ยันต์ม่านกระจกฉายลักษณ์
“เจ้า?”
หลังได้ยินเสียงผ่านปราณแท้ของต้วนหลิงเทียน เห็นชัดว่าหลิวฮ่วนตะลึงไปไม่น้อย ไม่นานค่อยกล่าวถามออกมาอย่างดูถูก “อาศัยเจ้าน่ะรึฆ่าจ้าวเฟิง? เรื่องไร้สาระดั่งฝันละเมอ!!”
“จะไร้สาระดั่งฝันละเมอหรือไม่ เดี๋ยวเจ้าจะได้รู้เอง!”
ต้วนหลิงเทียนตอบกลับอย่างไม่แยแส
ขณะเดียวกัน ความว่างเหนือร่างเขาพลันปรากฏมังกรเทพยาดาขึ้นมาจากปราณแท้ควบแน่นมีสภาพ ทั่วกายมังกรพลังดังกล่าวยังมีปราณโลหิตหนาแน่นขุ่นขลั่ก!
ทันใดนั้น เสียงมังกรคำรามก็กึกก้องลั่นป่า!
ร่างใหญ่เคลื่อนไหวฉับไว มังกรพลังของต้วนหลิงเทียนพุ่งจี้ไปยังสัตว์ปราณแท้มีสภาพที่ก่อร่างเหนือสีรษะของหลิวฮ่วนทันที!
การปรากฏตัวของมังกรเทพยาดา เหนือศีรษะต้วนหลิงเทียนทำให้หลิวฮ่วนอึ้งไปพักหนึ่ง!
มังกร!
กลับเป็นมังกรเทพยาดาจริงๆ!
ในตอนนี้มันตกตะลึงถึงขั้นลืมตระหนักไปว่าต้วนหลิงเทียนได้มาถึงขอบเขตสู่เซียนขั้นสมบูรณ์แบบแล้ว!
ในใจมันมีเพียงเรื่องเดียวเท่านั้น ปราณแท้ก่อลักษณ์สรรพสัตว์ของต้วนหลิงเทียนกลับเป็นมังกรเทพยาดา! อีกทั้งทั่วกายยังมีกลิ่นอายปราณโลหิต เผยให้เห็นชัดว่ามันเกิดจากการดูดซับแก่นแท้โลหิต!!
ปง! ปง!
เสียงสนั่นลั่นดังขึ้นสองครั้งติด ดึงสติหลิวฮ่วนให้กลับมาอยู่กับร่องกับรอยทันที
และตอนนี้ศาสตราปราณกับสัตว์ปราณของมัน ก็ถูกมังกรปราณของต้วนหลิงเทียน บดขยี้ไปเป็นที่เรียบร้อย!
“เจ้า…”
ในขณะที่หลิวฮ่วนหันมาจับจ้องมองต้วนหลิงเทียนด้วยใบหน้าตื่นตระหนก ต้วนหลิงเทียนก็เรียกกระบี่นิลสวรรค์และจ่ายปราณแท้ลงไป 3 ส่วน เปิดใช้พลังอำนาจของกระบี่ พร้อมวาดกระบี่ออกไปอย่างเรียบง่ายซ้ายไปขวาเบาๆ
เปรี๊ยะ! เปรี๊ยะ! เปรี๊ยะ!
……
ทันใดนั้นคล้ายมีเสียงบางสิ่งแตกระเบิดดังขึ้นในอากาศ
เป็น เขตแดนซบเซา จากปราณแท้ก่อเขตแดนของหลิวฮ่วน…
ถูกต้วนหลิงเทียนทำลายในกระบี่เดียว!
“ไม่จริง…เป็นไปมิได้!!”
เผชิญหน้ากับฉากนี้ ลูกตาหลิวฮ่วนเบิกโพลง ความตื่นตระหนกยากจะเชื่อฉายเต็มใบหน้า!
ในเวลาเพียงเสี้ยวพริบตา ปราณแท้ก่อลักษณ์ศาสตรา ปราณแท้ก่อลักษณ์สรรพสัตว์ และปราณแท้ก่อเขตแดนของมัน กลับถูกต้วนหลิงเทียนทำลายจนพินาศสิ้น!!
