“จะ…เจ้า…เจ้าแข็งแกร่งขนาดนี้ได้ยังไง?”
ฟู่เทียนฮ่าว มองไปที่ ลู่เฟิง ที่กำลังเหยียบหน้าอกของเขาด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความหวาดกลัว จากข้อมูลที่เขาได้รับมา จักรพรรดิแห่งอาณาจักรหนานหยาน เป็นเพียงนักรบขั้นสร้างรากฐานพลังหยวนธรรมดาทั่วไป จู่ ๆ ก็กลายมาเป็นนักรบระดับ 5 ขั้นเชื่อมจิตวิญญาณ ? แล้วนี่ยังมีความแข็งแกร่งที่มากกว่านั้นอีก?
“บอกข้อมูลกับคนตายไปแล้วจะได้ประโยชน์อะไร?”
ลู่เฟิง มองไปที่ ฟู่เทียนฮ่าว ด้วยสายตาเหยียดหยาม”อันที่จริงเจ้ามีเวลามาห่วงเรื่องนี้ด้วยหรือไง?”
ฟู่เทียนฮ่าว สัมผัสได้ถึงสายตาที่เย็นชาของ ลู่เฟิง เมื่อกี้เขามองอีกฝ่ายด้วยสายตาดูถูก มาตอนนี้ ตำแหน่งของทั้งสองได้เปลี่ยนไปแล้ว
คนที่ถูกดูหมิ่นได้กลายเป็นตัวเขาเอง ลู่เฟิง กำลังเหยียบย่ำความภาคภูมิใจในฐานะนักรบระดับ 4 ขั้นปรมาจารย์อยู่!
“ลู่เฟิง ถ้าเจ้ากล้าฆ่าข้า นิกายประตูฉางเหอ จะไม่ปล่อยเจ้าไป ที่นั่นมีพวกเผ่าคนเถื่อนของข้าอยู่เยอะพวกเขาจะตามล่าเจ้า!”
ตุบ!
ลู่เฟิง กระทืบหน้าอกของ ฟู่เทียนฮ่าว จนเป็นรูขนาดใหญ่
“ข้าละเกลียดคนที่มันกล้าข่มขู่ข้ามากที่สุด ถ้าพวกมันกล้าก็ให้พวกมันเข้ามาข้าจะจัดการกับพวกมันเอง!”
ลู่เฟิง มองไปที่ ฟู่เทียนฮ่าว ที่ถูกเหยียบย่ำจนตายด้วยความดูถูก
ทาสดาบทั้งหก ได้มองไปที่ฉากนี้ด้วยสีหน้าน่าทึ่ง…ตั้งแต่เมื่อไหร่กันที่ฝ่าบาททรงพลังขนาดนี้?
เขา…เขาเป็นเพียงนักรบระดับ 3 ขั้นเชื่อมจิตวิญญาณไม่ใช่หรือ ? ทำไมถึงฆ่า ฟู่เทียนฮ่าว ที่อยู่ในระดับ 4 ขั้นปรมาจารย์ได้?
นี่มัน…เกิดอะไรขึ้น?
ทาสดาบทั้งหกต่างพากันคิดแต่ก็ไม่อาจทำความเข้าใจได้!
แต่ในไม่ช้าสายตาแห่งความสงสัยกลับกลายเป็นสายตาแห่งความเคารพในตัวของ ลู่เฟิง
ฝ่าบาทของพวกเขาสุดยอดมากจริง ๆ
“ติ๊ง ขอแสดงความยินดีกับโฮสต์ที่สังหาร นักรบระดับ 4 ขั้นปรมาจารย์ ได้รับค่าประสบการณ์ 340,000 แต้ม”
“ติ๊ง ขอแสดงความยินดีกับโฮสต์เพิ่มระดับพลังย่อย 1 ระดับสำเร็จ ระดับในปัจจุบันคือ ระดับ 8 ขั้นเชื่อมจิตวิญญาณ!”
“ติ๊ง ขอแสดงความยินดีกับโฮสต์เนื่องจากการเพิ่มระดับพลังได้รับผลพิเศษจำกัดผลเสียทั้งหมดในร่างกาย”
“ติ๊ง ขอแสดงความยินดีกับโฮสต์ท่านสามารถกำจัดผลข้างเคียงของยันต์เสริมพลังได้สำเร็จ!”
ลู่เฟิง ผงะ และดีใจอย่างมาก ทันทีที่เขายกระดับพลังขึ้นเขาไม่คิดเลยว่า ผลเสียทั้งหมดในร่างกายจะหายไป แม้แต่ผลข้างเคียงของยันต์เสริมพลังที่มีอิทธิพลต่อเขาก็หายไปด้วยเช่นเดียวกัน
ตอนนี้เขารู้สึกดีอย่างมาก!
