ตอนที่ 163 คุณชายอวิ๋นอิ่น (3)

หวนคืนชะตาแค้น

กู้​ซิ่ว​ถิง​เลิก​คิ้ว​ ​ถึงแม้​เขา​จะ​ไม่ได้​เอ่ย​อะไร​ออกมา​อีก​แต่​สีหน้า​กลับ​แสดงให้เห็น​ว่า​เขา​ไม่​แปลกใจ​กับ​ท่าที​ทุกข์ทรมาน​ใจ​ของ​จู​หมิง​เยียน​เลย​ ​ผ่าน​ไป​นาน​ในที่สุด​จู​หมิง​เยียน​ก็​สงบ​สติลง​ได้​จับจ้อง​กู้​ซิ่ว​ถิง​แล้ว​กล่าว​ ​“​เจ้า​อยากได้​ความลับ​ของ​มู่​หร​งอ​วี​้​อย่างนั้น​หรือ​ ​คิด​จะ​แก้แค้น​แทน​ตระกูล​กู้​หรือ​ ​แล้ว​เหตุใด​ข้า​ต้อง​บอก​เจ้า​ด้วย​”

กู้​ซิ่ว​ถิง​ขมวดคิ้ว​พลาง​ขบคิด​แล้ว​เอ่ย​ ​“​บางที​ข้า​อาจ​…​ช่วย​ฆ่า​มู่​หร​งอ​วี​้​หรือ​หลี​่​จือ​อี๋​แทน​ท่าน​ได้​?​”

บน​ใบหน้า​ของ​จู​หมิง​เยียน​ผุด​ความว่างเปล่า​ขึ้น​มาชั​่ว​ขณะ​ ​ฆ่า​มู่​หร​งอ​วี​้​หรือ​ฆ่า​หลี​่​จือ​อี๋​อย่างนั้น​หรือ​ ​นาง​ย่อม​อยาก​ฆ่า​หลี​่​จือ​อี๋​ให้​ตาย​โดย​ไม่ต้องสงสัย​อยู่​แล้ว​ ​ทว่า​…​วินาที​ที่​อยาก​เปิดปาก​พูด​ออก​ไป​นาง​เกิด​ลังเล​ขึ้น​มา​ ​ฆ่า​หลี​่​จือ​อี๋​แล้ว​มีประโยชน์​อะไร​ ​เฉกเช่น​ที่​หลี​่​จือ​อี๋​เคย​กล่าว​กับ​ตน​ว่า​ต่อให้​ฆ่า​หลี​่​จือ​อี๋​ตาย​แต่​สุดท้าย​ก็​คงมี​จาง​จือ​อี๋​จ้าว​จือ​อี๋​โผล่​มา​อยู่ดี

ผ่าน​ไป​นาน​ในที่สุด​จู​หมิง​เยียน​ก็​ส่าย​ศีรษะ​กล่าว​ ​“​ไม่​ล่ะ​…​ข้า​ไม่​อยาก​ฆ่า​พวกเขา​ ​ขอ​แค่​เจ้า​ปล่อย​จวน​ผิง​หนานจ​วิ​้​นอ​๋​อง​ไป​ ​ข้า​ก็​จะ​บอก​ความลับ​อย่างหนึ่ง​ของ​มู่​หร​งอ​วี​้​กับ​เจ้า​ ​เรื่อง​ของ​มู่​หร​งอ​วี​้​…​ข้า​รู้​ไม่​มาก​นัก​ ​แต่​เรื่อง​นี้​…​เจ้า​ต้อง​อยากรู้​มาก​แน่​”​ ​ครั้น​พูดถึง​ตรงนี้​นาง​ก็​ยิ่ง​รู้สึก​แย่​จับใจ​ ​นาง​อภิเษก​อยู่กิน​กับ​มู่​หร​งอ​วี​้​มาสาม​ปีก​ว่า​ ​ร่วมมือ​ช่วย​เขา​ทำร้าย​มหา​เสนาบดี​ใน​ราชสำนัก​และ​ทำร้าย​องค์​รัชทายาท​คน​หนึ่ง​ ​แต่​เวลานี้​นาง​เพิ่ง​ค้นพบ​ว่านาง​แทบ​ไม่รู้​อะไร​ที่​เกี่ยวกับ​ตัว​สามี​ของ​นาง​เลย​ ​ถึงแม้​อยาก​จะ​ขาย​ความลับ​ของ​มู่​หร​งอ​วี​้​แต่​ไม่รู้​ด้วยซ้ำ​ว่า​ต้อง​เริ่ม​จาก​ตรงไหน