วิ้ง!
และในขณะที่หลิวฮ่วนตื่นตระหนกเสียขวัญ ต้วนหลิงเทียนก็ลงมืออีกครั้ง กระบี่นิลสวรรค์ตวัดผ่าอากาศฉับไว รังสีพลังสะบั้นพุ่งซัดออกจากกระบี่ ตัดแขนข้างที่ถือศาสตราเซียนของหลิวฮ่วนจนขาด ยังง่ายดายคล้ายใช้ดาบในตำนานผ่าเต้าหู้!
“อ๊ากกก!!” เมื่อแขนข้างที่ถือกระบี่ร่วงตกลงบนพื้น หลิวฮ่วนก็แหกปากร้องลั่นด้วยความเจ็บปวด ยามมองต้วนหลิงเทียนอีกครั้ง ลูกตาของมันยังทำราวกับพบพานภูตผี “จะ…เจ้า…ได้อย่างไร”
“ข้าแข็งแกร่งขนาดนี้ได้ยังไงหรอ?”
ต้วนหลิงเทียนย้อนคำหลิวฮ่วน กล่าวจบก็เผยยิ้มจางๆ ค่อยปริปากกล่าวถามเสียงเรียบ “อาวุโสหลิวฮ่วน ตอนนี้เจ้าเชื่อแล้วรึยัง? หรือยังคิดว่าที่ข้ากล่าวก่อนหน้าเป็นวาจาเหลวไหลหาสาระไม่ได้อยู่อีก?”
“ไม่จริง…เป็นไปมิได้! เรื่องนี้เป็นไปไม่ได้ ไฉนเจ้าถึงได้แข็งแกร่งขนาดนี้!?”
หลิวฮ่วนยังไม่อยากจะเชื่อ เพราะเรื่องนี้อยู่เหนือสามัญสำนึกของมันเกินไป!
ยังพึ่งผ่านไปเท่าไหร่กัน ต้วนหลิงเทียนที่เป็นได้แค่มดตัวกระจ้อยในสายตาของมัน กลับร้ายกาจเหนือมันไปแล้ว!
ยิ่งไปกว่านั้น กระบี่ในมือของต้วนหลิงเทียนก็เป็นอะไรที่น่ากลัวอย่างถึงที่สุด!
เพียงคลื่นสะบั้นเดียวจากกระบี่ดังกล่าว…กลับทำลายเขตแดนซบเซาของมันจนพินาศสิ้น!
“ไม่มีอะไรเป็นไปไม่ได้”
ต้วนหลิงเทียนกล่าวออกเสียงเบา กระบี่นิลสวรรค์ในมือเริ่มกู่ร้องออกมาอีกครั้ง ใบกระบี่ปรากฏแสงพลังสีครามฉาบคลุม หนึ่งกระบี่พุ่งแทงออกไปฉับไวไร้สำเนียง!
คราวนี้รังสีกระบี่พุ่งไปเป็นเส้นตรงดั่งลำแสงสังหาร หมายเสียบทะลวงกลางอกหลิวฮ่วน!
หลิวฮ่วนที่หวาดผวา แต่เดิมมันก็คิดจะชิงลงมือจบเรื่อง ไหนเลยยังมีกะใจนึกถึงการใช้วรยุทธ์ป้องกันได้ทัน มันจึงเลือกที่จะหลบหลีกทันที
แต่คิดหนีก็หนีได้หรือ?
ซึบ!!
รังสีพลังกระบี่พุ่งไวปานลำแสง ชำแรกเข้ากลางอกหลิวฮ่วนอย่างง่ายดาย ยังทะลวงกลางใจจนทะลุออกหลัง! คล้ายม่านพลังคลุมกายใดๆทั่วกายหลิวฮ่วนไร้สำคัญ ดั่งหนึ่งเท้าย่ำเหยียบใบไม้แห้งกรอบจนย่อยยับ!!