มันเป็นความรู้สึกที่สุดยอดมากจริง ๆ
น่าเสียดาย ที่เขาต้องการ ใช้ยันต์เสริมพลังระดับศักดิ์สิทธิ์ในการฆ่า ฟู่เทียนฮ่าว
แต่เมื่อมาลองนึกดูว่า ยันต์เสริมพลัง ได้ช่วยชีวิตของเขากับทาสดาบทั้งหก เขายังคงมีระบบจักรพรรดิอยู่ ในอนาคตเขามีโอกาสที่จะเรียกยันต์เสริมพลังระดับเทพออกมาได้
“ติ๊ง ขอแสดงความยินดีกับโฮสต์ประสบความสำเร็จในการทำภารกิจลับที่ถูกซ่อนเอาไว้สำเร็จ สังหารคนจากคฤหาสน์ราชาสัตว์ และ คนจากนิกายประตูฉางเหอ”
“ติ๊ง ขอแสดงความยินดีกับโฮสต์ได้รับรางวัลภารกิจที่ถูกซ่อน : หีบสมบัติลึกลับ”
“หีบสมบัติลึกลับ : ต้องการใช้สิทธิ์การอัญเชิญเพื่อเปิด หลังจากเปิดแล้วมีโอกาสที่จะได้รับ โอกาสอัญเชิญ และ อื่น ๆ อีกมากมาย”
เมื่อ ลู่เฟิง ได้ยินการแจ้งเตือนของระบบ เขาก็ผงะเล็กน้อยมีภารกิจที่ถูกซ่อนไว้ด้วย?
เขาจำได้ว่าตอนที่เขาอยู่ที่เมือง เสี่ยวหลิงตู่ ครั้งสุดท้ายเขาทำภารกิจที่ซ่อนไว้ได้สำเร็จและได้รับการ์ดอัญเชิญโลกตำนานแห่งฉิน และ เรียกทาสดาบทั้งหกออกมาได้
ตอนนี้มันเป็นหีบสมบัติลึกลับอีกชิ้นหนึ่งที่ได้รับมาจากภารกิจที่ซ่อนเอาไว้ ข้างในน่าจะมีของดีอย่างแน่นอน
อย่างไรก็ตามตอนนี้”ระบบ เกี่ยวกับภารกิจที่ซ่อนเอาไว้ เป็นไปได้หรือไม่ว่ามันจะมาพร้อมกับภารกิจหลักเสมอ?”
“ติ๊ง ระบบไม่สามารถตอบคำถามเกี่ยวกับภารกิจที่ซ่อนเอาไว้ได้ ทุกอย่างขึ้นอยู่กับโชคของโฮสต์ บางที โฮสต์อาจจะสามารถทำสำเร็จได้โดยไม่รู้ตัวและได้รับรางวัล”
“คำแนะนำที่ 2 : ภารกิจที่ซ่อนอยู่นั้นยากกว่าภารกิจธรรมดา ดังนั้นมันเป็นไปไม่ได้ที่โฮสต์จะกำหนดการเรียกภารกิจที่ซ่อนอยู่ออกมาได้
“…”
เมื่อได้ยินคำตอบนั้น ลู่เฟิง รู้สึกพูดไม่ออก แต่มันก็ถูก รางวัลจากภารกิจที่ซ่อนอยู่นั้นดีมาก เช่นเดียวกับครั้งที่แล้ว การ์ดอัญเชิญโลกตำนานแห่งฉิน และ เรียก ทาสดาบทั้งหกออกมา
คราวนี้เขาไม่รู้ว่ามีอะไรอยู่ในหีบสมบัติลึกลับ ? แต่ข้างในจะต้องเป็นของดีแน่นอน
“แค่ก ๆ !”
คราวนี้ ลู่เฟิง ได้ยินเสียงไอที่ดูอ่อนเเอออกมาเขาได้ดึงสติกลับมาจากหีบสมบัติลึกลับทันที
เขามองไปที่ เฉินกัง และ พูดขึ้น”ข้าไม่ได้ให้โอสถพวกเจ้าไปงั้นเหรอ ทำไมพวกเจ้าถึงไม่กินมันเพื่อรักษาอาการบาดเจ็บ?”
เฉินกัง ได้มองไปที่ พวกของเขาด้วยสีหน้าเขินอายเล็กน้อย พวกเขารู้สึกตกใจมากกับความสามารถของ ลู่เฟิง ที่ฆ่า ฟู่เทียนฮ่าว ได้ จนพวกเขา ลืมโอสถรักษาที่ ลู่เฟิง ให้มา
“พวกเจ้าทั้งหกรีบรักษาอาการบาดเจ็บกันก่อนเถอะ พวกเรายังมีสิ่งที่ต้องทำอีกมาก!”
