บทที่ 262 หนี
บทที่ 262 หนี
หลังจากคิดแล้ว คงมีเพียงบรรพบุรุษเงือกเพียงคนเดียวที่ช่วยได้ สำหรับโป๋อีกู่ เขาไม่ได้คิดถึงเลย เขาไม่คิดว่าพลังของโป๋อีกู่จะเหนือกว่าเม่ยชิง
ดังนั้นเขาเลยไม่ไปให้โป๋อีกู่ช่วย แถมถ้ากลับไปมันจะเป็นการนำภัยพิบัติไปสู่บ้านของเขา
ราชาฉลามพิษว่ายไปอย่างรวดเร็วในทะเล ด้วยความเร็วระดับนี้ เกรงว่าแม้แต่เรือที่เร็วที่สุดก็ไม่อาจเทียบกับราชาฉลามพิษตัวนี้ติด นอกจากนี้ราชาฉลามพิษยังซ่อนตัวระหว่างว่ายอีกด้วย หลังจากที่ว่ายน้ำอยู่ในใจกลางมหาสมุทร มันก็ดำลงไปในน้ำโดยตรง ทำให้ฉู่เหินและคนอื่น ๆ ตัวแข็งทื่อ หายใจไม่ออกคล้ายจะจมน้ำ
ด้วยวิธีนี้หลบหนีแบบนี้ การไล่ล่าของสองคนที่อยู่ด้านหลังก็คงมีอุปสรรคใหญ่แน่ ๆ แต่ว่าโชคดีของเม่ยชิงที่เธอจดจำกลิ่นอายของฉู่เหินได้ไม่ลืมเลือน แม้แต่ในมหาสมุทรอันกว้างใหญ่นี้เธอก็ยังมองเห็นร่องรอยของฉู่เหินได้อย่างชัดเจน ด้วยวิธีนี้เม่ยชิงเลยไม่ต้องกลัวว่าจะหาไม่เจอ
หลายชั่วโมงผ่านไป หลังจากการไล่ล่าอย่างเอาเป็นเอาตายราชาฉลามพิษก็หมดแรง พวกคุณต้องรู้ว่ามันไกลมากจากทะเลตงไห่ไปถึงทะเลโบ๋ไห่ เกือบจะเป็นไปไม่ได้ที่จะมาถึงได้ในเวลาอันสั้น!
ฉู่เหินที่เห็นว่าพลังดวงดาวในร่างกายของราชาฉลามพิษนั้นเหลือน้อยเต็มที หลังจากลังเลเล็กน้อยเขาก็ถ่ายเทพลังดวงดาวให้กับของราชาฉลามพิษ เพื่อดูว่าแบบนี้มีประโยชน์หรือไม่
พอได้รับพลังดวงดาวเข้าร่างกาย ราชาฉลามพิษก็เหมือนกับได้รับการกระตุ้น ซึ่งมันดีมาก ความเหนื่อยล้าถูกพัดหายไป ทั้งร่างก็กระปรี้กระเปร่า ทำให้ความเร็วในการว่ายน้ำเพิ่มขึ้นไม่น้อย
เม่ยชิงที่กำลังไล่ล่าอยู่อดตวาดด่าแม่ของฉู่เหินไม่ได้ เธอไม่เข้าใจจริง ๆ ว่าทำไมอีกฝ่ายถึงได้หนีอย่างรวดเร็วในทะเลแบบนี้?
