ตอนที่ 52-1 ร้ายแรง
ในตอนเย็น หลี่เว่ยหยางกำลังจะสั่งให้คนรับใช้ของนางเตรียมน้ำร้อนสำหรับอาบน้ำ
แต่เมื่อนางได้ยินเสียงร้องของหญิงสาวผู้หนึ่งดังมาจากสนามหน้าตำหนักของตนเอง จึงขมวดคิ้วขึ้น และเอ่ยถามว่า:
“ข้างนอกมีเสียงอันใด?”
โม่ฉูจึงตอบทันทีว่า:
“บ่าวจะออกไปดูเอง”
หลี่เว่ยหยางคิดทบทวนและกล่าวว่า:
“ไปนำตัวนางเข้ามาด้านใน”
“รับทราบ”
โม่ฉูได้นำตัวสาวใช้ผู้หนึ่ง ที่กำลังร้องไห้ และมีรอยข่วนที่แก้มของนาง
เมื่อสาวใช้ผู้นั้นเดินเข้ามาแล้ว นางจึงกล่าวว่า
“คนรับใช้ของคุณหนูใหญ่กลั่นแกล้งบ่าว…”
“เกิดอะไรขึ้น?”
“คุณหนู…ฮือ..ฮือ..เกือบจะถึงเวลาอาบน้ำของคุณหนูแล้ว บ่าวจึงได้ไปเตรียมน้ำร้อน
ตอนที่บ่าวตักน้ำร้อนเสร็จ ได้มีคนมาผลักและทำให้น้ำหกเปียกเลอะเทอะไปหมด
และเมื่อเห็นว่า คนผู้นั้นเป็นคนรับใช้ของคุณหนูใหญ่ จึงพยายามระงับความหงุดหงิด และเติมกาต้มน้ำอีกครั้ง
แต่ผู้ใดจะไปรู้ว่า นางได้ดึงเอามันไปจากบ่าวอย่างแรง และตบหน้าบ่าวสองครั้ง
บ่าวจึงมิสามารถที่จะอดกลั้นได้อีกต่อไป ดังนั้นจึงได้มีการตบตีกันเกิดขึ้น
จากนั้นนางได้จับบ่าวกดลงบนพื้นและทุบตี ขณะที่ตะโกนออกมาว่าคุณหนูใหญ่จะอาบน้ำ คุณหนูสามใหญ่มาจากที่ใดกันจึงกล้ามาขวาง!”
“นางกล่าวเช่นนั้นจริงหรือ?”
หลี่เว่ยหยางเห็นการบาดเจ็บบนร่างกายของสาวใช้ตัวน้อย ซึ่งดูเหมือนว่า สิ่งที่นั่งเล่ามาจะมิใช่เรื่องโกหก
สาวใช้ผู้นั้นร้องเสียงดังว่า:
“คุณหนูใหญ่ใช้น้ำนมในการอาบน้ำมาโดยตลอด นางมิเคยใช้น้ำร้อน อันที่จริงแล้วพวกนางเพียงแค่ต้องการกลั่นแกล้งพวกเรา…“
หลี่เว่ยหยางจ้องมองนาง ขณะที่ถอนหายใจและกล่าวกับไป๋จื่อว่า:
“เอาขนม และเงินมามอบให้นางด้วย”
จากนั้นไป๋จือจึงทำตามคำสั่งของคุณหนูสามอย่างรวดเร็ว
และเมื่อสาวใช้ได้รับคำปลอบใจแล้ว นางได้เช็ดน้ำตาแล้วหันหลังกลับออกไปพร้อมกับเสียงสะอื้น
หลี่เว่ยหยางส่ายหัวอย่างใจเย็น และกล่าวว่า
“ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป หากมิมีคำสั่งของข้า ห้ามผู้ใดออกไปด้านนอกก่อนที่จะได้รับอนุญาต!”
“คุณหนู! สิ่งนี้มันเป็นเพียงการแก้ปัญหาที่ปลายเหตุ!”
