ตอนที่ 68: วันดวลเดือด

– สองวันต่อมา –

ณ สนามกีฬาในเมืองที่สามารถบรรจุคนได้ประมาณสามพันคน…

สถานที่แห่งนี้ถูกจัดตั้งขึ้นเพื่อการประลองแห่งความตายโดยเฉพาะ

แม้ว่าทางเทศบาลเมืองจะมีการห้ามปรามเหตุการณ์ดังกล่าว แต่เนื่องจากวันนี้จะเป็นวันตัดสินว่าแก๊งเต่าดำจะถูกยุบหรือไม่ เจ้าหน้าที่เทศบาลเมืองจึงตัดสินใจที่จะเมินเฉย ยิ่งไปกว่านั้น ทั้งผู้บัญชาการและเจ้าหน้าที่หลายคนต่อหลายคนจากกรมตำรวจต่างก็แห่กันมาที่นี่เพื่อเกาะติดสถานการณ์อีกด้วย

นอกจากนี้ ตัวแทนจากกองกำลังใต้ดินเองก็มาที่นี่ด้วย ท้ายที่สุดแล้ว ดูเหมือนว่าทุกคนต่างก็อยากมาเห็นการประลองแลกชีวิตด้วยตาของตัวเอง แม้ว่าเจ้าหน้าที่จะเข้ามาประนีประนอมเรื่องการประลองที่กำลังจะเกิดขึ้นไปก่อนหน้านี้แล้ว แต่ถ้าตัวแทนของกรมตำรวจอย่างเสี่ยวเฉิงแพ้ในการต่อสู้ การกระทำทุกอย่างของตำรวจและเจ้าหน้าที่เทศบาลเมืองก็คงจะดูตลกสิ้นดี

นอกจากนี้ พวกเศรษฐีหลายร้อยคนต่างก็มาที่นี่เพราะชื่อเสียงเรียงนามของเสี่ยวเฉิง บ้างก็เป็นคนที่เคยเห็นเสี่ยวเฉิงสู้กับพวกแก๊งเสือขาวในคาสิโน บ้างก็เป็นผู้ที่ต้องการเป็นสักขีพยานในอำนาจของหัวหน้าแก๊งเต่าดำ ไม่เพียงแค่นั้น ยังมีพวกกลุ่มคนที่ไม่พอใจและอยากเห็นเสี่ยวเฉิงถูกฆ่าตายในการประลองอย่างนายน้อยหยุนและพรรคพวกอีกด้วย

ทั้งนี้ หลินดงและพี่ชายพร้อมกับเพื่อนสนิทอีกสองสามคนเองก็มาที่นี่ด้วย พวกเขาเข้ามาอยู่ในสนามเรียบร้อย ทุกคนเพียงแค่รอให้การประลองเริ่มต้นขึ้นเท่านั้น

ในตอนนี้ ยังเหลือเวลาอีกประมาณหนึ่งชั่วโมงก่อนที่การประลองจะเริ่ม… ผู้คนที่เข้ามาในสนามกีฬาก็มีอยู่ประมาณหนึ่งพันคนแล้ว

ท่ามกลางผู้คนมากมาย การมาถึงของตำรวจดูจะดึงดูดความสนใจคนอื่นไม่น้อย พวกเขารีบพลันตรงไปยังห้องวีไอพีทันที

ทว่า สิ่งที่น่าแปลกใจก็คือเหล่าทหารจากกองทัพภาคที่แปดของเมืองซ่างเฉิงก็มาที่นี่ด้วย ไม่ว่าจะเป็นหยานเหว่ย อู๋ห่าว หวังหยิง ชิเหวินปินและผู้พัน ถึงแม้ว่าผู้พันจะเป็นเพียงคนเดียวในกลุ่มที่ไม่อยากมาในตอนแรก แต่หวังหยิงก็พลันลากเขามาจนได้

ผู้คนมากมายมาจากทั้งกรมตำรวจ รัฐบาลและแม้แต่กองทัพ ทุกคนพลันทำให้บรรยากาศภายในสนามกีฬาคึกคักขึ้นมาทันที แต่ถึงกระนั้น ก่อนการประลองจะเริ่มขึ้น ทุกคนต่างก็โบกมือทักทายกันพร้อมกับป่าวประกาศว่าตนเลือกที่จะสนับสนุนและเดิมพันกับฝ่ายไหน

อย่างน้อย 98% ของผู้มาเยือนในวันนี้ต่างก็เคยได้ยินชื่อเสียงเรียงนามหัวหน้าแก๊งเต่าดำมาก่อนแล้ว อีกทั้ง คนส่วนใหญ่ที่นี่ก็ไม่ค่อยรู้อะไรเกี่ยวกับเสี่ยวเฉิงเลยด้วยซ้ำ เพราะฉะนั้น ดูเหมือนว่าการวางเดิมพันส่วนใหญ่จะถูกเทไปเพียงแค่ด้านเดียว

