บทที่ 178 โดนบังคับจูบ

ปลอบใจฉัน ด้วยรักเธอ

ไอ้หมอนี่ต้องการจะทำอะไรกันนะ?!

เฉียวโยวโยวตื่นตกใจ ออกแรงดึงมือของตนเองออกมา

เวลานี้พอดีกับฟู่สีเกอที่ปล่อยเธอออก

ในทันทีที่เฉียวโยวโยวเป็นอิสระ ก็หันกลับจะวิ่งหนี ก็รู้สึกได้ถึงครีมเค้กก้อนใหญ่เข้ามาแปะอยู่บนหน้า

“บ้าเอ้ย ใครเอาครีมเค้กมาแปะหน้าฉัน?!” เธอเพิ่งจะตะโกนออกมา ก็รู้สึกว่าร่างกายกระชับแน่นขึ้น เอวถูกคนจับไว้ คนคนนั้นวนเวียนอยู่กับเธอสักพัก จากนั้นก็ประกบปากของเธอ

มันตลบอบอวลไปด้วยกลิ่นเนยระหว่างริมฝีปากและฟัน ตามด้วยกลิ่นน้ำหอมของผู้ชาย ในชั่วพริบตาเฉียวโยวโยวก็ขนลุกชูชันไปหมด

น้ำหอมที่ฟู้เจียนปอใช้ไม่ใช่กลิ่นนี้ และกลิ่นนี้เธอเคยได้กลิ่นจากฟู่สีเกอเท่านั้น

ดังนั้นคนที่จับเธอเมื่อกี้คือเขา คนที่เอาครีมเค้กแปะหน้าเธอคือเขา คนที่บังคับจูบเธอก็ยังคงเป็นเขา!

เฉียวโยวโยวยกขาขึ้น แล้วถีบไปที่ฟู่สีเกออย่างแรง

เห็นได้ชัดว่าเขาคาดไม่ถึงว่าเธอจะทำแบบนี้ ทันใดก็เจ็บจนแยกเขี้ยวยิงฟัน แต่ไม่มีเสียงร้องออกมา

ผ่านไปสิบกว่าวินาที ความเจ็บปวดนี้ของเขาจึงค่อยๆหายไป เขากอดรัดเฉียวโยวโยวไว้แน่น แล้วเข้ามาพูดข้างๆหูเธอว่า : “ถ้าถีบฉันอีกครั้ง ระวังฉันจะร้องออกมานะ จะได้ให้ทุกคนรู้ว่าเรากำลังทำอะไรกันอยู่!”

เธอโกรธอย่างมาก : “ตกลงคุณต้องการอะไร?”

ไม่ได้บอกเหรอ ว่าเรื่องที่เกิดขึ้นในคืนนั้น ให้ลืมๆมันไปซะ? แล้วทำไม เขาต้องมาล้อเล่นแบบนี้กับเธอ แล้วจับเธอไว้ไม่ปล่อยด้วยนะ?

“เมื่อคืนฉันฝันถึงคุณ แล้ววันนี้ก็บังเอิญมาเจอคุณ ฉันรู้สึกว่านี่คือพรหมลิขิต” ฟู่สีเกอกัดเฉียวโยวโยวเบาๆหนึ่งที : “มิเช่นนั้นก็เลิกกับเขาเถอะ!”

เฉียวโยวโยวตกใจ

เพียงแต่ชั่ววินาที ริมฝีปากของเขาก็ละออกจากข้างๆหูเธอ จากนั้นก็จูบลงไปที่เธออีกครั้ง

บนแก้มของเธอยังมีครีมเค้กอยู่ เมื่อเขาจูบลงมาก็นำพากลิ่นครีมเค้กมาด้วย มันเต็มลมหายใจของเธอไปหมดแล้ว

เฉียวโยวโยวตื่นตระหนกไปหมด เพราะกลัวว่าถึงเวลานั้นแล้ว หลานเสี่ยวถางจะเปิดไฟขึ้นมา

เธออดไม่ได้ที่จะยื่นมือออกไปผลักฟู่สีเกอ แต่เขาดันเธอไว้เล็กน้อย พูดน้ำเสียงทุ้มๆแหบพร่ามีเสน่ห์ : “ลองพิจารณาดูเถอะ เลิกกับเขาซะ คุณมองไม่ออกเหรอ ซูสือจิ่นเคยเจอคู่หมั้นของคุณที่ต่างประเทศกำลังอยู่ด้วยกันกับผู้หญิงคนอื่น คุณเต็มใจเหรอ?”