หลิวฮ่วน อาวุโสฝ่ายในของสำนักจันทร์จรัสแสง ที่สุดก็ตกตายไปเช่นนี้ ตกตายไปพร้อมกับความไม่เข้าใจ ยังตกตายด้วยน้ำมือศิษย์ใหม่ที่พึ่งเข้าสำนักมาได้ไม่ทันครบ 2 ปี…
กวาดทุกสิ่งริบแหวนมิติทุกอย่างจากศพของหลิวฮ่วนจนเหี้ยน ต้วนหลิงเทียนก็สะบัดมือทำลายซากศพของหลิวฮ่วนให้สลายหายไปไม่เหลือแม้แต่ธุลี…
ความจริง ออกมาคราวนี้เขาไม่ได้คิดล่อหลิวฮ่วนแม้แต่น้อย…
เขาแค่อยากออกมาผ่อนคลายจิตใจ ให้หายว้าวุ่นสับสน
เพราะก่อนหน้านี้ระหว่างบ่มเพาะฝึกฝน เขาก็รู้สึกว่าใจเขามันปั่นป่วนยากที่จะสงบลงได้ ทำอย่างไรก็ไม่เป็นผลคล้ายเสมือนกำลังจะเกิดเรื่องอะไรบางอย่าง…
อย่างไรก็ตามหลังจากฆ่าหลิวฮ่วนไป ความรู้สึกสับสนว้าวุ่นทั้งหลายก็อันตรธานหายไปเช่นกัน
และในขณะที่ฆ่าหลิวฮ่วน ต้วนหลิงเทียนไม่ทราบเลยว่ามีร่างหนึ่งลอบจับตามองเขาจากไกลๆ
ร่างนี้ยังไปมาไร้ร่องรอย พลังฝีมือน่ากลัวว่าจะเหนือกว่าหลิวฮ่วนคนละเรื่อง!
สามารถลอบเร้นปิดบังตัวตน จนต้วนหลิงเทียนไม่อาจสัมผัสได้ ย่อมเป็นตัวตนในขอบเขตเซียนแน่แท้!
‘มิคิดเลยว่าต้วนหลิงเทียนผู้นี้จะเก็บงำพลังฝีมือได้ยอดเยี่ยมนัก…หมายความว่าที่แท้ชือหมิงสมควรตกตายด้วยน้ำมือมันแล้วจริงๆ ยิ่งไปกว่านั้นกระบี่ในมือมันนั่นมันอะไรกันแน่ ไฉนกลิ่นอายถึงได้น่ากลัวและสูงส่งถึงเพียงนั้น พิกลนัก…’
ยอดฝีมือขอบเขตเซียนเผยตัวออกมาหลังจากที่ต้วนหลิงเทียนจากไป มันเป็นชายวัยกลางคนผู้หนึ่ง
ชายวัยกลางคนร่างใหญ่แลดูกำยำแข็งแกร่งนี้ไม่ใช่ใครที่ไหน เป็นยอดฝีมือขอบเขตเซียนของตลาดมืดหยินชาน ไท่หวู่!
ตั้งแต่ครั้งก่อนที่ผู้นำตลาดมืดหยินชานสาขา 9 พันธมิตรเพิกถอนภารกิจสังหารต้วนหลิงเทียนไป มันก็บังเกิดความสนใจในตัวต้วนหลิงเทียนไม่น้อย จึงเลือกที่จะลอบมาเฝ้าสังเกตการณ์ที่ด้านนอกสำนักจันทร์จรัสแสง
ก่อนหน้านี้มันก็ได้รับทราบถึงเรื่องวุ่นวายที่เกิดขึ้นในสำนักจันทร์จรัสแสงเช่นกัน
วันนี้ในขณะที่มันเฝ้ารอกระต่ายหน้าโพรง มันก็พบว่าต้วนหลิงเทียนกลับเดินออกมาจากสำนักจันทร์จรัสแสงด้วยตัวเอง
ไม่เพียงเท่านั้น ยังมีเรื่องน่าสนใจเกิดขึ้น เพราะอาวุโสฝ่ายในอย่างหลิวฮ่วนเลือกที่จะสะกดรอยตามต้วนหลิงเทียนออกมา ทั้งยังเผยเจตนาฆ่าต้วนหลิงเทียนให้มันเห็นชัด!
