บทที่ 86: น่า- เกลียด- น่าเกลียด!
หลังจากที่หวังเต็งยืนขึ้น ออร่าที่น่าสะพรึงกลัวก็พุ่งออกมาจากร่างกายของเขาและกลืนกินนักเรียนชายทั้งสาม
บู้มมม!
การปรากฏตัวของเขารุนแรงราวกับคลื่นคํารามในทะเล
การแสดงออกของทั้งสามคนเปลี่ยนไปในทันที พวกเขาก้มลงและใบหน้าของพวกเขากลายเป็นซีดขาวราวกับกระดาษ
“ ทําไมเขาถึงแข็งแกร่งขนาดนี้?”
พวกเขารู้สึกตกตะลึง ความประหลาดใจและความไม่เชื่อปรากฏเต็มใบหน้าของพวกเขา
พวกเขาคิดว่านี่คือออร่าของศิษย์นักสู้ชั้นยอดที่รุนแรง แต่พวกเขาไม่รู้ว่าหวังเต็งนั้นได้ปลดปล่อยพลังของนักสู้ออกมาด้วยความโกรธของเขาแล้ว
แทป แทป แทป
หวังเต็งเดินเข้าไปหาพวกเขาทีละก้าว ทุกย่างก้าวที่เขาเดินไป ออร่าของเขาก็จะยิ่งเพิ่มขึ้นทีละเล็กทีละน้อย ความกดดันที่เกิดขึ้นกับทั้งสามคนเองเพิ่มขึ้นตาม
หวังเต็งหยุดอยู่หน้าหยานเพิ่ง
“ แกบอกว่าแกต้องการที่จะดวลกับฉัน?”
“ ใครเป็นคนเอาความมั่นใจควายๆนั่นมาให้กับแกกัน?”
“ ฉันเคยตกลงที่จะดวลกับแกไหม?”
ชุดคําถามที่วนกลับไปของหวังเต็งทําให้หยานเผิงรู้สึกโกรธจัด และมันก็ทําให้ใบหน้าของเขาเปลี่ยนเป็นสีแดงเหมือนลูกพีชสุก
“ ไม่ ฉันไม่เคยพูดกับแกด้วยซ้ํา ฉันล่ะอยากจะรู้จริงๆว่าใครมันเป็นคนสอนแกให้แสด งละครปาหี่เช่นนี้”
คําถามสุดท้ายนี้ทําให้หยานเพิ่งโมโหจนแทบจะอาเจียนเป็นเลือด
ตั้งแต่เขายังเป็นเด็ก เขาก็มักจะได้รับคําชมจากผู้อื่นอยู่เสมอ เขาไม่เคยถูกใครดูหมิ่นอย่างโจ่งแจ้งขนาดนี้มาก่อน
หวังเต็งเพิกเฉยต่อเขา จากนั้นเขาก็เดินไปตรงหน้าตงเฟย
“ ส่วนแก แกบอกว่าแกผิดหวังในตัวฉัน?”
“ ความผิดหวังของแกมันเกี่ยวข้องกับฉันยังไง? แกจะมาบอกฉันเพื่ออะไร?”
“ นอกจากนี้ แกเองก็น่าเกลียดมาก คุณกล้าดียังไงถึงมาขอวีแชทจากผู้หญิง? แกเคยส่องกระจกบ้างไหม? ไม่รู้หรอว่าหน้าตาตัวเองเป็นยังไง?”
“ แกคิดว่าแกหล่อเหมือนฉันหรอ? แกรู้ไหมว่ารูปลักษณ์มันสามารถสร้างรายได้ให้แกได้นะ?!”
“ ตอบฉันมาสิ ไอ้น่า- เกลียด- น่าเกลียด!”
หวังเต็งรู้สึกโกรธมากขึ้นในขณะที่เขาพูด ไอ้พวกนี้กล้าดียังไงมาเล่นลิ้นกับหลินซัวหาน นี่เป็นสิ่งที่เขายอมไม่ได้
นักเรียนที่อยู่รอบตัวพวกเขาวิ่งหนีไปไกลเมื่อเห็นท่าทีเกรี้ยวกราดของเขา อย่างไรก็ตาม เมื่อพวกเได้ยินประโยคนี้ พวกเขาก็หัวเราะออกมา
ในทางกลับกัน ใบหน้าของตงเฟยก็เปลี่ยนไปเป็นสีเขียวด้วยความโกรธ ปานบนใบหน้าของเขาคือความเจ็บปวดที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของเขา
ปกติแล้วเนื่องจากความสามารถของเขา เพื่อนร่วมชั้นและเพื่อนคนอื่นๆของเขาจึงไม่กล้าพูดอะไร อย่างไรก็ตาม พวกเขาก็มักจะนินทากันลับหลังเขา
ตอนนี้เขาถูกทําให้ขายหน้าต่อหน้าทุกคน และปอดของเขาก็เกือบจะระเบิดออกด้วยความโกรธ เขาหอบอย่างหนัก
หากเขาไม่ได้ถูกระงับโดยออร่าของหวังเต็งจนเขาไม่สามารถเคลื่อนไหวได้ เขาก็คงจะกระโจนใส่หวังเต็งและเข้าสู้กับเขาในทันทีไปแล้ว
หวังเต็งเดินไปหาโจวหวู่เป็นรายต่อไป
การแสดงออกของโจวหวู่เปลี่ยนไป เขารู้สึกเสียใจขึ้นมาในทันที ทําไมเขาถึงได้พูดแบบนั้นออกไปต่อหน้าหวังเต็งกันนะ?
