บทที่ 173 เฮ่อเหลียนเวยเวยทำให้ทุกคนประหลาดใจ

องค์ชายสาม หยุดไล่ตามข้าเสียที!

​ไม่ใช่​แค่นา​งคน​เดียว​ที่​ไม่เชื่อ​ ​แม้แต่​มู่​หรง​ฉาง​เฟิ​งก​็​ยัง​สงสัย​ใน​เรื่อง​นี้​อยู่​เหมือนกัน

​อย่างไรก็ตาม​ ​หลังจากที่​เฮ่อ​เหลียน​เวย​เวย​ได้ยิน​ว่า​อีก​ฝ่าย​พูด​เช่นนั้น​ ​นาง​ก็​ไม่ได้​มีท​่า​ที​สะทกสะท้าน​เลย​แม้แต่น้อย

​หญิงสาว​คลาย​ปก​คอเสื้อ​ของ​ตนเอง​ ​และ​พูด​ด้วย​สีหน้า​ยิ้มแย้ม​ ​“​ในเมื่อ​พวกเรา​ตกลง​ใน​เงื่อนไข​นี้​แล้ว​ ​ก็​มา​เริ่ม​กัน​เลย​เถอะ​”

​เมื่อ​พูด​จบ​ ​นาง​ก็​รวบ​ผม​ยาว​ของ​ตนเอง​ขึ้น​ ​แล้ว​หยิบ​ชิ้นส่วน​อาวุธ​ขึ้น​มาตรง​หน้า​ ​ท่าที​ของ​นางใน​ตอนนี้​ดู​จริงจัง​อย่างมาก​ ​และ​ดวงตา​ของ​นาง​ก็​ดู​นิ่ง​สงบ​ราวกับ​ทะเล​ ​ดูเหมือนว่า​ ​ตราบใดที่​นาง​ยืน​อยู่​ตรงนั้น​และ​ส่ง​ยิ้ม​ให้​ ​ใครๆ​ ​ก็​จะ​สามารถ​รับรู้​ถึง​สายลม​เย็น​ได้

​เมื่อ​สถานการณ์​ต่างๆ​ ​ดำเนิน​มาถึง​ขั้น​นี้​แล้ว​ ​อาจารย์​จึง​ประกาศ​เสียงดัง​ ​“​การ​ประลอง​ช่วง​ที่สอง​ของ​สาขา​อาวุธ​จะ​เริ่ม​ขึ้น​ ณ​ ​บัดนี้​ ​ผู้ตัดสิน​ทั้ง​สาม​คน​จุด​ธูป​ได้​”

​ปัง​!

​ทันทีที่​เขา​พูด​จบ​ ​เฮ่อ​เหลียน​เวย​เวย​ก็​ขยับ​มือ​ของ​นาง​ทันที

​การเคลื่อนไหว​ของ​นาง​รวดเร็ว​มาก​จน​ทุกคน​ไม่มี​โอกาส​ที่จะ​แสดงปฏิกิริยา​ใดๆ

​มัน​รวดเร็ว​มาก​จน​สายตา​ของ​พวกเขา​ไม่​สามารถ​จับ​การเคลื่อนไหว​ได้​เลย

​แต่​เฮ่อ​เหลียน​เวย​เวย​ก็ได้​เริ่ม​ลงมือ​แล้ว​ ​นี่​เป็นครั้งแรก​ที่นาง​ได้​ประกอบ​อาวุธ​ต่อหน้า​ศิษย์​ทุกคน