นกกระเรียนกระดาษเองก็ต้องใช้พลังดวงดาวเพื่อเติมพลังงานเช่นกัน
มันจะได้บินต่อไปได้ แต่การบินระยะยาวทำให้พลังดวงดาวในร่างกายศิษย์พี่ของเม่ยชิงหายไปเป็นจำนวนมาก โชคดีที่เขาแข็งแกร่งมากไม่งั้นเขาคงล้มลงไปแล้ว
ฉู่เหินเดินทางอย่างรวดเร็ว แต่ก็แอบกังวลใจด้วยไปด้วยไม่ได้ เขารู้ว่าวิธีนี้สามารถเพิ่มความเร็วของราชาฉลามพิษและลดความเหนื่อยล้าของมันได้ แต่นี่ไม่ใช่วิธีแก้ปัญหาระยะยาว ด้วยอัตรานี้อีกไม่กี่ชั่วโมงจะถึงขีดจำกัดของมัน
และฉู่เหินรู้ดีว่าถ้าเขาหยุดพัก อีกฝ่ายไล่ตามเขาทันแน่ เมื่อถึงเวลานั้นพวกเขาก็จะไร้ทางหนีอย่างแท้จริง
ส่วนการใช้ไข่มุกทะเลเพื่อพาทุกคนไปที่ก้นบึ้งของมหาสมุทรเพื่อหลบหนี ฉู่เหินไม่ได้คิดถึงมันเลย ถึงแม้ว่าพวกเขาจะสามารถหนีเข้าไปในส่วนลึกของมหาสมุทรได้แล้วพวกนั้นจะตามมาไม่ได้งั้นเหรอ? ถ้าเขาขังตัวเองและคนอื่น ๆ ไว้ที่ก้นบึ้งของมหาสมุทร ถึงตอนนั้นเขาจะหนีก็ไม่ได้ต่อให้เขาอยากจะหนีก็ตาม เพราะแบบนั้นทำให้เขาไม่มีทางเลือกอื่นอีกแล้ว
“*@¥&&&*” ฉู่เหินหงุดหงิดกับถ้อยคำแปลก ๆ สองสามคำที่ผ่านเข้ามาในหูของเขา เขาจ้องมองไปยังทิศทางของเสียง แล้วเขาก็เห็นทูน่าตัวใหญ่กำลังว่ายน้ำมาแต่ไกล
หลังจากเห็นปลาทูน่าตัวนี้แล้วฉู่เหินดีใจมาก เพราะเขาจำได้ว่าปลาทูน่านี้เป็นปลาทูน่าตัวแรกที่พาเขากลับจากมหาสมุทรเป็นครั้งแรก ถึงแม้จะไม่รู้ว่าทำไมอีกฝ่ายถึงปรากฎตัวที่นี่ แต่ฉู่เหินก็รู้ว่าหลังจากที่ได้กับมันเขารับประกันได้เลยทุกคนปลอดภัยแล้ว
ฉู่เหินบอกให้ราชาฉลามพิษว่ายไปหาปลาทูน่า หลังจากอธิบายเรื่องราวทั้งหมดแล้วปลาทูน่าก็ให้ทุกคนกระโดดขึ้นไปบนหลังของมัน ต่อมาฉู่เหินก็โบกมือและรับราชาฉลามพิษกลับเข้ามาในแหวนมิติ
การใช้งานราชาฉลามพิษเป็นเวลาหลายชั่วโมงทำให้มันหมดแรง ตอนนี้เขาให้มันเข้าไปในแหวนมิติเพื่อพักผ่อน การพักผ่อนตามธรรมชาติเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด ระหว่างทางถ้าปลาทูน่าเหนื่อยเกินไป ราชาฉลามพิษก็สามารถแทนที่มันได้
แม้ปลาทูน่าจะไม่เก่งเท่ากับราชาฉลามพิษ แต่ในมหาสมุทรความเร็วของมันนั้นเร็วกว่าราชาฉลามพิษมาก ด้วยวิธีนี้ทำให้ทั้งสองที่ตามพวกเขามางานเข้าอย่างแรง
แต่เดิมศิษย์พี่คิดว่ามันเป็นการไล่ล่าที่ใช้เวลาไม่นาน แต่เขาไม่เคยคิดเลยว่าเขาไล่ล่ามาเกือบ 3 วันแล้ว กระทั้งเม่ยชิงเองก็ยอมแพ้ไปแล้วแต่ศิษย์พี่ยืนยันว่าจะจับพวกมันให้ได้ เพื่อแก้แค้นให้กับเม่ยชิง
แน่นอน เธอรู้ดีว่าเหตุผลที่ศิษย์พี่ไล่ล่าฉู่เหินเป็นเพราะศิษย์พี่คนนี้คิดว่า
ฉู่เหินมีขุมทรัพย์พิเศษกับตัว มิฉะนั้นแล้วด้วยพลังยุทธ์อันน้อยนิดแบบนั้น จะสามารถหนีไปในทะเลด้วยความเร็วขนาดนี้ได้ยังไงกัน
หลังจากการไล่ล่า 3 วัน ทะเลโบ๋ไห่ก็อยู่ห่างออกไปไม่ไกล ในเวลา 3 วันนี้เขาขี่ปลาทูน่าสลับกับราชาฉลามพิษ ไม่รู้ว่าพวกมันผลัดกันกี่ครั้งแต่ถ้าเลือกขี่ตัวใดตัวหนึ่ง อาจทำให้พวกมันเหนื่อยตายได้
หลังจากเห็นทะเลโบ๋ไห่อยู่ข้างหน้า ทุกคนก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก อีกแค่ไม่กี่ชั่วโมงก็จะสามารถไปที่บ้านของพวกนางเงือกได้แล้ว อาศัยพลังของบรรพบุรุษเงือก ยังไงก็ปกป้องพวกเขาได้แน่นอน !
บรรพบุรุษเงือกเองก็ได้สัมผัสแล้ว เธอก็ออกจากวังแล้วพุ่งตรงไปยังทะเล มองไปที่พวกเขาอย่างเงียบ ๆ !
