ตอนที่ 133 – เดิมพันเพิ่มเติม

*ก่อนจะอ่านนิยาย โปรดตรวจสอบว่าท่านได้อยู่ในสถานที่ที่มีแสงเพียงพอ หรือถ้าท่านอ่านในความมืดก็อย่าลืมเปิด Night Mode หรือจอส้ม เพื่อป้องกันการปวดหัวและสายตาสั้นด้วยนะครับ*

“ลอร์ดซาตานเรามาเริ่มกันตามที่ท่านพูดได้แล้ว!”

“ใช่เริ่มซักที!”

“ข้าเอาด้วย!”

พวกวัยรุ่นตะโกนออกมาทีละคนๆ, แต่ละคนอยากจะลงแข่งด้วยทั้งนั้น, มันจะต้องมีแต่ได้กับได้แน่และนี่แหละคือสันดานที่แท้จริงของชนชั้นสูงล่ะ, พวกเขาไม่สนเลยว่าจะชนะหรือไม่ มีแต่มารยาทเท่านั้นที่หายไป

“นายน้อยปอมปีย์ ท่านอยากลงแข่งด้วยไหมล่ะ?”

เย่เทียนถามปอมปีย์ด้วยรอยยิ้ม.

“แน่นอน! ข้าจะลงแข่งด้วย! ข้าไม่เชื่อหรอกนะว่าปากของท่านจะทําให้ม้ามันวิ่งเร็วขึ้นได้จริงๆนะ! ถ้าเป็นจริงล่ะก็ คงจะกล้าพูดได้เลยว่าเป็นปาฏิหารย์ล่ะนะ!!”

ปอมปิย์กัดฟันแล้วพูดด้วยน้ำเสียงภาคภูมิ

“โอเคงั้นมาเริ่มกันเลย!”

เย่เทียนยิ้มอีกครั้ง ม้าศึกของพวกวัยรุ่นนี้ดูดีทุกตัว. พวกมันสามารถลากรถไปรอบๆลานแข่งในขณะที่ใส่เกราะหนักด้วยยังได้เลย

เย่เทียนนับดูแล้วมีม้าศึกดีๆอยู่ทั้งหมด16ตัว

ม้าพวกนั้นจะต้องมาอยู่ในกํามือเขาในไม่ช้าแล้วเขาก็จะสามารถตั้งกองทัพด้วยทหารม้า16คนเลย.

ทหารม้า16คนนั้นไม่เพียงพออยู่แล้ว แต่ก็ดีกว่าไม่มีอะไรเลย

ม้าศึกนั้นหายากมากๆ

แต่รอบนี้ เย่เทียนไม่จําเป็นต้องเข้าร่วมสงครามใหญ่ๆเพื่อหาพวกมันเลย

“รอเดี๋ยวก่อน, ยังมีอีก”

สกิบิโอ้ตัวน้อยห้ามเย่เทียนไว้

“เจ้าหนูสกิบิโอ้, เจ้ามีอะไรอยากจะเสนออีกรึ?”

เย่เทียนถาม.

“ใช่ครับ! ข้าอยากจะขอเดิมพันเพิ่มเติมกับท่านลอร์ดซักหน่อย! เห็นท่านมั่นใจมาก ท่านกล้าป่าวล่ะ?”

อาสการ่าถามเย่เทียนต่อหน้า

“แน่นอนอยู่แล้ว เจ้าอยากจะเดิมพันอะไรเพิ่มละ?”

เย่เทียนยิ้มแล้วพูด

“ข้าอยากจะเดิมพันทาสเพิ่ม!”

อาสการ่าพูด “เท่าที่ข้ามา ท่านลอร์ดน่าจะมีทาสหญิงสวยๆน่าขย้ำเยอะนะ !”

“ใช่! ข้าชอบสะสมทาสหญิงสวยๆน่ะ…แต่ข้าชอบทาสหญิงที่บริสุทธิ์ล่ะนะ”

เย่เทียนยิ้มแล้วกล่าว

“ข้าเพิ่งได้ทาสหญิงมา3คน, มารดากับลูกสาว2คนของเธอ! ไม่ต้องกังวลหรอก ไม่มีใครได้แตะตัวพวกนางเลย พวกนางบริสุทธิ์มากๆแถมยังหัวแดงอีกด้วย!”