​ใบหน้า​ด้าน​ข้าง​ของ​นาง​ ​ขน​ตา​หนา​เป็น​แพ​หลุบ​ลง​เล็กน้อย​ ​และ​นิ้วมือ​เรียว​ยาว​สีขาว​นั้น​ดู​ไม่​เหมือนว่า​กำลัง​ประกอบ​อาวุธ​อยู่​เลย​ ​แต่​ดูรา​วกับ​ว่า​เป็น​นิ้วมือ​ของ​นักดนตรี​ที่​กำลัง​เล่น​ถาน​ฉิน[1]อยู่​ ​นาง​ใช้​นิ้วมือ​ทุก​นิ้ว​อย่าง​เต็ม​ประสิทธิภาพ​ ​และ​อยู่​ใน​ท่าที​ที่​เหมาะสม​ ​สวยงาม​ ​และ​คล่องตัว​ ​เมื่อ​นิ้วมือ​เคลื่อนไหว​เปลี่ยน​ทิศทาง​ ​ส่วนประกอบ​ใน​มือ​ของ​นาง​ก็​ขยับ​ตาม​การเคลื่อนไหว​นั้น​ ​มัน​เคลื่อนไหว​อย่าง​ลื่นไหล​ราวกับ​เป็น​ภาพวาด​พู่กัน​ก็​ไม่​ปาน

​นอกจาก​เสียง​ ​‘​คลิก​ ​คลิก​’​ ​ทุกคน​ก็ได้แต่​มองดู​นิ่ง​ๆ​ ​แต่​ไม่มีใคร​มองออก​ว่านิ​้ว​มือ​ของ​นาง​เคลื่อนไหว​อย่างไร

​มี​เพียง​สิ่ง​เดียว​ที่​พวกเขา​รู้สึก​ได้​ ​ก็​คือ​นาง​ช่าง​ดูรา​วกับ​เป็น​ภาพวาด​ที่​งดงาม​จน​ตาพร่า

​การเคลื่อนไหว​ที่​เป็นธรรมชาติ​ ​ราวกับ​เป็น​ก้อน​เมฆ​ที่​เคลื่อนตัว​และ​กระแสน้ำ​ที่​ไหลริน​นั้น​ ​ไม่ได้​ดูกระ​วน​กระ​วาย​หรือ​รีบร้อน​อะไร​ ​ราวกับว่า​ชิ้นส่วน​ของ​อาวุธ​เหล่านั้น​เป็น​เพียง​ของเล่น​สำหรับ​นาง​เท่านั้น

​“​ชิ้น​ที่หนึ่ง​”

​ขณะที่​มู่​หรง​ฉาง​เฟิง​เพิ่ง​เริ่ม​ประกอบ​ชิ้นส่วน

​เฮ่อ​เหลียน​เวย​เวย​ก็​สร้าง​อาวุธ​ชิ้น​แรก​ที่นา​งอ​อก​แบบ​เอาไว้​เสร็จ​แล้ว

​ริมฝีปาก​บาง​ของ​นาง​ยกขึ้น​อย่าง​เรียบ​เฉย​ ​รูปลักษณ์​ของ​นาง​ตรงกันข้าม​กับ​เสื้อคลุม​ยาว​สีขาว​ ​จน​ทำให้​ผู้คน​ไม่​สามารถ​ละสายตา​จาก​นาง​ได้

​“​ปัง​!​”

​อาวุธ​ชิ้น​ที่สอง​เสร็จ​แล้ว​ ​เฮ่อ​เหลียน​เวย​เวย​พลิก​ฝ่ามือ​ ​และ​เผย​ให้​เห็น​แส้​สีเงิน​ที่​ถูก​ประกอบ​เป็นรูปเป็นร่าง

​มู่​หรง​ฉาง​เฟิง​ที่อยู่​ใกล้​กับ​เฮ่อ​เหลียน​เวย​เวย​มาก​ที่สุด​นั้น​รู้ดี​ว่า​ ​เดิมที​ ​ชิ้นส่วน​ของ​อาวุธ​เหล่านั้น​กระจัดกระจาย​ไป​หมด​ ​แต่​พอ​อยู่​ใน​มือ​ของ​หญิงสาว​ ​พวก​มัน​ก็​กลับกลาย​เป็น​อาวุธ​ขึ้น​มา​ได้

​ดวงตา​ของ​เขา​กระสับกระส่าย​อย่าง​ไม่​อาจ​ควบคุม​ได้​ ​ในขณะที่​ชิ้นส่วน​อาวุธ​ที่อยู่​ใน​มือ​ของ​เขา​พังทลาย​ ​และ​ร่วงหล่น​ลง​บน​พื้น​พร้อมกับ​เสียงดัง​กึกก้อง

