เมื่อลูกศรพลังปราณเหล่านี้พุ่งเข้าใส่ลู่เฟิง ชุดเกราะพยัคห์ดำของลู่เฟิงก็ได้สร้างโล่สีดำขึ้นมาและปิดกั้นการโจมตีเหล่านี้

“เป็นไปได้ยังไง???”

พลธนูที่ได้เห็นฉากนี้พวกเขาไม่เข้าใจแต่กลับแทนที่ด้วยความหวาดกลัวบนใบหน้า

แม่ทัพที่สั่งให้ทหารใช้ลูกศรพลังปราณยิงอีกฝ่าย กลับมีสีหน้าแตกตื่นยิ่งกว่า ลูกศรพลังปราณที่แม้แต่ผู้เชี่ยวชาญขั้นปรมาจารย์ก็ไม่สามารถต้านทานได้ กลับถูกหยุด?

“ฮึ!”

ลู่เฟิงได้แค้นเสียงออกมาอย่างเย็นชา เขาได้เคลื่อนไหวเข้าหาทหารของอาณาจักรซีหยางอีกครั้งและสังหารพลธนูที่อยู่ด้านหน้ามากกว่า 3,000 คน

“ปล่อยลูกศรพลังปราณซะ!”

แม่ทัพคนนี้ได้ตะโกนร้องอีกครั้ง เขารู้ดีว่าหากปล่อยให้ศัตรูพุ่งประชิดฝ่ายตนเองได้ มันจะกลายเป็นกลายสังหารหมู่อยู่ฝ่ายเดียว

เขาไม่สามารถให้เกิดเรื่องนี้ขึ้นได้

และหวังว่าพลโล่ที่จากไปก่อนหน้านี้จะรีบกลับมาเร็ว ๆ เพื่อจัดการผู้เชี่ยวชาญคนนี้ แต่น่าเสียดายที่คนเหล่านั้นมุ่งหน้าไปปิดกั้นทาสดาบทั้งหก

ตอนนี้เขาได้แต่หวังว่า ลูกศรพลังปราณของฝ่ายตนเองจะยิงผ่านการป้องกันของอีกฝ่ายได้

อย่างไรก็ตาม ลูกศรพลังปราณทั้งหมดที่ยิงถูกลู่เฟิงได้ถูกกั้นโดยโล่สีดำบนร่างกายของเขาไม่มีลูกศรใด ๆ ยิงโดนตัวเขาได้

พริบตาเดียว ลู่เฟิง ก็วาดฟันดาบออกไปเบื้องหน้าจนทหารจำนวนมากล้มลง

ศีรษะจำนวนมากได้บินขึ้นไปบนฟ้าและมีเลือดสาดกระเซ็นออกมา

“ถอย ถอย ถอย!”

แม่ทัพคนนี้ได้ตะโกนอย่างแตกตื่น

เสียงของเขาได้ดึงดูดความนใจของ ลู่เฟิง

“ดูเหมือน เจ้าจะเป็นผู้บัญชาการกองทัพพลธนูเหล่านี้สินะ!”

เสียงของ ลู่เฟิง ได้ดังขึ้นพริบตาเดียวเขาก็ปรากฏตัวอยู่ตรงหน้าแม่ทัพคนนี้แล้ว

แม่ทัพคนนี้มีความแข็งแกร่งขั้นสร้างรากฐานพลังหยวน เขามองไปที่ ลู่เฟิง และ ทำได้เพียงแค่ตะโกนร้องด้วยความหวาดกลัว”ม่ายยย!”

ฉวบ!

ลำคอของแม่ทัพคนนี้ได้ถูกแทงโดยดาบของ ลู่เฟิง

เมื่อพลธนูเหล่านี้เห็น ลู่เฟิง ฆ่าแม่ทัพของตนเอง พวกเขาทั้งหมดก็เกิดความหวาดกลัวและรีบคุกเข่าลงบนพื้นเพื่อที่จะรักษาชีวิตของตนเอง

แต่ตอนนี้ ลู่เฟิง ไม่มีทหารคอยที่จะควบคุมคนเหล่านี้

สิ่งเดียวที่รอพวกเขาอยู่ก็คือความตาย

ในอีกด้านหนึ่งทาสดาบทั้งหก ที่เผชิญหน้ากับกองทัพจำนวนมาก เขาได้สังหารฆ่าคนเหล่านี้ไปหลายคน