กู้​ซิ่ว​ถิง​เลิก​คิ้ว​แต่กลับ​ไม่​เอ่ย​อะไร​ ​จู​หมิง​เยียน​มอง​พวกเขา​สาม​คนตรง​หน้า​พลาง​รู้แก่ใจ​ดี​ว่า​กู้​ซิ่ว​ถิ​งก​ล้า​ปรากฏตัว​ต่อหน้า​นาง​ก็​แสดงว่า​เขา​ไม่​เกรงกลัว​จวน​ผิง​หนานจ​วิ​้​นอ​๋​อง​เลย​สักนิด​ ​ตอนนี้​จะ​พูด​หรือไม่​เกรง​ว่า​คง​เอา​ตามใจ​ตน​ว่าไม่ได้​ ​ผ่าน​ไป​สักพัก​จู​หมิง​เยียน​ถึง​กัดฟัน​เอ่ย​ขึ้น​ว่า​ ​“​ฮองเฮา​…​อดีต​ฮองเฮา​ถูก​จู​อวิ​๋น​เฟย​ฆ่า​ตาย​”​ ​จู​หมิง​เยียน​รู้เรื่อง​ของ​มู่​หร​งอ​วี​้​ไม่​มาก​นัก​ ​แต่​เรื่อง​นี้​นาง​เผลอไป​ได้ยิน​บทสนทนา​ของ​มู่​หร​งอ​วี​้​และ​อวิ​๋น​ผิน​เข้าถึง​ได้​รู้

ครั้น​กู้​ซิ่ว​ถิง​เห็น​หญิงสาว​ใน​คุก​มีสี​หน้า​หดหู่ใจ​ ​ก็​เผย​สีหน้า​เย็นชา​ดั่ง​น้ำ​ ​จากนั้น​เขา​ก็​หมุนตัว​แล้ว​เดิน​ออก​ไป​อย่าง​ช้าๆ​ ​ ​เมื่อ​เห็น​เขา​ขยับ​ฝีเท้า​เดิน​ก้าว​ออก​ไป​ ​ฉับพลัน​จู​หมิง​เยียน​ก็​รู้สึก​แปลก​ๆ​ ​พิกล​เลย​กรีดร้อง​อย่าง​หวาดกลัว​ว่า​ ​“​เจ้า​อย่า​เพิ่ง​ไป​!​ ​สิ่ง​ที่​ข้า​รู้​ก็​พูด​ออก​ไป​หมด​แล้ว​ ​ขอร้อง​เจ้า​ปล่อย​ข้า​ไป​เถิด​”

กู้​ซิ่ว​ถิง​หันกลับ​มา​แล้ว​มอง​นาง​พลาง​ยิ้ม​บาง​กล่าว​ ​“​ท่าน​เป็น​สตรีที​่​โง่เง่า​เสีย​จริง​ ​ท่าน​คิด​ว่า​ข้ามา​ถามหา​หลักฐาน​ที่​มู่​หร​งอ​วี​้​ทำร้าย​ตระกูล​กู้​จริงๆ​ ​หรือ​ ​เรื่อง​มาถึง​ขนาด​นี้​แล้ว​ ​รื้อ​คดี​ขึ้น​มา​แล้ว​มีความหมาย​อะไร​ ​ในเมื่อ​ตระกูล​กู้​ไม่มี​อีกต่อไป​แล้ว​”​ ​จู​หมิง​เยียน​มอง​เขา​อย่าง​ตื่นตระหนก​ ​“​เช่นนั้น​เจ้า​…​”​ ​เช่นนั้น​เจ้า​มาทำ​อะไร​