​หาก​จะ​บอกว่า​ ​ตอนที่​ไป๋​หลี​่​เจีย​เจ​วี​๋ย​เอาชนะ​คู่ต่อสู้​ได้​นั้น​ ​พื้นที่​บริเวณ​นี้​เงียบสงัด

​ถ้าเช่นนั้น​ ​ใน​ตอนนี้​ ​ผู้คน​เหล่านั้น​ก็​ไม่​สามารถ​ถอน​สายตา​จาก​นาง​ได้​เช่นกัน​ ​พร้อมกับ​เสียง​ที่​ดัง​ขึ้น​อย่าง​เป็นจังหวะ​ ​จน​พวกเขา​ต้อง​กลืนน้ำลาย​อย่าง​อด​ไม่ได้

​นี่​มัน​จะ​ไม่​เร็ว​เกินไป​หน่อย​หรือ

​ทำไม​นาง​ถึง​คล่องแคล่ว​เช่นนี้

​แม้ว่า​อาจารย์​ตู๋​เทียน​จะ​รู้สึก​ว่า​หญิงสาว​น่าทึ่ง​ ​แต่​มี​เพียง​เขา​เท่านั้น​ที่​แสดง​สีหน้า​ผิดหวัง​อยู่เล็ก​น้อย

​เฮ่อ​เหลียน​เวย​เวย​รวดเร็ว​มาก​ก็​จริง​ ​แต่​นาง​ก็​ยัง​ไม่​รวดเร็ว​เท่ากับ​หญิงสาว​ที่​เขา​เคย​เจอ​ที่​หอ​เฟิ​่ง​หวง​ก่อนหน้านี้

​เขา​คิด​ว่า​คนที​่​สามารถ​ออกแบบ​ได้​หลากหลาย​ขนาด​นี้​ ​จะ​มี​ความ​โดดเด่น​มากกว่า​ผู้หญิง​คน​นั้น​ ​แต่​ดูเหมือนว่า​นาง​ไม่ได้​อยู่​ใน​ระดับ​นั้น​…

​ปัง​!

​อาวุธ​ชิ้น​ที่สาม​เสร็จ​แล้ว​!

​หาก​พูดตาม​หลัก​เหตุ​และ​ผล​แล้ว​ ​ใน​การ​ประกอบ​อาวุธ​ ​เมื่อถึง​ช่วง​ท้าย​ๆ​ ​ก็​จะ​ยิ่ง​ซับซ้อน​ขึ้น​เรื่อยๆ​ ​เพราะ​การ​ออกแบบ​นั้น​จะ​เริ่ม​จาก​ง่าย​ไป​ยาก​ตามลำดับ

​แต่​ดูเหมือนว่า​ประเด็น​นี้​จะ​ไม่มีผล​ใดๆ​ ​กับ​เฮ่อ​เหลียน​เวย​เวย

​ในทางกลับกัน​ ​ดวงตา​ของ​นาง​เปล่งประกาย​ราวกับ​สายน้ำ​ ​และ​ทอแสง​สุก​สกาว​ดุจ​ดวงดาว

​ในขณะที่​มู่​หรง​ฉาง​เฟิง​พินิจ​ดู​ใบหน้า​อัน​งดงาม​ของ​อีก​ฝ่าย​ ​หัวใจ​ของ​เขา​ก็​ราวกับ​ถูก​กระตุ้น​อย่างรุนแรง​ ​เขา​รู้สึก​ปวดศีรษะ​และ​มึนงง​อย่าง​น่าประหลาด

​“​ซื่อ​จื่อ​เจ้า​คะ​”​ ​เมื่อ​เห็น​เช่นนั้น​ ​เด็กสาว​ที่อยู่​นอก​เวที​ก็​กัด​ริมฝีปาก​บาง​ของ​นาง​ ​“​รีบ​ไป​หยิบ​ของ​ของ​ท่าน​ขึ้น​มา​เถอะ​เจ้าค่ะ​”

​มู่​หรง​ซื่อ​จื่อ​ไม่เคย​มอง​ใคร​ด้วย​สายตา​เช่นนี้​มาก​่อน​ ​สีหน้า​ที่​ดูเหมือน​อีก​ฝ่าย​น่า​ดึงดูดใจ​ ​ให้​ตาย​เถอะ​ ​นาง​สมควร​ตาย​จริงๆ

