ตอนที่ 99 คุณสมบัติของแมงดา

“กรี๊ดดดดดดดดดด”

ลี่มู่ซือและฮวงเสี่ยวหมิงกรีดร้องพร้อมกัน

ทั้งสองมีปฏิกิริยาต่างกันอย่างมากมาย

ลี่มู่ซือปิดตาของเธอทันทีและเดินกลับออกไปข้างนอกในขณะที่ฮวงเสี่ยวหมิงปิดปากด้วยมือของเธอ ดวงตาจ้องมองเปิดกว้าง

พวกเธอคาดหวังว่าจะได้เห็นการต่อสู้เกิดขึ้นในห้องน้ํา ไม่เคยคาดหวังว่าจะได้เห็นเหย่หลิง เฉินอาบน้ําให้เหอหยวนและลูกน้องกล้ามโตของเขาแบบนั้น

ดวงตาของพวกเธอประหลาดใจเป็นพิเศษเนื่องจากพวกเธอได้เห็นสิ่งที่เกิดขึ้นในระยะใกล้โดยไม่ได้ตั้งใจ ภาพดังกล่าวประทับอยู่ในหัวของพวกเธออย่างลึกซึ้ง

นั่นเป็นการบิดเบือนที่รุนแรงเกินไป!

ลี่มู่ซือกําลังจะบ้าตายเพราะเธอไม่สามารถปัดเป่าภาพในหัวของเธอได้ เธอส่ายหัวซ้ําแล้วซ้ํา เล่าและเกือบจะน้ําตาไหล

ในเวลาเดียวกัน เธอลากฮวงเสี่ยวหมิงที่ดีใจอย่างน่าประหลาดใจออกจากที่นั่นเช่นกัน

“กรี๊ดดดดดด! เหย่หลิงเฉิน ไอ้เลวนั่น! เขากล้าดียังไงถึงฟาดสิ่งที่น่ารังเกียจเช่นนั้นออกมา!” ลี่มู่ซือกําลังจับศีรษะด้วยมือทั้งสองข้างของเธออย่างบ้าคลั่ง “ฉันตาจะบอดแล้ว!”

เธอสังเกตเห็นว่าเหย่หลิงเฉินคือศัตรูตัวฉกาจของเธอ ตั้งแต่พบเขา จูบแรกของเธอก็ถูกพรากไป เสียชื่อเสียง และตอนนี้แม้แต่ดวงตาของเธอก็เสียไปด้วย

“มู่ซือ นั่นคือห้องน้ําผู้ชายนะ เหย่หลิงเฉินหยิบมันออกมาฉี่ก็ถูกแล้วนี่ พวกเราต่างหากที่เป็นพวกแอบเข้าไปดูเอง” ฮวงเสี่ยวหมิงแก้ไขเธอด้วยความคิดเห็นที่เป็นกลาง “เหย่หลิงเฉินถูกเห็นโดยพวกเราแล้ว เขาเสียหายต่างหาก”

ลี่มู่ซือเห็นด้วยหลังจากครุ่นคิดแล้วมองไปที่ฮวงเสี่ยวหมิงด้วยท่าทางที่หดหูใจ “เพราะเธอนั่น แหละที่ลากฉันไปด้วย!”

“ไอหยาา มู่ซือ ไม่เป็นไรหรอกน่า แค่มองไม่ได้ทําให้ท้องสักหน่อย อีกอย่างเราได้เรียนรู้อะไรบางอย่างด้วยนะ” ฮวงเสี่ยวหมิงตอบอย่างไม่ใส่ใจ

‘เหอหยวน ไอ้คนไร้ประโยชน์! ฉันคิดว่านายจะสามารถสอนบทเรียนให้เหย่หลิงเฉินได้! แต่เขากลับถูกปืนฉีดน้ําอัดเข้ามุม ช่างเป็นหนามที่ไร้ประโยชน์จริง ๆ!?’

เสียงกรีดร้องของฮวงเสี่ยวหมิงและลี่มู่ชื่อทําให้เหย่หลิงเฉินตกใจ มีผู้หญิงซ่อนตัวอยู่ในห้องน้ํา?!?

