บทที่ 141 มุ่งสู่เกาะมนุษย์เงือก เหลือเวลาอีกไม่มากแล้ว!

“ในที่สุดก็เสร็จ…”

ซีเว่ยมองไปยังเรือลําน้อยสภาพแปลก ๆ ตรงหน้า เขาเช็ดเหงื่อที่ไม่ได้มีอยู่จริงด้วยหนวดของเขาอย่างโล่งใจ

นั่นคือ “เรือธรรมดา” ที่เขากล่าวถึงในกิจกรรมก่อนหน้านี้

อันที่จริงเขาสามารถสร้างมันขึ้นมาได้ภายในเวลา ๆ สั้นด้วยพลังศักดิ์สิทธิ์ที่เขามี เนื่องจากพลังศักดิ์สิทธิ์นั้นมีอํานาจทุกอย่าง แม้แต่สร้างคอมพิวเตอร์มันยังทําได้ นั่นหมายความว่า การจะใช้มันสร้างกันดั้มก็เป็นไปได้เช่นกัน

ซีเว่ยมั่นใจว่าแนวคิดเรื่องกันดั้มเป็นไปได้ แต่ตอนนี้เขายังอ่อนแอเกินไป เขาเลยสร้างมันไม่ได้

แต่ถึงเขาจะสร้างเรือขึ้นมาได้จริง มันก็ต้องใช้พลังจํานวนมาก แต่เขาจะลงทุนขนาดนั้นทําไม ในเมื่อเขาไม่ได้รับผลประโยชน์มากมายอะไรจากกิจกรรมนี้

แถมตอนนี้ยังมีขยะกองสูงเป็นภูเขาอยู่ในอาณาจักรศักดิ์สิทธิ์ของเขา เพราะงั้น เขาจึงใช้โอกาสนี้ในขยะบางส่วนให้เป็นรูปเรือ เพื่อลดขยะและพลังศักดิ์สิทธิ์ที่เขาต้องใช้

แต่นั่นก็สามารถเข้าใจได้ว่าทําไม นอกจากเทพเจ้าที่ชั่วร้ายบางองค์แล้ว เทพเจ้าองค์อื่น ๆ ถึงไม่ชอบเครื่องบูชาแบบสุ่ม นั่นเพราะพวกเขาไม่ได้เป็นเหมือนซีเว่ยที่มีอิสระในการข้ามบาเรียโลก ทําให้เขาเป็นเทพองค์เดียวที่สามารถรับพลังศักดิ์สิทธิ์จํานวนมากจากศพของมนุษย์เงือกนับพันที่ผู้ศรัทธาสังเวยมาได้

แต่หากเทพเจ้าองค์อื่นต้องการทําตามเขา พวกเขาก็มีโอกาส 80% ที่จะขาดทุนมหาศาล จนแม้แต่กางเกงในก็ยังไม่มีเหลือ

“แต่การนั้นมันก็ยังยากเกินไปอยู่ดี โชคดีที่ฉันมองการณ์ไกล ฉันเลยตั้งชื่อมันเป็นเรื่อธรรมดาแทนชื่อสุดหรูอย่าง “My Heart Will Go On”* ไม่งั้นมันคงจะจมไปตั้งแต่กลางทาง”

(My Heart Will Go On เพลงไททานิก)

เคนตายก่อนไปถึงเกาะ ซีเว่ยคงร้องไม่ออกแน่

“สําหรับเกาะมนุษย์เงือก…”

ซีเว่ยเปิดดวงตาศักดิ์สิทธิ์ของเขาอีกครั้งเพื่อพยายามสอดแนมเกาะมนุษย์เงือก แต่เขาก็ยังถูกขัดขวางโดยพลังของเทพสมุทรเหมือนทุกที่ และเห็นแต่ภาพเบลอ

“ชิ ฉันรู้แล้วว่าฉันต้องพึ่งผู้เล่นเป็นตาเท่านั้น”

ต้องบอกว่าซีเว่ยไม่ได้กังวลจริง ๆ นี่เป็นเวลา 5 วันแล้วนับตั้งแต่ที่กิจกรรมเริ่มต้นขึ้น โดยที่ผู้เล่นประสบความสําเร็จอย่างมากในการสังหารมนุษย์เงือกเกือบ 10,000 ตนอย่างน่าสยดสยอง แต่หากเป็นสงครามที่ชายฝั่งอื่น บางทีเราอาจไม่เห็นผลลัพธ์แบบนี้

