีเว่ยบ่นพร้อมกับเอาหนวดตบหัวกะโหลกอย่างไม่มีความสุข

“เจ้าหาว่าข้า เทพเจ้าแห่งความยุติธรรมผู้ยิ่งใหญ่ จะกลัวผู้หญิงบ้านั้น!” อัสลานกล่าวอย่างหยิ่งผยอง

แต่อาจจะเป็นเพราะเขาดูไม่น่าเชื่อถือในสายตาของซีเวีย สิงโตจึงรีบกล่าวเสริมว่า “เธอไม่ได้ มาด้วยตัวเอง เธอเพียงแค่ส่งบททดสอบทั้ง 3 มาให้เจ้าในครั้งนี้ ถ้าเราที่เป็น ‘คนนอก’ เข้าไปมีส่วนร่วม เธอก็อาจจะมาหาเจ้าจริง ๆ”

หลังจากนั้นสิงโตก็ทําท่าทางทุบไข่ (หรือวัตถุใด ๆ ที่เป็นทรงกลม) ใช้ชีเว่ย บอกเป็นนัยว่าเขาจะกลายเป็นลูกบอลที่ตายแล้ว…

ซีเว่ยก็คิดเหมือนกัน

ขณะนี้เทพสมุทรไม่ได้ตั้งใจมาหาเรื่องที่อาณาจักรศักดิ์สิทธิ์ของเขาโดยตรง เธอเพียงแค่ทิ้งบททดสอบไว้ให้เขา ชัดเจนว่าเธอเพียงแค่ต้องการทดสอบเขาเท่านั้น ในเมื่อเป็นเช่นนั้น ความสัมพันธ์ของทั้งคู่ก็จะไม่ถูกทําลายในขณะนี้ก่อนที่บททดสอบจะจบลง

ในทางกลับกัน หากซีเว่ยลากคนนอกเข้ามาจริง ๆ และโกงอย่างหน้าด้าน ๆ ต่อหน้าต่อตาเทพสมุทร จากสิ่งที่เขารู้เกี่ยวกับเธอ เธออาจทิ้งผู้ถักทอโลกและวิ่งมาที่นี่เพื่อตบเขาตายอย่างแน่นอน…

แต่ในขณะที่ซีเว่ยกําลังบ่นอย่างเงียบ ๆ ทันใดนั้นสิงโตก็พูดอย่างมีเลศนัยว่า

“แม้เราจะไม่สามารถช่วยเหลือเจ้าได้โดยตรง แต่การช่วยเหลือทางอ้อมก็เป็นไปได้”

“ช่วยเหลือทางอ้อม ยังไง?” ซีเว่ยถามกลับด้วยความสับสน “ท่านจะช่วยเหลือผู้ศรัทธาของข้าด้วยทรัพยากร? ขออภัยในความตรงไปตรงมาของข้า แต่พวกเขาไม่ได้ขาดอะไรเลย”

แม้ว่าผู้เล่นจะไม่ได้ร่ำรวย แต่อาหารในเมืองเล็ก ๆ ก็มีมากมาย มันเพียงพอที่จะช่วยเหลือวิหารแห่งความยุติธรรมได้ด้วยซ้ำ ยิ่งไปกว่านั้นตราบใดที่เทพเจ้าแห่งการเก็บเกี่ยวไม่สังเกตเห็นว่าซีเว่ยขโมยอํานาจของเธอไป ผู้เล่นก็ไม่จําเป็นต้องกังวลเรื่องอาหารไปอีกนาน

“ไม่ใช่แบบนั้น…ข้าเห็นว่าผู้ศรัทธาของเจ้าต่างก็ใช้อาวุธ และอาวุธเหล่านั้นบางชิ้นถูกสร้างมาจากโลหะที่มีพลังศักดิ์สิทธิ์ของเจ้าหล่อหลอมอยู่ คุณภาพของมันดี แต่นอกเหนือจากอาวุธไม่กี่ชิ้นอาวุธอื่น ๆ ก็ไม่มีร่องรอยของพลังศักดิ์สิทธิ์”

สิงโตหยุดไปชั่วขณะ และพูดต่อเมื่อเห็นว่าซีเว่ยกําลังตั้งใจฟัง “สตอฟฟ์เทพเจ้าแห่งงานฝีมือ และไวน์ชั้นดีเป็นหนึ่งในสมาชิกของวิหารล่องหน เขาค่อนข้างสนใจในโพชั่น ‘โคคา-โคล่า’ ที่เจ้าสร้างขึ้นเพื่อผู้ศรัทธาของเจ้า และหากเจ้ายินดีที่จะจัดหามันให้เขาเป็นครั้งคราว เขาก็ยินยอมที่จะถ่ายทอดวิวรณ์ของเขา และให้ช่างตีเหล็กคนแคระบางคนไปที่เกรย์ฟยอร์ดเพื่อดูแลอาวุธให้กับผู้ศรัทธาของเจ้า”

“ข้าขอถามก่อนว่า พวกเขาสามารถทําให้อาวุธแข็งแกร่งขึ้นได้ใช่หรือไม่?”

