ตอนที่ 206 ม้าสามตัวอยู่กันพร้อมหน้า
มู่เถาเยาขี่ราชาม้าป่ากลับหมู่บ้านเถาหยวนซาน ชาวบ้านที่พบเจอระหว่างทางต่างตกใจม้าที่รูปร่างสูงใหญ่ตัวนี้
ผิวพรรณของมันดุจผ้าแพรสีดำก็มิปาน เป็นมันวาว ขาทั้งสี่แข็งแรงกำยำ สง่าผ่าเผย ชวนให้ตกตะลึงเป็นอย่างมาก
เมื่อเข้าหมู่บ้าน มู่เถาเยาก็ให้ราชาม้าป่าค่อยๆ ลดความเร็ว พวกชาวบ้านถึงเห็นลักษณะรูปร่างของราชาม้าป่าอย่างชัดเจน
เพียงแต่มันไม่ชอบให้คนสัมผัส เวลามีคนน้ำลายไหลอยากลูบมัน ราชาม้าป่าก็จะร้องฮี้ส่งเสียงเตือน
สัตว์ของเขตป่าชั้นในป่าเซียนโหยวจะไม่แตะต้องสัตว์อื่นตามใจ เพราะนั่นหมายถึงการล่าอาหาร
มู่เถาเยากระโดดลงจากม้า ตบแผงคอของมันเบาๆ เป็นการปลอบโยน “เกาหม่า ในหมู่บ้านปลอดภัยมาก ไม่ต้องระแวงนะ”
ราชาม้าป่าผ่อนคลายลง สายตาแน่วแน่และลุ่มลึก คล้ายน้ำในทะเลสาบ ลึกจนไม่อาจคาดเดา
“เสี่ยวเยาเยา พาราชาม้าป่าออกมาแล้วเหรอ”
ดวงตาของชายฉกรรจ์ที่รูปร่างสูงใหญ่ถูกราชาม้าป่าสะกดแน่นิ่ง
เท่มาก!
“ใช่ค่ะ อาสาม พรุ่งนี้หนูจะพามัน เสี่ยวเหยี่ย และก็เสี่ยวเซวี่ยไปอยู่ที่เขตป่าชั้นนอก ให้พวกมันใช้ชีวิตอยู่ที่นั่นระยะหนึ่ง ถ้าอาสามเห็นพวกมันก็อย่าเข้าใกล้นะคะ เกาหม่าเป็นม้าที่ขี้หวาดระแวงเป็นพิเศษ เดี๋ยวจะถูกมันเตะหรือเหยียบเอาได้”
“อาสามเข้าใจ อารองของหนูไปบอกผู้ใหญ่บ้านแล้ว ผู้ใหญ่บ้านประกาศไปทั่วหมู่บ้านแล้ว”
“ค่ะ”
“เสี่ยวเยาเยารีบกลับบ้านเถอะ พวกอาจารย์ของหนูน่าจะเป็นห่วงแล้ว”
“ค่ะ”
มู่เถาเยาพาราชาม้าป่าเดินผ่านอาสามมู่
“เกาหม่า คืนนี้พักในหมู่บ้านก่อนนะ พรุ่งนี้ฉันจะส่งพวกนายพ่อแม่ลูกไปอยู่เขตป่าชั้นนอก”
“ฮี้…” อืม
มู่เถาเยาคุยกับราชาม้าป่าพลางทักทายชาวบ้านที่เดินผ่าน
ราชาม้าป่าเป็นจุดสนใจมาก
เมื่อหลายปีก่อนมู่เถาเยาไม่ได้พามันเข้าหมู่บ้าน แต่ส่งเสี่ยวเซวี่ยไปอยู่ที่เขตป่าชั้นนอก จากนั้นค่อยไปพาราชาม้าป่าออกมาจากเขตป่าชั้นใน แต่ชาวบ้านส่วนใหญ่เคยเห็นมัน
ดังนั้นเข้าหมู่บ้านครั้งนี้ ทุกคนจึงมองว่ามันเป็นเพื่อนเก่า
ก็แค่ราชาม้าป่าทั้งดุทั้งถือตัว ไม่สนใจใครทั้งนั้น
เพื่อนเหรอ ไม่มีคำนั้น!
