ตอนที่ 73

Earth’s Best Gamer

จีเย่และหลี่ชิงกลับไปที่พื้นที่โล่งหลังจากที่พวกเขาไล่ล่าและสังหารสิ่งมีชีวิตเผ่าโคลนหมด

ในฐานะถิ่นฐานของเผ่าวิญญาณ เถาวัลย์วิญญาณกระหายเลือดจึงไม่สามารถยืนหยัดได้นานมากนัก

นี่เป็นเพราะเมื่อเทียบกับเผ่าโคลนซึ่งมีการโจมตีเพียงไม่กี่รูปแบบ มนุษย์นั้นมีกลยุทธ์ที่แตกต่างกันมากมายอย่างไม่ต้องสงสัย

ยิ่งไปกว่านั้นพวกเขายังสังเกตมันมาสักพักหนึ่งแล้ว รู้ระยะการโจมตีและแผนการของพืชตัวนี้ซึ่งดูเหมือนจะรับรู้ความเจ็บปวด การต่อสู้จึงค่อนข้างง่าย

ไม่จำเป็นต้องกล่าวถึงว่าต้นเถาวัลย์วิญญาณกระหายเลือดที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสจากการโจมตีของเผ่าโคลนจนถึงจุดที่ว่ามันไม่สามารถแม้กระทั่งเปิดใช้งาน ‘บาร์เรียป้องกันสีแดง’ ได้

ปัก!

ในชั่วพริบตา เถาวัลย์สีเลือดเส้นสุดท้ายก็ถูกตรึงโดยลูกศรยันต์ที่ฉินเยว่หยูยิงออกมา

หลังจากนั้นเต๋าเปลวไฟก็ปะทุขึ้นมาและแผดเผาเถาวัลย์จากจุดที่ใกล้กับต้นไม้ หากไม่ใช่เพราะต้นเถาวัลย์วิญญาณกระหายเลือดไม่ได้มี ‘เลือด’ จำนวนมาก มันอาจจะถูกเผาด้วยเช่นกัน

อย่างไรก็ตามมันก็ยังคงเป็นสิ่งมีชีวิตระดับวิสามัญ ในท้ายที่สุดมันก็ยังคงทำให้มนุศย์ได้รับความบาดเจ็บได้

นี่เป็นเพราะมันแอบซ่อนเถาวัลย์ไว้ใต้ดิน ในช่วงสุดท้ายทันใดนั้นมันก็พันตัวทหารขั้นชั้นยอด

ฉึก! ฉีก! ฉึก!

รากสีดำจำนวนมากพุ่งออกมาจากพื้นและแทงที่ต้นขาของทหารคนนั้นก่อนที่มันจะเริ่มดูดเลือดอย่างบ้าคลั่ง

“อ่าาา!”

อันที่จริงแล้วมันไม่เพียงแค่ดูดเลือดเท่านั้น แต่แม้กระทั่งวิญญาณของทหารคนนั้นก็เกือบจะถูกดูดออกไปโดยรากสีดำ มันทำให้คนนึกถึงปีศาจที่มีชื่อว่า ‘ปีศาจต้นไม้’ ในหนังเรื่องโปเยโปโลเย เย้ยฟ้าแล้วก็ท้า

“แช่แข็ง!”

โชคดีที่ลุงเก้าอยู่ข้างทหารคนนั้น เขากัดนิ้วและชี้ไปที่หน้าผากของทหารคนนั้นเพื่อทำให้วิญญาณของทหารคนนั้นมั่นคง จากนัั้นเขาก็ใช้ยันต์ลูกบอลไฟเผารากที่พุ่งออกมาจากดิน

ฉัวะ!

หลังจากรีบกลับไป จีเย่ก็ได้ฟันเถาวัลย์และช่วยทหารคนนั้น ร่างของเขาพุ่งเข้าหาต้นเถาวัลย์วิญญาณกระหายเลือด

หวูดดด! หวูดดด! หวูดดด!