แต่ถึงแม้ว่าพวกเขาจะเป็นผู้เชี่ยวชาญขั้นปรมาจารย์ก็ไม่มีทางที่จะทำลายศัตรูได้มากเมื่อต้องเผชิญหน้ากับกองทัพนับหมื่นคน

ผู้บัญญชาการหลักของกองทัพขนส่งเสบียง ได้มองไปที่อีกฝ่ายอย่างเย้ยหยัน”พวกเจ้าคิดว่าพวกเจ้าแข็งแกร่งและจะสามารถพลิกคว่ำปฐพีได้หรืออย่างไร วันนี้ ข้าจะทำให้เจ้ารู้ว่า ผู้เชี่ยวชาญขั้นปรมาจารย์ก็ไร้พลังได้เหมือนกันยามเผชิญหน้ากับกองทัพจำนวนมาก…”

ฟุ่บ!

ก่อนที่เขาจะพูดจบเขาก็รู้สึกเจ็บหน้าอก

เขามองไปที่ปลายดาบที่แทงเข้ามาที่หน้าอกของตนเองด้วยความหวาดกลัว”ใคร…ใครลอบโจมตีข้า?”

ด้านหลังของเขาคือ จางฮั่น อีกฝ่ายได้ดึงดาบยาวที่แหลมคมออกมาและตะโกนขึ้น”ฆ่าให้หมด!”

กองทัพเงา 3,000 นาย ได้พุ่งเข้าใส่กองทัพทันที

ทหารเหล่านี้ได้พุ่งเข้าใส่กองทัพที่ถูกปิดกั้นด้วยทาสดาบทั้ง 6 พวกเขาถูกลอบโจมตีจากข้างหลังเป็นธรรมชาติที่จะไม่สามารถตอบโต้ได้ทัน

ยามพวกเขาหันหลังให้ทาสดาบทั้งหก ด้วยความแข็งแกร่งขั้นปรมาจารย์ ทาสดาบทั้งหก ก็ฟื้นตัวและไล่ฆ่าคนเหล่านี้

เขาได้เอาชีวิตของทหารที่กล้าปิดล้อมพวกเขาไป

ทหารของอาณาจักรซีหยาง ที่ไม่สามารถรวมกองทัพได้แม้จะมีจำนวนมากก็ไม่ต่างจากกระต่ายป่าเท่าไหร่ ดังนั้นยามนี้ทหารที่มีมากกว่า 20,000 นาย จึงถูกไล่ล่าอย่างโหดเหี้ยม

มันคือการสังหารหมู่ทั้งหมด

ทหารของกองทัพขนส่งเสบียง พวกเขาคงไม่มีใครคิดว่ากองทัพขนส่งเสบียงนี้จะกลายเป็นเป้าหมายการสังหารหมู่

ลู่เฟิง ไม่ได้มีส่วนร่วมในการสังหารหมู่ครั้งนี้ เขาได้เดินขึ้นไปบนหอคอยของค่ายและมองไปที่ทาสดาบทั้งหกก่อนที่จะถอนหายใจออกมา”สมแล้วที่เป็นทาสดาบทั้งหก!”

“แม้ยามเผชิญหน้ากับกองทัพนับหมื่นก็ยังรักษารูปขบวนและมีชีวิตรอดออกมาได้ ตอนนี้ก็คือช่วงเวลาแห่งการฆ่าล้างสังหาร!”

“โลกนี้ความแข็งแกร่งคือทุกสิ่ง!”

รูปแบบกองทัพแม้จะมีประสิทธิภาพแต่เมื่อถูกทำลายลงก็ง่ายที่จะถูกโจมตี ทหารเหล่านี้ได้เกิดความกลัวในใจจนทำลายรูปแบบกองทัพ คนเหล่านี้ก็ไม่ต่างจากกระต่ายป่าที่ไร้หนทางสู้

เช่นเดียวกับ ลู่เฟิง ที่มีชุดเกราะพยัคห์ทมิฬ เขาที่ไม่เกรงกลัวลูกศรพลังปราณสามารถบุกเดี่ยวใส่พลธนูและสังหารคนเหล่านี้ได้

