ตอนที่ 198 ดูถูก

ตอนที่ 198 ดูถูก

ซูเถาไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากโทรไปหาเซิ่งอวี๋ชิง ตั้งแต่เซิ่งอวี๋ชิงถูกชักชวนให้เข้าร่วมกองทัพครั้งล่าสุด เธอก็มีโอกาสได้เรียนกับเผยตง แต่คิดไม่ถึงว่าจะไม่สามารถติดต่อกับเซิ่งอวี๋ชิงได้เช่นกัน

ครั้งสุดท้ายเธอโทรหาสิงซูอวี่ และทำให้เธอได้รู้ว่าซอมบี้ที่พัฒนาแล้ว 18 ตัวพยายามโจมตีในระยะสามกิโลเมตรจากประตูตงหยางหมายเลข 3 ซึ่งเผยตงกำลังระดมกำลังคนไปสนับสนุนที่นั่น

“ต้องการความช่วยอะไรจากฉันไหม” ซูเถาตกใจ

ซอมบี้ที่มีวิวัฒนาการมา 18 ตัวนั้นน่ากลัวเกินไป

เมื่อเวลาผ่านไป จำนวนของเคียวโลหิตที่มีวิวัฒนาการเพิ่มมากขึ้น

สิงซูอวี่ส่ายหัวและพูดอย่างเคร่งขรึม

“น้ำและอาหารที่คุณส่งมาให้เราเพียงพอแล้ว ปัญหาตอนนี้คือมีช่องว่างขนาดใหญ่ ฉันเกรงว่าในครั้งนี้เรามีโอกาสที่จะสูญเสียเขตสุ่ยฝูไป”

ซูเถาเงียบลง

เขตสุ่ยฝูค่อนข้างใกล้กับใจกลางเมืองซึ่งนี่ไม่ใช่สัญญาณที่ดี

สิงซูอวี่ถอนหายใจและกล่าวว่า “จริง ๆ แล้ว เราได้คำนวณไว้แล้วว่ามีทหารส่วนน้อยที่เสียชีวิตจากความอดอยากและกระหายน้ำในสนามรบ ดูอย่างที่อวิ๋นชางและโส่วอันที่อยู่ข้าง ๆ พวกเขาขาดน้ำและอาหารมาเป็นเวลานาน ถือว่าพวกเราดีกว่ามาก”

“แม้ว่าเขตสุ่ยฝูจะอยู่ใกล้กับใจกลางเมือง แต่กำแพงเมืองที่นี่ใกล้จะเสร็จแล้ว ตราบใดที่พี่เผยและพวกยังรับมืออยู่อีกหนึ่งอาทิตย์ พวกเราก็จะยังคงมีโอกาสหายใจ”

ซูเถาวางหูโทรศัพท์ด้วยความหนักใจ

ไม่ เธอรู้สึกอยู่เสมอว่าตงหยางอาจไม่สามารถอดทนได้นานเกินไป

เธอต้องเตรียมการบางอย่าง มิฉะนั้นในเวลานี้จำนวนคนไร้บ้านจะเพิ่มขึ้นอย่างมาก

อาคารที่พักปัจจุบันของเถาหยางแม้แต่ห้องเดี่ยวก็ไม่ใช่ราคาถูก เธอต้องอัปเกรดอย่างรวดเร็ว เพื่อปลดล็อกประเภทห้องพักรวม ลดค่าเช่า เพื่อช่วยลดความหนาแน่นของประชากร

และนี่ก็เป็นเรื่องดีสำหรับเธอด้วย ไม่เพียงแต่เธอจะสามารถอัปเกรดได้อย่างรวดเร็วเท่านั้น แต่ยังได้รับค่าเช่าเพิ่มขึ้นอีกด้วย

ในอีกสามวันต่อมา ซูเถายังคงเดินเครื่องและปล่อยให้หม่าต้าเพ่าและจวงหว่านกระจายข่าวการขายวัสดุและการซื้อผลึกนิวเคลียสในขณะที่สร้างบ้านอย่างเมามัน

เธอสร้างห้องเดี่ยว 20 ห้อง ห้องคู่ 10 ห้อง และห้องชุดแบบ 2 ห้องนอน 1 ห้องนั่งเล่นอีก 10 ห้องโดยใช้เวลาถึงสามวันติดต่อกัน

เมื่อเมิ่งเชียนได้เห็นห้องว่างที่เพิ่มขึ้นอย่างมากมายตาของเธอก็แทบจะถลนออกมา

ดวงตาของซูเถาแดง “รีบคัดกรองแบบฟอร์มใบสมัคร และอย่าเพิ่งพิจารณาคนจากฐานอื่น ให้มุ่งเน้นไปที่คนจากตงหยางก่อน”

เมิ่งเชียนพยักหน้าอย่างแรงและรีบไปทำงาน

ทันทีที่เมิ่งเชียนออกไป เหลยสิงก็เข้ามา เขามองไปที่ดวงตาแดงก่ำของซูเถา แล้วขมวดคิ้วถามอย่างงุนงง

“ทำไมคุณถึงรีบร้อนขนาดนี้ ตงหยางมันเกี่ยวอะไรกับคุณ”

ซูเถากล่าวว่า “คนอย่างคุณที่อยู่ทุกที่ไม่เข้าใจหรอก”

เหลยสิงไม่เข้าใจและถามว่า

“ผมได้ยินมาจากหม่าต้าเพ่าว่าคุณกำลังกว้านซื้อผลึกนิวเคลียสจากคนนอกและขายวัสดุก่อสร้างเพื่อขอความร่วมมือ?”