รากไม้สีดำจำนวนมากพุ่งออกมาจากใต้ดินและกระดูกของสัตว์ร้าย มันพยายามแทงเท้าของจีเย่

น่าเสียดายที่เขาได้เห็นทหารถูกโจมตีมาก่อน จีเย่จึงเตรียมรับมือไว้แล้ว เขาโคจรประโยชน์ของปฐพี แสงสีเลืองที่ปกป้องร่างกายของเขาก็ได้ป้องกันรากไม้ทั้งหมด

ฉัวะ!

จากนั้นเขาฟันดาบงูดำออกไปด้วยมือทั้งสองข้าง เนื่องจากความยาวและความคมของดาบ ดาบจึงสามารถฟันต้นเถาวัลย์วิญญาณกระหายเลือดพร้อมกับรากของมันออกเป็นสองท่อน

เอี๊ยดดด เอี๊ยดดด เอี๊ยดดด…

ต้นเถาวัลย์ที่ถูกตัดสั่นสะเทือนอย่างรุนแรงเนื่องจากของเหลวที่มีกลิ่นเลือดก็ไหลออกมาจำนวนมาก อย่างไรก็ตามในของเหลวเหล่านั้นขาดพลังชีวิตอย่างเห็นได้ชัดเจน ที่ใจกลางของต้นไม้มีแสงสีแดงขุ่นมัวขนาดเล็กกำลังเปล่งประกายอยู่

กรร!

วิญญาณหัวหน้าหมาป่าหดตัวลงทันทีและกลายเป็นลูกบอลแสงสีดำที่พุ่งเข้ามากลืนกิน ‘แสงสีแดง’ ที่ขุ่นมัว

นี่เป็นการประกาศยุติการต่อสู้ระหว่างสองสายพันธุ์ในดินแดนแห่งมรดก

จากนั้นเสียงสีเขียวรอบต้นเถาวัลย์วิญญาณกระหายเลือดที่สูญเสียพลังชีวิตก็เริ่มรวมตัวกันและในที่สุดก็กลายเป็น ‘อัญมณี’ ที่เปล่งแสงสีเขียวที่สวยงามซึ่งกำลังลอยอยู่กลางอากาศ

[แกนกลางถิ่นฐานวิญญาณ]

[ระดับ : วิสามัญอันดับ 1]

[ขั้น : พิเศษ]

[รายละเอียด : มันสามารถใช้เพื่อเสริมความแข็งแกร่งและเพิ่มระดับถิ่นฐาน ในระหว่างการเพิ่มความแข็งแกร่ง มันสามารถเลือหที่จะเหลือส่วนหนึ่งของลักษณะสำคัญของถิ่นฐานวิญญาณได้ แสงจากโชคชะตาที่สาดส่องมายังมนุษย์นั้นสามารถเปลี่ยนเป็นแกนกลางของถิ่นฐานมนุษย์ได้!]

เมื่อเขาเอื้อมมือออกไปและจับแกนกลางที่ดูเหมือนหยก จีเย่ก็รู้สึกถึงความหนาวเย็นไปจนถึงกระดูกในครั้งแรกที่เขาสัมผัส เขารู้สึกราวกับว่าวิญญาณนับพันกำลังส่งเสียงคำรามด้วยความไม่พอใจ

อย่างไรก็ตามร่างกายภาพของเขานั้นปกติดี

จะเกิดอะไรขึ้นถ้าฉัน ‘ผสาน’ แกนกลางถิ่นฐาน?