กู้​ซิ่ว​ถิง​ยิ้ม​แล้ว​เดิน​ออก​ไป​โดย​ไม่​แม้แต่​จะ​หันกลับ​มาม​อง​อีก

มี​คน​รอ​อยู่​นอก​คุก​อยู่​แล้ว​ ​ครั้น​เห็น​กู้​ซิ่ว​ถิ​งอ​อก​มาก​็​รีบ​ปรี่​ตัว​เดิน​เข้าไป​หา​อย่างนอบน้อม​ ​“​คุณชาย​ใหญ่​”​ ​กู้​ซิ่ว​ถิง​พยักหน้า​เล็กน้อย​เอ่ย​ขึ้น​ว่า​ ​“​งานเลี้ยง​ใน​วัง​ใกล้​เสร็จสิ้น​แล้ว​หรือ​”

ผู้มาเยือน​เอ่ย​พลาง​พยักหน้า​ว่า​ ​“​ใกล้​แล้ว​ขอรับ​ ​คุณชาย​ใหญ่​ ​เมื่อ​ครู่​มี​ข่าวลือ​มาจาก​ใน​วัง​ว่า​คน​ๆ​ ​นั้น​…​แต่งตั้ง​คุณหนู​เป็น​องค์​หญิง​หมิง​เจ๋อ​แล้ว​ขอรับ​”

กู้​ซิ่ว​ถิง​เงียบ​ไป​พัก​หนึ่ง​แล้ว​เอ่ย​เสียง​เรียบ​ว่า​ ​“​ชิง​อี​รู้อยู่แก่ใจ​ดี​ ​ไม่ต้อง​เป็นห่วง​ไป​”

“​ขอรับ​”

เขา​ไม่ลืม​หันกลับ​ไป​มอง​วัง​หลวง​แวบ​หนึ่ง​ ​ใบหน้า​หล่อเหลา​ภายใต้​แสงจันทร์​ของ​คุณชาย​ซิ่ว​ถิ​งดู​เย็นชา​ทว่า​กลับ​เจือ​ความอ่อนโยน​ออกมา​จางๆ​

เกอ​เอ๋อร​์​ ​เจ้า​ยัง​ฉลาด​เหมือนเคย​ ​ในเมื่อ​เจ้า​ไม่รู้​ว่า​ควรจะ​จัดการ​กับ​จู​หมิง​เยียน​เช่นใด​ ​เช่นนั้น​ก็​ให้​พี่ใหญ่​เป็น​คน​ช่วย​เจ้า​จัดการ​เอง​เถิด

บน​ถนน​อีก​สาย​ใน​เมืองหลวง​ ​รถม้า​ของ​ขุนนาง​ทูต​เป่ย​ฮั่น​กำลัง​มุ่งหน้า​ไป​ทาง​สถานทูต​แห่ง​เป่ย​ฮั่น​อย่าง​ช้าๆ​ ​หย่งจ​ยาจ​วิ​้น​จู่​พิง​อยู่​ข้าง​กาย​ของ​เกอ​ซู​ฮั่น​ด้วย​ท่าที​สะลึมสะลือ​อยาก​หลับ​เต็มที​อย่าง​เหนื่อยหน่าย​ ​ครั้น​นึก​บางอย่าง​ขึ้น​ได้​นาง​ก็​รีบ​หยัด​กาย​ขึ้น​นั่ง​ตรง​เอ่ย​เตือน​ว่า​ ​“​พี่​สิบเอ็ด​ ​ต่อให้​ชิง​อี​จะ​ไม่​ชอบ​ท่าน​ ​ท่าน​ก็​ห้าม​ไป​อภิเษก​กับ​ผู้หญิง​อย่าง​องค์​หญิง​ไหว​หยาง​เด็ดขาด​!​ ​ความจริง​องค์​หญิง​แปด​และ​องค์​หญิง​เก้า​ก็​ไม่เลว​เหมือนกัน​นะ​เพ​คะ​”