อาสการ่าอธิบาย “ข้ามีทาสหญิงเหลือใช้อยู่แล้ว ดังนั้นข้าจึงจะใช้พวกนั้นเดิมพันกับท่าน ถ้าท่านมั่นใจว่าจะชนะจริงๆ, ท่านก็วางเดิมพันมาเป็นเหรียญทอง เอาเป็นเหรียญทอง2พันเหรียญแล้วกัน!”

หัวแดง? พวกนางมาจากเผ่าเคลติคงั้นหรอ?

เย่เทียนตะลึงอยู่พักนึง. พวกเคลท์, เยอรมันและสลาฟถูกเรียกว่าเป็น 3 สุดยอดเผ่าบาบาเรี่ยนแห่งยุโรปโดยคนโรมัน. ณ เวลานี้พวกเขายังไม่ถูกสาธารณะรัฐโรมันเข้ายึดครอง

สิ่งที่โดดเด่นของชาวเคลติคก็คือพวกเขามีสีผมแดงคล้ำราวกับโลหิต

“ใช่แล้ว สาวงามแห่งบาบาเรี่ยนยังไงล่ะ!!”

อาสการ่ากล่าวอย่างขึงขัง

“หญิงชาวบาบาเรียนพวกนั้นเจ้าคิดจริงๆหรอว่าจะแลกด้วยเหรียญแค่2พันเหรียญ?”

เย่เทียนยิ้ม.

“ทาสหญิงพวกนี้ไม่ได้ปาเถื่อนเหมือนชื่อเผ่านางหรอกนะ, ขอแค่สวยก็พอแล้ว สายเลือดพวกนั้นก็ไม่สําคัญแล้วหนิ จริงมั้ย? แน่นอนว่าถ้าพวกนางมีแค่ตัวคนเดียวก็คงจะไม่สมราคาหรอก แต่นี่แม่กับลูสาวเลยนะ น่าจะสมราคา…”

อาสการ่าอธิบายให้เย่เทียนฟังพร้อมรอยยิ้มที่ผู้ชายน่าจะเข้าใจกันดี จากนั้นก็มองไปทางเคช่าที่อยู่ข้างๆเย่เทียนอย่างมีเลศนัย.

ที่ที่ไอ้หมอนี่มันไม่ได้กระจอกเลย จะเผาชั้นต่อหน้าเคช่าล่ะสิ? แกพยายามจะทําให้เคช่าอิจฉาแล้วก็สร้างความร้าวฉานระหว่างเราสินะ?

เย่เทียนมองความคิดและแผนของอาสการ่าทะลุปุโปร่งในพริบตา, ไม่แปลกใจเลยว่าทําไมหมอนั่นอยากจะเอาทาสหญิงมาเดิมพันนัก

“งั้น เราก็เอาตามนั้นแล้วกัน ข้าขอวางเดิมพันทาสหญิงทั้ง3ของเจ้าด้วยเหรียญทอง2พันเหรียญ!”

เย่เทียนเมินเคซ่าไปแล้วพยักหน้าตอบรับ

อาสการ่า…เยี่ยมมาก เจ้าแยบยลมาก. ซาตาน, เจ้าบ้านี่มันมีตระกูลจูเลียสเป็นผู้หนุนหลังถ้างานแต่งล่มล่ะก็ ซาตานมันก็ไม่มีอะไรเหลือเลย

ปอมปิย์คิดและรู้สึกยินดีหน่อยๆ

“มีใครอยากจะวางเดิมพันกับข้าเพิ่มอีกไหม?”

เย่เทียนถามอย่างใจเย็น.

คนอื่นๆก็คิดอยู่เหมือนกัน แต่พวกเขาก็ตั้งใจไว้

“งั้นก็เตรียมตัว, กติกาคืออะไรล่ะ เจ้าพูดมาได้เลย!”

