ความตายของเฉียนคง
ในขณะที่เฉียนคงลอบจากไป ด้านป๋ายลี่หงเองก็เร่งรุดไปยังประตูหน้าสำนักทันที มันคิดสกัดต้วนหลิงเทียนเอาไว้และให้ต้วนหลิงเทียนเร่งหลบหนีไปจากสำนักจันทร์จรัสแสงเสีย!
เหตุผลที่ต้องกระทำเช่นนี้ล้วนเป็นเพราะเฉียนคง!
ในสายตาของมัน ทันทีที่เฉียนคงเห็นฉากสังหารนี้ มันต้องคิดว่าต้วนหลิงเทียนเป็นคนฆ่าจ้าวเฟิงแน่!
ด้วยท่าทีปฏิบัติต่อจ้าวเฟิงที่เฉียนคงเผยให้เห็น น่ากลัวมันคงไม่คิดปล่อยต้วนหลิงเทียนให้รอดไปได้ง่ายๆ!
ในขณะที่ป๋ายลี่หงเร่งรุดออกไป เฉียนคงที่ลอบลงมาจากฟ้าก็มาถึงคฤหาสน์ของป๋ายลี่หง เมื่อมันไม่พบตัวต้วนหลิงเทียนสีหน้ามันก็มืดดำลงทันใด
ดังนั้นเฉียนคงจึงเริ่มออกหาตัวต้วนหลิงเทียนไปทั่วสำนักจันทร์จรัสแสง สุดท้ายก็มาจบที่ประตูหน้าสำนัก หมายเฝ้ารอกระต่ายหน้าโพรง
‘ป๋ายลี่หง!’
ทันทีที่มาถึงประตูหน้าสำนักจันทร์จรัสแสง เฉียนคงก็พบตัวป๋ายลี่หงทันที ใบหน้าของมันเผยความอึมครึมออกมาไม่น้อย
อย่างไรก็ตามมันไม่คิดแหวกหญ้าให้งูตื่น เพียงเฝ้ารออย่างเงียบงัน
ป๋ายลี่หงกำลังรอคน…มันก็เช่นกัน!
ต้วนหลิงเทียนในฐานะกระต่าย ย่อมไม่ได้รู้เลยว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้นที่สำนักจันทร์จรัสแสง ตอนนี้เขากำลังเดินกลับสำนักจันทร์จรัสแสงอย่างสบายอารมณ์
เดินมาไม่นานเขาก็แลเห็นจุดสีดำไกลๆ
สองเท้าก้าวเดินไปเรื่อย ไม่นานจุดสีดำไกลตาก็ค่อยๆขยายใหญ่ขึ้น สุดท้ายก็แลเห็นเป็นสำนักจันทร์จรัสแสง และประตูใหญ่สำนักจันทร์จรัสแสงก็ค่อยๆชัดเจนในลูกตา
“กลับมาแล้ว”
เมื่อเห็นประตูหน้าสำนักจันทร์จรัสแสง รอยยิ้มพลันคลี่กางบนใบหน้าต้วนหลิงเทียน “พอกลับไปแล้วข้าให้คนไปแจ้งข่าวเรื่องการตายของหลิวฮ่วนกับครูเลยดีกว่า…ทันทีที่รู้ครูต้องมีความสุขแน่”
“ต้วนหลิงเทียน!”
ในขณะที่ต้วนหลิงเทียนก้าวเข้าหาประตูสำนักจันทร์จรัสแสงอย่างไม่รีบไม่ร้อน พลันมีเสียงเย็นหนึ่งดังลั่นขึ้นมา เสียงดังกล่าวยังกึกก้องไปทั่วทั้งสำนักจันทร์จรัสแสง!
จังหวะนี้คนในสำนักจันทร์จรัสแสงถึงกับสะดุ้งตกใจปานระเบิดลง
และตอนนี้เองก็เป็นเวลาเดียวกันกับที่ม่านกระจกฉายลักษณ์บนฟ้าเริ่มจางหายไป
เกือบทุกคนอดไม่ได้ที่จะตกใจกับเสียงตะโกนดังลั่น ทั้งหมดหันมองไปยังทิศทางประตูใหญ่สำนักทันที เพราะตระหนักได้ว่าเสียงดังมาจากทิศทางนั้น
“อาจารย์ลุงเฉียน!”
