บทที่ 198 เข้าใจผิด มองสมบัติเป็นวัชพืช

หมอเทวดาขอกลับมาเป็นป๊ะป๋า

บทที่ 198 เข้าใจผิด มองสมบัติเป็นวัชพืช

บทที่ 198 เข้าใจผิด มองสมบัติเป็นวัชพืช

เวลาที่อยู่กับลูกสาวคือช่วงเวลาที่ดีที่สุด โจวอี้อยากจะอยู่แบบนี้ตลอดไป อยู่ในช่วงเวลาอาหารเช้าที่อบอุ่นและมีความสุขเสมอ

ทว่าช่างน่าเสียดาย!

โจวอี้ไม่มีพลังวิเศษในการควบคุมเวลา

เมื่อทุกคนกินและดื่มกันเพียงพอแล้ว โจวอี้จึงพาถังเสี่ยวรุ่ยไปที่โซฟาในห้องนั่งเล่น ขอให้เธออยู่บ้านเพื่อดูทีวี และขอให้เหม่ยหลานดูแลเธอด้วย

จากนั้นจึงขึ้นรถของซุนเหมาไฉเพื่อที่จะพาถังเหมียวเหมี่ยวไปส่งที่โรงเรียน

หลังจากนั้นเขาและซุนเหมาไฉก็รีบไปที่เมืองฉู่

ณ ตลาดวัตถุดิบยา

โจวไฉ่เซียกำลังทักทายแขกหลายคนในร้านยาของเธอ แต่เมื่อเธอเห็นชายหนุ่มคนหนึ่งรีบร้อนตรงไปที่ตู้ยาที่อยู่ด้านใน เธอก็เดินไปหาอีกฝ่ายทันที

“หญ้าเย็นอยู่ไหน? เมื่อวานตอนเย็นที่ผมมา หญ้าเย็นยังอยู่ในตู้กระจกอยู่เลย ทำไมวันนี้มันหายไปแล้ว” ชายหนุ่มรีบถาม

“ฉันขายมันแล้ว” โจวไฉ่เซียตอบ

เธอจำได้ว่าโจวอี้ นายน้อยแห่งภูเขาชางหลางศิษย์สำนักโอสถซื้อหญ้าเย็นไปเมื่อวาน และยังมีสมุนไพรอีกสองอย่าง

“ขายแล้ว!? ขายได้ยังไง! ใครบอกให้ขาย!” ใบหน้าของชายหนุ่มเปลี่ยนไปอย่างมากและตะโกนด้วยความโกรธ

“หมายความว่าไง นี่ร้านฉัน สมุนไพรของฉัน ทำไมฉันจะขายมันไม่ได้!” โจวไฉ่เซียขมวดคิ้ว เธอถามอย่างเย็นชาว่า “คุณมาที่นี่เพื่อซื้อของหรือมาสร้างปัญหาให้ร้านฉัน? ฉันขอเตือนนะว่าตลาดวัตถุดิบยากำลังไปได้สวยในช่วงนี้ ถ้ามาสร้างปัญหา ตำรวจจะมาถึงในสามนาทีนี้แน่”

“ผมไม่ได้มาสร้างปัญหา ผมแค่ต้องการซื้อหญ้าเย็น” ชายหนุ่มเพิ่งรู้ตัวว่าการกระทำของตนเองหยาบคายมากเกินไป เขายิ้มออกมาและพูดว่า “โปรดบอกผมทีว่าใครเป็นคนซื้อหญ้าเย็นไป ผมยินดีซื้อมันจากอีกฝ่ายในราคาสูง”

“คุณ…” โจวไฉ่เซียดูงุนงง

มันก็แค่หญ้าเย็น ทำไมต้องจริงจังขนาดนี้?

ถ้าเขาต้องการ เขาสามารถหาซื้อหญ้าเย็นที่ร้านอื่นก็ได้ไม่ใช่เหรอ?

“ขออภัย ฉันไม่สามารถเปิดเผยความลับของลูกค้าได้” โจวไฉ่เซียส่ายหัว

“แสนหยวน… ถ้าคุณสามารถบอกตัวตนหรือข้อมูลติดต่อของอีกฝ่ายได้ ผมจะให้คุณแสนหยวน” ชายหนุ่มพูดอย่างจริงจัง

โจวไฉ่เซียรู้สึกสับสนหนักกว่าเดิม

ราคาที่เธอขายหญ้าเย็นให้โจวอี้อยู่ที่ 24,000 หยวนเท่านั้น แต่ตอนนี้อีกฝ่ายเต็มใจให้เธอ 100,000 หยวนเพื่อข่าวจากคนที่ซื้อหญ้าเย็น?

เกิดอะไรขึ้น?

