บทที่ 174 ห้างสรรพสินค้าศูนย์การค้าสากลป๋ายต้า

มู่เซิ่ง เขยอันดับหนึ่ง

มู่เซิ่ง เขยอันดับหนึ่ง บทที่ 174 ห้างสรรพสินค้าศูนย์การค้าสากลป๋ายต้า

มู่เซิ่งผลักประตูเข้าไปพร้อมยิ้มอย่างนิ่งๆ และไม่ทำตัวเป็นจุดสนใจ แต่บนตัวเผยออร่าของผู้ที่เหนือกว่าอย่างจางๆ ไม่มีลักษณะท่าทางของเศษสวะในเมื่อก่อนเลย นี่ทำให้จ้าวเหมยเหมยรู้สึกประหลาดใจมาก

หรือว่าเศษสวะคนนี้ ทำกิจการอะไรขึ้นมาแล้วจริงๆ?

แต่ว่าไม่นาน จ้าวเหมยเหมยส่ายหน้าแล้ว ขจัดความคิดนี้ออกไปจากสมอง

แม้ว่าจะมีกิจการเล็กๆน้อยๆ งั้นแล้วจะยังไง?สู้ลูกเขยของเธอได้เหรอ?ในสายตาของเธอ มู่เซิ่งเป็นแค่เศษสวะไปตลอดกาล

“มู่เซิ่ง ทำไมแกเพิ่งมาตอนนี้?เราทานอาหารกลางวันกันเสร็จแล้ว เว้นอาหารเหลือไว้ให้แกบางส่วน แต่ว่าแกอย่าลืมล้างถ้วยให้สะอาด ตอนนี้เป็นฤดูร้อน วางไว้ครู่หนึ่งก็มีกลิ่นเหม็นแล้ว” จ้าวเหมยเหมยพูดอย่างดูถูก

ที่แท้ครอบครัวของพวกเขา งานล้างถ้วยขัดตะเกียบถงมู่เป็นคนทำทั้งหมด แต่ว่าตอนนี้มู่เซิ่งมาแล้ว งานแบบนี้ก็ควรจะเป็นเศษสวะอย่างเขาไปทำ

“ไม่จำเป็นแล้ว ผมทานอาหารกลางวันมาแล้ว” มู่เซิ่งส่ายหน้า

เห็นมู่เซิ่งส่ายหน้า ท่าทางที่นั่งลงบนโซฟา จ้าวเหมยเหมยโมโหอยู่ในใจ ไอ้หมอนี่ไม่ริเริ่มที่จะไปล้างถ้วยแล้ว?ดูเหมือนว่าจะทะนงตนแล้วจริงๆ อย่างที่รู้ เมื่อก่อนตอนที่มาบ้านของพวกเขาในทุกๆปี ก็จะยกน้ำชารินน้ำ อย่างกับสุนัขตัวหนึ่งเลยยังไงอย่างนั้น

“มู่เซิ่ง ช่วงนี้แกไปหาเงินที่ไหนมาล่ะ?” จ้าวเหมยเหมยเอ่ยปากพูดทันที ถามอย่างเย็นชา

“ไม่มีอะไรนะ ทำงานบ้านอยู่ที่บ้านเท่านั้นเอง” มู่เซิ่งส่ายหน้าแล้ว

“ไม่ทำงาน?”

จ้าวเหมยเหมยตกตะลึง ไม่ทำงานทำไมถึงได้เย่อหยิ่งขนาดนี้?เธอยิ้มพร้อมพูดว่า : “มู่เซิ่ง ในความคิดของฉันนะ แกหางานทำจะดีกว่านะ แม้ว่าบริษัทของเจียงหว่านค่อนข้างมีเงิน แต่ว่าเป็นผู้ชายต่อให้พูดยังไง ก็จะต้องมีกิจการของตัวเองนะ ถ้าหากลูกเขยของครอบครัวฉันเศษสวะเช่นนั้น ฉันถีบหัวส่งเขาไปตั้งนานแล้ว”

คำหมายที่แฝงอยู่ในคำพูด ถูกเปิดเผยออกมาหมดแล้ว มู่เซิ่งไม่รู้ว่าตัวเองไปล่วงเกินเธอยังไงจริงๆ นับตั้งแต่นั้นมาก็เริ่มลงโทษเขาต่อหน้าผู้คนแล้ว