อาวุโสและเหล่าศิษย์เริ่มเดินทางไปยังประตูหน้าสำนัก ด้านเจียงเว่ยที่ได้ยินเสียงหน้าก็เปลี่ยนสีทันใด โพล่งคำออกมาด้วยความตื่นตระหนก
“ศิษย์น้องเฉียน!?”
“ศิษย์พี่เฉียน!?”
จังหวะนี้อาวุโสระดับสูงอันเป็นยอดฝีมือขอบเขตเซียนของสำนักจันทร์จรัสแสงก็ขมวดคิ้ว ด้วยไม่เข้าใจว่านี่มันเรื่องอะไรกันแน่
“แย่แล้ว!!”
ไม่นานก็เป็นเจียงเว่ยที่ตระหนักได้ว่าเกิดอะไรขึ้นก่อนใคร ใบหน้าเริ่มกลายเป็นผวาทันที
“มีอันใดกัน?”
ทันใดนั้นอาวุโสหลายคนก็มองถามเจียงเว่ยด้วยสงสัย
“อาจารย์ลุงเฉียนเห็นพลังฝีมือของต้วนหลิงเทียนแล้วว่าร้ายกาจเพียงใด มิพ้นท่านต้องสรุปว่าต้วนหลิงเทียนฆ่าจ้าวเฟิงแน่! พวกเราต้องรีบไปหยุดอาจารย์ลุง!”
ทันทีที่กล่าวจบคำ ร่างเจียงเว่ยก็คล้ายสายลมกรรโชกพัดวูบไปยังประตูหน้าสำนักทันที
อาวุโสคนอื่นพอได้ยินก็รู้ความได้ทันที ต่างหน้าซีดกันเป็นแถวด้วยรู้ดีว่ากำลังจะเกิดอะไรขึ้น!
“ศิษย์น้องเฉียนเจ้าเลอะเลือนแล้วหรือ!!”
“พี่เฉียนอย่าได้วู่วามเชียว!!”
……
ทั้งหลายเร่งตามเจียงเว่ยไปติดๆ ขณะพุ่งร่างงยังอดไม่ได้ที่จะสบถคำตำหนิเฉียนคุนออกมา
มาตอนนี้พวกมันย่อมตระหนักถึงความร้ายแรงของสถานการณ์ดี!
อารมณ์และนิสัยของเฉียนคุนพวกมันไหนเลยยังไม่รู้ได้ ลองอีกฝ่ายมั่นใจว่าต้วนหลิงเทียนมีพลังฝีมือสูงพอจะฆ่าจ้าวเฟิงได้แบบนี้ ย่อมไม่คิดเมตตาต้วนหลิงเทียนแน่!
เพราะเฉียนคุนนั้นเป็นคนที่ ยินยอมฆ่าผิดพันคน..แต่ไม่ยอมปล่อยให้คนร้ายคนเดียวหนีรอดไปได้!!
อย่างไรก็ตามตอนนี้ในสายตาของพวกมันต้วนหลิงเทียนเป็นดั่ง ‘สมบัติ’ ของสำนัก ในสายตาของพวกมันอนาคตของสำนักจันทร์จรัสแสงล้วนขึ้นอยู่กับต้วนหลิงเทียนแล้ว! ด้วยเหตุนี้พวกมันจึงไม่คิดปล่อยให้เฉียนคงทำร้ายต้วนหลิงเทียนได้เด็ดขาด!
อย่างไรก็ตามตอนนี้สถานการณ์มิสู้ดีนัก!
พวกมันรู้ดีแม้จะรีบไปเพียงใดแต่ก็สายเกินการณ์แล้ว กว่าพวกมันจะไปถึงต้วนหลิงเทียนก็คงตายไปแล้ว
อีกด้านหนึ่งต้วนหลิงเทียนที่ได้ยินเสียงตะโกนดังลั่น ก็อดไม่ได้ที่จะแปลกใจ จึงหันมองไปยังต้นเสียงด้วยความสงสัยทันที
“ศิษย์น้องหนีเร็ว!!”