​ในที่สุด​ ​มู่​หรง​ฉาง​เฟิ​งก​็​กลับมา​ได้สติ​อีกครั้ง​ ​ก่อน​จะ​ก้มลง​เก็บ​ชิ้นส่วน​เหล่านั้น​ ​และ​ประกอบ​อาวุธ​ชิ้น​แรก​สำเร็จ​อย่างรวดเร็ว​ ​แต่​ไม่ว่า​อย่างไร​เขา​ก็​ไม่​สามารถ​จดจ่อ​กับ​สมาธิ​ของ​ตนเอง​ได้

​ทุกคน​ต่าง​ก็​ตกตะลึง

​ปัง​!

​อาวุธ​ชิ้น​ที่สี่​เสร็จ​แล้ว​!

​เฮ่อ​เหลียน​เวย​เวย​ลูบ​ต้นคอ​ของ​ตนเอง​อย่าง​ผ่อนคลาย

​เกิด​เสียงดัง​ขึ้น

​ผู้คน​ส่งเสียง​ฮือฮา​ขึ้น​ทันที

​“​ชิ้น​ที่สี่​ ​นาง​ทำ​อาวุธ​ชิ้น​ที่สี่​เสร็จ​แล้ว​”

​“​เป็นไปไม่ได้​ ​มู่​หรง​ซื่อ​จื่อ​เพิ่งจะ​ประกอบ​เสร็จ​ไป​แค่​ชิ้น​เดียว​เท่านั้น​”

​เหลือ​เวลา​อีก​เท่าไหร่​ต่างหาก​ ​สิ่ง​ที่​สำคัญ​ที่สุด​คือ​เวลา

​ใน​ชั่วพริบตา​ ​ทุกคน​ต่าง​ก็​เพ่งมอง​ก้านธูป​ที่​ใกล้​จะ​หมด​ลง​ใน​เวลา​อัน​สั้น​นี้​ ​ความตึงเครียด​อย่างที่​ไม่เคย​ปรากฏ​ขึ้น​มาก​่อ​นก​็​แผ่ซ่าน​ไป​ทั่ว​ร่างกาย​ของ​พวกเขา

​ก้านธูป​เหลือ​อีก​เพียง​เล็กน้อย​เท่านั้น

​หญิงสาว​คน​นั้น​กำมือ​แน่น​ ​พร้อมกับ​จ้อง​ก้านธูป​ที่อยู่​ไกลๆ​ ​ตาเขม​็ง​ ​สีหน้า​ของ​นาง​ราวกับว่า​ต้องการ​ให้​ลม​พัด​แรง​ขึ้น​เพื่อ​ทำให้​ก้านธูป​นั้น​ดับ​ลง​อย่างรวดเร็ว

​เฮ่อ​เหลียน​เจียว​เอ๋อร​์​ที่นั่ง​ถัดจาก​นาง​ยื่นมือ​ซ้าย​ออกมา​วาง​บน​หลัง​มือ​ของ​อีก​ฝ่าย​ ​ก่อน​จะ​พูด​ด้วย​น้ำเสียง​อัน​ชั่วร้าย​ ​“​ไม่ต้อง​กังวล​หรอก​ ​ผู้หญิง​คน​นั้น​ไม่มีทาง​ชนะ​ได้​ ​นาง​เพิ่งจะ​สร้าง​อาวุธ​ได้​เพียง​สี่​ชิ้น​เท่านั้น​ ​และ​ใช้เวลา​ไป​แล้ว​สี่​ใน​ห้า​ของ​เวลา​ทั้งหมด​ ​นาง​ไม่​สามารถ​ทำ​อาวุธ​อีก​สาม​ชิ้น​ที่​เหลือ​ให้​เสร็จ​ได้​ทัน​หรอก​”

​ขณะที่​เฮ่อ​เหลียน​เจียว​เอ๋อร​์​กำลัง​พูด​อยู่​นั้น​ ​เสียงดัง​ ​‘​ปัง​’​ ​ก็​ดัง​ขึ้น