เขายิ้มแล้ว ขี้เกียจที่จะสนใจ

แต่จ้าวเหมยเหมยเห็นมู่เซิ่งไม่สะทกสะท้าน เธอจะทนได้ยังไง เอ่ยปากเสียดสีต่อไปว่า “โชคดีที่ลูกสาวของฉันหาลูกเขยที่ดีมา เปิดบริษัทของตัวเองแม้ว่าไม่ใหญ่ ในหนึ่งปีก็มีรายได้ถึง3-4ล้านหยวนเลยนะ”

“ว้าว 3-4ล้านหยวน งั้นก็เยอะมากจริงๆนะ” มู่เซิ่งแสร้งเป็นพูดอย่างตกใจ

“แม่ แม่ไม่ต้องพูดแล้ว ก็แค่เปิดบริษัทเล็กๆก็เท่านั้นเอง คิดว่าปีหน้า หาเพิ่มได้6-7ล้านเท่านั้นเอง เฉินเสวียลี่โบกไม้โบกมือ แสร้งทำเป็นพูดถ่อมตน”

ได้ฟังประโยคนี้ จ้าวเหมยเหมยยิ่งได้ใจแล้ว พูดว่า : “มู่เซิ่ง แกดูสิรายได้ต่อปีของลูกเขยฉันเกือบจะทะลุสิบล้านแล้ว ยังถ่อมตัวแบบนี้ แกหัดเรียนรู้จากคนเขาให้มากๆนะ ขอคำแนะนำสักหน่อย ต่อไปจะได้มีอนาคต ”

“ใช่ๆๆๆ ผมจะต้องตั้งใจเรียนให้ดีๆ” มู่เซิ่งพยักหน้าพร้อมพูดกล่าว

“คิกๆ”

เจียงหว่านหัวเราะแล้ว

แม้แต่เขาก็มองออกแล้ว มู่เซิ่งคนนี้กำลังทำส่งๆ ทำแบบขอไปทีกับจ้าวเหมยเหมย

“ที่รัก พวกเราไปช้อปปิ้งกันไหม?ที่นี่มีห้างสรรพสินค้ามาเปิดใหม่มากมาย” ในเวลานี้เจียงหว่านลุกขึ้นยืนพร้อมพูดกล่าว

คนกลุ่มนี้พูดเสียงดังลั่นที่ข้างหูอยู่ตลอด น่ารำคาญเกินไปแล้ว

“ได้” มู่เซิ่งพูดกล่าว

พูดจบ ทั้งสองคนไม่รอให้กลุ่มคนตอบกลับ ก็เดินออกไปทันที

นี่ทำให้จ้าวเหมยเหมยที่เห็นตกตะลึงแล้ว ตอนนี้เธอถึงได้เข้าใจ รู้สึกว่าไอ้หมอนี่กำลังทำแบบส่งเดชกับตัวเองนะ!เธอรู้สึกไม่สบายใจอย่างมาก เศษสวะคนนี้มีสิทธิ์อะไรมาทำแบบส่งเดชกับตัวเอง?

พูดกล่าวทันที : “พี่ ช่วงนี้ที่นี่เพิ่งเปิดห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่แห่งหนึ่ง บอกว่าข้างในมีแบรนเนมด์มากมาย กว้างข้างกว่าห้างของเมืองเจียงหนานอีก พวกเจียงหว่านก็ไปกันแล้ว พวกเราก็ไปดูด้วยดีกว่านะ?”