การสังหารพลธนูเหล่านี้ทำให้เขาได้รับค่าประสบการณ์มากกว่า 5,000 แต้ม

สำหรับ กองทัพเงา เมื่อเปรียบเทียบกับการสังหารหมู่ของทาสดาบทั้งหกนั้นพวกเขาเองก็น่ากลัวไม่ต่างกัน

การสังหารหมู่นี้ใช้เวลาเพียงไม่นาน

มันเป็นเพียงหนึ่งชั่วโมงหลังจากที่กองทัพพลธนูที่ลู่เฟิงจัดการก่อนหน้านี้เพียงเท่านั้นไม่มีใครสามารถหลบหนีรอดไปได้

ทั้งหมดได้ถูกฆ่าตาย

ทาสดาบทั้งหก นั้นมีส่วนช่วยในการสังหารคนมากกว่า 20,000 คน

ส่วนกองทัพเงาก็มีบทบาทในการทำลายกองทัพหลายพันนาย

ส่วนทหารที่วิ่งหนีในช่วงสู้รบ

ลู่เฟิง ไม่ได้สั่งให้ใครไล่ตามพวกเขา คนเหล่านี้ก็เป็นแค่ทหารราบธรรมดาที่หนีกองทัพไม่จำเป็นจะต้องไล่ตามไป

“ฝ่าบาทพวกเราจะทำยังไงกับเสบียงเหล่านี้ดี?”จางฮั่น เดินไปหา ลู่เฟิง และ กล่าวถาม

ลู่เฟิง มองไปที่พวกมันด้วยรอยยิ้ม”ทำไมงั้นหรือ?”

“นั่นเพราะ…”

จางฮั่นมองไปที่ ลู่เฟิง”ฝ่าบาทตอนนี้เราไม่มีแหวนเก็บของดังนั้นเราจึงไม่สามารถขนเสบียงเหล่านี้ไปได้!”

แหวนเก็บของมีค่าอย่างมาก นอกเหนือจากแหวนเก็บของขนาดเล็กสามวงที่ได้รับมาจากการทำลายนิกายหยุนกงแล้ว อาณาจักรหนานหยานก็ไม่มีอย่างอื่นอีก

อาณาจักรซีหยางก็เช่นเดียวกัน มิฉะนั้นกองทัพเหล่านี้คงได้รับแหวนเก็บของมาขนส่งเสบียงตราบใดที่พวกเขามีแหวนเก็บของพวกเขาก็เพียงพอที่จะส่งมอบเสบียงไปถึงมือกองทัพได้ในระยะเวลาอันสั้น

อย่างไรก็ตาม ตอนนี้ ลู่เฟิง มีแหวนเก็บของที่มีพื้นที่ 10,000 ลูกบาศก์เมตร มันเพียงพอที่จะเก็บเสบียงเหล่านี้ได้

ภายใต้กรอบสายตาของ จางฮั่น และ ทาสดาบทั้งหก ลู่เฟิง เดินไปเก็บเสบียงเหล่านี้เข้าไปในแหวนเก็บของ

แต่น่าเสียดายแม้ว่าพื้นที่เก็บ 10,000 ลูกบาศก์เมตรจะใหญ่แต่ก็ไม่สามารถเก็บเสบียงของกองทัพนับล้านได้มันยังเหลืออีกกว่าครึ่ง

แต่แค่นี้ก็ทำให้ ทาสดาบทั้งหก และ จางฮั่น ตกใจแล้ว เสบียงที่มากขนาดนี้จำเป็นต้องมีแหวนเก็บของที่มีพื้นที่มากกว่า 10,000 ลูกบาศก์เมตร

แหวนกักเก็บพื้นที่ 10,000 ลูกบาศก์เมตร พื้นที่รอบนอกหยูโจวเขาไม่เคยได้ยินว่าอาณาจักรใดได้ครอบครองพวกมัน!

คาดว่ามีเพียงราชวงศ์ใหญ่ในหยูโจวเท่านั้นที่มีสิ่งของเหล่านี้ได้

แต่ฝ่าบาทของพวกเขากลับเป็นเจ้าของมัน?

ลู่เฟิง ถอนหายใจออกมา เขาไม่สามารถปล่อยเสบียงที่เหลือไปได้ดังนั้นเขาจึงได้สั่งให้เผามัน

“ติ๊ง ขอแสดงความยินดีกับโฮสต์ที่ทำภารกิจที่ถูกซ่อนบทที่สองสำเร็จได้รับหีบสมบัติพิเศษ!”