ตอนที่ 76

Earth’s Best Gamer

ซ่าา!

ฝนพิษได้ปกคลุมร่างกายของจีเย่ในขณะที่ควันสีดำจำนวนมากโผล่ออกมา

อย่างไรก็ตามก่อนที่งูดำจะเพลิดเพลินไปกับความสุขที่ได้แกแค้น จีเย่ก็พุ่งออกมาจากควันสีดำและอยู่ห่างจากมันเพียง 10 ฟุตแล้วตอนนี้

นี่เป็นเพราะ ‘บาร์เรียสีเขียว’ ปกคลุมร่างกายของจีเย่ มันเป็นแสงสีเขียวนี้ที่ป้องกันพิษทั้งหมด

“หยกวิญญาณ” สีเขียวที่เขาได้รับจากสินสงครามของผู้เล่นชาววิญญาณได้ฉายแสงที่ขุ่นมัวบนหน้าอกของจีเย่

มันเป็นบาร์เรียที่ถูกเปิดใช้งานซึ่งทำให้การโจมตีตามแผนของงูดำล้มเหลวอีกครั้ง

“ฟ่อออ!”

ไผ่ลับสองใบอย่างมังกรน้ำและพิษนั้นล้มเหลวทั้งคู่ เมื่อเผชิญหน้ากับจีเย่ผู้ที่ซึ่งวิ่งไปด้านด้านของมัน งูดำจึงใช้การโจมตีแบบดั้งเดิมของมัน

หวูดดด!

ร่างหนาของงูดำที่ราวกับหยกสีดำนั้นรัดตัวจีเย่ผู้ที่พุ่งเข้ามาตรงหน้ามัน ด้วยขนาดของงูดำและสายเลือดมังกรน้ำ มันสามารถรัดช้างจนกระดูกแตกเป็นเสี่ยงๆ ได้อย่างแน่นอน

แครกก!

‘บาร์เรียสีเขียว’ ที่ถูกพิษกัดกร่อนได้สลายไปภายใต้แรงบีบรัดอันทรงพลัง

เพล้งงง!

น่าเสียดายที่แสงสีเหลืองปรากฏขึ้นอีกชั้นบนผิวหนังของจีเย่ในทันทีเพื่อป้องกันการโจมตีครั้งสุดท้ายของงูดำ

จีเย่ผู้ที่อยู่ห่างออกไปเพียงไม่กี่นิ้วก็ได้ถือดาบงูดำด้วยมือทั้งสองข้างและฟันออกไปเต็มกำลัง และด้วยการเพิ่มความแข็งแกร่งของพละกำลังโกลาหลดั้งเดิม เขาจึงสร้างเสียงดาบที่ฉีกอากาศได้!

ฉัวะ!

หัวของงูดำตกลงบนพื้น

การต่อสู้ทั้งหมดใช้เวลาไม่ถึงครึ่งนาที

ฉัวะ!

งูดำที่หัวถูกตัดไม่ได้ลุกขึ้นมาทำการต่อต้านครั้งสุดท้ายเหมือนครั้งก่อน ในทางกลับกันร่างกายของมันเปลี่ยนเป็นพลังงานแห่งโชคชะตาสีเหลืองของมนุษย์ในทันที ส่วนหนึ่งลอยไปยังศาลเจ้าถิ่นฐานของภูเขามังกรคู่

อีกส่วนหนึ่งหลอมรวมเข้ากับร่างกายของจีเย่โดยกลายเป็นบัตรที่แปลกประหลาดที่ดูเหมือนว่าจะสร้างจากทอง

[สังหารงูดำแห่งโชคชะตา (ระดับวิสามัญอันดับ 3 ขั้นผู้บัญชาการ) แต้มเกียรติยศที่ได้รับ : 10 แต้มเกียรติยศหายากที่ได้รับ : 1 ได้รับ : บัตรทองของเมืองแห่งมนุษย์!]

บัตรทองของเมืองแห่งมนุษย์?