ไปห้างสรรพสินค้า จ้าวเหมยเหมยจะต้องโอ้อวดแน่นอน จ้าวหลินส่ายหน้าพูดปฏิเสธว่า “ช่างเถอะ ฉันไม่อยากไป”

“นี่มีอะไรให้ไม่อยากไปเหรอ?อย่างมาก คุณก็ซื้อของไม่ไหว ฉันจ่ายเงินแล้วกัน” จ้าวเหมยเหมยยิ้มพร้อมพูดกล่าว

“จ้าวเหมยเหมย แกหมายความว่ายังไง?มีสิทธิ์อะไรมาพูดว่าฉันซื้อของไม่ไหว?” จ้าวหลินร้อนใจแล้ว

“ฮ่าๆๆ มู่เซิ่งเป็นคนพูดเองไม่ใช่เหรอ ก่อนหน้านี้คุณชมเขาว่าเจ๋งมาก ผลสุดท้ายตอนนี้แค่มอง ก็แค่ผู้ชายที่รับผิดชอบทำงานบ้านเท่านั้น ไม่แน่ตอนนี้ออกไปซื้อเสื้อผ้าข้างนอก เจียงหว่านเป็นคนจ่ายเงินทั้งหมดหรอกนะ?” จ้าวเหมยเหมยเย้ยหยัน

คำพูดนี้กระตุ้นให้จ้าวหลินโมโหแล้ว มู่เซิ่งซื้อคฤหาสน์หลังนี้ได้ แค่เสื้อผ้าไม่กี่ตัวจะซื้อไม่ไหวได้ยังไงกัน?ลุกขึ้นพูดทันทีว่า : “ไปสิ ก็แค่กลัวว่าตอนที่ลูกเขยของฉันหยิบกระเป๋าออกมา พวกแกจะตกใจแย่แล้ว”

“ยังจะปากแข็งอีกนะ?ฉันก็อยากจะดูเหมือนกัน ว่ามู่เซิ่งจะเอาเงินออกมาได้ไหม!” จ้าวเหมยเหมยยิ้มเยาะไม่หยุด

ทั้งสองคนทานอาหารกลางวันกันแล้ว ก็ไม่ยอมพักผ่อน ลุกขึ้นยืนตามออกไป จ้าวเหมยเหมยตามอยู่ด้านหลัง แถมจงใจไม่เรียกมู่เซิ่งด้วย ก็แค่อยากดู โฉมหน้าที่แท้จริงในตอนที่พวกเขาสองคนซื้อของ

เฉินเสวียลี่และถงเสว่เหมยก็ยิ้มและเดินตามไปแล้ว

ในใจของพวกเขา ต่างก็คิดไว้เรียบร้อยแล้วว่าจะทำยังไงให้มู่เซิ่งขายขี้หน้าในห้างสรรพสินค้า

มู่เซิ่งและเจียงหว่านทั้งสองคนเรียกแท็กซี่ออกจากบ้านไป ประสบการณ์ของกองกำลังพิเศษหลายปีที่ผ่านมาทำให้เขารู้สึกได้เพียงแวบเดียว มีคนตามหลังมา แต่ว่าหลังจากที่เห็นว่ากลุ่มของจ้าวหลิน เขาก็เดาเป้าหมายของอีกฝ่ายออกแล้ว ขี้เกียจที่จะไปสนใจอีก

เขาออกจากบ้านมา ก็เพราะเตรียมซื้อเสื้อผ้าให้เจียงหว่าน

แต่ว่าเจียงหว่านบอกว่า สำหรับงานเลี้ยงวันเกิดของคุณตาในครั้งนี้ เธอเอาชุดราตรีมาโดยเฉพาะ เพราะงั้นไม่จำเป็นต้องซื้อเสื้อผ้าอีก ให้มู่เซิ่งไปซื้อหนึ่งตัว

ทั้งสองคนเรียกแท็กซี่มาถึงห้างสรรพสินค้าศูนย์การค้าสากลป๋ายต้า

ที่นี่เป็นห้างสรรพสินค้าที่สร้างใหม่ของอำเภอซานเซี่ยง และเป็นตึกที่ดีที่สุดในทั่วทั้งอำเภอซานเซี่ยง และภายในห้างสรรพสินค้าศูนย์การค้ามีของที่สวยงามมากมายลานตา โดยเฉพาะเป็นแบรนด์หรูระดับไฮเอนด์ต่างๆ ได้ยินมาว่าบุคคลชนชั้นสูงของอำเภอซานเซี่ยงแทบจะทั้งหมด ต่างก็มาช้อปปิ้งที่นี่

ตึกแห่งนี้สูงกว่าที่มู่เซิ่งจินตนาการไว้หน่อย โอ่อ่าและงดงาม มองจากที่ไกลก็เห็นได้ นี่เป็นสิ่งปลูกสร้างที่สูงที่สุดในอำเภอซานเซี่ยง