ไม่เพียงแค่นั้น ตัวแทนอีกสามคนจากแก๊งจตุรเทพก็มาที่นี่ด้วยเช่นกัน ทันทีที่เห็นเจ้าหน้าที่มากหน้าหลายตาที่กำลังยืนอยู่ข้างสนาม ตัวแทนของแก๊งมังกรฟ้าแห่งท่าเรือ ตัวแทนของแก๊งเสือขาวแห่งคาสิโนยักษ์ใหญ่ และตัวแทนของแก๊งหงส์แดงแห่งอุตสาหกรรมอาหารและอสังหาริมทรัพย์ต่างก็เดินเข้ามาทักทายกัน

“อ่า ไม่ได้เจอกันนานเลยนะ อันที่จริง บอกกันล่วงหน้าก่อนก็ได้นะว่าจะมาน่ะ พวกเราจะได้จัดเตรียมห้องวีไอพีเอาไว้ให้” ตัวแทนของแก๊งเสือขาวพลันกล่าวคำพูดและยื่นมือออกมา

ทันใดนั้น ผู้บังคับบัญชาคนหนึ่งจากกรมตำรวจก็พลันกล่าวคำพูดขึ้นมาอย่างใจเย็น “ไม่ได้เจอกันนาน? ปกติพวกนายไม่ได้ติดต่อกันตลอดหรือยังไงกัน? แต่ยังไงก็เถอะ เราทั้งสองฝ่ายอาจจะได้เจอกันบ่อยกว่านี้ในอนาคตก็ได้ โดยเฉพาะในถิ่นของฉัน”

นี่ก็ถือเป็นการยั่วโมโหอย่างหนึ่ง เพราะเจ้าหน้าที่ตำรวจและแก๊งสี่จตุรเทพเองก็ไม่ได้ถูกชะตากันอยู่แล้ว

ทั้งนี้ แก๊งสี่จตุรเทพก็เปรียบเสมือนประวัติศาสตร์ที่ดำมืดและน่าปวดหัวที่สุดของเมืองซ่างเฉิงมาโดยตลอด นอกจากนี้ การกำจัดคนเหล่านี้ให้สิ้นซากก็เป็นเหมือนภารกิจหนึ่งที่เจ้าหน้าที่ตำรวจทุกคนต่างก็มุ่งมั่นที่จะทำให้สำเร็จอีกด้วย แต่ทว่า รากฐานของแก๊งสี่จตุรเทพในปัจจุบันนั้นก็ลึกเกินไป เพียงแค่อำนาจและอิทธิพลของเจ้าหน้าที่ตำรวจอย่างเดียวยังไม่สามารถโค้นล้มและกำจัดคนเหล่านี้ได้ ถึงอย่างไร กองกำลังตำรวจเองก็ไม่เคยยอมแพ้กับเรื่องนี้เลย ทุกหน่วยงานต่างก็จับตาดูพวกเขาอย่างใกล้ชิด ด้วยเหตุนั้น นี่จึงเป็นเหตุผลที่แท้จริงว่าทำไมผู้นำระดับสูงแต่ละคนของแก๊งสี่จตุรเทพไม่ค่อยอยากจะแสดงตัวต่อหน้าสาธารณชน แต่ทว่า ในคราวนี้ เสี่ยวเฉิงกลับไปยั่วโมโหผู้นำของแก๊งเต่าดำเข้าโดยบังเอิญ ด้วยความที่แก๊งเต่าดำเองก็เป็นหนึ่งในแก๊งระดับล่างสุดของสี่จตุรเทพอยู่แล้ว แต่กลับต้องมาถูกเจ้าหน้าที่ลาดตระเวนยศต่ำต้อยทำให้อับอายจนเสียชื่อเสียง… หากเจ้าหน้าที่ลาดตระเวนอย่างเสี่ยวเฉิงไม่ได้รับโทษ ความแข็งแกร่งและอิทธิพลของแก๊งเต่าดำก็คงจะตกต่ำจนถึงที่สุด และเมื่อเวลานั้นมาถึง ความแตกต่างระหว่างการมีอยู่ของแก๊งเต่าดำในเมืองซ่างเฉิงก็คงจะไม่มีความหมายและไม่มีใครเกรงกลัว นั่นคือเหตุผลที่ผู้นำของแก๊งเต่าดำตัดสินใจใช้โอกาสนี้ในการประกาศความมุ่งมั่นสองอย่างให้โลกภายนอกรู้… หนึ่งคือหัวหน้าแก๊งเต่าดำยังคงมีชีวิตอยู่ และสองคือเขาจะฆ่าเสี่ยวเฉิงต่อหน้าเจ้าหน้าที่ทุกคนเพื่อโชว์ว่าอำนาจและอิทธิพลของแก๊งเต่าดำนั้นยิ่งใหญ่มากเพียงใด!