​เฮ่อ​เหลียน​เวย​เวย​วาง​อาวุธ​ชิ้น​ที่​ห้า​ลง​บน​โต๊ะ​ ​พร้อมกับ​เงยหน้า​ขึ้น​มองดู​ความ​ยาว​ของ​ธูปหอม

​“​ยัง​เหลือ​อีก​สอง​ชิ้น​ ​อีก​สอง​ชิ้น​เท่านั้น​ ​แล้ว​นาง​ก็​จะ​เป็น​ฝ่าย​ชนะ​”

​“​เวลา​ไม่พอ​หรอก​ ​ดูก​้าน​ธูป​นั่นสิ​”

​ทุกคน​ใน​โลก​ใบ​นี้​รู้ดี​ว่า​คุณชาย​อู๋​ซวง​นั้น​คือ​คนที​่​สามารถ​สร้าง​อาวุธ​ได้​อย่างรวดเร็ว​มาก​ ​ไม่ว่า​เฮ่อ​เหลียน​เวย​เวย​จะ​มี​ความสามารถ​เพียงใด​ ​แต่​นาง​ก็​ไม่​สามารถ​ประกอบ​อาวุธ​ได้​เร็ว​ไป​กว่า​คุณชาย​อู๋​ซวง​หรอก​ ​จริง​ไหม​เล่า

​ยิ่งกว่านั้น​ ​เวลา​ที่​เหลืออยู่​ก็​ยัง​มี​ไม่​มาก​พอ​ ​หาก​นาง​ฝืน​เอา​ชิ้นส่วน​ต่างๆ​ ​ประกอบ​เข้าด้วยกัน​ ​และ​ไม่​เป็นไปตาม​แบบ​ที่​ร่าง​เอาไว้​ก่อนหน้านี้​ ​นาง​ก็​จะ​พ่ายแพ้​เช่นกัน

​แต่​สิ่ง​ที่​ทุกคน​คาดไม่ถึง​ก็​คือ​ ​ใน​จังหวะ​ต่อมา​ ​เฮ่อ​เหลียน​เวย​เวย​ก็​ยกมือ​ขึ้น​และ​ถอด​สิ่งของ​บางอย่าง​ออกจาก​ข้อมือ​ของ​ตนเอง

​มัน​คือ​ปลอกแขน​ถ่วง​น้ำหนัก​ที่​พวกเขา​เคย​เห็น​มาก​่อน​หน้า​นี้

​บ้าน​่า​ ​นี่​มัน​เรื่องตลก​อะไร​กัน

​นาง​ใส่​ปลอกแขน​ถ่วง​น้ำหนัก​กี่​อัน​กัน​แน่

​ปัง​!

​ในที่สุด​ ​ก็​มี​คน​สังเกตเห็น​ว่า​เฮ่อ​เหลียน​เวย​เวย​เปลี่ยนมือ​ ​“​ดู​สิ​ ​นาง​เริ่ม​ใช้​มือซ้าย​เป็นหลัก​แล้ว​ ​ส่วน​มือขวา​ ​ใน​ตอนนี้​ ​ก็​เพียงแค่​ใช้​เพื่อ​ช่วยเหลือ​เท่านั้น​ ​ความเร็ว​ของ​นาง​ดูเหมือน​จะ​เพิ่มขึ้น​เป็น​สองเท่า​จาก​ใน​ตอนแรก​”

​“​อย่า​บอก​นะ​ว่า​…​ ​ก่อนหน้านี้​ ​นาง​ยัง​ไม่ได้​ทำ​อย่าง​ถึงที่สุด​ ​มัน​ช่าง​น่ากลัว​เกินไป​แล้ว​”