เฉียวโยวโยวตัวแข็งทื่อ

คาดไม่ถึงว่า ฟู่สีเกอจะมองเห็นความประหม่าของเธอ จากคำพูดไม่กี่คำ ก็เดาออกว่าซูสือจิ่นไปเห็นอะไรมา

ชั่วขณะในใจเธอก็รู้สึกอับอายอย่างมาก เหมือนคนทั้งโลกรู้ว่าคู่หมั้นของเธอ ก่อนหน้านี้ก็เคยทำเรื่องที่ผิดต่อเธอเช่นกัน!

เธอยื่นมือไปผลักฟู่สีเกอทันที

เขาถูกเธอผลักออก คิดอยากที่จะเข้าไปอีก แต่โดยจิตใต้สำนึกเหมือนว่าจะถึงเวลาแล้ว ด้วยเหตุนี้จึงถอยหลังไปสองสามก้าวตามแรงผลักของเฉียวโยวโยว แล้วจึงยืนได้อย่างมั่นคง

หลังจากที่ยืนมั่นคงแล้ว เขายกมือขึ้นเช็ดใบหน้าที่เปื้อนครีมเค้กจากการจูบ พิงกายที่เคาน์เตอร์บาร์ รอแสงไฟสว่างขึ้น

เวลานี้หลานเสี่ยวถางที่อยู่ในอ้อมกอดของสือมูเฉินก็นับเวลาถอยหลัง “เตรียมเปิดไฟ สาม สอง หนึ่ง!”

เมื่อไฟสว่างขึ้น หลานเสี่ยวถางก็มองไปที่บรรยากาศภายในห้อง อดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมา

“โยวโยว ทำไมหน้าคุณถึงมีครีมเค้กอยู่บนหน้าล่ะ?” หลานเสี่ยวถางเดินเข้าไป มองไปที่เฉียวโยวโยวซึ่งใบหน้าและผมเต็มไปด้วยครีมเค้ก : “ใครเป็นคนทำ?”

ฟู่สีเกอที่อยู่ห่างออกไป พอได้ยินก็ยักไหล่ ผายมือออก : “ยังไงก็ไม่ใช่ฉันแน่ๆ”

และเวลานั้นที่ฟู้เจียนปอคิดว่าซูสือจิ่นเป็นเฉียวโยวโยว เมื่อไฟสว่างขึ้น จึงปล่อยซูสือจิ่นออก แล้วกล่าวขอโทษ : “คุณซู ต้องขอโทษด้วยนะครับ! เมื่อกี้ฉันได้ยินเสียงคิดว่าเป็นโยวโยว……”

ซูสือจิ่นส่ายๆหัว ยิ้มตอบว่า : “ไม่เป็นไรค่ะ”

หลานเสี่ยวถางอยู่ในอ้อมกอดของสือมูเฉิน และสือมูเฉินก็มีครีมเค้กเล็กน้อยที่ด้านหลังเสื้อเชิ้ต เห็นได้ชัดว่าเป็นคนคนเดียวกันที่ทำ

แต่เมื่อทุกคนมองไปรอบๆแล้ว ก็ไขคดีนี้ไม่ได้

ดังนั้นในสายตาที่เห็นอกเห็นใจของทุกคน เฉียวโยวโยวจึงไปที่ห้องนอนของหลานเสี่ยวถางแล้วหาเสื้อผ้ามาเปลี่ยน

หลังจากความวุ่นวายดังกล่าวผ่านไป บรรยากาศก็เริ่มคึกคักขึ้น ทุกคนไปที่บาร์และร้องเพลงหลายเพลง บรรยากาศค่อนข้างกลมกลืนเข้ากันได้ดี

จนกระทั่งถึงเที่ยงคืน อาจเป็นเพราะดื่มเหล้าเข้าไป ทุกๆคนจึงอ่อนเปลี้ยเพลียแรง ด้วยเหตุนี้หลานเสี่ยวถางจึงเสนอว่าให้ไปพักผ่อนกันก่อน

เธอกล่าวว่า : “เดี๋ยวโยวโยวก็จะแต่งงานแล้ว เจียนปอ คุณให้เวลาเธออยู่กับฉันหน่อยได้ไหม! นานมากแล้วที่ไม่ได้คุยกับเธอตอนกลางคืน คืนนี้ฉันจะนอนกับโยวโยว คุณไม่ถือสาใช่ไหม?”