“ข้าน้อยรับคำสั่ง!”
เฉินกัง และ คนอื่น ๆ ได้ตอบสนองและรีบหยิบโอสถหยวนหลิงขึ้นมาเพื่อฟื้นฟูอาการบาดเจ็บ
ลู่เฟิงนั่งไขว่ห้างเปิดระบบและมองไปที่หีบสมบัติของเขา
ในการเปิดหีบสมบัติเขาจะต้องใช้สิทธิ์ในการอัญเชิญ
ตอนนี้เขามีโอกาสอัญเชิญเหลืออยู่อีกสองครั้ง หนึ่ง คือ โอกาสอัญเชิญอาวุธวิเศษ และ อีกหนึ่งคือ โอกาสอัญเชิญกองทัพแบบสุ่ม
ในการใช้โอกาสอัญเชิญอาวุธวิเศษล่าสุดนั้น ลู่เฟิง ได้เรียก ดาบ เฉิงอิ๋ง ออกมาและเขาได้มอบมันให้กับ เจี๋ยสวี่ ไป
สำหรับการอัญเชิญกองทัพแบบสุ่มที่กำหนด…
ลู่เฟิง ได้ครุ่นคิดและกล่าวถามระบบ”ระบบฉันสามารถกำหนดความเชี่ยวชาญทางด้านนั้น ๆ ของกองทัพได้หรือไม่?”
“มีกองทัพที่เชี่ยวชาญในทวีปคิวชู นั้นมากมาย ระบบ ได้รวมคนเหล่านั้นมาไว้ในสถานที่แห่งเดียว ทั้งนี้ โฮสต์สามารถกำหนดและมีโอกาสได้รับกองทัพที่มีความเชี่ยวชาญในด้านที่ต้องการหรือไม่ ทุกอย่างขึ้นอยู่กับโชคของโฮสต์!”
คำตอบของ ระบบ ลู่เฟิง ไม่เเปลกใจเลย
ตอนนี้ เขาได้เรียกกองทัพไปแล้ว โชคของเขาถือว่าค่อนข้างโชคดี
แต่สิ่งที่เขาต้องพิจารณาตอนนี้ก็คืออาวุธวิเศษ มันคงจะดีกว่าหากเขาเหลือโอกาสอัญเชิญอาวุธวิเศษเอาไว้
ความจริงแล้ว ลู่เฟิง ต้องการจะเรียกอาวุธวิเศษออกมาอย่างมาก
เพราะเขาคิดว่า แม่ทัพคนแรกของเขา เกาชุน คงจะต้องมีอาวุธที่เหมาะสม
อาวุธที่เกาชุนใช้อยู่ตอนนี้เป็นเพียงอาวุธธรรมดา
ครั้งสุดท้ายที่เขาทำภารกิจที่สาขาของอาณาจักรซีหยางเขาได้รับโอกาสในการเรียกอาวุธวิเศษ แต่เขาได้นำมันไปรวมกับโอกาสอัญเชิญ เพื่อแลกเปลี่ยนเป็น โอกาสอัญเชิญหนึ่งเดียว เพื่อเรียก ฮัวโต๋ ออกมา ตอนนี้ อาณาจักรกำลังดำเนินไปในทางที่ดีขึ้น
เกี่ยวกับกองทัพที่ได้รับบาดเจ็บ ก็มี ฮัวโต๋ คอยช่วยเหลือแล้ว
เขาจึงลังเลที่จะใช้โอกาสอัญเชิญอาวุธวิเศษในการเปิดหุบสมบัติอีกครั้ง
สำหรับการอัญเชิญกองทัพกำหนดแบบสุ่ม ก็มีค่าเช่นเดียวกัน ตอนนี้ เขาต้องการกองทัพที่เชี่ยวชาญสาขาในการเล่นแร่แปรธาตุ ในอาณาจักร คนเหล่านี้ สามารถปรับแต่งโอสถได้ ด้วยวิธีนี้ คนในอาณาจักรหนานหยาน จะสามารถฝึกฝนกันได้อย่างรวดเร็ว
ซึ่งมันอาจจะกลายเป็นจุดแข็งของพวกเขา
แต่…
หากต้องการกำหนดโอกาสอัญเชิญกองทัพแบบสุ่มเขาก็ต้องยอมแพ้โอกาสอัญเชิญอาวุธวิเศษ
หากต้องการอัญเชิญอาวุธวิเศษเขาก็ต้องยอมแพ้โอกาสอัญเชิญกองทัพแบบสุ่มในสาขาเชี่ยวชาญที่กำหนด