ด้วยเรือต้นแบบชิ้นนี้ การทําเรือจากขยะนั้นก็ง่ายขึ้นกว่าเดิมมาก

“แม้ฉันจะไม่รู้ว่าเทพสมุทรกําลังทําอะไรอยู่ แต่ก็ควรระวังไว้จะดีกว่า”

ความประมาทอาจทําให้เขาเรือหาย นั่นเป็นสาเหตุที่ซีเว่ยตัดสินใจเสียเลือดเล็กน้อย เพื่อกระตุ้นให้ผู้เล่นสํารวจเกาะมนุษย์เงือก

ในไม่ช้า ผู้เล่นในโลกเบื้องล่างก็ได้รับการแจ้งเตือนจากระบบ ว่าตอนนี้กิจกรรมได้เข้าสู่เฟสที่ 2 แล้ว

นอกจากการปลดล็อกไอเทมเควส เรือธรรมดา ๆ” ผู้เล่นก็จะฟื้นคืนชีพได้ที่ไลฟ์สโตนในหมู่บ้านมนุษย์กบ 1 ชั่วโมงหลังจากที่พวกเขาตายหากไม่มีเครดิคอยู่ใกล้ ๆ แต่ถึงอย่างนั้น ผู้เล่นก็ยังถูกหักค่า EXP ไป 30% เหมือนเดิม

ด้วยวิธีนี้ ผู้เล่นจะสามารถมุ่งหน้าไปยังเกาะมนุษย์เงือกได้อย่างต่อเนื่อง แม้ว่าเทพสมุทรจะวางกับดักอะไรเอาไว้ พวกเขาก็จะสามารถกําจัดอุปสรรคต่าง ๆ ได้จากประสบการณ์ที่พวกเขาได้รับก่อนตาย

หากจะให้ซีเว่ยพูด เขาคงจะพูดว่า “ถึงเวลาแล้วที่จะให้มนุษย์เงือกได้สัมผัสกับความน่ากลัวของคลื่นการโจมตีจากมนุษย์

ด้วยความมั่นใจว่าพวกเขาจะสามารถฟื้นคืนชีพได้อย่างรวดเร็ว ผู้เล่นที่ไม่ขาดแคลนไอเทมกิจกรรม ต่างก็เริ่มแลกเปลี่ยนเรือ และวางแผนเดินทางไปยังเกาะมนุษย์เงือกเพื่อฟาร์มไอเทมดรอปที่ดีขึ้นเนื่องจากหินเสริมแกร่งของพวกเขายังมีไม่พอ และผู้เล่นที่ตีบวกไอเทมถึงระดับสูงแล้วก็ยังต้องการสะสมหินกันแตกด้วย

“ฝ่าบาท มันอันตรายเกินไปที่จะมุ่งหน้าไปยังเกาะมนุษย์เงือก ทําไมเราไม่อยู่ที่หมู่บ้านมนุษย์กบ แล้วรอให้มนุษย์เงือกมาหาเราแทนล่ะขอรับ” องครักษ์บอริสพยายามเกลี้ยกล่อมเจ้าหญิงของเขา

“บอริสเจ้าไร้เดียงสาเกินไป!” แต่ลีอายาการัน เจ้าหญิงนักรบนั้นไม่อยากพลาดกิจกรรมนี้ “ตอนนี้เทพเจ้าของเราบอกเราว่า สงครามกับมนุษย์เงือกได้ดําเนินมาถึงช่วงที่สองแล้ว และถึงเวลาแล้วที่เราจะต้องโต้กลับ!”

“แต่ข้าสัญญากับท่านแวนเค่อไว้แล้วว่าข้าจะดูแลท่านอย่างดี และไม่ปล่อยให้ท่านตกอยู่ในอันตราย…” บอริสพูดอย่างหนักใจ

“เกาะมนุษย์เงือกไม่อันตราย มันเป็นเพียงเป้าหมายเล็ก ๆ ที่เราต้องพิชิต” ดวงตาของลีอาเต็มไปด้วยความมั่นใจ

“เจ้าคิดว่ามนุษย์เงือกตนไหนจะมาที่นี่อีก ในเมื่อผู้เล่นคนอื่นเริ่มขึ้นไปบนเกาะ?”