ฉู่เหินและคณะเฝ้าดูบรรพบุรุษเงือกที่ลอยอยู่ในน้ำจากระยะไกล ราชาฉลามพิษจึงรีบว่ายเข้าไปหาอย่างรวดเร็ว เสี่ยวชิง,เสี่ยวฟู๋ และโจวหู่ รู้สึกตกใจจริง ๆ พวกเขาไม่คิดเลยว่าฉู่เหินจะสามารถควบคุมสัตว์ร้ายแห่งท้องทะเลตัวนี้ได้ขนาดนี้
หากจะบอกว่าตอนแรกคือความตกใจ งั้นตอนนี้ก็คืออาการตกตะลึงแล้ว เพราะสิ่งที่พวกเขาเห็นคือหญิงชราที่มีหน้าเหี่ยวย่นว่ายอยู่บนทะเล
พวกเขาตกอยู่ในสภาพเหลือเชื่อทีละคน! โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อบรรพบุรุษเงือกกำลังว่ายน้ำมาจนเห็นหางปลายาว เป็นภาพที่ทำให้พวกเขาตกตะลึงจนพูดไม่ออก
นางเงือก เกือบจะในเวลาเดียวกันที่พวกเขาแอบพูดคำนี้ขึ้นมาพร้อมกัน นางเงือกที่มีอยู่แค่ในตำนาน ตอนนี้อยู่ต่อหน้าทุกคน? แต่…สิ่งที่อยู่ตรงหน้าพวกเขานั้น ยิ่งตอกย้ำว่ามันเป็นความจริง นี่พวกเขาอยู่ในโลกแห่งเทพนิยายหรือยังไงกัน
“นี่คือบรรพบุรุษของตระกูลนางเงือก ถ้าเจอพวกเขาแล้วก็อย่าเสียมารยาทล่ะ” เมื่อเห็นอาการตกใจของทุกคน ฉู่เหินก็เน้นย้ำเรื่องมารยาทออกมา
เสี่ยวชิงและคนอื่น ๆ พยักหน้าโดยไม่รู้ตัว ตอนนี้พวกเขารู้สึกว่าฉู่เหินนั้นลึกลับมากขึ้นเรื่อย ๆ ! อย่างไรก็ตามจนถึงขณะนี้เสี่ยวชิงรู้สึกว่าอยากจะระบายความในใจออกมามากมาย เธอคิดว่าฉู่เหินมีความพิเศษทุกครั้งที่เขาออกทะเล มันคล้ายกับว่าเขาคือผู้กุมอำนาจแห่งท้องทะเลยังไงอย่างงั้น
สำหรับความเข้าใจผิดนี้ ฉู่เหินไม่ได้อธิบายมากนัก ยังไงซะยิ่งมีคนที่รู้จักระบบเชื่อมโลกาน้อยเท่าไหร่ ก็ยิ่งดีมากขึ้นเท่านั้น ไม่งั้นแล้วเขาจะต้องมีปัญหาในอนาคตแน่ ๆ เขาเลยพูดมั่ว ๆ ไปให้เสี่ยวชิงใจเย็นลง
“ฉู่เหินคารวะท่านบรรพบุรุษ” หลังจากนั้นไม่นานเขาก็มาถึงบรรพบุรุษเงือก ฉู่เหินผสานกำปั้นขึ้นและทำความเคารพบรรพบุรุษนางเงือก!
“เกิดอะไรขึ้นเหรอ? แล้วทำไมทุกคนดูตื่นตระหนกกันจังเลย?” บรรพบุรุษนางเงือกถามด้วยความประหลาดใจ
หลังจากได้ยินแบบนั้น ฉู่เหินก็เล่าทุกเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อครู่ พวกนางเงือกเองก็พยักหน้าและไม่พูดอะไร ในเวลาเดียวกันพวกเขาส่งสัญญาณว่าพวกฉู่เหินควรยืนอยู่ข้างหลังพวกเขา แล้วจากนั้นทุกคนก็เริ่มรออย่างสงบ
ไม่ถึงครึ่งชั่วโมง นกกระเรียนปรากฏบนชายฝั่งและบินมาหาพวกเขา บรรพบุรุษเงือกมองดูนกกระเรียนที่กำลังจะมาในอากาศด้วยสายตาที่เรียบเฉย มีการทำข้อตกลงระหว่างมหาสมุทรกับแผ่นดิน ไม่ยุ่งเกี่ยวกันแต่เนื่องจากมีคนมาหาพวกเขาในวันนี้ บรรพบุรุษเงือกก็จะไม่ให้พวกเขาต้องผิดหวัง !