‘ฉันเดาว่าพวกเขาต้องตกใจกับเครื่องมืออันทรงพลังของฉัน ฉันต้องเก็บมันไว้ ทําตัว ให้ปกติธรรมดาเข้าไว้’

เขารูดซิปกางเกงอย่างรวดเร็วแล้วเตรียมตัวจะจากไป

“หยุดตรงนั้น!” เหอหยวนคําราม เขาเปียกโชกจากบนลงล่าง โดยที่ของเหลวยังคงไหลออกจากใบหน้าของเขา เขาจ้องมองไปที่เหย่หลิงเฉินโดยปราศจากเศษเสี้ยวของศักดิ์ศรี “คิดว่าฉันจะปล่อยแกไปง่าย ๆ อย่างนั้นหรือ”

“อะไร นายต้องการอะไรอีก” เหย่หลิงเฉินเตรียมรูดซิปกางเกงอีกครั้ง

เหอหยวนและกลุ่มของเขาหน้าซีดทันทีและถอยกลับอย่างรวดเร็ว เห็นได้ชัดว่าบอบช้ําจากอาวุธของเหย่หลิงเฉิน

จากนั้นเหย่หลิงเฉินก็เดินออกจากห้องน้ําหลังจากมองดูพวกเขา

เมื่อกลับไปที่ที่นั่งของเขา เขาสังเกตเห็นใบหน้าของลี่มู่ซือแดงราวกับเหล็กร้อนจนเกือบจะถึงจุดระเบิดออกมา

สายตาของเธอเลื่อนออกไป พยายามหลีกเลี่ยงการสบตากับเหย่หลิงเฉิน

“เธอสบายดีไหม?” เหย่หลิงเฉินถามด้วยความเป็นห่วง ทักษะทางการแพทย์ของเขายอดเยี่ยมและลีมู่ซือดูเหมือนเธอไม่ได้ปวย

“ฉัน…ฉันสบายดี!” ลี่มู่ซือตอบทันทีพร้อมส่ายหัว

“งั้นก็ดีแล้ว ก่อนหน้านี้เธอได้ยินเสียงกรี๊ดของผู้หญิงบ้างไหม” เหย่หลิงเฉินถามอีกครั้ง

ลี่มู่ซือและฮวงเสี่ยวหมิงถูกจับได้ด้วยความประหลาดใจจากนั้นก็ส่ายหัวอย่างรวดเร็วเพื่อปฏิเสธ

กริ๊งงงง ๆๆๆๆๆ

ขณะที่เหยู่หลิงเฉินต้องการถามคําถามเพิ่มเติม โทรศัพท์ของเขาก็ดังขึ้น

ID ที่โทรเข้ามาแสดงให้เห็นว่าเป็นหลิงซื่อ เหยู่หลิงเฉินรับสาย “สวัสดีครับ คุณหลิง”

“ปรมาจารย์เหยู่ ฉันกําลังจะถึงมหาวิทยาลัยของคุณแล้ว คุณอยู่ที่ไหนคะตอนนี้?”

เขาได้นัดหมายเพื่อรักษาอาการปวยของปู่หลิง แต่เขาไม่ได้คาดหวังให้หลิงกู่ซื่อมารับเขาเป็นการส่วนตัว

“ตอนนี้ผมอยู่ที่ร้านอาหาร Old Eastern Gate คุณมาที่นี่ได้เลยครับ”

ไม่นานหลังจากนั้น ปอร์เช่สีแดงก็ตรงเข้าไปจอดที่หน้าร้านอาหาร

หลิงกู่ซื่อสวมแจ็กเก็ตหนังสีดําบาง ๆ ในวันนั้น เธอยืนอยู่ข้างรถปอร์เช่โดยเปิดเผยขายาวที่เรียวยาวของเธอ