​มัน​ช่าง​น่ากลัว​จริงๆ​ ​ใน​ฐานะ​ที่​เป็น​อาจารย์​ของ​สำนัก​ไท่​ไป๋​ ​อวิ​๋น​ซิว​ก็​ไม่แน่ใจ​ว่า​ตนเอง​จะ​สามารถ​ทำได้​ถึงขั้น​นี้​หรือไม่​ ​แม้ว่า​การ​ประกอบ​อาวุธ​จะ​เป็น​เพียง​ระดับ​ผู้เริ่มต้น​ ​และ​ไม่ได้​ประกอบ​ยาก​มาก​นัก​ ​แต่​ถึงแม้​จะ​เป็นตัว​เขา​เอง​ ​การ​สร้าง​อาวุธ​สี่​ชิ้น​ก็​ถือเป็น​ขีดจำกัด​แล้ว​ ​ใน​อดีต​ ​เขา​คิด​มาต​ลอด​ว่า​มู่​หรง​ฉาง​เฟิ​งคื​ออัจ​ฉริยะ​ ​นอกจาก​คุณชาย​อู๋​ซวง​ที่​ไม่มีใคร​เทียบ​ได้​ใน​วงการ​ประกอบ​อาวุธ​แล้ว​ ​ก็​มี​เด็ก​รุ่นใหม่​เพียง​ไม่​กี่​คน​เท่านั้น​ที่จะ​สามารถ​ไล่ตาม​เขา​ได้​ทัน

​แต่​สิ่ง​ที่​เขา​เห็น​จาก​การ​ประลอง​ใน​วันนี้​ ​และ​ได้​เห็น​กลยุทธ์​ใน​การ​ประกอบ​อาวุธ​ของ​เฮ่อ​เหลียน​เวย​เวย​ ​เขา​ก็​รับรู้​ได้​ว่าความ​หมาย​ของ​ยอด​อัจฉริยะ​ใน​หมู่​ของ​เหล่า​อัจฉริยะ​คือ​อะไร

​จะ​มี​ผู้หญิง​ที่​เก่งกาจ​เช่นนี้​ได้​อย่างไร​กัน​ ​และ​น่าแปลกใจ​ ​ที่​ผู้หญิง​คน​นี้​เป็น​คนที​่​ถูก​พวกเขา​มองว่า​เป็น​ขยะ​ไร้ค่า​อีกด้วย​!

​“​ชิ้น​ที่​เจ็ด​ ​นาง​กำลัง​ทำ​อาวุธ​ชิ้น​ที่​เจ็ด​แล้ว​”​”

​ทั่วทั้ง​เวที​แห่ง​นี้​กลายเป็น​โลก​แห่ง​ความ​เงียบสงัด​อย่าง​ไม่​อาจ​บรรยาย​ได้​ ​หลังจากที่​เฮ่อ​เหลียน​เวย​เวย​แสดง​อาวุธ​ชิ้น​ที่หก​เสร็จ​ ​ทุกคน​ก็​อด​ที่จะ​กลั้นหายใจ​ไม่ได้

​อาจารย์​ไป๋​เอง​ก็​ไม่​สามารถ​นั่ง​นิ่ง​ได้​อีกต่อไป​ ​ทันใดนั้น​ ​เขา​ก็​ลุกขึ้น​ยืน​จาก​เก้าอี้​ไม้​ของ​ตนเอง​ ​และ​หันไป​มอง​ก้านธูป​ ​มุม​ปากของ​เขา​ค่อยๆ​ ​ปรากฏ​รอยยิ้ม​ขึ้น​ ​“​นาง​ไม่​สามารถ​เอาชนะ​ได้​หรอก​ ​เพราะ​ตอนนี้​ ​ไม่มีเวลา​…​”

​อาจารย์​ไป๋​ยัง​พูด​ไม่ทัน​จบ​ ​เขา​ก็ได้​ยิน​เสียง​กระแทก​ดัง​ ​‘​ปัง​!​’​ ​อย่างชัดเจน​ ​มัน​ดัง​ไป​ทั่ว​เวที​การแข่งขัน​ ​ราวกับว่า​มัน​ส่งเสียง​สะท้อน​ก้อง​อยู่​เป็นเวลา​นาน​โดยที่​เสียง​นั้น​ไม่ได้​แผ่วเบา​ลง​เลย

—————

[1] ​ถาน​ฉิน​ ​เป็น​เครื่องดนตรี​ประเภท​พิณ​โบราณ​ ​ลักษณะ​คล้ายๆ​ ​กู่​เจิง