เกอ​ซู​ฮั่น​ที่​กำลัง​งุด​หน้า​ขบคิด​เหตุการณ์​ที่​จู่ๆ​ ​เกิดขึ้น​ใน​ช่วง​ตอนท้าย​ของ​งานเลี้ยง​ถูก​น้องสาว​เอ่ย​เตือน​ขึ้น​มา​ฉับพลัน​เช่นนั้น​ก็​นิ่ง​ชะงัก​ไป​ ​จากนั้น​ก็​เอ่ย​ด้วย​สีหน้า​ที่​ร้องไห้​ไม่ได้​หัวเราะ​ไม่​ออก​ว่า​ ​“​เจ้า​พูดจา​เหลวไหล​อัน​ใด​กัน​ ​องค์​หญิง​ไหว​หยาง​ต้อง​อภิเษก​เกี่ยวดอง​กับ​แคว้น​หวา​ต่างหาก​”​ ​ถึงแม้​ตอนนี้​ทั้ง​สาม​แคว้น​จะ​ไม่ได้​ขัดแย้ง​กัน​ ​แต่​ความแค้น​ระหว่าง​แคว้น​เย​่ว​์​และ​แคว้น​เป่ย​ฮั่น​ร้ายแรง​กว่า​แคว้น​หวานัก​ ​พวกเขา​ต่าง​รู้อยู่แก่ใจ​ดี​ว่า​มิ​อาจ​ไกล่เกลี่ย​ความบาดหมาง​นี้​ได้​ ​ดังนั้น​เรื่อง​เกี่ยวดอง​ย่อม​เป็นไปไม่ได้​อยู่​แล้ว​ ​เพราะเหตุนี้​ก่อนหน้านี้​เกอ​ซู​ฮั่น​เห็น​น้องสาว​ตน​มีความรู้สึก​ดี​ๆ​ ​ให้​องค์​ชาย​เก้า​ของ​แคว้น​เย​่ว​์​จึง​ไม่เห็นด้วย​เลย​สักนิด​ ​โชคดี​ที่​เกอ​ซู​ปิง​ปล่อยวาง​ได้​และ​ไม่​ไป​คิดถึง​เรื่อง​นี้​อีก

หย่งจ​ยาจ​วิ​้น​จู่​กลอกตา​ใส่​เอ่ย​ ​“​ท่าน​คิด​ว่า​เหตุใด​คืนนี้​องค์​หญิง​ไหว​หยาง​ถึง​หาเรื่อง​องค์​หญิง​หมิง​เจ๋อ​เล่า​”​ ​ต่อให้​องค์​หญิง​ไหว​หยาง​จะ​สมอง​มีปัญหา​แต่​ก็​คง​ไม่​ถึงขั้น​เห็น​หน้า​ก็​เข้าไป​กัด​เช่นนั้น​หรอก​ ​ถ้า​ไม่ใช่​เพราะ​พี่​สิบเอ็ด​ของ​ตน​ให้ความสำคัญ​กับ​องค์​หญิง​หมิง​เจ๋อ​ขนาด​นั้น​ล่ะ​ก็​นะ