รถหรู ผู้หญิงสวย เพิ่มออร่าของคุณหญิง หลิงกู่ซื่อดึงดูดสายตาจากคนรอบข้างในทันที

“เพื่อนของฉันมาน่ะ ทานอาหารต่อให้อร่อยนะ ฉันขอตัวก่อน” เหย่หลิงเฉินยืนขึ้นและ เดินออกไปด้านนอกหลังจากบอกลาพวกเขา

เมื่อมองไปที่ทิศทางที่เหย่หลิงเฉินกําลังมุ่งหน้าไป ตาของฮวงเสี่ยวหมิงและลี่มู่ซือก็เกือบจะหลุดออกมาจากเบ้าพร้อมอ้าปากค้าง

“ชะ…เชี่ย! อย่าบอกนะว่าผู้ชายคนนั้นพยายามจะจับผู้หญิงคนนั้น! ความต้องการทางเพศของเขาแรงกล้าขนาดนั้นเลยเหรอ?” ฮวงเสี่ยวหมิงอุทานด้วยความประหลาดใจ “เธอคิดว่าเขาจะโดนผู้หญิงคนนั้นตบไหม”

อย่างไรก็ตาม ยังมีเรื่องน่าประหลาดใจอีกมากมายรออยู่ข้างหน้า เหย่หลิงเฉินกําลังคุยกับผู้หญิงคนนั้นอย่างมีความสุขจากนั้นเขาก็ขึ้นรถของเธอ

“นี่ นี่ นี่…” ฮวงเสี่ยวหมิงตกตะลึงทันที่เปลี่ยนน้ําเสียงของเธอให้เต็มไปด้วยความยุติธรรม ทางสังคม “ไอ้แมงดา! ไอ้เลว! ไอ้สวะ! เขาเป็นแมงดา!”

ลี่มู่ซือตอบกลับ “เสี่ยวหมิง อย่าปล่อยข่าวลือแบบนั้น!”

“แต่เราเห็นกับตานี่ เขาเป็นแค่เด็กยากจน มันจะมีอะไรอีกนอกจากเขาที่เป็นแมงดา” ฮวงเสี่ยวหมิงกัดฟันของเธอ “ดูผู้หญิงคนนั้นสิ เธอใส่เสื้อหนังอย่างดี มันยังไม่ชัดเจนพอหรือ? ฉัน อดบอกไม่ได้จริง ๆ ว่าเขาเป็นแมงดา!”

เธอหยุดครู่หนึ่งแล้วเปลี่ยนน้ําเสียงของเธอ “เธอก็รู้ มู่ซือ ผู้ชายคนนั้นมีศักยภาพที่ดี เก่งเรื่องต่อสู้และบาสเกตบอล ร่างกายของเขาต้องอยู่ในสภาพที่สมบูรณ์ ไม่ต้องพูดถึงรูปลักษณ์ที่ดีของ เขาที่สําคัญที่สุด เธอเคยเห็นมันก่อนหน้านี้แล้ว เธอรู้ดีว่าอะไรเป็นสิ่งที่ควรค่าแก่การอวดอย่างแน่นอน!”

“พอแล้ว ไม่เอาแล้ว!”

คําอธิบายของฮวงเสี่ยวหมิงกลายเป็นเรื่องอื้อฉาวมากขึ้นเรื่อย ๆ นําภาพที่น่าขยะแขยงกลับมาสู่จิตใจของลี่ม่ซื้ออีกครั้ง

“ฉันได้ยินมาว่าผู้หญิงที่เข้มแข็งมักจะอ้างว้างและไม่สมหวัง ฉันเดาว่าแมงดาอย่างเหย่หลิง เฉินต้องเป็นที่ต้องการสูง ไม่งั้นเขาจะได้ผู้หญิงที่สวยและรวยแบบนี้เลี้ยงเหรอ!” ฮวงเสี่ยวหมิงพูด คนเดียวต่อ

“พอได้แล้วเสี่ยวหมิง หยุดสักที เราไปกันเถอะ” ลี่มู่ซื่อเฝ้าดูขณะที่รถสปอร์ตจางหายไปในระยะไกล น่าแปลกที่เธอถอนหายใจด้วยความโล่งอก