พอถูกถามกลับ บอริสก็ตัวแข็งที่อไปชั่วขณะ เขาเข้าใจแล้วว่าเขาพึ่งจะพูดอะไรโง่ ๆ ออกไป

เขารู้ดีอยู่แล้วว่าผู้เล่นจะทําอะไร พวกเขาจะพลิกเกาะมนุษย์เงือกจนเกลี้ยงแน่ และถ้าเป็นอย่างนั้น มนุษย์เงือกจะมีเวลามาสร้างปัญหาที่ชายฝั่งได้ยังไง? สัตว์ที่มีจิตใจเรียบง่ายเหล่านั้น คงไม่ใช้กลยุทธ์อย่างการลอบโจมตีฐานของศัตรูแน่

“ยิ่งไปกว่านั้น นี่ยังเป็นโอกาสดีของเรา ไปรวบรวมทหารองครักษ์คนอื่น ๆ มาให้เร็วที่สุด เราจะขึ้นเรือไปด้วยกัน และฆ่าบอสในเวลาที่สั้นที่สุดเพื่อรับแซฟไฟร์ทะเล ไอเทมกิจกรรมเฟส 2” ลีอากล่าวเสริม

“โอกาสดี” บอริสยังไม่เข้าใจ

“เมื่อเร็ว ๆ ผู้เล่นส่วนใหญ่เริ่มอยู่แต่ในเมืองไร้ชื่อ และแทบไม่มีใครมาฐานที่มั่นลับในแลงคาสเตอร์เลย…เราต้องทําให้ตัวเองเป็นที่รู้จักอีกครั้ง เพื่อให้ผู้เล่นมาอยู่ฝ่ายเรามากขึ้น” ลีอากล่าวอย่างจริงจัง

“แต่ ไม่ใช่ว่าผู้เล่นทุกคนศรัทธาในเทพเจ้าแห่งเกมเหมือนกัน ทั้งผู้เล่นในเมืองไร้ชื่อและฐานที่มั่นลับในแลงคาสเตอร์” บอริสยังไม่เข้าใจ

“มันต่างกันบอริส มันต่างกัน” หญิงสาวอธิบายอย่างใจเย็น “ข้าเป็นสมาชิกของราชวงศ์เทียร์ร่า เป้าหมายของเราคือการฟื้นฟูอาณาจักร แม้ว่าลอร์ดแองโกร่าจะเป็นผู้ศรัทธาในเทพเจ้าแห่งเกมเหมือนกัน และเคยช่วยเหลือเราไว้มาก แต่เขาก็ยังคงเป็นขุนนางของจักรวรรดิวัลลา เส้นทางของเขาแตกต่างจากเรา เมื่อถึงเวลาที่เราตัดสินใจฟื้นฟูอาณาจักรของเรา หากเขาวางตัวเป็นกลางมันก็ดีมากพอแล้ว”

ในที่สุดบอริสก็เข้าใจ

แม้ว่าผู้เล่นจะยังไม่ค่อยรู้ตัว แต่เมื่อกิจกรรมที่เกาะมนุษย์เงือกเริ่มต้นขึ้น พวกเขาก็ได้แบ่งออกเป็นกลุ่มใหญ่ ๆ ยกเว้นผู้เล่นที่มีชื่อเสียงอย่างปาร์ตี้ของเอ็ดเวิร์ดและมาร์นี้

แต่ถึงอย่างนั้นเส้นแบ่งก็ยังคงเปราะบาง ดังนั้นหากพวกเขาสามารถสร้างชื่อเสียงให้กับตัวเองได้ มันก็จะช่วยดึงดูดให้ผู้เล่นคนอื่น ๆ ให้เข้ามาอยู่เคียงข้างพวกเขาได้มากขึ้น

และเห็นได้ชัดว่าการหาเสียงที่ดีที่สุดในตอนนี้ก็คือ การเอาชนะบอสและได้รับแซฟไฟร์ทะเล

“ข้าเข้าใจแล้ว!”

“เร็วเข้า รีบไป! เหลือเวลาอีกไม่มากแล้ว!” เจ้าหญิงลีอาสั่งการ

ตอนนี้บอริสลืมคําเตือนของผู้เฒ่าแวนเค่อไปหมดแล้ว เขารีวิ่งออกไปเรียกทหารองครักษ์คนอื่น ๆ