บทที่ 221 ไม่ใช่ผู้หญิงทุกคนที่ชอบสร้างความลำบาก

กลับไปในยุค 80 จนกลายเป็นที่ชื่นชอบของอดีตสามี

บทที่ 221 ไม่ใช่ผู้หญิงทุกคนที่ชอบสร้างความลำบาก

บทที่ 221 ไม่ใช่ผู้หญิงทุกคนที่ชอบสร้างความลำบาก

เซี่ยชิงหยวนชี้ไปยังที่พัก จากนั้นชี้ไปที่ร้านซ่อมรถของเฮ่ออวี้เฟิง “คุณจะได้ยินฉันจริง ๆ เหรอ?”

จะได้ยินได้ยังไงกัน? นี่มันห่างออกไปอย่างน้อยหนึ่งร้อยเมตรเลยนะ

มีถนนใหญ่คั่นกลาง คนสัญจรไปมาก็เยอะ มีเสียงเอะอะโวยวายอีก

เฮ่ออวี้เฟิงพยักหน้าอย่างเคร่งขรึม “ใช่ครับ ผมเป็นคนหูดีมากน่ะ”

เซี่ยชิงหยวนอดไม่ได้ที่จะสงสัยว่าเสิ่นอี้โจวไปเชิญคนที่มีความสามารถแบบนี้มาจากไหน

และแม้เขาจะหูดีมาก แต่เธอไม่มั่นใจเลยว่าจะตะโกนเสียงดังได้ขนาดนั้นน่ะสิ

หญิงสาวพยักหน้า “ฉันเข้าใจแล้วค่ะ ขอบคุณพี่เฮ่อนะคะ”

เขาดูแก่กว่าเสิ่นอี้โจว ดังนั้นควรเรียกเขาว่าพี่น่าจะถูกต้องแล้ว

เฮ่ออวี้เฟิงชำเลืองมองเธอด้วยใบหน้าแปลก ๆ “ผมอายุน้อยกว่าเสิ่นอี้โจวหนึ่งปีน่ะ”

เซี่ยชิงหยวนพูดไม่ออกอีกแล้ว “…”

เฮ่ออวี้เฟิงเสริม “คุณเรียกผมด้วยชื่อเต็มของผมก็ได้”

เซี่ยชิงหยวนฝืนยิ้ม “อื้ม เฮ่ออวี้เฟิง”

เฮ่ออวี้เฟิงช่วยเธอเช็กอิน พร้อมช่วยยกกระเป๋าและพูดว่า “ที่พักนี้มีห้องครัวของตัวเอง สามารถทำอาหารได้เมื่อคุณต้องการ คุณนำของไปขอให้พวกเขาปรุงให้คุณได้นะ เพียงแค่ต้องจ่ายเงินเพิ่มเล็กน้อยเท่านั้น”

เฮ่ออวี้เฟิงคนนี้…มีความละเอียดรอบคอบจริงๆ

เธอพยักหน้าให้เขาอย่างจริงจัง “ฉันขอโทษที่ทำให้คุณลำบากนะคะ”

เฮ่ออวี้เฟิง “โชคดีที่ไม่ใช่ผู้หญิงทุกคนที่ชอบสร้างความลำบาก”

เขาไม่ใช่คนอดทนเป็นพิเศษ ก่อนหน้านี้เมื่อเสิ่นอี้โจวขอให้เขาช่วยดูแลผู้หญิงให้หน่อย เขาต้องการที่จะปฏิเสธมาก ๆ

แต่อย่างน้อยตอนนี้ แม้เซี่ยชิงหยวนค่อนข้างช่างพูด แต่ไม่ใช่คนจู้จี้

เซี่ยชิงหยวนเงียบไป “…”