ในฐานะที่เป็นเทพเจ้าที่กระตือรือร้นในของฟรี ซีเว่ยเกือบจะเห็นด้วยทันที แต่เขาก็อดไม่ได้ที่จะถามคําถามบางข้อเพื่อยืนยันก่อน

“แน่นอน” สิงโตตอบกลับ “คนแคระทุกคนที่มีตําแหน่งช่างช่างตีเหล็ก จะได้รับพรของสตอฟฟ: พวกเขาจะมีทักษะปรับปรุงคุณสมบัติของอาวุธทุกชนิด ตั้งแต่ความคมของใบมีด ความทนทาน ความเหมาะมือ และอื่น ๆ”

“ทําได้จริงเหรอ” แม้ว่าจะมีเกมออนไลน์มากมายที่มีระบบเสริมแกร่งไอเทม แต่อํานาจในการประดิษฐ์ของซีเวียนั้นอ่อนแอมาก การสร้างไอเทมพื้นฐานให้ผู้เล่นนั้นถือเป็นขีดจํากัดของเขาแล้ว

นอกจากนี้ก็อาจเป็นไปได้ว่า เมื่อก่อนสมัยที่เขายังเป็นมนุษย์ ซีเว่ยเคยถูกโกงหลายครั้งโดย ช่างตีเหล็กในเกมมาก่อน ทําให้เขาเชื่ออย่างจริงจังว่าการเสริมแกร่งไอเทมเป็นระบบสุ่ม

แต่หลังจากที่เขาได้รู้ว่าช่างตีเหล็กในโลกนี้สามารถเสริมแกร่งอาวุธได้จริง เขาก็รู้สึกเหลือเชื่อนิด ๆ “มันเหมือนการเปลี่ยนวัสดุของอาวุธ…”

“ระดับนี้เป็นเพียงพื้นฐานสําหรับเทพเจ้า หากเป็นผู้ถักทอโลก เขาสามารถปรับเปลี่ยนความเป็นจริงได้โดยตรง”

สิงโตดูเหมือนเคยชินกับมัน “ข้าเคยได้ยินมาว่าพวกโนมส์มีเทคโนโลยีขั้นสูงถึงขนาดสร้างเรือ บินประจัญบานได้สําเร็จ พวกเขาตั้งชื่อมั่นว่า ‘ช่องว่างดวงดาว’ ว่ากันว่ามันสามารถสังหารเทพ เจ้าได้ แต่เมื่อพวกเขากําลังจะนํามันออกไปโจมตีเทพเจ้าจริง ๆ ผู้ถักทอโลกก็ได้เปลี่ยนคุณภาพของโลหะหลายชนิดที่ใช้สร้างเรือบินเพียงเล็กน้อย เพื่อให้อาวุธสังหารเทพนั้นระเบิดตัวเอง”

ซีเว่ยอยากจะอ้าปากค้างและตะโกนว่า ‘น่ากลัว’ แต่คิดอีกทีเขาก็รู้สึกว่ามันไม่แปลกเลย

หากเทพเจ้าที่อ่อนแอเช่นเขาสามารถปรับกฎระดับต่ำกว่าได้ ก็ไม่แปลกที่ผู้ถักทอโลกที่อยู่ในระดับของเทพบิดรจะส่งผลต่อความเป็นจริง และเปลี่ยนสสารทางกายภาพได้โดยตรง

“หลังจากนั้นพวกโนมส์ก็ถูกสาปและทอดทิ้งโดยอดีตเทพเจ้า จนส่วนใหญ่ถูกลดสถา นะให้เป็นเพียงก็อบลินที่ไร้สมองมีเพียงส่วนน้อยเท่านั้นที่ยังปะปนอยู่กับเผ่าพันธุ์ใต้พิภพ…แต่เจ้าจะยอมรับข้อตกลงของสตอฟฟ์หรือไม่”

เหมือนเห็นซีเว่ยกําลังคิด (อย่าถามฉันว่าสิงโตรู้ได้ยังไงว่าลูกบอลกําลังคิด) สิงโตก็รู้ว่าเขาพูดมากเกินไปแล้ว และเปลี่ยนกลับมาที่ประเด็นหลัก

“ทําไมจะไม่ล่ะ?” ซีเว่ยตอบตงลงทันที “ข้าเชื่อว่าถึงเวลาแล้ว ที่ผู้เล่นจะต้องสัมผัสกับความหวาดกลัวที่ถูกครอบงําโดยการเสริมแกร่งไอเทม”