ตอนที่ 71

Earth’s Best Gamer

แน่นอนว่าสำหรับภูเขามังกรคู่ สิ่งแรกที่พวกเขาต้องทำไม่ใช่การพักผ่อนหลังการต่อสู้ แต่เป็นการมุ่งหน้าไปยังถิ่นฐานของชาววิญญาณและรับเอา ‘แกนกลางถิ่นฐาน’ ของพวกเขา!

นี่เป็นเพราะในเวลากลางวัน ด้านล่างหน้าผาที่เผ่าวิญญาณอาศัยอยู่จะมีหมอกอยู่อย่างหนาแน่น มันยากที่จะมองเห็นมากกว่าตอนกลางคืน

ยิ่งไปกว่านั้นเพื่อเหตุผลด้านความปลอดภัย พวกเขาควรได้รับแกนกลางถิ่นฐานของชาววิญญาณให้เร็วที่สุด

พรึบ… พรึบ…

ในหุบเขา ลมภูเขาพัดอย่างรุนแรง

กลุ่มคนเดินตรงไปข้างหน้าอย่างรวดเร็วโดยการใช้แสงจันทร์อันสว่างไสวนำทาง

“ไม่มีสิ่งมีชีวิตที่ผิดปกติภายในระยะ 100 เมตรข้างหน้า ชาววิญญาณมาจากทิศทางนี้…”

ต้องขอบคุณ ‘สเกาเตอร์’ ที่คล้ายกับในดราก้อนบอลรวมทั้งหลี่ชิงผู้ที่เคยเป็นทหารพรานมาก่อน ภูเขามังกรคู่จึงไม่จำเป็นต้องคิดวิธีลงจากหน้าผา พวกเขาสามารถเดินตามทางที่ชาววิญญาณเข้ามาโจมตีได้

นอกเหนือจากจีเย่แล้วมีคนไม่มากนักในทีม เนื่องจากสภาพแวดล้อมของชาววิญญาณนั้นแตกต่าง คนกลุ่มนี้จึงประกอบด้วยคนขั้นชั้นยอดจากถิ่นฐาน

นอกจากหลู่จือเซินผู้ที่คอยคุ้มกันป้อมปราการ ลุงเก้าผู้ที่ดื่มนมศิลาเพื่อฟื้นพลังเวทมนตร์บางส่วนของเขา ฉินเยว่หยู่ผู้ที่มีธนูและลูกศรยันต์รวมทั้งทหารขั้นชั้นยอดระดับสามัญอันดับ 7 ทั้งสี่คนที่เชี่ยวชาญหมัดอรหันต์

“ไม่มีอะไรผิดปกติเกิดขึ้นกับร่างกาย จากลักษณะแล้วไม่น่าจะมีแบคทีเรียในอาณาเขตของมนุษย์ต่างดาวที่เป็นอันตรายต่อมนุษย์ นอกจากนี้ยังไม่มีอะไรในอากาศที่เป็นพิษต่อมนุษย์”

ฉินเยว่หยูถือคันธนูไว้ในมือของเธอในขณะที่เธอสูดอากาศ

“ทำไมเธอถึงมีความคิดที่แปลกประหลาดแบบนี้?”

จีเย่รู้สึกสงสัยเล็กน้อยเกี่ยวกับความคิดของเธอ

“มันถูกเขียนในนิยายบางเรื่องในเว็บโนเวล หากฉันไม่ใส่เข้าไป ผู้อ่านจะคิดว่านักเขียนไม่ใส่ใจ” ฉินเยว่หยูกล่าว

“เว็บโนเวล? มันคืออะไร?”

คิ้วของลุงเก้ากระตุกในขณะที่เขามีสีหน้าสงสัย

“โอ้ ในอนาคตให้เธอลองเล่าให้ฟังเมื่อมีเวลา… ลุงเก้า คุณอาจได้รับควาใทรงจำบสงอย่างเกี่ยวกับตัวตนของคุณ”

จีเย่ยิ้มเล็กน้อย

มีนิยายหลายเรื่องในเว็บโนเวลที่เขียนเกี่ยวกับลุงเก้า

อย่างไรก็ตามแม้ว่าพวกเขาจะพูดล้อเล่นกันตลอดทาง แต่พวกเขาก็ไม่ได้ผ่อนคลายมากนั

ถึงอย่างนั้นพวกเขาก็ไม่พบการโจมตีใดจากผู้ที่ไม่ใช่มนุษย์โลกตลอดทาง

เห็นได้ชัดว่าชาววิญญาณได้ออกไปต่อสู้ทั้งหมด สำหรับมอนเตอร์ในอาณาเขตของพวกเขา พวกเขาได้สังหารพวกมันไปแล้ว

“มีบางอย่างเกิดขึ้นข้างหน้า!”

เมื่อพวกเขามาถึงด้านล่างของหุบเขา หลี่ชิงผู้ที่สวมสเกาเตอร์ก็ได้ส่งสัญญาณบอกทุกคน

“ข้างหน้ามีสัญญาณทางชีวภาพ เราไม่สามารถระบุระดับของมันได้เพราะไม่ได้อยู่ในระยะ!”

