บทที่ 216 กลิ่นหอมเย้ายวน

ระบบแหวนสุดโกงสร้างตำนานในสองโลก

บทที่ 216 กลิ่นหอมเย้ายวน

บทที่ 216 กลิ่นหอมเย้ายวน

“หมายเลขหนึ่ง วางกระทะ!”

“หมายเลขสาม วางกระทะ!”

“หมายเลขเจ็ด วางกระทะ!”

ภายใต้อาการตื่นตะลึงและจริงจังของทุกคน อู๋ฝานเตรียมอาหารจานแล้วจานเล่าจนเสร็จ

ตอนที่หลิวอี้เตาได้ยินคำสั่งของอู๋ฝาน เขาก็เริ่มปรุงอาหารที่เกี่ยวข้องในทันที ส่วนเชฟคนอื่นจะคอยช่วยหยิบยื่นจาน ล้างกระทะ และหน้าที่จิปาถะทั้งหลาย ขณะที่ชายหนุ่มยังคงใส่น้ำมันทำอาหารอย่างต่อเนื่อง

อาหารจานแล้วจานเล่าถูกส่งออกจากครัวสู่ห้องส่วนตัวทั้งหลาย

ตอนนี้ผู้คนที่มากลุ่มแรกต่างเข้าไปรอในห้องส่วนตัวกันเรียบร้อยแล้ว ขณะที่โถงกลางนั้นมีบางคนที่สงสัยเรื่องก่อนหน้าแวะเวียนเข้ามาไม่ขาด เพราะก่อนหน้านี้มีขบวนรถหรูเรียงรายมาอย่างเอิกเกริก อีกทั้งบรรดาทายาทตระกูลร่ำรวยต่างมากันอย่างพร้อมหน้า เรียกว่าเป็นการดึงดูดความสนใจได้อย่างล้นหลาม ผู้คนจึงความสงสัยในร้านอาหารที่เพิ่งเปิดใหม่ จนเป็นเหตุให้ต้องเดินเข้าร้านมาโดยไม่รู้ตัว

เฉินปิงเหยาค่อนข้างยุ่งไม่น้อย ส่วนพนักงานบริการในร้านเองเริ่มยุ่งกับรายการอาหารที่ได้รับเช่นกัน นับเป็นโชคดีที่เฉินปิงเหยาแนะแนวมาหลายวันก่อนเปิดอย่างเป็นทางการ ดังนั้นแม้ทุกคนจะดูยุ่งกับงานตรงหน้า แต่ก็ไม่ได้เกิดเป็นความโกลาหลแต่อย่างใด

“ไม่รู้เลยนะคะว่าเถ้าแก่จะทำได้ไหวไหม” เฉินปิงเหยามองห้องโถงที่เต็มเกือบครึ่งหนึ่งและห้องส่วนตัวเองที่แทบจะเต็มจนหมด ทางหนึ่งก็รู้สึกตื่นเต้น แต่อีกทางหนึ่งก็กังวลและร้อนใจ

วันแรกของการเปิดร้านอาหาร กลับมีลูกค้าหลั่งไหลเข้ามาอย่างเกินความคาดหมายเช่นนี้ เรียกได้ว่าเป็นการเริ่มต้นที่ดี งานถัดจากนี้คือการรักษาลูกค้าเอาไว้ ขณะเดียวกันก็ต้องพึ่งพาลูกค้ากลุ่มแรกเหล่านี้ ช่วยกันกระจายความประทับใจที่ดี เพื่อเป็นการดึงดูดให้ลูกค้ากลุ่มอื่นเข้ามามากยิ่งขึ้น

ดังนั้นวันนี้จึงสำคัญอย่างไม่ต้องสงสัย

และเฉินปิงเหยาทราบแล้วว่าวันนี้อู๋ฝานคิดทำครัวด้วยตัวเอง แม้หญิงสาวไม่ทราบเรื่องฝีมือการทำอาหารของอีกฝ่าย แต่ก็ได้ยินหลิวอี้เตาบอกอยู่บ่อยครั้งว่าตัวเองฝีมือดีขึ้นได้ก็เพราะชายหนุ่ม อีกทั้งยังนับถือเขาเป็นอย่างมาก เป็นเหตุให้เฉินปิงเหยารู้สึกสงสัยอย่างแรงกล้า เพราะเธอยังไม่เคยได้เห็นฝีมือการทำอาหารของอู๋ฝานด้วยตนเองมาก่อน จึงไม่แปลกถ้าจะเกิดความกังวลขึ้นในใจ

“หือ? กลิ่นอะไรกันนะ หอมได้ขนาดนี้เลยเหรอ?” ตอนที่เฉินปิงเหยากำลังกังวลในฝีมือการทำอาหารของอู๋ฝาน ตอนนี้เองที่เธอได้กลิ่นหอมเกินต้านทานเด่นชัด