หญิงสาววางแผนที่จะออกไปเดินเล่นข้างนอกหลังจากพักเหนื่อยหลังเที่ยง

ที่พักที่เฮ่ออวี้เฟิงหาให้เธออยู่ในทำเลที่ดี ตรงข้ามกับถนนการค้า

เธอต้องการไปที่ร้านหยกในกว่างโจวเสียหน่อย

นับตั้งแต่มีการปฏิรูปและเปิดตัว อุตสาหกรรมหยกแห่งชาติก็ได้พัฒนาอย่างรวดเร็ว

บนพื้นฐานของงานฝีมือแบบดั้งเดิมที่สืบทอดมาเทคโนโลยีขั้นสูงของตะวันตก เช่น มอเตอร์ไฟฟ้าและเครื่องจักรจะค่อย ๆ ถูกนำมาใช้งาน ส่งผลให้หยกแกะสลักมีความวิจิตรงดงามมากขึ้นเรื่อย ๆ และราคาก็สูงขึ้นเช่นกัน

อย่างไรก็ตาม ในช่วง 2-3 ปีแรกของการปฏิรูปและเปิดประเทศ แนวคิดการซื้อหยกยังไม่เป็นที่นิยมมากนัก ผู้คนยังคิดว่าหยกเป็นงานอดิเรกของคนรวย

ร้านทองและเงินสามารถพบได้ในเมืองทั่วไป แต่ร้านหยกจะพบได้เฉพาะในเมืองใหญ่

ในอีกสองหรือสามเดือน เธอจะมีเงินมากพอ ซึ่งเธอต้องการซื้อหินหยกดิบก่อนที่ราคามันจะสูงขึ้น

โดยไม่คาดคิดเลยว่า ทันทีที่เซี่ยชิงหยวนก้าวออกจากที่พัก เฮ่ออวี้เฟิงก็ตามมา

เมื่อมองไปที่เฮ่ออวี้เฟิงที่จู่ ๆ ก็ปรากฏตัวขึ้นข้างหลัง เซี่ยชิงหยวนก็อดไม่ได้ที่จะตกใจบราวนี่ออนไลน์

เฮ่ออวี้เฟิงพูดว่า “คุณควรขอให้ผมไปกับคุณเมื่อคุณไปข้างนอกนะ”

เซี่ยชิงหยวนระงับความตื่นตระหนก และพูดว่า “เวลากลางวันแสก ๆ อย่างนี้ ไม่น่าจะมีปัญหาอะไรหรอกจริงไหม?”

เฮ่ออวี้เฟิงยืนยันว่า “ไม่ ผมสัญญากับเสิ่นอี้โจวเอาไว้แล้วว่าจะปกป้องคุณ”

เซี่ยชิงหยวน “คุณออกมาจากร้านแบบนี้ เจ้านายของคุณจะไม่หักค่าจ้างคุณเหรอ?”

เฮ่ออวี้เฟิง “ผมนี่แหละเจ้านาย”

มุมปากของเธอกระตุก “ถ้างั้นฉันขอรบกวนคุณหน่อยก็แล้วกัน”

เฮ่ออวี้เฟิงเดินนำหน้าเธอ “คุณอยากไปเที่ยวร้านไหน?”

เซี่ยชิงหยวนเม้มปาก “ร้านหยก”

ความประหลาดใจฉายแววในดวงตาของเฮ่ออวี้เฟิง และเขาพูดว่า “ข้างหน้ามีเพียงไม่กี่ร้าน ผมจะพาคุณไปดูแล้วกัน”

เซี่ยชิงหยวนไม่คาดคิดว่าจะมีร้านแถวนี้จริง ๆ เธอตามไปอย่างรวดเร็ว และในพริบตาเดียวเธอก็มาถึงประตูร้านหยกที่เฮ่ออวี้เฟิงพูดถึง

เธอเห็นร้านหยกสามร้านเรียงติดกัน แต่ละร้านไม่ใหญ่มาก มีขนาดประมาณยี่สิบหรือสามสิบตารางเมตร การตกแต่งค่อนข้างเรียบง่าย มีตู้โชว์หลายตู้ มีหยกแกะสลักอยู่บ้าง เมื่อเข้าประตูไปก็มีปี่เซียะหรือกะหล่ำปลีหยกวางอยู่ ซึ่งหมายถึงการดึงดูดความมั่งคั่ง

เซี่ยชิงหยวนเดินเข้าไปในหนึ่งในร้านหยกเหล่านั้น

เจ้าของร้านกำลังงีบหลับอยู่ด้านใน เมื่อเห็นลูกค้ามา เขาก็รีบเช็ดน้ำลายจากปากแล้วพูดด้วยรอยยิ้มว่า “ลูกค้าทั้งสองต้องการซื้ออะไรเหรอครับ?”