หรือมีความลับอะไรซ่อนอยู่?

โจวไฉ่เซียลังเลอยู่ครู่หนึ่ง แต่ก็ยังส่ายและพูดว่า “ขอโทษ ฉัน……”

“สองแสน!” ชายหนุ่มขึ้นราคาทันที “ถ้าคุณบอกผมได้ว่าใครเป็นคนซื้อหญ้าเย็น ผมจะให้เงินคุณสองแสนหยวน!”

“น้องชาย มันไม่เกี่ยวกับเงิน แต่…”

“ห้าแสน!”

“ฉันไม่…”

“หนึ่งล้าน!”

หัวใจของชายหนุ่มเจ็บแปลบ แต่เขาก็ยังกัดฟันและขึ้นราคา

ในขณะที่โจวไฉ่เซียตกตะลึง เธอจ้องตาชายหนุ่มและพบว่าเขาจริงจังไม่มีทีท่าว่าจะล้อเล่น

บ้าอะไรกัน!

แค่ข้อมูลติดต่อ แต่ยอมจ่ายหนึ่งล้านหยวน!

มันเกินไปไหม? หรือสมุนไพรที่ฉันขายให้โจวอี้เมื่อวานไม่ใช่หญ้าเย็น?

ไม่น่าใช่นะ!

ฉันทำธุรกิจนี้มาหลายปีแล้ว ฉันสามารถบอกได้ว่าสมุนไพรแบบไหนคือหญ้าเย็น และแบบไหนคือไม่ใช่!

โจวไฉ่เซียคิดนานกว่าสิบวินาที ก่อนจะพูดอย่างจริงจังว่า “ฉันสามารถบอกคุณได้ว่าใครเป็นคนซื้อหญ้าเย็น แต่คุณต้องตอบคำถามฉันมาตามจริงก่อน”

“คุณถามมา!”

“ทำไมคุณถึงยอมให้เงินหนึ่งล้านหยวนกับฉันโดยเปล่าประโยชน์เพื่อให้ได้ข้อมูลคนซื้อหญ้าเย็น? คุณรู้ไหม ราคาหญ้าเย็นที่ขายในร้านของฉันอยู่ที่ 24,000 หยวนเท่านั้น”

“ก็นั่นมันไม่ใช่หญ้าเย็น!”

ชายหนุ่มลังเลอยู่ครู่หนึ่ง แต่ก็ไม่ได้ปิดบังอะไร เขาพูดตามตรงว่า “จริง ๆ แล้วนั่นคือหญ้าเสวียนหมิงซึ่งเป็นวัตถุดิบยาล้ำค่าและหายากมาก ลักษณะภายนอกของมันคล้ายกับหญ้าเย็นมาก แต่ก็มีความแตกต่างกันเล็กน้อย”

หญ้าเสวียนหมิง?

โจวไฉ่เซียรู้จักวัตถุดิบยามากกว่าแปดร้อยชนิด แต่เธอมั่นใจได้ว่าเธอไม่เคยได้ยินชื่อหญ้าเสวียนหมิง

“มีค่ามากเลยเหรอ?” โจวไฉ่เซียสงสัย

“มีค่างั้นเหรอ? แน่นอนอยู่แล้ว! นักหลอมยาที่รู้จักมันยอมควักเงินหลายร้อยล้านเพื่อซื้อมัน คุณคิดว่ามันมีค่ารึเปล่าล่ะ?” ชายหนุ่มนึกดูถูกโจวไฉ่เซีย แต่เขาไม่กล้าแสดงออกมาให้เห็น เขายังต้องให้โจวไฉ่เซียยอมบอกว่าใครเป็นคนซื้อหญ้าเสวียนหมิงไป!

โจวไฉ่เซียรู้สึกตกตะลึง

หญ้าเสวียนหมิงซึ่งมีมูลค่าหลายร้อยล้าน ถูกขายในราคาสองหมื่นสี่พันเท่าราคาหญ้าเย็น?

เธอทุกข์ใจจนเกือบจะสบถออกมา

ไม่ใช่โจวอี้แต่เป็นเธอผู้ตาบอดและเข้าใจผิดว่าสมบัติล้ำค่าเป็นวัชพืชข้างทาง!

อย่างไรก็ตาม เธอมีอีกคำถามในใจ “ในเมื่อคุณรู้ว่ามันคือหญ้าเสวียนหมิง แล้วทำไมคุณไม่ซื้อมันไปเมื่อวานนี้? แต่เพิ่งมาซื้อเอาวันนี้?”