ไป๋จื่อร้องออกมาด้วยใบหน้าที่ยังปรากฏความโกรธเคืองอย่างเห็นได้ชัด
หลี่เว่ยหยางนั่งอยู่ที่ข้างหน้าต่างโดยให้แก้มของนางวางอยู่บนมือขวาของตนเอง
นางหันหน้าไปมองยังอีกตำหนักหนึ่งซึ่งอยู่ห่างไกลออกไป
ซึ่งขณะนี้ ที่บริเวณตำหนักนั้นมีการแสดงของนักร้องกำลังร้องเพลงอยู่ ซึ่งเป็นสิ่งที่หลี่จางเล่อชื่นชอบเป็นอย่างมาก
เดิมทีฮูหยินใหญ่มักจะยับยั้งนางเสมอ
แต่ตอนนี้นางปฏิบัติตามทุกสิ่งที่ปรารถนาได้แล้ว และเห็นได้ชัดว่าแม่ลูกคู่นี้มีความสุขมากเกินไป
ดวงตาที่ชอบธรรมคู่หนึ่งของหลี่เว่ยหยางมีประกายสาดส่องออกมาภายใต้แสงเทียน และน้ำเสียงของนางแผ่วเบาขณะที่กล่าวว่า
“ไป๋จือ อย่าส่งเสียงดัง! ข้ากำลังตั้งใจฟังเพลง”
และความคืบหน้าของการการดำเนินการ ช่างขัดกับความคาดหวังของทุกคนที่กำลังรอคอยอย่างใจจดใจจ่อ
ได้มีข่าวลือแพร่สะพัดออกมาว่า อัครมเหสีจะเรียกตัวของหลี่จางเล่อและฮูหยินใหญ่มารดาของนางเข้าพบ
และทุกคนต่างก็คิดว่า ถึงเวลาแล้วที่พวกนางจะได้รับพระราชทานรางวัล
ดังนั้นสองแม่ลูกจึงตระเตรียมเสื้อผ้าที่จะต้องใช้ในการเข้าเฝ้าทันที
โดยการคัดเลือกช่างตัดเสื้อจากร้านที่มีฝีมือดีที่สุดของเมืองหลวง
และได้สั่งให้ทางร้านนำผ้าที่มีคุณภาพดีเยี่ยมมาให้พวกนางได้เลือกสรร
จากนั้นจึงรีบตัดเย็บเสื้อผ้า สำหรับใช้สวมใส่ในวันที่พวกนางถูกเรียกตัวเข้าวัง
ทุกคนคิดว่า พวกนางคงจะได้รับพระราชทานรางวัลภายในเวลามินานนับจากนี้
แต่ผู้ใดจะคาดคิดว่า ภายในระยะเวลาเพียงครึ่งเดือนเท่านั้น สิ่งต่าง ๆ ก็ได้เปลี่ยนแปลงไปในทางที่ย่ำแย่อย่างกะทันหัน
ตระกูลหลี่มิได้รับรางวัลใด ๆ เลย และในทางตรงกันข้าม ท่านอำมาตย์หลี่ได้ถูกจักรพรรดิเรียกตัวให้เข้าวังอย่างเร่งด่วน
ขณะนี้ท่านอำมาตย์หลี่กำลังก้มหน้าลง ขณะที่ถูกจักรพรรดิดุด่าด้วยความเกรี้ยวกราด
จากนั้นเขาได้กลับมายังตำหนักด้วยอารมณ์หงุดหงิด และสิ่งแรกที่เขาทำคือ รีบเข้าไปตำหนักหยวนซีของหลี่เว่ยหยาง ขณะที่เขากล่าวอย่างโกรธเคืองว่า:
“เว่ยหยางออกมา!”
หลี่เว่ยหยางได้ยินเสียงของเขาจากภายนอกห้องนอน แต่นางกลับมิได้มีอาการลุกลี้ลุกลนแต่อย่างใดเลย
นางยิ้มอย่างพึงพอใจ ขณะที่เดินออกมาและกล่าวว่า:
“ท่านพ่อเกิดอันใดขึ้น?”
หลี่เสี่ยวหรันตะโกนออกมาด้วยความโกรธอย่างรุนแรง:
“เจ้าคิดอันใดขึ้นมา?!
เจ้ารู้หรือไม่ว่า มีบางสิ่งที่ร้ายแรงเกิดขึ้นในพื้นที่ภัยพิบัติ!”