ในรถสปอร์ตนั้นเต็มไปด้วยกลิ่นจาง ๆ แต่น่าพึงพอใจ

กลิ่นนั้นต่างจากกลิ่นน้ําหอม มันจางมาก น่าจะเป็นกลิ่นของหลิงกู่ซื่อ

“คุณหลิง ผมไม่คิดว่าคุณจะมารับผมเป็นการส่วนตัวในวันนี้” เหย่หลิงเฉินกล่าวด้วยรอยยิ้ม

“ปรมาจารย์เหย คุณรักษาอาการปวยของปของฉัน ฉันไม่รู้ด้วยซ้ําว่าจะขอบคุณอย่างไร การมารับคุณเป็นสิ่งที่น้อยที่สุดที่ฉันสามารถทําได้” หลิงกู้ชื่อขอบคุณเขาอย่างซาบซึ้ง “เรียกฉันว่ากู่ซื่อก็ได้”

หลังจากใช้เวลารักษาไปทั้งหมด อาการของคุณปู่หลิงก็เกือบจะหายดีแล้ว เขาดูอ่อนกว่าวัย 10 ปี ไม่เหมือนตอนที่พวกเขาพบกันครั้งแรก ครอบครัวหลิงไม่รู้จะแสดงความขอบคุณต่อเหย่หลิงเฉินอย่างไร

“งั้นเรียกผมว่าหลิงเฉินก็ได้ครับ ผมอายุน้อยกว่าคุณ” เหย่หลิงเฉินลูบจมูกของเขา

“ปรมา หลิงเฉิน ก่อนหน้านี้ที่ร้านอาหาร คนที่ทานอาหารกับคุณ นั่นแฟนคุณหรือเปล่า” หลิงกู่ซือถาม

เธอเป็นนักศิลปะการต่อสู้ที่มีไหวพริบดี เป็นเรื่องปกติที่เธอจะสังเกตเห็นชีวิตส่วนตัวของเหย หลิงเฉิน

เหย่หลิงเฉินส่ายหัว ยิ้มขณะที่เขาตอบว่า “นั่นเป็นเพียงเพื่อนที่มหาวิทยาลัยของผมเท่านั้นครับ”

“ พี่ชายของฉันบอกฉันเกี่ยวกับการเข้าร่วมค่ายฝึกพิเศษของคุณ ตํานานของคุณกําลังแพร่กระจายไปทั่วสมาคมนักรบเลยล่ะ” หลิงกู่ซื่อมองไปที่เหย่หลิงเฉิน เธอกัดริมฝีปากของเธอแล้วถามว่า “หมัดแปดปรมัตถ์ของคุณน่าพึ่งมาก คุณหาเวลาสอนฉันได้ไหม”

“หมัดแปดปรมัตถ์เป็นเทคนิคหมัดของครอบครัวคุณ ผมต้องสอนคุณได้แน่นอนครับ” เหยหลิงเฉินพยักหน้าเห็นด้วย

ทั้งสองคุยกันระหว่างทาง เหย่หลิงเฉินเคยเห็นหลิงซื่อแสดงเทคนิคหมัด ดังนั้นเขาจึงเข้าใจจุดอ่อนบางอย่างของเธอในเวลานั้น เขาชี้แนะให้เธอที่ละจุด นั่นเป็นสิ่งที่ช่วยหลิงชื่ออย่างมากสายตาที่เธอจ้องมองไปที่เหย่หลิงเฉินเต็มไปด้วยความกตัญญู

ในขณะนั้นเองเหย่หลิงเฉินก็หน้าบึง เขาจ้องมองไปที่กระจกมองหลัง “คุณพาผู้ติดตามมาด้วยหรือเปล่าครับ”

“เปล่าหนิคะ ฉันมาคนเดียว” หลิงกู่ซื่อส่ายหัว

“รถข้างหลังเราคันนั้นขับตามเรามาตลอด” เหยู่หลิงเฉินกล่าวอย่างว่างเปล่า ขณะที่มีแสงวาบผ่านดวงตาของเขา