หลานเสี่ยวถางพูดขนาดนี้แล้ว ฟู้เจียนปอจึงทำได้แค่เห็นด้วยเท่านั้น เขาหัวเราะแล้วมองไปยังสือมูเฉิน : “ดูเหมือนว่าคืนนี้เราจะต้องอยู่กันอย่างโดดเดี่ยวเดียวดายซะแล้ว”

สือมูเฉินนึกถึงคำพูดของหลานเสี่ยวถางที่บอกว่า ‘ต่อสู้อย่างนองเลือด’ แล้วก็เลิกคิ้วให้หลานเสี่ยวถาง

———หนังสือยอดนิยมที่สุด ที่ได้รับความสนใจในการค้นหาบนวีแชต [樱桃阅读] โหลดเลยจะได้ไม่พลาด———

ด้วยเหตุนี้นอกจากหลานเสี่ยวถางกับเฉียวโยวโยวแล้ว ทุกๆคนที่เหลือก็ต่างแยกย้ายกันไปคนละห้อง โชคดีที่มีหลายห้อง ถึงแม้ว่าจะขาดไปหนึ่งเตียง แต่ชั้นสามก็ไม่ได้ชื้นมาก ฉะนั้นใช้พรมหนาๆปูพื้นก็ไม่ได้เป็นปัญหาอะไร

ห้องของหลานเสี่ยวถางกับเฉียวโยวโยวอยู่ตรงกลางของชั้นสาม ด้านหนึ่งเป็นห้องของฟู้เจียนปอ อีกด้านหนึ่งเป็นห้องของฟู่สีเกอ และทางด้านทิศตะวันออก ก็เป็นห้องของสือมูเฉิน

หลานเสี่ยวถางไม่ได้ดื่มเหล้าเข้าไปมาก ดังนั้น หลังจากอาบน้ำเสร็จแล้วก็ยังคงกระปรี้กระเปร่าอยู่ แต่เฉียวโยวโยวที่ดื่มมาค่อนข้างมาก ดังนั้น เมื่อหลานเสี่ยวถางออกมาจากห้องน้ำ เธอก็หลับอยู่บนเตียงแล้ว

หลานเสี่ยวถางนึกถึงข้ออ้างของตัวเองแล้ว ก็อดขำไม่ได้

เธอช่วยถอดรองเท้าให้เฉียวโยวโยว ลากเธอไปยังกลางเตียง แล้วก็ห่มผ้าให้เธอ

ภายในห้องมีระเบียง หลานเสี่ยวถางเห็นว่าประตูระเบียงไม่ได้ปิด ด้วยเหตุนี้เลยเดินเข้าไป จึงเห็นว่าบนโต๊ะน้ำชาที่ระเบียงมีขวดเหล้าสองสามขวดวางอยู่

เธออดไม่ได้ที่จะหัวเราะแล้วมองไปยังเฉียวโยวโยว จากนั้น ก็ปิดประตูแล้วกลับมาในห้อง แล้วก็นอนหลับไป

เพราะดื่มเหล้าและเครื่องดื่มไปไม่น้อย กลางดึกเฉียวโยวโยวจึงลุกขึ้นไปเข้าห้องน้ำ

หลานเสี่ยวถางได้ยินการเคลื่อนไหวจึงลุกขึ้น เห็นเฉียวโยวโยวเข้าห้องน้ำภายในห้องไปแล้ว ก็เลยออกไปใช้ห้องน้ำรวมด้านนอก

เพียงแต่พอเธอเข้าเสร็จ ก็ถูกสือมูเฉินคว้าตัวเอาไว้

แขนของเขากอดเธอเอาไว้แน่น: “ไม่มีหมอนข้างน้อยๆ ฉันนอนไม่หลับเลย”

หลานเสี่ยวถางบุ้ยปาก: “ฉันไม่ใช่หมอนข้างน้อยๆนะ”

เขาดึงเธอเอาไว้: “เชื่อฟัง กลับไปนอนที่ห้องกับฉัน”

“แต่ว่าโยวโยว——” หลานเสี่ยวถางพูดพลาง เห็นสือมูเฉินดึงเธออย่างจริงจัง จึงทำได้เพียงประนีประนอม: “อย่างนั้นคุณรอให้ฉันไปบอกเธอสักหน่อยนะ! ไม่อย่างนั้นเธอเห็นว่าจู่ๆฉันหายไป จะเอะอะโวยวายได้!”