อย่างไรก็ตาม เขาก็ไม่ได้คาดคิดมาก่อนว่าศิษย์ชั้นยอดจะแข็งแกร่งขนาดนี้
ความแตกต่างระหว่างศิษย์นักสู้ชั้นยอดกับศิษย์นักสู้ขั้นสูงนั้นมันใหญ่มากขนาดนี้เลยอย่างงั้นหรอ?
“ โจวหวู่ แกมีความชอบธรรมแรงกล้า”
“ หวังเต็ง มันต้องมีการเข้าใจผิดระหว่างเราแน่นอน เรามาคุยกันดีๆเถอะ” โจวหวู่พูดด้วยความยากลําบาก
“ แกพูดถูก” ขณะที่หวังเต็งมองมาที่เขา รอยยิ้มจางๆก็ปรากฏขึ้นที่มุมปากของหวังเต็ง จากนั้นสีหน้าของเขาก็เย็นลง และพูดต่อ “ แต่ฉันไม่อยากจะพูดคุยกันดีๆน่ะสิ!”
ทันทีที่เขายกขาขึ้นและกวาดออกไปตรงหน้าเขา ร่างของโจวหวู่ก็กระเด็นออกไปเป็นเส้นตรงโจวหวู่ลอยอยู่ในอากาศประมาณหกเมตรก่อนที่จะกระแทกลงกับพื้นอย่างแรง
ผู้เข้าสอบที่ด้านข้างหลบด้วยความประหลาดใจ
“ แค่กๆ!”
เลือดหยดออกมาจากมุมปากของโจวหวู่ เขาพยายามดิ้นรนและตระหนักได้ว่าเขาไม่สามารถลุกขึ้นได้
หวังเต็งมีพลังมากเกินไป
หวังเต็งมีพลังมากขนาดนั้นได้ยังไงกัน?
หัวใจของเขาเต็มไปด้วยความสงสัย ความแข็งแกร่งของหวังเต็งนั้นเหนือจินตนาการของเขามาก ในฐานะที่เป็นศิษย์นักสู้ขั้นสูง เขาก็ไม่สามารถเทียบกับหวังเต็งได้เลย
หวังเต็งละสายตาจากโจวหรู่และหันไปมองฝูงชน เขาเห็นร่างหนึ่งแอบอยู่ข้างหลัง
“ คนๆนั้นน่ะ ออกมา ใช่แล้ว ฉันกําลังพูดถึงแกนั่นแหละ หยุดซ่อนได้แล้ว ฉันเห็นแกนะ เมื่อแกหัวเราะดังมากใช่มั้ย?” ทําไมตอนนี้คุณถึงหลบเป็นหนูซะแล้วล่ะ?”
ผู้เข้าสอบรอบบริเวณที่หวังเต็งชี้ขยับตัวออกไป พวกเขากลัวที่จะมีส่วนเกี่ยวข้อง ผู้ เข้าสอบคนนั้นไม่มีที่หลบซ่อน ดังนั้นเขาจึงทําได้เพียงแค่เดินออกไปข้างหน้าเท่านั้น
“ หวังเต็ง…”
ปัง!
ขณะที่เขากําลังจะพูด หวังเต็งก็ตบหน้าเขา
“ ไสหัวออกไป!” หวังเต็งจ้องมองไปที่เขาอย่างเย็นชา นี่คือผู้เข้าสอบที่เริ่มเรื่องนี้ ถ้าไม่ใช่ เพราะเขา ทุกอย่างก็จะไม่เกิดขึ้น
ชายหนุ่มปิดหน้าที่แดงก่ําเป็นรอยมือของหวังเต็งด เขาไม่กล้าพูดอะไรและวิ่งหนีไปในฝูงชนขณะมองไปที่พื้น มันไม่มีใครรู้ว่าเขาไปซ่อนที่มุมไหน
หวังเต็งมองไปรอบๆตัวเขา ในตอนนี้มันก็ไม่มีใครกล้าแลกเปลี่ยนสายตากับเขา
ตลอดการเดินทางที่เหลือ ศิษย์นักสู้ขั้นสูงทั้งสามยังคงนิ่งเงียบ พวกเขาได้เห็นความแตกต่าง ระหว่างพวกเขากับหวังเต็งแล้ว ดังนั้นแม้ว่าพวกเขาจะถูกทําให้ขายหน้า แต่พวกเขาก็ไม่กล้าที่จะมีปัญหากับเขา
พวกเขาทําได้เพียงแค่ซ่อนความเกลียดชังที่มีต่อเขาไว้ลึกๆในใจ และพวกเขาจะแก้แค้นแน่ถ้ามีโอกาสในอนาคต
ผู้เข้าสอบคนอื่นๆมองไปที่หวังเต็งจากระยะไกลขณะที่พวกเขาพูดคุยกันด้วยเสียงต่ํา มันมีความชื่นชมและความกลัวอยู่ในนั้น อย่างไรก็ตาม พวกเขาก็ยังคงเต็มไปด้วยความเคารพต่อชายหนุ่มคนนี้
ศิษย์นักสู้ชั้นสูงทั้งสามคนนั้นมักจะแสดงท่าทีเย่อหยิ่งต่อหน้าพวกเขาอยู่เสมอ นั่นจึงทําให้พวกเขาหลายคนรู้สึกขุ่นเคืองในตัวทั้งสาม
อย่างไรก็ตาม ตอนนี้หวังเต็งก็ได้ปราบปรามทั้งสามคนอย่างอยู่หมัดแล้ว
เยี่ยมมาก!