มู่เซิ่งคิดไม่ถึงว่า เมืองเล็กๆแห่งนี้ยังมีห้างสรรพสินค้าศูนย์การค้าที่หรูหราเช่นนั้นด้วย

ชั้นหนึ่งคนล้นหลาม แทบจะเป็นอาหารบุฟเฟต์หม้อไฟไหตี่เลาและอาหารต่างๆนาๆ ราคาไม่ถูก แต่ว่ายังคงมีหญิงชายจำนวนมากกำลังเข้าแถวอยู่ มองดูแล้วล้วนเป็นพวกพนักงานธรรมดาที่สวมใส่ชุดสูททั้งนั้น

มองจากชั้นหนึ่งขึ้นไป ร้านค้าขายสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ต่างๆนาๆ รวมทั้งโทรศัพท์และคอมพิวเตอร์ยี่ห้อแอปเปิลเป็นต้น เห็นแล้วทำให้อยากได้มาครอบครอง

หลังจากที่เดินถึงชั้นสาม ชั้นนี้ถึงจะเป็นชั้นซื้อเสื้อผ้า

แน่นอนว่าชั้นหนึ่งก็มีเสื้อผ้า แต่ว่าส่วนใหญ่จะเป็นยี่ห้อธรรมดา มีเพียงชั้นสาม จะเป็นเสื้อผ้าแบรนด์เนมระดับไฮเอนด์ และราคาก็ค่อนข้างแพง เพราะงั้นหลังจากที่มู่เซิ่งและเจียงหว่านเดินถึงชั้นสาม ผู้คน จำนวนผู้คนที่เดินช้อปปิ้งชั้นนี้ น้อยกว่าคนในชั้นล่างๆที่ผ่านมาเยอะมาก

“ที่รัก พวกเราไปชั้นสี่กันนะ?วันนี้ฉันจ่ายเอง ซื้อเสื้อผ้าดีๆให้นายสักตัว” เจียงหว่านพูดกล่าว

“ได้สิ ที่รักรวยจริงๆ” มู่เซิ่งหัวเราะฮิๆพร้อมพูดกล่าว

เจียงหว่านกลอกตามองบนใส่เขา “ฉันรวยสู้นายไม่ได้นะ เหอะ กะล่อน”

แต่ว่า เห็นท่าทางของมู่เซิ่งที่ดีอกดีใจ เจียงหว่านก็สบายใจมาก อย่างน้อย ภรรยาอย่างเธอก็ใช่ว่าจะช่วยอะไรมู่เซิ่งไม่ได้เลยโดยสิ้นเชิง

ทั้งสองคนมาถึงชั้นสี่เลย

คนชั้นสี่ก็ยิ่งจะน้อยกว่า แม้แต่พนักงานในร้าน ก็สวมใส่ชุดสูทที่รีดเสียเรียบและมีรอยจีบตรง แม้ว่ามีคนเดินที่ชั้นสี่ แต่ว่าเงียบสงบ ไม่มีเสียง เห็นได้ชัดว่าระดับไฮเอนด์มาก

หลังจากที่เดินช้อปปิ้งที่ชั้นสี่รอบหนึ่ง ก็มาถึงร้านค้าเฉพาะที่เรียกว่ากุชชี่

มู่เซิ่งและเจียงหว่านเดินเข้าไปแล้ว ภายในร้านตกแต่งหรูหราระดับไฮเอนด์ เสื้อผ้าข้างในมองดูแล้วดูดีอย่างมาก

และที่เคาน์เตอร์ภายในร้าน ก็มีพนักงานผู้หญิงนั่งอยู่สามสี่คน ทั้งสามคนกำลังถือโทรศัพท์เล่นไพ่พิชิตแลนด์ลอร์ด สีหน้ามีความสุขอย่างมาก

“พนักงานล่ะ?”

หลังจากที่เจียงหว่านและมู่เซิ่งเดินอยู่ในร้านรอบหนึ่งแล้ว เห็นไม่มีใครเดินเข้ามา มู่เซิ่งอดไม่ได้ที่จะพูดถาม