ตั้งแต่ต้นจนจบมันเลือกที่จะซ่อนตัวและรอดูชมเรื่องราว!
ในตอนแรกมันคิดว่าต้วนหลิงเทียนถึงคราวชะตาขาดแน่แล้ว…ทว่าผลลัพธ์กลับอยู่เหนือความคาดหมายของมันโดยสมบูรณ์ ผู้ที่ตายมิใช่ต้วนหลิงเทียน กลับเป็นอาวุโสฝ่ายในของสำนักจันทร์จรัสแสง!
ปรากฏการณ์มังกรเทพยาดา และกระบี่ลึกลับ!
ตอนนี้มันรู้สึกคล้ายต้วนหลิงเทียนเสมือนมีม่านแห่งความลึกลับปกคลุมไว้ทั่วกาย ยากที่มันจะหยั่งถึง!
กระบี่ลึกลับนั่นทรงพลังอย่างยิ่ง คงเป็นการโกหกหากบอกว่ามันไม่หวั่นไหว
อย่างไรก็ตามทันทีที่มันบังเกิดจิตคิดละโมบหมายช่วงชิงกระบี่ลึกลับเล่มนั้น ในใจมันก็บังเกิดสังหรณ์อัปมงคลแรงกล้า สัญชาตญาณยังร้องเตือนว่านี่เป็นอันตรายที่ถึงตาย!
ด้วยเหตุนี้มันจึงไม่คิดวู่วามด่วนลงมือ!
“ข้าล่ะอยากรู้นักว่าคนของสำนักจันทร์จรัสแสงจักทำหน้าอย่างไร หากได้เห็นฉากที่ต้วนหลิงเทียนฆ่าอาวุโสฝ่ายในเช่นนี้”
ทันใดนั้น ยันต์เต๋าแผ่นหนึ่งพลันปรากฏบนมือไท่หวู่ มุมปากเผยรอยยิ้มแสยะออกมา
ในฐานะที่มันเป็นตัวตนในขอบเขตเซียน ความเร็วย่อมเหนือกว่าต้วนหลิงเทียน!
นอกจากนี้ต้วนหลิงเทียนก็คิดออกมาเดินเล่นสูดอากาศเพื่อสงบใจเท่านั้น เขาจึงไม่ได้รีบร้อนกลับสำนักแต่อย่างใด ไท่หวู่จึงกลับมาถึงสำนักจันทร์จรัสแสงก่อนเขา
ทันทีที่ไท่หวู่มาถึงสำนักจันทร์จรัสแสง มันก็เลือกบุกรุกมาถึงใจกลางสำนัก ทำให้ตัวตนในขอบเขตเซียนของสำนักจันทร์จรัสแสง รวมถึงเจ้าสำนักอย่างเจียงเว่ยที่พักอยู่ในเขตหวงห้ามสัมผัสได้ถึงการมาเยือนของมันทันที! ทั้งหมดเร่งเหินขึ้นมาในอากาศ!!
ตอนนี้เองไท่หวู่เร่งบดขยี้ยันต์เต๋าในมือ
ทันใดนั้นน่านฟ้าเหนือสำนักจันทร์จรัสแสงคล้ายปรากฏม่านพลังโปร่งแสงดั่งกระจก…หากต้วนหลิงเทียนอยู่ที่นี่คงอดไม่ได้ที่จะตกใจ เพราะนี่มันคล้ายกับภาพฉาย 3 มิติในโลกเก่าของเขานัก!
ยันต์เต๋าที่ไท่หวู่บดขยี้คามือคือยันต์เต๋า ม่านกระจกฉายลักษณ์!
ม่านกระจกฉายลักษณ์นั้นสามารถบันทึกสิ่งต่างๆที่เราเห็น ไม่ว่าจะเป็นคนสัตว์สิ่งของล้วนบันทึกได้หมดสิ้น! รวมทั้งสามารถฉายแสดงออกมาให้เห็นกันชัดๆ!!