ขณะเวลานี้ เป็นช่วงที่บริกรบังเอิญเดินผ่านหน้าเธอไปพร้อมกับอาหารที่เตรียมเสิร์ฟ

หรือจะเป็นกลิ่นหอมจากอาหารจานที่เพิ่งผ่านหน้าไป? กลิ่นหอมนั้นคล้ายจะเป็นกลิ่นของผัก เพียงแต่ทำไมถึงโดดเด่นได้ขนาดนี้กัน? เพียงแค่ได้กลิ่นเฉินปิงเหยาก็รู้สึกว่าต้องกลืนน้ำลายไปหลายอึกโดยไม่รู้ตัวเสียด้วยซ้ำ

“เดี๋ยวก่อน!” เฉินปิงเหยาไม่อาจอดกลั้นความสงสัยได้อีกต่อไป จึงเรียกให้บริกรคนนั้นหยุด

บริกรคนนั้นหยุดด้วยความสงสัย พร้อมกับหันมองเฉินปิงเหยา

เฉินปิงเหยาไม่สนใจสายตานั้น แต่ขยับเข้าไปใกล้จานอาหารในมือของอีกฝ่าย ตอนนั้นเองที่กลิ่นยิ่งเด่นชัดมากขึ้น

“กลิ่นหอมนี่ เป็นของอาหารจานนี้จริงด้วย!” เฉินปิงเหยาตอบรับอย่างตื่นตกใจ

“ใครเป็นคนทำอาหารจานนี้?” เฉินปิงเหยาเอ่ยถาม

“เถ้าแก่ทำด้วยตัวเองครับ” บริกรตอบรับ “อาหารทุกจานวันนี้ เถ้าแก่เป็นคนทำเองทั้งหมด เชฟคนอื่นรับหน้าที่เป็นเพียงแค่ผู้ช่วยครับ”

“ทั้งหมดเถ้าแก่ทำเองคนเดียว?!” เฉินปิงเหยาตื่นตะลึง แม้เธอจะทราบว่าอู๋ฝานเข้าครัวด้วยตนเอง แต่ก็ไม่คาดคิดว่าอีกฝ่ายจะถึงขั้นทำทุกเมนูด้วยตัวเอง ตอนนี้จำนวนผู้คนเข้ามาใช้บริการทั้งร้าน สมควรเกินกว่าหนึ่งร้อยเป็นที่เรียบร้อยแล้ว แต่เขากลับทำอาหารเพียงคนเดียวอย่างนั้นหรือ?

“ใช่ครับ” บริกรพยักหน้าตอบรับ

“รู้แล้ว ไปเถอะค่ะ อย่าปล่อยให้ลูกค้ารอนาน” เฉินปิงเหยาบอก

ทันทีที่บริกรเดินจากไป บริกรอีกคนหนึ่งก็เดินออกมาจากห้องครัวพร้อมจานอาหร และด้านหลังของเขานั้น ก็มีบริกรอีกคนที่ถือจานอาหารไล่เรียงมากันคนแล้วคนเล่า

อาหารเหล่านี้ถูกนำออกมาจากครัวจานแล้วจานเล่า ประหนึ่งสายน้ำที่ไหลไม่หยุดพัก

เฉินปิงเหยารู้สึกราวกับเห็นมดงานที่เดินเรียงรายเป็นแถว ในใจนั้นรู้สึกคันขึ้นมาอย่างไม่อาจอดทนไหว ถ้าเธอไม่ได้รับผิดชอบดูแลภาพรวมในร้านวันนี้ไม่ให้เกิดอุบัติเหตุใดขึ้น เธอก็คิดอยากจะเข้าไปในครัวซะเดี๋ยวนี้ เพื่อดูว่าอู๋ฝานทำอาหารอย่างไร ทำไมอาหารจานแล้วจานเล่าเรียงรายออกมาไม่ได้ขาด อีกทั้งทุกจานยังดูน่าอร่อยทั้งสิ้น!

ตอนนี้ลูกค้าในห้องส่วนตัวทั้งหลาย ไม่ได้ให้ความสนใจกับอาหาร แต่เป็นตัวอู๋ฝานต่างหาก

เหมือนที่ถังอวี่เฟยกล่าวไว้ว่าคนเหล่านี้เคยได้ทานอาหารอร่อยมาแล้วนับไม่ถ้วน พวกเขาย่อมไม่คิดว่าที่นี่จะมีอาหารอะไรอร่อยเกินกว่าที่เคยได้ทาน สาเหตุที่พวกเขามาที่นี่ในวันนี้ก็เพื่อเอาใจอู๋ฝาน ไม่ใช่มาเพราะคาดหวังความอร่อยของอาหาร

ในความเห็นของพวกเขา อู๋ฝานแค่มาเปิดร้านหาความสำราญ หรือบางทีอาจเป็นหนทางทำเงินของอำนาจที่อยู่เบื้องหลังตัวเขาอีกทีหนึ่ง อย่างไรบรรดาสำนักทั้งหลายก็ต้องกินต้องใช้ อีกทั้งผู้อาวุโสของสำนักเองก็ยังต้องมีส่วนที่ต้องรับผิดชอบในเรื่องโลกภายนอกเสียด้วยซ้ำไป

ดังนั้นอาหารของร้านแห่งนี้ไม่น่าจะดีเยี่ยมอะไร เป็นเพียงหนึ่งในธุรกิจของอำนาจเบื้องหลังอู๋ฝานต่างหาก

ทว่าความคิดเหล่านั้นของพวกเขาก็ไม่อาจอยู่ได้นาน เพราะสุดท้ายก็ต้องถูกกลิ่นหอมของอาหารดึงความสนใจ

“กลิ่นอะไรกันเนี่ย หอมอะไรได้ขนาดนี้?”