จีเย่ประหลาดใจเล็กน้อย

ความหมายเบื้องหลังของคำกล่าวนี้น่าสนใจอย่างเห็นได้ชัด

อย่างไรก็ตามบัตรที่ก่อตัวขึ้นจากพลังแห่งโชคชะตาในร่างกายของเขา จีเย่ไม่สามารถตรวจสอบข้อมูลเกี่ยวกับคุณสมบัติของมันได้

นอกจากนี้ก็ไม่ใช่เวลาที่จะมายืนอยู่ที่นี่

นี่เป็นเพราะการต่อสู้ยังคงดำเนินต่อไปในทั้งสามทิศ

ในสนามรบทิศใต้ของป้อมปราการ หลู่จือเซินกำลังปราบปรามลิงแมนดริลอย่างสมบูรณ์ อันที่จริงหลังจากใช้ไม้เท้าสมาธิโลหะเหมันต์ที่หนัก 50 กิโลกรัมทำลายบาร์เรียแสงสีเหลืองของลิงแมนดริล เขาก็เหวี่ยงไม้เท้าออกไปและใช้หมัดของ้ขาฟาดไปที่ใบหน้าที่ดูเหมือนผีร้ายของลิงแมนดริลจนหน้าของมันเต็มไปด้วยสีน้ำเงิน แดง และดำที่ถูกผสมเข้าด้วยกันทำให้ใบหน้าของมันดูย่ำแย่ยิ่งกว่าตัวร้ายที่มีชื่อเสียง

หลังจากมาถึงระดับวิสามัญอันดับ 3 เขาก็มีกำลังภายในเพียงพอที่จะต่อสู้อย่างเต็มกำลัง หลังจากความแข็งแกร่งของเขาเพิ่มขึ้น วีรบุรุษซ้องกั๋งคนนี้ก็ได้แสดงพลังต่อสู้อันทรงพลังของขั้นสมบูรณ์ออกมา

ตูม!

หลังจากสังหารลิงแมนดริลด้วยหมัดสุดท้ายของเขา พลังแห่งโชคชะตาก็ได้แบ่งออกเป็นสองส่วน หนึ่งในนั้นหลอมรวมกับหลู่จือเซิน เห็นได้ชัดว่าหลู่จือเซินได้รับรางวัลพิเศษ

โดยอาศัยความแข็งแกร่งของพวกเขา การต่อสู้ทั้งสองทิศจึงจบลงอย่างรวดเร็ว

สนามรบอีกสองทิศช้ากว่าเล็กน้อย

“ว้าววว…”

คุณชายบักผู้ที่สวมผ้ารัดหน้าทองสีแดงร้องตะโกนออกมาในขณะที่เขากระโดดไปมา หอกในมือของเขาถูกกวัดแกว่งอย่างค่อนข้างเป็นระเบียบทำให้ป้องกันแมงป่องหยกระดับวิสามัญขั้นกึ่งผู้บัญชาการให้อยู่แต่ด้านนอกป้อมปราการอย่างเหนึยวแน่น

ลุงเก้าผู้ที่ยืนอยู่บนแท่นบูชาก็ได้หลับตาลงและท่องคาถาบางอย่าง

เนื่องจากระยะห่างที่ไกล จีเย่จึงไม่สามารถได้ยินสิ่งที่ลุงเก้ากำลังท่อง แต่เขาสามารถได้ยินเสียงเพลงที่ฉู่หยินบรรเลงได้

มันเป็นท่วงทำนองที่จีเย่คุ้นเคยเป็นอย่างดี เมื่อเขาได้ยินมัน เขาก็นึกถึงเสียงร้องเพลงโดยไม่รู้ตัว

“เป็นเธอ เป็นเธออย่างแน่นอน…”

สีหน้าของจีเย่แปลกเล็กน้อย ลุงเก้าได้คิดวิธีนี้ขึ้นมาเพื่อผสานกับ ‘ยันต์อัญเชิญเทพเจ้า’

ถูกต้อง ทั้งสามคนใช้ยันต์เหมาซานที่ทรงพลังที่สุดจากศิลปะสายฟ้าห้าแฉก

ตามชื่อของมัน มันคือ ‘การอัญเชิญเทพให้เข้าสิง’ อย่างไรก็ตามไม่เหมือนกับแม่มดและผู้หยั่งรู้บนโลกผู้ที่ทำตัวลึกลับ ในดินแดนแห่งมรดกแห่งนี้ยันต์อัญเชิญเทพเจ้านั้นมีพื้นฐานมาจากวิทยาศาสตร์

แกนหลักก็คือลุงเก้าได้ส่งพลังเวทมนตร์ให้คุณชายบักยืมและภายใต้ผลของยันต์อัญเชิญเทพเจ้าบนตัว เขาจึงมีการเปลี่ยนแปลกเชิงคุณภาพ ลุงเก้าแม้กระทั่งใช้ผีผาบุษราคัมของฉู่หยินเพื่อบรรเลงเพลงสะกดจิตเขาให้คิดว่าตนเองเป็นเทพเจ้าในความทรงจำเพื่อกระตุ้นศักยภาพของเขา

เป็นผลให้คุณชายบักผู้ที่อยู่ในระดับสามัญสามารถต่อสู้กับแมงป่องหยกเหลืองระดับวิสามัญได้ เขาแม้กระทั่งได้เปรียบ!