“ผม…” เมื่อชายหนุ่มได้ยินคำถามนี้ เขาแทบอยากจะทึ้งผมตัวเอง

เขารู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติกับหญ้าเย็น แต่เขาไม่แน่ใจว่ามันคือหญ้าเสวียนหมิงจริง ๆ รึเปล่า ดังนั้นเขาจึงเก็บความสงสัยไว้ในใจ ถ่ายรูปแล้วส่งไปให้ปู่ของเขาดู จากนั้นก็ออกจากร้านยาไปก่อน

เมื่อวานนี้ปู่ของเขาอยู่บนเที่ยวบินจากต่างประเทศกลับมายังประเทศจีน และเพิ่งมาถึงสนามบินนานาชาติจินหลิงเมื่อเช้านี้ ปู่ของเขาจึงเพิ่งเห็นภาพที่เขาส่งให้หลังลงจากเครื่องบินและเปิดโทรศัพท์มือถือ

แน่นอนว่าปู่ของเขาจำได้ว่าสมุนไพรในภาพไม่ใช่หญ้าเย็น แต่เป็นหญ้าเสวียนหมิง ดังนั้นเมื่อแน่ใจแล้วเขาจึงมาที่นี่ทันทีเพื่อซื้อมัน

แต่แล้วผลลัพธ์…

หญ้าเสวียนหมิงถูกขายไปแล้ว

“ผมตอบคำถามของคุณแล้ว คุณช่วยบอกตัวตนของผู้ซื้อหญ้าเสวียนหมิงได้ไหม ตราบใดที่คุณไม่โกงผม ผมจะโอนเงินหนึ่งล้านหยวนให้คุณทันที” ชายหนุ่มกล่าวอย่างจริงจัง

“แซ่ของคนซื้อไปคือโจว โจวอี้” โจวไฉ่เซียไม่ได้บอกอีกฝ่ายว่าโจวอี้เป็นศิษย์ของสำนักโอสถ แต่พูดอย่างใจเย็นว่า “แต่ฉันไม่มีข้อมูลติดต่อของเขา”

“เขามีลักษณะยังไง” ชายหนุ่มรีบถาม

“ฉันมีกล้องวงจรปิดอยู่ที่นี่ มากับฉัน!”

สิบนาทีต่อมา ชายหนุ่มก็ออกจากร้านและกดโทรออกไปยังหมายเลขหนึ่ง ก่อนจะพูดอย่างเศร้าใจว่า “ปู่ หญ้าเสวียนหมิงถูกขายไปแล้ว แต่ผมรู้แล้วว่าใครซื้อมัน… อืม อืม ผมจะรอปู่”

ลานจอดรถตลาดวัตถุดิบยา

โจวอี้และซุนเหมาไฉจอดรถใกล้ ๆ และเดินไปเข้าไปในตลาด

แม้ว่าพวกเขาจะรู้ว่าวันนี้จะมีการประมูลวัตถุดิบยาล้ำค่าแต่พวกเขาก็ไม่กังวล เพราะเวลาเริ่มต้นของการประมูลวัตถุดิบยาคือตอนเที่ยง ซึ่งตอนนี้เหลือเวลามากกว่าสองชั่วโมง

“เฒ่าซุน ครั้งแรกที่ผมไปตลาดวัตถุดิบยาของเมืองจินหนาน คุณรู้ไหมว่าผมได้อะไรมา” โจวอี้เดินเข้าไปในฝูงชนและยิ้มให้ซุนเหมาไฉที่อยู่ข้าง ๆ

“คุณได้อะไร?”

“ผมเจอกับดอกหมึกม่วงสามดอกในตลาดที่นั่นซึ่งมันมีอายุมากกว่าสิบปี และผมจ่ายเงินไปแค่สามสิบหยวนเพื่อซื้อมัน และจากนั้น ผมไปที่ร้านหมื่นห้องยาและขายให้เธอในราคาสามแสนหยวน”

โจวอี้ยิ้มและพูดต่ออกว่า “แบบนี้โลกภายนอกเขาเรียกว่าอะไรนะ? ความรู้เท่ากับความมั่งคั่งรึเปล่า? ฮ่าฮ่า…”

ซุนเหมาไฉยกนิ้วโป้งขึ้นและพูดด้วยความชื่นชมว่า “นายน้อยโจวยอดเยี่ยมจริง ๆ เจ้าของร้านที่ขายดอกหมึกม่วงคงคิดว่าพวกมันเป็นพริกหยวกใช่ไหม?”

“ใช่!” โจวอี้ยิ้มอย่างเบิกบานและเสนอว่า “ทำไมเราไม่เดินดูรอบ ๆ แผงลอยแถวนี้ก่อนเพื่อดูว่าเราจะเจอโอกาสทำเงินอีกไหม?”

“ดี!” ซุนเหมาไฉไม่ได้สนใจการทำเงินแบบนี้มากนัก แต่ก็พยักหน้าเห็นด้วย