หลังจากที่บดขยี้ยันต์เต๋าแล้ว ไท่หวู่ก็เร่งรีบหนีจากไป
ตอนนี้เองเจียงเว่ยและอาวุโสทั้งหลายที่รุดมาถึงน่านฟ้าก็พบ ภาพที่กำลังฉายอยู่กลางหาว ยังเป็นการดึงความสนใจของพวกมันจากการตามล่าตัวผู้บุกรุกทันที…
นั่นเพราะหนึ่งใน 2 ร่างที่ปรากฏในม่านแสงปานกระจกนั่น เป็นคนคุ้นเคยของพวกมัน!
“นั่นมันหลิวฮ่วนนี่…”
หนึ่งในอาวุโสสำนักจันทร์จรัสแสงกล่าวออกด้วยความแปลกใจ
“แล้วชายหนุ่มผู้นั้นเป็นใครกัน?”
“ดูเหมือนหลิวฮ่วนจักลอบสะกดรอยตามชายหนุ่มคนนี้”
……
เหล่าอาวุโสระดับสูงของสำนักจันทร์จรัสแสงที่ชมมองภาพที่ฉายเหนือฟ้าบนม่านแสง ก็รู้ได้ทันทีว่าหลิวฮ่วนกำลังลอบสะกดรอยตามชายหนุ่มในชุดสีม่วงที่พวกมันไม่รู้จัก
แน่นอนว่าเหตุผลที่เหล่าผู้ชรา ชนชั้นสูงของสำนักจันทร์จรัสแสงไม่รู้จักร่างในชุดสีม่วงก็ไม่แปลกอะไร
รวมทั้งเจียงเว่ยเองก็เช่นกัน แม้มันจะได้ยินชื่อเสียงเรียงนามต้วนหลิงเทียนมานานแล้ว แต่ยังไม่เคยพบตัวจริงสักครั้ง เป็นธรรมดาที่จะไม่รู้จักต้วนหลิงเทียน
อย่างไรก็ตามเจียงเว่ยและเฒ่าชราขอบเขตเซียนไม่รู้ ไม่ใช่ว่าคนในสำนักจันทร์จรัสแสงคนอื่นๆจะไม่รู้!
ทันทีที่ม่านแสงดั่งกระจกปรากฏบนฟ้าและฉายภาพเรื่องราว ผู้คนในสำนักจันทร์จรัสแสงก็ตื่นตระหนกกันยกใหญ่!
“นั่นมัน ม่านกระจกฉายลักษณ์นี่!!”
ศิษย์ฝ่ายในที่มีความรู้หลายคนของสำนักจันทร์จรัสแสงโพล่งออกมาด้วยความแปลกใจ
“ม่านกระจกฉายลักษณ์ กลับปรากฏบนฟ้า…หมายความว่ามีคนใช้ยันต์เต๋าม่านกระจกฉายลักษณ์…แม้ยันต์เต๋านี่จักมิได้ระบุระดับชั้นเอาไว้ แต่มีเพียงปรมาจารย์ยันต์เต๋าระดับสูงๆเท่านั้น ที่สามารถสร้างได้…”
อาวุโสฝ่ายในของสำนักจันทร์จรัสแสงหลายคนอดไม่ได้ที่จะแปลกใจ
“เฮ่! นั่นมันอาวุโสหลิวฮ่วนไม่ใช่รึ!? นั่นอาวุโสกำลังสะกดรอยตามผู้ใดไปกัน”
ศิษย์ฝ่ายในหลายคนจดจำหลิวฮ่วนได้ทันที
“เดี๋ยวนะ…ชุดสีม่วง แผ่นหลังไวๆนั่น… หรืออาวุโสหลิวฮ่วนลอบสะกดรอยตามศิษย์พี่ต้วนหลิงเทียนกัน?!”
“ไม่ผิดแน่! นั่นศิษย์พี่ต้วนหลิงเทียน!!”