ระยะการตรวจจับของสเกาเตอร์มีขีดจำกัดซึ่งคือประมาณหนึ่งร้อยเมตรหรือมากกว่านั้น แต่เอฟเฟกต์นั้นทรงพลังมาก แม้แต่สิ่งมีชีวิตที่หลบซ่อนบางตัวก็สามารถตรวจพบได้

อย่างไรก็ตามเนื่องจากมีต้นไม้สีดำไร้ใบจำนวนมาก พวกเขาจึงไม่สามารถเข้าใกล้สิ่งมีชีวิตได้โดยตรง

“หยุดสักพัก ฉันจะตรวจสอบเอง” จีเย่ตอบกลับ

นี่เป็นเพราะวิญญาณหมาป่าสีดำที่มีขนาดเท่ากับลูกสุนัขที่เกิดจากพลังวิญญาณได้กระโจนออกจากอ้อมแขนของเขาไป จากนั้นมันก็เปิดตาที่เหมือนทับทิมของมันออกมาและมองไปข้างหน้า

วิญญาณหัวหน้าหมาป่าเป็นสมบัติโดเมนระดับวิสามัญอย่างแน่นอน มันสามารถใช้เพื่อเสริมความแข็งแกร่ง ต่อสู้และสอดแนมได้

ข้อบกพร่องเพียงอย่างเดียวก็คือจีเย่จำเป็นต้องควบคุมการเคลื่อนไหวของวิญญาณหัวหน้าหมาป่่าด้วยสมาธิของเขาก่อนที่สัมผัสศักดิ์สิทธิ์ของเขานั้นจะทรงพลังมากพอที่จะ ‘แบ่งแยกความคิด’ ได้

มันคงเป็นเรื่องยากที่จะควบคุมวิญญาณหมาป่าในขณะที่ต่อสู้ด้วยกำลังทั้งหมดของเขา

โอ้? นี่คือ…

อย่างไรก็ตามสีหน้าของจีเย่ก็เปลี่ยนไปในไม่กี่วินาทีต่อมา

“มีบางอย่างไม่ถูกต้อง ตามฉันมา อย่าลืมซ่อนตัวและเตรียมพร้อมต่อสู้!”

จากนั้นสีหน้าของเขาก็เปลี่ยนเป็นจริงจังทันทีในขณะที่เขาหันกลับไปกล่าวกับคนรอบข้าง

“ครับ!”

ทหารขั้นชั้นยอดหลายคนตอบกลับด้วยเสียงที่สั่นเล็กน้อย

หลังจากการฝึกฝนไม่กี่วันที่ผ่านมาและการต่อสู้กับชาววิญญาณ พวกเขาก็มีทหารขั้นชั้นยอดแล้ว!

“โอ้ เสียงการต่อสู้งั้นเหรอ?”

หลังจากคนทั้งกลุ่มตามจีเย่และแอบเข้าไปในป่าด้วยการซ่อนตัวที่มิดชิดมากขึ้น

ทันใดนั้นพวกเขาก็ได้ยินเสียงบางอย่างราวกับว่ามีสิ่งมีชีวิตกำลังต่อสู้กัน

เนื่องจากลมภูเขานั้นแรงมากเกินไป และพวกเขาต้องต้านลม พวกเขาจึงไม่ได้ยินเสียงก่อนหน้านี้

“นี่คือ…”

เมื่อพวกเขามาถึงใจกลางป่าสีดำที่แปลกประหลาด กลุ่มคนทั้งหลายก็เห็นสถานการณ์อย่างชัดเจน

สิ่งแรกที่พวกเขาเห็นก็คือพื้นที่โล่งที่มีเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 100 ฟุต ในใจกลางนั้นมี ‘ต้นไม้’ ประหลาดที่สูงประมาณเจ็ดถึงแปดเมตรและมีโคนที่หนา มันดูเหมือนว่าจะเกิดจากเถาวัลย์สีแดงเข้มจำนวนมากที่มีความหนาเท่ากับแขน!

[ต้นไม้เถาวัลย์วิญญาณกระหายเลือดร้อยปี]

[ระดับ : วิสามัญอันดับ 3]

[ขั้น : กึ่งผู้บัญชาการ]

[รายละเอียด : สิ่งมีชีวิตพิเศษที่มีความสัมพันธ์ทางชีวภาพกับเผ่าวิญญาณ ร่างกายของมันมีแกนกลางถิ่นฐานของเผ่าวิญญาณ นอกจากนี้มันยังเป็นการป้องกันที่ทรงพลังที่สุดของถิ่นฐานเผ่าวิญญาณ!]