เมื่อเห็นว่าสนามรบนี้ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร จีเย่จึงหันไปทาง ‘รูปขบวนต่อสู้สิบคน’ ที่ต่อสู้กับหัวหน้าหมาป่าน้ำเงิน

“บรูววว!”

พูดตามตรง หัวหน้าหมาป่านั้นเป็นสิ่งมีชีวิตที่เร็วที่สุดในบรรดาสิ่งมีชีวิตระดับวิสามัญทั้งสี่ตัว

อย่างไรก็ตามการต่อสู้ในทิศนี้ยังไม่เริ่มขึ้น

นี่เป็นเพราะแม้ว่ามันจะเป็นเพียงร่างแห่งการล้างแค้นที่เกิดมาจากพลังแห่งโชคชะตา หัวหน้าหมาป่าน้ำเงินก็ดูเหมือนว่าจะสืบทอดสไตล์ที่ระมัดระวังของร่างหลักมัน หลังจากพุ่งเข้ามา มันก็เริ่มเดินวนรอบรูปขบวนต่อสู้ของภูเขามังกรคู่

ในที่สุดจีเย่ก็เข้าใจความหมายของคำว่าเสือไม่ทิ้งลาย

อันที่จริงหัวหน้าหมาป่าน้ำเงินไม่ได้ตั้งใจที่จะต่อสู้เพียงลำพัง

“บรูวววว! บรูววว…”

นับตั้งแต่ที่ก่อตัวเป็นรูปร่าง มันก็ยกคอขึ้นและเห่าหอนหลายครั้ง หมาป่าก็ได้เห่าหอนตอบสนองในป่านอกหมู่บ้าน

หลังจากนั้นหมาป่าไม่กี่ตัวที่มีขนสีเทาอมฟ้าและดวงตาสีม่วงก็พุ่งออกมา

มันคือหมาป่าน้ำเงินที่หลบหนีไปจากการต่อสู้ก่อนหน้านี้ พวกมันถูกเรียกตัวกลับมาโดยหัวหน้าหมาป่าน้ำเงิน

“บรูววว!”

ในขณะนี้แววตาของหัวหน้าหมาป่าน้ำเงินก็ถูกเติมเต็มไปด้วยความเกลียดชังในขณะที่มันพุ่งเข้าใส่รูปขบวนการต่อสู้ภายใต้การป้องกันของลูกน้อง

“ฆ่าหมาป่าระดับสามัญก่อน!”

เมื่อเผชิญหน้ากับสถานการณ์นี้ ผู้เล่นขั้นชั้นยอดทั้งสองคนของภูเขามังกรคู่ก็ขมวดคิ้วทันที

“ไม่จำเป็นต้องฆ่าพวกมัน”

อย่างไรก็ตามในขณะที่ฉินเยว่หยูดึงสายธนูและเล็งไปที่หัวของหมาป่า ทันใดนั้นเสียงของจีเย่ก็ดังขึ้นมาจากด้านข้าง

“หมอบลง!”

จากนั้นจีเย่ก็หันไปมองฝูงหมาป่าน้ำเงินที่กำลังพุ่งเข้ามาที่รูปขบวนและกล่าวอย่างสงบ

สัญลักษณ์หัวหน้าหมาป่าสีเงินปรากฏขึ้นบนหน้าผากของเขาในขณะที่คลื่นพิเศษได้ห่อหุ้มร่างกายของเขา

ทันใดนั้นหมาป่าน้ำเงินหลังโลหะอันดับสามัญก็หมอบลงกับพื้นราวกับว่าพวกมันถูกฟ้าผ่า ไม่กล้าแม้กระทั่งขยับตัว

“บรูววว…”

แม้ว่าหัวหน้าหมาป่าน้ำเงินระดับวิสามัญที่ถูกควบแน่นจากพลังแห่งโชคชะตาก็วิ่งเข้ามาช้าลงอย่างเห็นได้ชัด

อย่างไรก็ตามความเร็วของมันมากเกินไป เมื่อพุ่งเข้าสู่รูปขบวนการต่อสู้ของมนุษย์เพียงลำพัง มันก็ไม่สามารถถอยกลับได้แล้ว