ทันใดนั้นความคิดที่กล้าหาญก็ผุดขึ้นมาในใจของจีเย่

อย่างไรก็ตามในไม่ช้าเขาก็ตระหนักว่ามันเป็นไปไม่ได้

นี่เป็นเพราะความเป็นเจ้าของแกนกลางถิ่นฐานเป็นของทั้งถิ่นฐานมังกรคู่ มันเกี่ยวข้องกับแสงที่สาดส่องไปยังเผ่าวิญญาณ มันไม่ใช่ไอเทมส่วนตัว

ตามทฤษฏีของการบ่มเพาะความเป็นอมตะ สิ่งของดังกล่าวจะสื่อถึงกรรมอัญยิ่งใหญ่และไม่เหมาะสมสำหรับการผสาน

อย่างน้อยที่สุดก็ไม่ใช่ตอนนี้!

[ทำลายถิ่นฐานวิญญาณ แต้มเกียรติยศที่ได้รับ : 70 แต้มเกียรติยศหายากที่ได้รับ : 7!]

หลังจากหยิบแกนกลางของถิ่นฐานวิญญาณขึ้นมา ข้อมูลรางวัลก็ปรากฏในใจของเขา

นี่… นี่คือแต้มเกียรติยศหายากจำนวนมาก…

เขาไม่ใช่คนเดียวที่ได้รับรางวัล เห็นได้ชัดว่าคนอื่นก็ได้รับรางวัลของพวกเขาเช่นเดียวกัน ฉินเยว่หยูและหลี่ชิงดูตกตะลึงมาก

เห็นได้อย่างชัดเจนว่าพวกเขาได้รับแต้มเกียรติยศอย่างน้อย 1 แต้ม จากนั้นพวกเขาก็ได้รับรู้ข้อมูลลับที่แต้มเกียรติยศสามารถแลกเปลี่ยนความสามารถและไอเทมในดินแดนแห่งมรดกและนำพวกมันไปบนโลกได้!

อย่างไรก็ตามเมื่อเทียบกับแต้มเกียรติยศทั่วไป แต้มเกียรติยศหายากนั้นมีน้อยมากเกินไป

ยิ่งไปกว่านั้นจีเย่ก็ไม่รู้สึกว่าความสามารถของเขามีค่าพอที่จะแลกเปลี่ยนมันและนำไปใช้บนโลก

ดังนั้นเขาจึงพับเก็ยเรื่องนี้ไว้ใจชั่วคราวและเริ่มนับสินสงครามอื่นนอกเหนือจากสิ่งที่เขาได้รับจากถิ่นฐานของชาววิญญาณ

[คริสตัลเถาวัลย์วิญญาณกระหายเลือดร้อยปี]

[ระดับ : วิสามัญอันดับ 3]

[ขั้น : เหนือชั้น]

[รายละเอียด : คริสตัลที่รวมกันที่ใจกลางของเถาวัลย์วิญญาณกระหายเลือดที่มีความสัมพันธ์ทางชีวภาพกับวิญญาณ หยินพิเศษให้กำเนิดหยาง มันมีพลังชีวิตที่พลุ่งพล่าน บางทีมันอาจช่วยให้พืชจิตวิญญาณบางชนิดพัฒนาได้]

เคล็ดลับที่ชัดเจนเช่นนี้ไม่จำเป็นต้องอธิบายเพิ่มเติม

พืชจิตวิญญาณที่มีมูลค่ามากที่สุดของภูเขามังกรคู่ก็คือผลไม้เมล็ดสีชาดในถ้ำลิงแมนดริล

คริสตัลชิ้นนี้อาจชดเชยการสูญเสียดินเลือดได้ ท้ายที่สุดแล้วระดับของเถาวัลย์วิญญาณกระหายเลือดก็สูงกว่าระดับของผลไม้เมล็ดสีชาด

นอกเหนือจากนั้นต้นเถาวัลย์วิญญาณกระหายเลือดก็ยังดร็อป ‘สกิล’ ที่พิเศษมาก

[ศิลปะการรวบรวบวิญญาณกระหายเลือด (ไม่สมบูรณ์)]

[ระดับ : พิเศษ]

[ขั้น : สมบูรณ์ (หายาก)]