บางทีอาจเป็นเพราะมันเป็นแกนกลางถิ่นฐาน ทุกคนจึงสัมผัสได้ถึงคุณสมบัติของสิ่งมีชีวิตตัวนี้

ด้านบนต้นไม้เถาวัลย์วิญญาณกระหายเลือดร้อยปีนั้นคือพื้นที่แสงสีเขียวขนาดใหญ่ที่ดูคล้ายกับร่างหลักของชาววิญญาณ ภายในพื้นที่โล่งสามารถมองเห็นสิ่งมีชีวิตเจ็ดถึงแปดตัว

มันเป็นสิ่งมีชีวิตอ่อนนุ่มสีน้ำตาลที่ดูเหมือนโคลนที่กระจัดกระจายไปทั่วพื้น

ในขณะนั้นสิ่งมีชีวิต ‘โคลน’ แปลกประหลาดเหล่านี้กำลังกวาดทราย หิน และรากไม้เข้าหาร่างกายที่กระดุกกระดิกของพวกมัน

จากนั้นพวกมันก็ยิงสิ่งที่รวบรวมมาไปที่ต้นไม้เถาวัลย์วิญญาณกระหายเลือดที่อยู่ใจกลางของพื้นที่โล่งราวกับ ‘เทรบูเชต’

ต้นไม้เถาวัลย์กระหายเลือดที่อยู่ใจกลางก็ได้โบกเถาวัลย์คล้ายกับหนวดเพื่อโจมตีสิ่งมีชีวิต ‘โคลน’ ตลอดเวลา

บนเถาวัลย์สองเส้นมีเปลือกคล้ายกับแมงกระพรุนสีน้ำตาลสองตัวที่ขาดน้ำ

อย่างไรก็ตามเห็นได้อย่างชัดเจนว่าสิ่งมีชีวิตโคลนมีสติปัญญาในระดับหนึ่ง พวกมันเลือกที่จะเสียสละพวกพ้องสองตัวเพื่อกำหนดระยะการโจมตีของเถาวัลย์วิญญาณกระหายเลือด จากนั้นพวกมันก็เลือกที่จะยืนห่างกันเพื่อป้องกันไม่ให้เถาวัลย์ที่โจมตีที่ฉีกขาดจากการโจมตีของพวกมัน มันยากสำหรับต้นเถาวัลย์วิญญาณกระหายเลือดที่จะป้องกันร่างกายของมันจาก ‘ลูกปืนใหญ่’ ที่ถูกโยนเข้ามา!

“มันเป็นมนุษย์ต่างดาวประเภทหนึ่งที่ถูกเรียกว่ามอนเตอร์โคลน ระดับของพวกมันมีตั้งแต่อันดับ 6 ถึงอันดับ 7 ร่างกายของพวกมันดูเหมือนจะไม่มีวิญญาณ!”

หลี่ชิงอธิบายเกี่ยวกับสิ่งมีชีวิตและข้อมูลให้กับกลุ่มคนที่ซ่อนตัวอยู่เบื้องหลังหินในป่า

“มอนเตอร์โคลน? ชื่อมันดูน่ารักมาก…”

ฉินเยว่หยูกระพริบตา

“อะแฮ่มอย่าพูดมาก เตรียมพร้อมและโจมตีตามสถานการณ์!”

จีเย่ไอและกล่าวอย่างเคร่งขรึม

เขาลืมไปแล้วว่าชื่อของมนุษย์ต่างดาวนั้นถูกตั้งตามมนุษย์คนแรกที่เห็นพวกมัน เขาควรจะคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้และคิดชื่อที่โดดเด่นซึ่งคล้ายกับเผ่าวิญญาณ…

ไม่มีใครคาดคิดว่าจะได้พบกับสายพันธุ์ที่สามที่นี่

ยิ่งไปกว่านั้นเผ่ามนุษย์ต่างดาวเผ่านี้ก็พยายามที่จะใช้ประโยชน์จากสงครามระหว่างมนุษย์และเผ่าวิญญาณ!

นี่อาจเป็นเผ่ามนุษย์ต่างดาวที่อาศัยอยู่ในหุบเขาหมอก เป็นไปได้มากว่าพวกมันจะให้ความสนใจกับเผ่าวิญญาณอย่างลับๆ หลังจากที่พวกมันพบว่าเผ่าวิญญาณโจมตีเผ่ามนุษย์ พวกมันจึงส่งทีมไปแอบเข้าไปในรังของเผ่าวิญญาณ

หากไม่ใช่เพราะความจริงที่ว่าถิ่นฐานของชาววิญญาณมีความสามารถในการป้องกันระดับหนึ่ง ก็เป็นไปได้มากว่ามนุษย์ต่างดาวที่มีร่างกายเป็นโคลนพวกนี้คงประสบความสำเร็จไปแล้ว

โชคดีที่จีเย่ตัดสินใจทันทีหลังจากที่เขาได้รับชัยชนะ ไม่อย่างนั้นหากมอนเตอร์โคลนแย่งชิงแกนกลางถิ่นฐานที่สำคัญที่สุดออกไปแล้ว ภูเขามังกรคู่คงจะต้องเสีนใจอย่างแน่นอน!