ครั้น​เอ่ยถึง​มู่​ชิง​อี​ ​เกอ​ซู​ฮั่น​ก็​เลี่ยง​อดใจ​ลอย​ไม่ได้​ ยัย​เด็ก​คน​นั้น​…​แตกต่าง​จาก​ครั้ง​วัยเยาว์​อย่าง​สิ้นเชิง​ ​ใคร​จะ​ไป​คิด​ว่ายัย​เด็ก​ขี้อาย​ใน​วัยเยาว์​คน​หนึ่ง​จะ​กล้า​แต่ง​กลอน​เหน็บแนม​เช่นนั้น​ต่อหน้า​คน​ทั้ง​พระตำหนัก​มากมาย​ขนาด​นั้น​ได้​ ​ไม่ว่า​จะ​เป็น​สติปัญญา​หรือ​ความกล้า​ต่าง​ก็​น่าทึ่ง​ทั้งนั้น​ ​หาก​กล่าวว่า​มู่​ชิง​อี​ที่​เคย​เห็น​ใน​จวน​ซู่​เฉิง​โหว​เหมือน​ดั่ง​หยก​เม็ด​งาม​ที่​อ่อนโยน​สง่างาม​ชิ้น​หนึ่ง​ ​ทว่า​มู่​ชิง​อี​ใน​ตอนนี้​ก็​เหมือน​ดั่ง​ไข่มุก​สุก​สกาว​ที่​เปล่า​แสง​เจิด​จรัส​หนึ่ง​เช่นกัน

ครั้น​เห็น​พี่​สิบเอ็ด​จิตใจ​ล่องลอย​ไม่อยู่​กับ​เนื้อ​กับ​ตัว​ ​หย่งจ​ยาจ​วิ​้น​จู่​ก็​อด​ปิดปาก​แอบ​ขบขัน​ไม่ได้​ ​ขยิบตา​เอ่ย​ถาม​ว่า​ ​“​พี่​สิบเอ็ด​ ​หรือว่า​ท่าน​จะ​ชอบ​…​”

พลั่ก​!​ ​เกอ​ซู​ฮั่น​ดวงตา​วาววับ​ผลัก​ตัว​หย่งจ​ยาจ​วิ​้น​จู่​ออก​ ​ได้ยิน​เพียง​เสียง​ลม​แผ่วเบา​พัดผ่าน​ไหล่​ของ​หย่งจ​ยาจ​วิ​้น​จู่​ไป​แล้ว​ทะลุ​ผ่าน​เกี้ยว​รถม้า​ด้านหลัง​ ​หย่งจ​ยาจ​วิ​้น​จู่​ตกใจ​จน​หน้าซีด​

หาก​พี่​สิบเอ็ด​ไม่​ผลัก​นาง​หลบ​ล่ะ​ก็​ ​ไม่แน่​นาง​ไม่เพียงแต่​ถูก​แทง​ทะลุ​ ​แม้แต่​พี่​สิบเอ็ด​ที่นา​งกำ​ลัง​นั่ง​พิง​อยู่​ก็​คงพลอย​บาดเจ็บ​ไป​ด้วย​ ​เมืองหลวง​แคว้น​หวา​…​มีย​อด​ฝีมือ​เช่นนี้​ด้วย​หรือ​!

“​อยู่​ใน​นี้​ไม่ต้อง​ออกมา​!​”​ ​เกอ​ซู​ฮั่น​เอ่ย​เสียง​ขรึม​แล้ว​ลุกขึ้น​ปัด​ม่าน​เดิน​ออกจาก​รถม้า​ไป​ ​เพราะ​การ​จู่โจม​กะทันหัน​เมื่อ​ครู่​รถม้า​เลย​จอด​สนิท​ ​ถนน​ว่างเปล่า​สุดลูกหูลูกตา​มีบุ​รุษ​ชุด​ดำ​ยืน​อยู่​คน​หนึ่ง​ ​ภายใต้​แสงจันทร์​บน​เสื้อผ้า​สีดำ​ปัก​ด้วย​ลวดลาย​ริ้ว​เมฆ​สีทอง​อ่อน​รางๆ​ ​แต่กลับ​บ่งบอก​ตัวตน​ของ​ผู้มาเยือน​