พอเห็นว่าไม่มีใครยกมือแล้ว เย่เทียนก็ยิ้มแล้วหันไปหาม้าของเคช่า

“กติกานั้นง่ายมากๆ. ท่านเห็นต้นไม้ที่ตีนเขาไกลๆนั่นไหม? ขี่ม้าไปแล้วหยิบใบไม้มา คนที่กลับมาวางใบไม้บนหินได้ก่อนคือผู้ชนะ!”

ปอมปิย์ก็ขึ้นม้าของเขาไปเช่นกัน แล้วควบมันมาข้างๆเย่เทียนจากนั้นก็ชี้ไปทางต้นไม้ใหญ่ที่อยู่ไกลไปประมาณ1กิโลเมตรแล้วอธิบายให้เย่เทียนฟัง.

“งั้นก็ไม่มีปัญหา!!”

เย่เทียนพยักหน้าแล้วเตรียมตัวขณะที่คนอื่นๆควบม้ามายืนข้างๆ

“ สาม, สอง, หนึ่ง, ไปได้เ”

หญิงชั้นสูงคนหนึ่งวิ่งมาที่เส้นด้วยความตื่นเต้นจากนั้นก็นับถอยหลังเสียงดังแล้วตะโกนออกไปในครั้งสุดท้าย

“ไปเลย!”

“ไปเลย!”

ทุกๆคนตะโกนออกมาพร้อมกันแล้วควบม้าไปอย่างรวดเร็ว

ฮ่ๆๆๆๆ

เย่เทียนควบม้าทะยานออกไป

“ฮ่าฮ่าซาตาน, ท่านบอกไม่ใช่ว่าจะเร่งความเร็วม้าด้วยฝีปากของท่านน่ะ?”

เด็กหนุ่มคนหนึ่งตามหลังแซงขึ้นหน้าเขามาแล้วหัวเราะใส่เย่เทียน

“เร็วขึ้นอีก!”

เด็กหนุ่มคนนั้นหวดม้าของเขาอย่างแรงแล้วแซงเย่เทียนไปทันที

“ฮ่าฮ่า…”

เย่เทียนยิ้มจากนั้นก็ตะโกนไปทางปาไกลๆ “สโนวไวท์, คํารามให้ข้าที, ทําให้ม้าตัวนี้วิ่งให้เร็วขึ้นอีก!”

เจ้ายูนิคอร์นนั้นมีสติปัญญาสูงมาก พอได้รับความภักดีจากมันแล้ว เจ้ายูนิคอร์นก็สามารถเข้าใจคําพูดของเย่เทียน, เย่เทียนเองก็พิสูจน์ไปแล้วด้วย

ขณะเย่เทียนควบม้าไปนั้นก็มีเสียงคํารามดังออกมาจากปา กังวาลไปทั่วสนามแข่ง

ม้าศึกที่เย่เทียนขอยู่นั้นเหมือนจะได้รับคําสั่งบางอย่าง, ทั่วทั้งร่างกายของมันจู่ๆก็มีพละกําลังขึ้นมา กีบเท้าทั้งสี่ของมันกระทั่งกับพื้นดินอย่างดุดัน ความเร็วของมันเพิ่มขึ้นมาอย่างมากในทันทีแล้วก็ทะยานออกไปราวกับสายฟ้า

ม้าศึกตัวอื่นๆผวาเล็กน้อย, พวกมันตะลึงไปพักหนึ่งจึงทําให้ความเร็วลดลงอย่างมาก

“ม้าเวร…”

“บ้าเอ๊ย…”

“ไอ้ระยําเอ้ย…”

ม้าของพวกนั้นมีความเร็วลดลงในทันทีจนเกือบเหวี่ยงคนที่ขี่บนหลังพวกมันตกไป. พวกชนชั้นสูงนั้นขี่ม้าเก่งจึงแก้สถานการณ์ไม่ให้ร่างกายร่วงลงไปได้ แต่พวกเขาก็ฉุนมากจนสบถออกมาอย่างดัง