“เหมือนว่าจะเป็นกลิ่นของอาหารสักจานนะ”

“เป็นไปไม่ได้! จะมีจานไหนที่มีกลิ่นหอมชัดขนาดนี้กัน”

ลูกค้าหลายคนในห้องส่วนตัวเริ่มพูดคุยกันเอง และในตอนนี้เองที่ประตูของห้องทานอาหารส่วนตัวแต่ละห้องถูกเปิดออก พร้อมกับบริกรที่เดินเรียงรายเข้ามาเสิร์ฟอาหาร

ทุกคนในห้องส่วนตัวตื่นตะลึงตกใจ กลิ่นของผักจะหอมได้ขนาดนี้เชียวหรือ?

แน่นอนว่าตอนที่อาหารวางบนโต๊ะเรียบร้อย กลิ่นของอาหารก็ยิ่งหอมเด่นชัดมากขึ้น

“นี่มันกลิ่นผัดผักจริงเหรอเนี่ย?”

ทุกคนตื่นตกใจ พร้อมกับมองตากันแลกเปลี่ยนความเห็น ใจของพวกเขายังรู้สึกว่ายากที่จะเชื่อได้

หลังจากนั้น อาหารก็ถูกนำมาเสิร์ฟจานแล้วจานเล่า ในตอนนี้กลิ่นหอมในห้องส่วนตัวแต่ละห้อง ถึงกับทำให้หลายคนต้องลอบกลืนน้ำลายอย่างไม่รู้ตัว สถานการณ์ตอนนี้นับเป็นเรื่องที่พวกเขาไม่เคยได้ประสบพบเจอมาก่อน

“เอาไงดี พวกเราก็ทานเลยดีไหม?” หนึ่งในกลุ่มคนเสนอความเห็นขึ้นมา

ทุกคนต่างพยักหน้ารับเห็นพ้อง

ไม่นานทุกคนก็เริ่มหยิบตะเกียบของตนเองแทบจะพร้อมกัน ก่อนจะเริ่มทานอาหารที่อยู่ตรงหน้า

หลังอาหารคำแรกเข้าปาก ทุกคนต่างก็ต้องแสดงอาการตอบสนองที่แทบจะเหมือนกันออกมา

หอมมาก!

กลิ่นหอมจนเกินต้าน!!

บางคนถึงกับต้องหลับตาลงอย่างไม่รู้ตัว สีหน้าท่าทีของพวกเขาคล้ายคนที่ตกในห้วงแห่งความหลงใหลมัวเมา

พวกเขาต่างเป็นทายาทตระกูลร่ำรวยในเจียงโจว ดังนั้นย่อมต้องเคยได้กินสารพัดของดีมากมาย ทำให้ปากของพวกเขาค่อนข้างเลือกอาหารพอสมควร มีอาหารเพียงไม่มากเท่านั้นที่จะทำให้พวกเขาเกิดรู้สึกนึกทึ่งได้

เพียงแต่วันนี้กับภัตตาคารที่เพิ่งเปิดใหม่ พวกเขากลับต้องรู้สึกทึ่งกับอาหารของที่นี่ พวกเขาไม่เคยคิดมาก่อนว่าอาหารเหล่านี้ที่ดูธรรมดา จะเป็นอาหารแสนอร่อยอย่างล้นเหลือได้ขนาดนี้

เป็นฝีมือการทำอาหารที่น่าทึ่ง!

หลังจากนั้นทุกคนก็รีบทานอาหารตรงหน้าประหนึ่งคนเพิ่งเคยเปิดหูเปิดตา ขณะทานพวกเขาก็นึกนับถือในร้านแห่งนี้ไปด้วย พวกเขาไม่เคยคิดมาก่อนว่ามันจะสามารถทำให้ต่อมรับรสชาติของพวกเขาเกิดรื่นรมย์อิ่มเอมขึ้นมาได้

การเดินทางวันนี้ นับได้ว่าคุ้มค่ามากแล้ว!

ขณะนี้บรรดาผู้คนที่ได้ลิ้มรสอาหารต่างต้องจดจำอาหารของที่นี่เอาไว้ให้ขึ้นใจ ไม่ว่าจะเป็นผู้คนที่รับประทานในห้องส่วนตัว หรือว่าผู้คนในโถงหลัก ไม่ว่าใครต่างก็พึงพอใจกับอาหารของที่นี่กันอย่างถ้วนหน้า