[รายละเอียด : วิธีที่เชี่ยวชาญโดยชาววิญญาณเพื่อบ่มเพาะสติปัญญาเป็นพิเศษ ด้วยเลือดและพลังวิญญาณที่ทรงพลัง มันสามารถทำให้สิ่งมีชีวิตบางชนิเหล่อเลี้ยงสัมผัสวิญญาณของพวกมันจนทำให้พวกมันกลายเป็นสิ่งมีชีิวตพิเศษ กล่าวกันว่าศิลปะการรวบรวบวิญญาณกระหายเลือดที่สมบูรณ์สามารถทำให้วัตถุที่ไม่มีสติปัญญาสามารถพัฒนาสติปัญญาได้]

‘อืมม นี่มันอะไรกัน?’

หนังสือสกิลสำหรับการทำฟาร์ม? หรือเวทมนตร์ซากศพแห่งความมืด? หรือพลังเวทมนตร์ประเภทการบ่มเพาะที่ไม่สมบูรณ์ซึ่งจะให้สัมผัสวิญญาณ?

สิ่งแรกที่เข้ามาในใจของจีเย่ก็คือเถาวัลย์เลือดที่มีสติปัญญา

นอกเหนือจากนั้นเขาก็อดไม่ได้ที่จะนึกถึงซอมบี้ตัวก่อนหน้านี้ เสือที่ปีกสองปีกซึ่งการกระทำของมันดูเหมือนจะอิสระบางส่วน

แม้ว่าสายพันธุ์และอารยธรรมจะแตกต่างกัน แต่ความคิดบางอย่างก็คล้ายคลึงกัน นี่ไม่ใช่แค่การสร้าง ‘เมกาก็อตซิล่า’ เท่านั้น แต่ยังเป็นการสร้าง ‘ปัญญาประดิษฐ์’ อีกด้วย

สัญชาตญาณของจีเย่บอกเขาว่าไอเทมชิ้นนี้มีมูลค่าเป็นอย่างมาก

อันที่จริงแล้วไม่จำเป็นต้องพูดถึงสัญชาตญาณ เพียงแค่ดูจากระดับของมันก็เพียงพอแล้ว

นอกเหนือจากพละกำลังโกลาหลดั้งเดิมที่เขาผสานแล้ว นี่เป็นครั้งแรกที่เขาได้เห็น ‘สกิล’ ขั้นสมบูรณ์

แม้ว่าจะเป็นฉบับไม่สมบูรณ์ก็ตาม!

อย่างไรก็ตามทำไม… สินสงครามของเผ่าวิญญาณถึงต้องการเลือด? มันเหมือนว่าทุกอย่างต้องการเลือด!

เหตุผลที่มันเป็น ‘ทุกอย่าง’ ก็เพราะว่านอกเหนือจากพวกมันยังมีเมล็ดเถาวัลย์วิญญาณกระหายเลือดระดับวิสามัญอันดับ 0 พวกเขาสามารถปลูกเถาวัลย์วิญญาณกระหายเลือดที่สามารถสร้าง ‘บาร์เรียสีเลือด’ อย่างไรก็ตามไม่เพียงแค่ต้องใช้เวลา แต่ต้องใช้เลือดจำนวนมากด้วย…

อันที่จริงแล้วจีเย่สามารถคาดเดาเหตุผลได้ เลือดนั้นเป็นขยะหรือแม้กระทั่งเป็นพิษต่อชาววิญญาณ

ดังนั้นพวกมันจึงคิดวิธีรีไซเคิลขยะ

อย่างไรก็ตามภูเขามังกรคู่ในปัจจุบันนั้นมีเลือดไม่เพียงพอ ดังนั้นไอเทมสองชิ้นนี้จึงถูกเก็บไว้เป็นคอลเลกชั่นชั่วคราว

เนื่องจากเป็นถิ่นฐานของเผ่าวิญญาณ นอกเหนือจากไอเทมที่ดร็อปจากการทำลายวิญญาณกระหายเลือด ยังมีไอเทมอีกสองชิ้นที่ควรพิจารณาว่าเป็นทรัพยากรของเผ่าวิญญาณ