ซูเถาพยักหน้า

มีฐานและองค์กรมากมายที่ได้ยินข่าวนี้ แต่ส่วนใหญ่ไม่เชื่อในเถาหยางของเธอและคอยจับตาดูอยู่

เหลยสิงกล่าวว่า “ผมเพิ่งปรึกษากับพวกพ้องของผม คุณสามารถแบ่งที่ดินให้พวกเราเช่า เพื่อสร้างเป็นฐานของกลุ่มเป้าถู ส่วนค่าเช่าที่ดินนี้ คุณต้องการเป็นเงินหรือผลึกนิวเคลียส?”

ซูเถารู้สึกตื่นตัว “ไม่ใช่ว่าพวกคุณมีอาณาเขตอยู่ข้างนอกเหรอ?”

เหลยสิงอึดอัดใจเล็กน้อย “มันอยู่ไกลจากเถาหยางเกินไป และทำเลก็ไม่ค่อยดีนัก มันไม่ดีเท่าฝั่งคุณที่มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครันและสภาพแวดล้อมที่สวยงาม”

“คุณต้องการที่ดินเท่าไหร่”

“หนึ่งพันตารางเมตร เพียงพอที่จะมีอาคารที่พัก สนามฝึกซ้อม สนามยิงปืน โรงอาหารเล็ก ๆ แยกเป็นสัดส่วน ฯลฯ และเป็นพื้นที่ส่วนตัว ไม่อนุญาตให้บุคคลภายนอกเข้าไป”

ใบหน้าของซูเถาสลดลง “ความต้องการของคุณค่อนข้างสูง”

เหลยสิงยิ้ม “ดังนั้น คุณต้องการเงินหรือผลึกนิวเคลียส”

ในใจของซูเถาพลิกคิดกลับไปกลับมา และเธอก็ยื่นมือออกมาแล้วพูดว่า

“ได้ แต่คุณต้องให้ผลึกนิวเคลียสกับฉันก่อนสองอัน เพื่อเป็นการมัดจำ และคุณก็ต้องจ่ายค่าก่อสร้างอีกต่างหาก ซึ่งอาจจะต้องใช้เวลา…ฉันจะไปหาหรงหรงเพื่อให้เธอจัดงบประมาณให้ฉัน จากนั้นฉันจะรายงานให้คุณทราบอีกที”

เหลยสิงตรงไปตรงมา และเอ่ยเรียกต้าจุ่ย “คายผลึกนิวเคลียสทั้งสี่ให้เถ้าแก่ซู”

ต้าจุ่ยอ้าปากกว้าง เขาถ่มผลึกนิวเคลียสออกมาสี่อัน และเช็ดมันบนเสื้อผ้าก่อนส่งให้ซูเถา

ซูเถาไม่ได้หยิบมันขึ้นมา แต่มันไม่สำคัญว่าเธอจะหยิบมันขึ้นมาหรือไม่ เธอลังเลเล็กน้อย

“สอง ไม่ใช่สี่…”

เหลยสิงเข้าไปที่ปากของต้าจุ่ย พร้อมกับหยิบผลึกนิวเคลียสขึ้นมาด้วยตัวเอง เขานำมันไปล้างมันข้างน้ำพุแล้วยัดให้ซูเถา

“สี่อันนี้เป็นสิ่งที่ผมคุยกับพรรคพวกแล้ว คุณรับเอาไว้เถอะ แล้วในทุก ๆ เดือนผมจะหักเงินเดือนของกลุ่มทหารรับจ้าง 10% มาจ่ายให้คุณ โดยเฉลี่ยแล้วเดือนหนึ่งน่าจะจ่ายให้คุณได้สี่แสนถึงหกแสนเหลียนปัง นี่เป็นเงินไม่มาก แต่ผลึกนิวเคลียสที่เราเก็บได้จะมอบให้คุณตามสัดส่วน 10%”

“คุณคิดว่ายังไงบ้าง”

ซูเถาไม่ได้คาดหวังว่าจะได้รับสิ่งดี ๆ เช่นนี้ “ให้ทั้งเงินและผลึกนิวเคลียสกับฉันเหรอ”

เหลยสิงยิ้มและพยักหน้า

“ถ้าการทำธุรกรรมนี้เสร็จสิ้น ฉันจะพยายามสร้างที่ดินของคุณในช่วงครึ่งแรกของเดือนกันยา”

ใช่แล้ว ที่ดินขนาด 1,000 ตารางเมตรที่สถานีเก่าควรมอบให้กลุ่มเป้าถู

……

เขตตะวันออก

“กู้ กู้เหล่าต้า…ผมได้ยินมาว่าเป้าถูกำลังจะขายที่ดินผืนนั้น…”

กู้หมิงฉือยังคงไม่เคลื่อนไหว สายตาของเขามองไปที่รองเท้าของเขาแล้วพูดว่า

“เหลยสิงเล่นตัวมากไม่ใช่เหรอ? สถานที่ทรุดโทรมแบบนั้น คิดจะขายก็ขายเหรอ? หรือเขาร้อนเงิน?”