จากนั้นก็มีเสียงคุ้นเคยดังขึ้นตามมา
เขาย่อมจดจำได้ว่าเสียงที่พึ่งดังเป็นของป๋ายลี่หง
ทั้งน้ำเสียงป๋ายลี่หงยังเต็มไปด้วยความกังวลนัก
ได้ยินเสียงกังวลของป๋ายลี่หง ต้วนหลิงเทียนอดไม่ได้ที่จะรู้สึกผิดท่า
และทันใดนั้นเองเขาก็สัมผัสได้ถึงแรงกดดันอันมหาศาลขุมหนึ่งกดทับลงมายังร่างของเขา อีกทั้งอยู่ๆทุกอย่างรอบตัวเขาคล้ายกลับกลายสีทอง มองไปคล้ายเขาตกอยู่ในทะเลสีทองก็ไม่ปาน
‘เขตแดนงั้นเหรอ! แถมไม่ใช่เขตแดนของสู่เซียนขั้นยิ่งใหญ่ทั่วๆไป!’
ใจต้วนหลิงเทียนฉุกคิดได้ทันที หน้ายังเปลี่ยนสีไปไม่น้อย
ถึงตอนนี้แม้เขาจะไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น แต่เขารู้ว่าสมควรมีตัวตนในขอบเขตเซียนกำลังลงมือกับเขาแน่นอน!
“ต้วนหลิงเทียนข้าจะส่งเจ้าไปปรนนิบัติรับใช้ลูกชายข้าจ้าวเฟิงในปรโลก!!”
ในขณะที่ต้วนหลิงเทียนกำลังถูกมหาสมุทรสีทองสะกดพลังทั่วร่างไว้นั้น แรงกดดันมหาศาลจากผู้ที่ตะโกนใส่เขาก็ถาโถมทับมาอีกรอบ
แรงกดดันที่มาพร้อมเสียงตะโกนนั่นแทบทำให้เขาอึดอัดจนแทบสิ้นสติ!
ทว่าในห้วงเวลาที่ร่างกายเขาถูกแรงกดดันมหาศาลถาโถมมานั้นเอง กลิ่นอายพลังขุมหนึ่งพลันปะทุแผ่พุ่งออกมาจากทะเลปราณของต้วนหลิงเทียน มวลปราณแท้มหาศาลขุมหนึ่งพลันพุ่งดั่งน้ำเชี่ยวไปตามชีพจรเซียนทั้ง 99 สาย
ภายใต้การชักนำของมังกรพลังจากเคล็ดบ่มจิต 9 มังกรจักรพรรดิสงคราม ปราณแท้ที่เอ่อล้นออกมาก็โคจรครบรอบในพริบตา!
ทันใดนั้นทะเลปราณที่หว่างคิ้วของต้วนหลิงเทียนก็สั่นไหวคล้ายกำลังจะระเบิด!
ความรู้สึกวิงเวียนจนคล้ายจะเป็นลมบังเกิดขึ้นอีกครั้ง อย่างไรก็ตามรอบนี้ต้วนหลิงเทียนไม่รู้สึกอึดอัด กลับรู้สึกว่าทั่วร่างคล้ายเบาลง!
ทั้งหมดเป็นเพราะเขาทะลวงด่านพลังแล้ว!
ภายใต้แรงกดดันจากเขตแดนของตัวตนระดับเซียนรวมถึงกลิ่นอายพลังเปี่ยมจิตสังหาร ทำให้ต้วนหลิงเทียนทะลวงผ่านไปยังสู่เซียนขั้นยิ่งใหญ่ได้สำเร็จ!