เซี่ยชิงหยวนจ้องมองไปที่เครื่องหยกบนเคาน์เตอร์แล้วพูดว่า “ขอฉันดูก่อนนะคะ”

เธอพบว่ามีเครื่องหยกไม่มากนักในเวลานี้

นอกจากหยกที่แกะสลักเป็นรูปปั้นพระโพธิสัตว์ พระพุทธรูป ก็มีเป็นกำไลข้อมือเป็นส่วนใหญ่ และยังมีเข็มกลัดอีกเล็กน้อย

เมื่อเห็นว่าเซี่ยชิงหยวนจ้องมองกำไลข้อมือ ในที่สุดเจ้าของร้านก็ถามว่า “สาวสวย คุณชอบแบบไหนล่ะ ให้ผมเอาออกมาให้คุณลองไหม?”

เซี่ยชิงหยวนกวาดสายตาผ่านกำไลข้อมือที่มีมากกว่าโหลทีละวง และในที่สุดก็ส่ายหัว “ไม่ล่ะขอบคุณค่ะ”

เมื่อชาติที่แล้วเธอเคยได้ยินจากอาจารย์ช่างทำหยกของเธอว่า ถ้าผู้ที่สวมใส่หยกนั้นถูกกำหนดให้คู่กับหยกชิ้นนั้น ๆ หยกก็จะแวววาวมากขึ้นเรื่อย ๆ และคนคนนั้นก็จะรู้สึกปลอดโปร่งใจมากขึ้นเรื่อย ๆ และส่งผลดีในด้านต่าง ๆ อีก

คำพูดว่าหยกสามารถพิทักษ์เจ้านายได้นี้ถูกพูดสืบต่อกันมานับพันปี แต่ถ้าถามว่ามันเป็นเรื่องจริงไหมนั้นไม่มีใครรู้

เมื่อเจ้าของร้านเห็นว่าเซี่ยชิงหยวนมองดูอย่างเดียวและไม่ได้จะซื้อ เขาจึงไม่มีท่าทางยิ้มแย้มแบบตอนแรก

เขาเม้มริมฝีปาก นั่งลงบนเก้าอี้แล้วกางพัดโบกลมใส่ตัวเอง

เฮ่ออวี้เฟิงถามขึ้นอย่างหายากว่า “คุณไม่ชอบพวกมันเหรอ?”

เซี่ยชิงหยวนว่ายหัว “ไม่มีอันที่ต้องตาน่ะ”

ในชาติที่แล้วเธอได้พบกับอาจารย์ในมณฑลส่านซี ในเวลานั้นเขายังร่อนเร่ไปมาไม่เป็นหลักแหล่ง

หากเธอต้องการพบเขาตอนนี้ เธอก็ไม่รู้เหมือนกันว่าจะเริ่มจากตรงไหน

สาเหตุที่เธอต้องการเริ่มต้นธุรกิจหยก เพราะเธอคิดถึงอาจารย์ของตัวเอง และกำไลข้อมือที่เขามอบให้เธอ

เธอแตะข้อมือที่ว่างเปล่าแล้วพูดว่า “ไปกันเถอะ”

หลังจากพูดอย่างนั้น เธอก็เดินออกจากร้านหยก ทว่าไม่ทันคาดคิด ทันทีที่เธอเดินออกไป เธอก็ได้ยินเสียงที่หยอกล้อทันที “นี่คนสวย หายไปไหนมาเนี่ย ฉันไม่ได้เห็นหน้าเธอนานมากแล้วนะ!”

———————