หลานเสี่ยวถางพูดพลาง รอให้เฉียวโยวโยวออกมา บอกกับเธอแล้ว จึงไปยังห้องนอนของสือมูเฉิน

ทันใดภายในห้องก็เหลือแค่ตนเอง แต่เฉียวโยวโยวกลับพบว่าความง่วงที่มีอยู่เดิมทีได้ลดหายลงไปอย่างมาก ด้วยเหตุนี้ เธอจึงลุกขึ้น เปิดประตูระเบียง แล้วเดินออกไป

ด้วยแสงจันทร์ที่สาดส่อง ยังสามารถมองเห็นแม่น้ำหนิงได้จากไกลๆ เพราะแสงจันทร์คืนนี้สว่างมาก ดังนั้น คาดไม่ถึงว่าพอที่จะเห็นแสงกระทบเกลียวคลื่นรางๆ กำลังเต้นระบำอยู่บนน้ำ

เฉียวโยวโยวยืนอยู่ที่ระเบียง มองอยู่ครู่หนึ่ง จู่ๆก็รู้สึกกระหายน้ำ หันตัวกลับ จึงเห็นเหล้าที่วางอยู่บนโต๊ะน้ำชา

เธอหยิบเหล้าขึ้นมา ดื่มไปสองสามอึก สัมผัสกลิ่นแอลกอฮอล์ที่ค่อยๆเอ่อล้นออกมาจากปลายจมูก ชั่วพริบตานั้นก็รู้สึกวิงเวียน ทำให้เธอรู้สึกเหมือนกับล่องลอยขึ้นมา

เธอดื่มเข้าไปอีกสองสามอึก ความรู้สึกนี้ก็ยิ่งรุนแรงขึ้น

เธออดไม่ได้ที่จะยืนที่ระเบียง กางแขนสองข้างออก หลับตา สัมผัสความเย็นสบายของสายลมฤดูใบไม้ร่วง

ขณะที่เธอกำลังจมดิ่งอยู่ในโลกของตัวเอง จู่ๆหูก็ได้ยินเสียงพูดหยอกเย้าดังขึ้นมา: “นี่คิดมาก จนจะฆ่าตัวตายเลยเหรอ?”

ท่าทีที่เมาของเฉียวโยวโยวสร่างขึ้นมาในทันที เธอหันหน้ากลับมา ก็เห็นฟู่สีเกอที่สวมชุดนอน ยืนพิงอยู่ที่ระเบียง ด้วยท่าทีกึ่งยิ้มกึ่งไม่ยิ้ม

ต่างหูเพชรของเขาส่องประกายกระทบตาในแสงยามค่ำคืน เข้ากับท่าทีที่ผ่อนคลายของเขาในเวลานี้ เหมือนกับภาพลักษณ์พวกลูกคุณหนู

เธออารมณ์ไม่ดี: “คุณน่ะสิคิดมากฆ่าตัวตาย! ฉันมารับลมเสร็จ ก็จะไปนอนแล้ว!”

พูดจบ เฉียวโยวโยวก็หันตัวกลับจะเดินจากไป

แต่พอเธอดังเปิดประตูระเบียง ก็พบว่ามันถูกล็อกไปตั้งแต่เมื่อไรก็ไม่รู้ เธองุนงงเล็กน้อย แล้วขยับลูกบิดประตูอีกครั้ง แต่พบว่า แม้แต่ลูกบิดประตูก็ขยับไม่ได้!

“ตกลงประตูนี้มันเป็นบ้าอะไรเนี่ย?” เฉียวโยวโยวเป็นทุกข์หาวิธีอยู่นาน ก็ค้นพบอย่างน่าเศร้าว่า เมื่อกี้นี้ที่ลมแรง เหมือนกับว่าตอนเธอออกมาจะกดปุ่มล็อกประตู ดังนั้น จึงได้ปิดล็อกเธอเอาไว้ด้านนอกแบบนี้!

“กลับเข้าไปไม่ได้เหรอ?” ฟู่สีเกอที่ยืนพิงอยู่ที่ระเบียงด้านนั้น มองไปยังเธอด้วยใบหน้าที่มีความสุขบนความทุกข์ของผู้อื่น: “อย่างนั้นก็อยู่ที่นี่เป็นเพื่อนคุยกับฉันเถอะ!”