เดิมทีต้วนหลิงเทียนก็ขาดอีกเพียงเล็กน้อยก็จะทะลวงไปยังสู่เซียนขั้นยิ่งใหญ่ได้อยู่แล้ว เวลาที่เขาใช้บ่มเพาะพลังในชั้น 3 ของเจดีย์หลิงหลงไม่ได้สูญเปล่าแต่อย่างใด
มีเพียงเหตุผลเล็กน้อยเท่านั้นที่ทำให้ก่อนหน้าเขาไม่อาจทะลวงผ่านจุดรอคอยได้
ทว่าคราวนี้ด้วยเขตแดนทั้งแรงกดดันรวมไปถึงจิตสังหารจากตัวตนขอบเขตเซียนที่ตะโกนออกมาด้วยอาฆาต ทำให้ต้วนหลิงเทียนสามารถทะลวงผ่านด่านพลัง หักผ่านจุดรอคอยสุดท้ายไปได้ในพริบตา
ทันทีที่บรรลุถึงสู่เซียนขั้นยิ่งใหญ่ แม้เขตแดนมหาสมุทรสีทองประหลาดจะสร้างความกดดันให้เขา แต่มันก็ไม่ได้มากเหมือนตอนแรกอีกต่อไป
อย่างไรก็ตามสังหรณ์อัปมงคลยิ่งมายิ่งแรงกล้า!
ตอนนี้เองต้วนหลิงเทียนสัมผัสได้ถึงบางสิ่งที่กำลังพุ่งจี้มาหาเขาด้วยความเร็วสูง!
ไร้ซึ่งความลังเลใดๆต้วนหลิงเทียนเปิดใช้ม่านตาพิสดารทันที พลังวิญญาณมหาศาลหลั่งไหลปานน้ำเชี่ยวไปยังตาซ้าย พริบตาฉากเรื่องราวในตาซ้ายเขาก็เริ่มช้าลง
และในช่วงเวลาดังกล่าว ต้วนหลิงเทียนสะบัดมือเรียกกระบี่นิลสวรรค์ออกมาทันที กระทั่งจ่ายปราณแท้ที่เพิ่งเพิ่มพูนขึ้นมาลงสู่ตัวกระบี่แทบหมดสิ้น!
อย่างไรเสียต้วนหลิงเทียนก็เหลือปราณแท้ติดตัวไว้ส่วนหนึ่ง
ปราณแท้กว่า 9 ส่วนเริ่มผสานเข้ากับกระบี่นิลสวรรค์ด้วยความเร็วสูง
ทันใดนั้นตัวกระบี่นิลสวรรค์ก็สั่นไหวอย่างแรง กลิ่นอายคมกล้ากระหายเลือดแผ่ซ่านออกมาน่ากลัว! ด้วยไอพลังสีครามที่ฉาบไปทั่วใบกระบี่ พาลให้มวลอากาศโดยรอบถึงกับสั่นสะท้าน!!
ไม่ลังเลและไม่คิดอะไรทั้งสิ้น ต้วนหลิงเทียนตวัดกระบี่นิลสวรรค์ออกไปฉับไวตามอำเภอใจ!
ในขณะที่ตวัดกระบี่ ต้วนหลิงเทียนยังรู้สึกราวกับเขาสามารถเชื่อมใจกับกระบี่นิลสวรรค์ได้!
การเชื่อมใจนี้ให้ความรู้สึกอันยอดเยี่ยมแก่เขานัก สุดที่จะบรรยายออกมาเป็นคำพูดใดๆได้
ฟั่บ!
กระบี่นิลสวรรค์ตวัดออกฉับไว แว่วเสียงเบาๆพอให้ได้ยินเท่านั้น
ขณะเดียวกันนั้นเอง ภายใต้สายตาของเจียงเว่ยและอาวุโสระดับสูงที่พึ่งรุดมาถึงหน้าสำนัก พวกมันก็ได้เห็นว่าร่างชราแก่หง่อมที่กำลังพุ่งเข้าหาต้วนหลิงเทียนนั้น ได้ถูกตัดแบ่งออกเป็น 2 เสี่ยง!
ขณะเดียวกันมหาสมุทรสีทองที่แผ่ล้อมโดยรอบก็สลายหายไป
“อาจารย์ลุงเฉียน!”
“ศิษย์น้องเฉียน!!”
“พี่เฉียน!!”
วินาที่ที่เห็นร่างเฉียนคุนถูกผ่ากลางจนแยกเป็น 2 เสี่ยง เสียงกรีดร้องด้วยความตื่นตระหนกทั้งเสียใจพลันดังขึ้นในอากาศ ไม่ใช่เสียงใครที่ไหนเป็นเจียงเว่ยกับเหล่ายอดฝีมือขอบเขตเซียนที่พึ่งมาถึง
พวกมันแต่เดิมก็ใจเสียไม่น้อย ด้วยคิดว่าต้วนหลิงเทียนอาจถูกเฉียนคุนฆ่าตาย!