ผู้ช่วยกลืนน้ำลายและพูดว่า “ได้ยินมาว่าพวกเขาพบสถานที่ที่ดีกว่า”

กู้หมิงฉือเยาะเย้ย “จะไปไหนก็ไป แต่อย่าให้ฉันเจอหน้าแล้วกัน ไม่งั้นมันได้ฟันหลุดออกจากปากแน่”

หลังจากรออยู่พักหนึ่ง เมื่อเห็นว่าผู้ช่วยยังอยู่ที่เดิม เขาถามอย่างร้อนใจ

“มีอะไรอีก”

ผู้ช่วยสั่นเล็กน้อย “กลุ่มเป้าถูต้องการขายที่ดินให้คุณ และตั้งราคาเพียงสองร้อยห้าสิบเหลียนปังเท่านั้น…”

กู้หมิงฉือโกรธ “คิดจะดูถูกฉันหรือไง? ไปสืบมาว่าพวกเขาย้ายไปอยู่ที่ไหน! ฉันกล้าที่จะยึดครองดินแดนของพวกเขาครั้งแรก ฉันก็กล้าที่จะยึดครองที่ของพวกเขาเป็นครั้งที่สอง!”

……

อู๋เจิ้นดูแลต้นไม้สีเขียวที่แตกหน่อบนระเบียงของอาคารเถาหลี่

หลังจากปลูกดอกลิลลี่ เขาก็ดมกลิ่นด้วยความพึงพอใจ จากนั้นเงยหน้าขึ้นมองเรือนกระจกที่อยู่ในระยะไกล หัวใจเขารู้สึกสงบนิ่ง

กว่าจะรู้ตัวก็เกือบครึ่งปีแล้วตั้งแต่มาที่เถาหยาง ฝันร้ายทั้งหมดในโส่วอันดูเหมือนจะค่อย ๆ เลือนรางไป แต่เมื่อนึกถึงหมิ่นต๋าและภรรยา เขาก็ยังรู้สึกเจ็บปวดใจ

ตราบใดที่ไม่มีใครพูดถึงมันอีก บางทีเวลาอาจจะช่วยเยียวยาทุกสิ่ง แค่เขาคิดถึงเรื่องนั้นก็เหมือนมีคนมาสะกิดแผลเป็น

เขารับสายของเจียงชิงเซียง ตอนแรกเขารู้สึกงุนงงและจำไม่ได้ด้วยซ้ำว่าบุคคลนี้คือใคร

“เสี่ยวเจิ้น ฉันได้ยินมาว่านายอยู่ที่ตงหยาง เขตเถาหยางนั่นใช่ไหม แล้วภรรยาและลูกของนายล่ะ อาศัยอยู่ที่นั่นด้วยกันหรือเปล่า”

ใบหน้าของอู๋เจิ้นแย่ลงทันที “คุณนายเจียง ถ้าคุณมีอะไรจะพูด คุณก็พูดออกมาตรง ๆ เลยดีกว่า”

เจียงชิงเซียงอารมณ์เสียเล็กน้อย

ย้อนกลับไปในตอนนั้น อู๋เจิ้นเป็นเพียงคนสวนตัวน้อยในสวนหลังบ้านของเธอ

ตอนนี้ ครอบครัวเจียงกำลังตกอยู่ในอันตราย และไม่ว่าจะมีอาวุธมากมายแค่ไหนครอบครัวเจียงก็ไม่สามารถป้องกันตัวเองได้ เพราะหากไม่มีอาหารเพียงพอพวกทหารก็ไม่สามารถออกไปได้

เธอได้ยินมาว่าเขตเถาหยางที่อยู่ในตงหยางมีเสบียง และผู้ที่มีเงินเท่านั้นที่สามารถซื้อได้

เธอไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากหันไปหาคนสวนคนเดิม

ไม่งั้นเธอคงไม่อดทนกับท่าทางหยิ่งยโสนี้ได้

เจียงชิงเซียงอดทนและถามด้วยน้ำเสียงที่ดี “ฉันแค่อยากจะถามนายว่า เถาหยางนี้เชื่อถือได้หรือเปล่า มีเสบียงจริงไหม บอกความจริงมา ฉันไม่หวังผลประโยชน์จากนายหรอก”