เฉียวโยวโยวยังไม่ยอมแพ้ แต่เธอลองอยู่เป็นเวลานาน ก็จนปัญญาที่จะค้นพบวิธี ประตูระเบียงยังคงล็อกแน่น

เธอนั่งลงบนเก้าอี้ แล้วจ้องมองไปยังฟู่สีเกอ: “คุณรู้ตั้งนานแล้วใช่ไหม?”

ฟู่สีเกอยกมือขึ้น: “ฟ้าดินมีคุณธรรม ฉันไม่มีพลังวิเศษ จะไปรู้ได้ยังไงว่าคุณจะโง่ขนาดนั้น คาดไม่ถึงว่าจะล็อกตัวเองเอาไว้ข้างนอก”

เธอมองไปยังเหล้าที่อยู่ตรงหน้าอย่างกลัดกลุ้มใจ รู้สึกเบื่อหน่าย จึงดื่มเข้าไปอีกอึกหนึ่ง จู่ๆความมึนงงที่ค่อยๆจู่โจมเข้ามาก็ทำให้เธอสำนึกได้ว่า ตอนนี้เธอจะดื่มเหล้าทำไม? ทางที่ดีที่สุดควรจะคิดหาวิธี ว่าควรจะหลุดออกไปได้อย่างไร!

ด้วยเหตุนี้ เฉียวโยวโยวจึงกล่าวกับฟู่สีเกอว่า: “เอามือถือของคุณมาให้ฉันยืมใช้หน่อย จะโทรไปหาเสี่ยวถาง ว่าให้เธอมาช่วยเปิดล็อกประตูให้ฉันหน่อยได้ไหม?”

ฟู่สีเกอส่ายหน้า ผายมือออก: “มือถือแบตหมด ไม่มีที่ชาร์จ อีกอย่างค้างชำระค่าโทรศัพท์ ไม่สามารถโทรออกได้”

เฉียวโยวโยวที่เดิมทีวางแผนจะให้ฟู่สีเกอช่วยเคาะประตูเรียกหลานเสี่ยวถางให้ ได้ยินเขาใช้เหตุผลที่แย่แบบนี้ ก็รู้ทันทีว่าไอ้เจ้าหมอนี่จงใจ และจะไม่ช่วยเธออย่างแน่นอน

ดังนั้น เธอจึงทำได้เพียงนั่งลง คิดที่จะยอมแพ้ อย่างนั้นก็นั่งตรงนี้ไปคืนหนึ่งก็แล้วกัน!

แต่ตอนแรกที่มีอะไรทำ ก็ยังรู้สึกดีอยู่ แต่เมื่อผ่านไปครู่หนึ่ง ด้วยร่างกายของเธอที่สวมชุดนอนเพียงตัวเดียว จึงรู้สึกหนาวขึ้นมา

เฉียวโยวโยวกอดแขนเอาไว้ ก็ไม่ได้รู้สึกอบอุ่นขึ้น เธอแสบจมูก จนกระทั่งจามอยู่หลายครั้ง

“อย่างนั้น มาอยู่กับฉันไหม?” ฟู่สีเกอก้มลงที่ระเบียงแล้วกล่าว

เฉียวโยวโยวมองค้อนเขาทีหนึ่ง แล้วก็ไม่สนใจเขา

แต่ก็อดไม่ได้ที่จะจามอีกสองสามที

“เอาล่ะ ถึงอย่างไรบนนี้ก็ชั้นสาม คุณคงขึ้นมาไม่ได้หรอก” ฟู่สีเกอทอดถอนใจแล้วกล่าวว่า: ฉันจะลงไปหาคุณเอง!”

เขาพูดพลาง ประเมินระยะห่างเล็กน้อย จากนั้น ก็จับที่ขอบระเบียง แล้วก็ปีนขึ้นไปยืน

“คุณ——” เฉียวโยวโยวมองไปยังด้านล่างที่สูงขนาดนั้น บวกกับกลางคืนที่ถึงแม้จะมีแสงจันทร์ก็ยังคงมืดมิด จึงอดไม่ได้ที่จะกล่าวอย่างตื่นตกใจว่า: “คุณอย่าลงมานะ ระวังจะตกลงไป!”

“ไม่เป็นไร เรื่องการปีนกำแพง ตั้งแต่เด็กฉันทำมาไม่น้อย” ฟู่สีเกอกล่าวอย่างไม่สนใจว่า: “อีกอย่าง ฉันจะไม่ช่วยให้คุณอุ่นขึ้นได้ยังไงล่ะ?”