มันมีเพียงคําเดียวที่พวกเขาสามารถอธิบายหวังเต็งได้ น่าประทับใจ!
เรือเหาะกําลังบินตรงไปยังตงไห่ การเดินทางเป็นไปอย่างสงบสุข มันไม่มีความวุ่นวายเกิดขึ้ อีก
ไม่นานหลังจากนั้น เรือเหาะพลังฟอร์สก็ค่อยๆลอยลงมาเหนือเขตทหาร มันลงจอดที่ลานกว้างใหญ่
ผู้เข้าสอบได้ลงจากเรือเหาะพลังฟอร์ส หลิวเหวินซียืนอยู่ต่อหน้าทุกคนและเปิดปากของเขา
“ ผลการสอบของพวกคุณจะออกในสองวัน คุณสามารถใช้หมายเลขประจําตัวผู้เข้าสอบ เพื่อค้นหาผลลัพธ์ของคุณได้บนอินเทอร์เน็ตได้”
“ มันขึ้นอยู่กับคุณว่าคุณต้องการสมัครเข้ามหาวิทยาลัยใด คุณสามารถตรวจสอบข้อมูลอ้างอิงจากปีก่อนๆได้ และฉันก็หวังว่าทุกคนจะสามารถเข้ามหาวิทยาลัยที่คุณต้องการได้”
“ เอาล่ะ ขึ้นรถได้เลย”
ผู้เข้าสอบทยอยขึ้นรถบัสไป หลิวเหวินซีเดินมาหาหวังเต็งและพาเขาไปที่มุมที่เงียบสงบ
หวังเต็งยิ้มเมื่อเห็นผู้อํานวยการเหอ
“ ผู้อํานวยการเหอ ฉันนึกว่าคุณจะลืมข้อตกลงของเราไปแล้ว!”
“ เจ้าหนู เธอคิดว่าฉันเป็นใครกัน?” ผู้อํานวยการเหอจ้องไปที่หวังเต็ง จากนั้นเขาก็พูดด้วยความเคารพ “ เมื่อพูดถึงเรื่องนี้ ฉันก็จะต้องขอขอบคุณเธอจริงๆ ถ้าไม่ใช่เพราะเธอ ตอนนี้ฉันก็คงจะต้องทนทุกข์ทรมานอย่างมากแน่นอน”
“ เอานี่ไป เธอสมควรจะได้รับมัน”
เขาส่งกล่องที่บรรจุกระดูกดาราให้หวังเต็ง
หวังเต็งเปิดมันขึ้นมาโดยตรงและครวจดู เขาเก็บมันไปหลังจากยืนยันว่ามันไม่มีอะไรผิดปกติ
“ เธอไม่เชื่อใจฉันหรอ” ผู้อํานวยการเหอถามอย่างช่วยไม่ได้
“ มันจะดีกว่าที่ฉันจะทําให้แน่ใจ อย่างน้อยก็เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาในอนาคต” หวังเต็งยิ้มอย่างไม่ใส่ใจ
“ มีเหตุผล” ผู้อํานวยการเหอพยักหน้า เขาพอใจกับการแสดงออกของหวังเต็ง
“ ผู้อํานวยการเหอ ถ้าไม่มีอะไรแล้วงั้นฉันก็ขอตัวก่อนนะ นักเรียนคนอื่นๆคงจะกําลังรอฉันอยู่” หวังเต็งกล่าว
“ ไปเถอะ” ผู้อํานวยการเหอโบกมือ
หลังจากที่หวังเต็งแยกทางกับผู้อํานวยการเหอ เขาก็ขึ้นรถบัสไปพร้อมกับผู้เข้าสอบที่เหลือ ผู้เข้าสอบทุกคนกระตือรือร้นที่จะกลับบ้าน ตามคําสั่งของหลิวเหวินซี คารวานรถบัสก็มุ่งหน้าไปยังเมือง
พวกเขากําลังกลับบ้าน