“อาวุโสหลิวฮ่วนคิดทำอะไรกัน ถึงได้สะกดรอยตามศิษย์พี่ต้วนไปแบบนี้?!”
“นี่เจ้าไปอยู่ที่ใดมา มิรู้หรือว่าศิษย์พี่ต้วนมาจากเมืองชงซัน และอาวุโสหลิวฮ่วนก็บาดหมางกับเจ้าเมืองชงซัน ฟางฮุ่ย ที่เป็นครูของศิษย์พี่ต้วน! เรียกว่าอาวุโสหลิวฮ่วนนั้นเป็นศัตรูที่มิอาจอยู่ร่วมฟ้าเดียวกันกับฟางฮุ่ยก็ว่าได้! อาวุโสหลิวฮ่วนคิดลอบตามไปฆ่าศิษย์พี่ต้วนแน่ๆ!!”
……
เหล่าศิษย์ในสำนักจันทร์จรัสแสงอดไม่ได้ที่จะแตกตื่นเมื่อเห็นภาพที่ฉายอยู่บนฟ้า หลายคนถึงกับหวั่นใจลอบภาวนาให้ต้วนหลิงเทียนรอดพ้นอันตราย เห็นชัดว่าต่างห่วงต้วนหลิงเทียนกันไม่น้อย
ที่คฤหาสน์ของป๋ายลี่หงเอง ก็เห็นภาพบนฟ้าชัดเจน เฟิ่งหวู่เต้ากับคนอื่นๆก็กำลังชมดูเรื่องราวอยู่เช่นกัน
ภาพจากม่านกระจกฉายลักษณ์นี้ปรากฏขึ้นกลางฟ้า เช่นนั้นแล้วทั้งสำนักขอเพียงออกมายืนในที่ๆเปิดโล่งจนแลเห็นท้องฟ้า ก็สามารถมองเห็นภาพบนฟ้าได้ชัดเจน!
“นี่มันอะไรกัน!?”
เฟิ่งหวู่เต้าและคนอื่นๆ ย่อมไม่รู้จักม่านกระจกฉายลักษณ์ ทั้งหลายจึงไม่เข้าใจว่าไฉนปรากฏภาพเรื่องราวบนฟ้าได้แบบนี้
“แย่แล้ว!!”
ทว่าเมื่อฉากบนฟ้าแปรเปลี่ยนไป ป๋ายลี่หงที่ดูอยู่พลันร้องโพล่งออกมาอย่างหวาดกลัว เพราะในภาพบนฟ้า ตอนนี้หลิวฮ่วนได้ลอบโจมตีต้วนหลิงเทียนจากด้านหลังแล้ว!
ผู้ที่ไม่รู้เรื่องราว อาจคิดว่าป๋ายลี่หงหวาดกลัวว่าต้วนหลิงเทียนจะตาย
ทว่าในเมื่อป๋ายลี่หงทราบพลังฝีมือต้วนหลิงเทียนแล้ว มันก็ไม่ได้กังวลในความปลอดภัยของต้วนหลิงเทียนอีกต่อไป
พลังฝีมือของต้วนหลิงเทียนก้าวหน้าจนเหนือล้ำมัน ไหนเลยจะไม่รู้เรื่องที่หลิวฮ่วนลอบสะกดรอยตามและลงมือจากด้านหลัง!?
ไม่จำเป็นต้องเดามันก็รู้ผลลัพธ์..หลิวฮ่วนตายแน่!!
ที่ป๋ายลี่หงโพล่งร้องออกมาด้วยความหวาดกลัว เพราะมันตระหนักได้ว่ามีผู้ประสงค์ร้ายบางคนได้ทำการบันทึกเรื่องราวดังกล่าว รวมถึงฉากที่ต้วนหลิงเทียนสังหารหลิวฮ่วนเอาไว้ด้วยการใช้ยันต์ม่านกระจกฉายลักษณ์! และนำเรื่องนี้มาเปิดเผยให้สำนักจันทร์จรัสแสงทราบกันถ้วนหน้า!!