อย่างไรก็ตามฉากเรื่องราวเบื้องหน้ากลับทำให้พวกมันตะลึงงันไปอย่างสมบูรณ์
ต้วนหลิงเทียนกลับสังหารเฉียนคุนได้ในกระบี่เดียว!
จังหวะนี้ไม่ใช่แค่ลูกตาเจียงเว่ยและอาวุโสคนอื่นๆจะเผยความหวาดกลัว กระทั่งสองตาคู่หนึ่งที่ลอบมองชมเรื่องราวของสำนักจันทร์จรัสแสงยังอดไม่ได้ที่จะเผยความหวาดกลัว…เป็นไท่หวู่! ตอนนี้หน้าผากมันยังมีเหงื่อเย็นผุดซึมออกมา!!
‘ชะ…โชคดี โชคดีนัก!’
วินาทีนี้ความคิดเดียวในใจของไท่หวู่ก็คือมันโชคดีนัก! โชคดีที่มันไม่ปรากฏตัวออกไปช่วงชิงกระบี่ลึกลับในมือของต้วนหลิงเทียนแต่แรก!
ถึงแม้มันจะกล้าพูดว่าพลังฝีมือมันเหนือกว่าเฉียนคง…
แต่ต่อหน้ากระบี่สังหารเมื่อครู่ มันรู้ตัวดีว่ามันมิอาจรับ!
กระบี่นั่นทั้งเร็วและทรงพลังเกินไป!
เร็วจนทำให้มันรู้สึกสิ้นไร้พลัง กระทั่งใจยังสั่นไหวไปด้วยความหวาดกลัว!
“ศิษย์น้องเจ้ารีบหนีไปก่อนเร็วเข้า!!”
ถึงแม้ว่ากระทั่งป๋ายลี่หงเองก็อดไม่ได้ที่จะหวาดกลัวกระบี่ในมือต้วนหลิงเทียน แต่สติของมันก็ไม่เตลิดอะไร เร่งกล่าวตะโกนเตือนต้วนหลิงเทียนอย่างร้อนใจอีกรอบ!
ถึงแม้มันไม่รู้ว่าไฉนกระบี่เล่มนั้นของต้วนหลิงเทียนถึงได้น่ากลัวขนาดนี้ แต่มันรู้ดีว่าราคาที่ต้องจ่ายย่อมไม่น้อย เพรากลิ่นอายปราณแท้ในร่างของต้วนหลิงเทียนกลับลดฮวบลงอย่างน่าตื่นตระหนก!
เกรงว่าคงยากที่ต้วนหลิงเทียนจะสำแดงอำนาจกระบี่เช่นนั้นได้อีกครั้ง!
“สหายกับครอบครัวเจ้า ข้าจักปกป้องดูแลให้เอง!”
ป๋ายลี่หงยังคงกล่าวเตือนอีกครั้ง
“เฉียนคง…”
หลังได้ยินคำของป๋ายลี่หง ต้วนหลิงเทียนก็สามารถตระหนักถึงเรื่องราวได้ทันที
‘ไม่คิดเลยจริงๆว่าจ้าวเฟิงนั่นที่แท้กลับเป็นลูกของเฉียนคงจริงๆ’
ตอนนี้ต้วนหลิงเทียนก็นึกถึงวาจาที่เฉียนคงกล่าวไว้ก่อนหน้าได้ เขาจึงตระหนักได้ทันทีว่าข้อสันนิษฐานเหลวไหลของเขาที่แท้กลับถูกเผง!
หากแต่เขายังไม่อาจเข้าใจได้จริงๆ ว่าไฉนเฉียนคงถึงรู้ว่าเขาเป็นคนลงมือฆ่าจ้าวเฟิง?
เพราะฟังจากเสียงตะโกนด้วยอาฆาตและการลงมือเมื่อครู่ เห็นชัดว่าเฉียนคงมันมั่นใจว่าเขาลงมือ ยังคิดฆ่าเขาให้ตายในท่าเดียว!