เกอ​ซู​ฮั่น​มอง​ผู้มาเยือน​เบื้องหน้า​ ​ใบหน้า​ถูก​ปิด​ด้วย​เส้น​ผม​ครึ่ง​หน้า​พร้อมทั้ง​ใส่หน้ากาก​ลาย​ริ้ว​เมฆ​สีทอง​พื้น​สีดำ​แบบ​เดียวกัน​ ​เขา​เพียง​ผุด​ยก​ยิ้ม​บาง​ๆ​ ​ที่​มุม​ปาก​เล็กน้อย​ ​“​คุณชาย​อวิ​๋​นอิ​่น​ ​เป็นเกียรติ​นัก​”

หาก​กล่าวว่า​ท่าที​ลึกลับ​ของ​เว​่​ยอู​๋​จี้​อยู่​ที่​เรื่อง​ปิดบัง​ตบตา​เก่ง​แล้ว​ล่ะ​ก็​ ​เช่นนั้น​คุณชาย​อวิ​๋​นอิ​่​นก​็​คงได้​รับ​สมญานาม​ว่า​ผี​ไร้​เงา​แล้ว​ ​บน​โลก​นี้​มี​คนรู้จัก​เว​่​ยอู​๋​จี้​มากมาย​แต่​คนที​่​รู้​ว่า​เขา​มี​วิทยา​ยุทธ​นั้น​น้อย​นัก​ ​ทว่า​ในทางกลับกัน​หาก​ขอ​แค่​คน​บน​โลก​นี้​ได้ยิน​ชื่อ​ของ​คุณชาย​อวิ​๋​นอิ​่น​ผู้​นี้​ ​พวกเขา​ต่าง​ก็​รู้กัน​ถ้วนหน้า​ว่า​ฝีมือ​วิทยา​ยุทธ​ของ​เขา​สุดยอด​ไร้​ใคร​เทียม​แต่กลับ​ไม่มีใคร​เคย​ได้ยิน​ภูมิหลัง​ของ​เขา​อย่างชัดเจน​นัก​ ​กระทั่ง​ชื่อ​ของ​เขา​ ​ชื่อ​ของ​เขา​ย่อม​ไม่ใช่​อวิ​๋​นอิ​่​นอยู​่​แล้ว​ ​เพียงแต่​ทุกครั้งที่​เขา​ปรากฏตัว​มักจะ​สวมหน้ากาก​ลวดลาย​ริ้ว​เมฆ​สีทอง​เช่นนี้​เพื่อ​ปกปิด​ใบหน้า​ของ​ตน​ ​ดังนั้น​จึง​ถูก​คนอื่นๆ​ ​ตั้งฉายา​ให้​ว่า​อวิ​๋​นอิ​่​นนั​่น​เอง

เกอ​ซู​ฮั่น​เอง​ก็​ไม่เคย​เจอ​คุณชาย​อวิ​๋​นอิ​่​นมา​ก่อน​เช่นกัน​ ​กระทั่ง​ไม่เคย​คิดมาก​่อ​นว​่า​เขา​จะ​ปรากฏตัว​ใน​เมืองหลวง​ของ​แคว้น​หวา​เช่นนี้​ ​และ​ยิ่ง​คิดไม่ถึง​ว่า​ทันทีที่​ลงมือ​ก็​จะ​ปล่อย​กระบวน​ท่า​สังหาร​อย่างไร​้​ความปรานี​เช่นนี้​แล้ว​ ​“​ข้า​จำได้​ว่า​ ​หา​ได้​มี​ความแค้น​ใด​กับ​คุณชาย​มาก​่อน​ไม่​ ​เหตุใด​คุณชาย​ถึง​ต้อง​ทำร้าย​ข้า​เช่นนี้​เล่า​”

อวิ​๋​นอิ​่น​จับจ้อง​เขา​ด้วย​สายตา​เย็นชา​ ​แววตา​ทั้งสอง​ข้าง​ภายใต้​หน้ากาก​ปล่อย​ไอ​สังหาร​และ​ความเหี้ยมโหด​ออกมา​ ​“​เปล่า​หรอก​ ​ข้า​เพียง​เห็น​เจ้า​แล้ว​รู้สึก​ขัดหู​ขัดตา​ก็​เท่านั้น​”

ตอนต่อไป