[หยกวิญญาณ]

[ระดับ : วิสามัญอันดับ 0]

[ขั้น : ขัดเกลา]

[รายละเอียด : แร่พิเศษที่พบในที่อยู่อาศัยของเผ่าวิญญาณ มันสามารถเก็บพลังวิญญาณและเปลี่ยนมันเป็นพลังงานประเภทอื่นได้]

ที่ชาร์จพลังวิญญาณแบบพกพา?

ผู้อาวุโสเจี้ยวน่าจะชอบมันมาก…

ในฐานะมนุษย์โลก ความคิดของเขาจึงมุ่งเน้นไปที่ ‘การเปลี่ยนแปลงพลังงาน’

อย่างไรก็ตามด้วยการมีนักวิชาการอยู่ข้างๆ เขาจึงไม่จำเป็นต้องกังวลเกี่ยวกับการวิจัย

และทรัพยากรสุดท้าย

บางทีนี่อาจเป็นการเก็บเกี่ยวที่ยอดเยี่ยมที่สุดในการเดินทางครั้งนี้ของเขา

[ของเหลววิญญาณ]

[ระดับ : วิสามัญอันดับ 1]

[ขั้น : เหนือชั้น]

[รายละเอียด : ของเหลววิญญาณที่ปรับแต่งอย่าพิถีพิถันโดยเผ่าวิญญาณเพื่อเลี้ยงดูลูกหลาน หลังจากกินมันจะสามารถเพิ่มพลังวิญญาณของสายพันธุ์ส่วนใหญ่ได้]

แม้ว่าการพัฒนาวิญญาณในระดับสามัญจะถูกจำกัดในแง่ความแข็งแกร่งทางกายภาพของร่างกายมนุษย์ แต่ก็มีความสำคัญอย่างมากหลังจากมาถึงระดับวิสามัญ

เมื่อนำทุกอยางออกไป วิญญาณหยางและวิญยาณหยินในระบบการบ่มเพาะเต๋าก็ได้อยู่ในตำแหน่งสำคัญ

สิ่งที่สำคัญกว่านั้นก็คือระดับวิญญาณของเขาได้ถึงจุดสูงสุดของระดับวิสามัญอันดับ 2 แล้ว ห่างเพียงไม่กี่ก้าวจากระดับวิสามัญอันดับ 3 ของเหลววิญญาณนี้ก็เพียงพอสำหรับเขาที่จะทะลวงระดับ

ปัญหาเดียวก็คือของเหลววิญญาณเป็นผลิตภัณฑ์สำเร็จรูปเท่านั้นและไม่มีสูตรถูดดร็อปออกมา เผ่าวิญญาณถูกทำลายไปแล้ว และไม่สามารถหามันได้อีกเมื่อมันถูกใช้ไปแล้ว

ไม่ รอเดี๋ยว ฉันไม่สามารถผสานแกนกลางถิ่นฐานได้ แต่ไม่ได้หมายความว่าฉันไม่สามารถผสานของเหลววิญญารได้

แววตาของจีเย่สว่างขึ้น

ในทางทฤษฏีแล้ววัสดุที่จำเป็นสำหรับของเหลววิญญาณของชาววิญญาณสามารถหาพบได้ในบริเวณนี้ หลังจาก ‘ผสาน’ เขาก็สามารถเข้าใจธรรมชาติและองค์ประกอบของของเหลววิญญาณได้อย่างสมบูรณ์

มันสามารถจำลองได้อย่างแน่นอน และมันอาจแม้กระทั่งมีคุณภาพและระดับที่สูงขึ้น!

การผสานไม่เพียงแค่มีประโยชน์ในการต่อสู้เท่านั้น แต่ยังมีประโยชน์ในการพัฒนาถิ่นฐานอีกด้วย