“เกาหม่า นายไม่ชอบหมู่บ้านเหรอ แต่ชาวบ้านชอบพวกนายนะ”
“ฮี้…” ไม่ชอบ ไม่คุ้นเคย ไม่มีความรู้สึกปลอดภัย
“ไม่เป็นไร เดี๋ยวกินข้าวเสร็จฉันจะพาพวกนายสามตัวออกมาเดินเล่น ทำความคุ้นเคยก็ได้แล้ว ตอนนี้กลับบ้านก่อน แม่ฉันกับพวกอาจารย์รอพวกเราอยู่”
“ฮี้…” ก็ได้ เมียกับลูกของมันก็กำลังรอมันอยู่
คนกับม้าเดินบนทางในหมู่บ้านที่สะอาดและสวยงามอย่างสบายใจ ดูเหมือนเอ้อระเหย แต่ในความเป็นจริงคือเร่งความเร็วกว่าปกติ
“พี่สาวๆๆ…”
“ย่าเยาเยา!”
ตี้อันเหยี่ยกับมู่ซือจิ่นเล่นอยู่ตรงลานบ้าน พอเห็นคนกับม้าเดินมาไกลๆ ก็รีบวิ่งเข้าไปหาพลางตะโกนเรียก
คนที่อยู่ในบ้านพอได้ยินเด็กสองคนนี้ตะโกนก็รีบวิ่งออกมา เข้าไปต้อนรับด้วยกัน
“เสี่ยวเยาเยา…”
มีเสียงเรียกไม่ขาดสาย ล้อมคนกับม้าไว้ตรงกลาง
ราชาม้าป่าชักเริ่มหงุดหงิด ร่างกายหดเกร็ง ร้องฮี้พลางเดินวนรอบ
มู่เถาเยาไม่ทันได้ตอบทุกคน รีบปลอบราชาม้าป่าก่อน
“เกาหม่า ใจเย็นๆ พวกเขาไม่ทำร้ายนาย…”
ลูบหัวปลอบมันอยู่หลายนาทีราชาม้าป่าถึงเริ่มสงบลง
“ทุกคนอย่าล้อมเข้ามาใกล้ขนาดนี้ เกาหม่ายังไม่ชินกับสภาพแวดล้อมแบบนี้ค่ะ”
อาจารย์ใหญ่รีบให้ทุกคนแยกออกมา
“เสี่ยวเยาเยา ถอดตะกร้าออกมาก่อน” อาจารย์เล็กวางมือที่ตะกร้าบนไหล่สองข้างของมู่เถาเยา
มู่เถาเยาเอนหลังเล็กน้อยเพื่อถอดตะกร้าออก
อาจารย์เล็กถือตะกร้าที่บรรจุสมุนไพรกว่าครึ่ง ไป๋เฮ่าอวี๋ที่อยู่ข้างๆ เข้ามารับไปอย่างรู้งาน
อาจารย์แม่เล็ก “เสี่ยวเยาเยา บนหลังม้านั่นอะไรเหรอ สมุนไพรเหรอ”
“ไม่ใช่ค่ะ นี่เป็นอาหารที่ม้าชอบมากที่สุด เกาหม่าให้หนูเอากลับมาฝากเสี่ยวเหยี่ยกับเสี่ยวเซวี่ยหน่อยค่ะ”
ทุกคนมองดู ไม่เข้าใจว่าคือพืชชนิดไหน
ตี้อู๋เปียนมองดู ถามมู่เถาเยา “นี่เหมือนจะเป็นเถาวัลย์ตี้หวังหรือเปล่า คนก็กินได้ใช่ไหม”
ไม่ใช่เสี่ยวฉยงที่บอกเขา แต่เขาเคยอ่านหนังสือที่จินเฉิงเจียงนักพฤกษศาสตร์เขียนไว้ ในนั้นมีทั้งภาพและคำอธิบาย
“ใช่ ก็คือเถาวัลย์ตี้หวัง กินได้ ก็แค่ไม่ค่อยอร่อย หลายคนไม่ชอบ”
เธอเคยกินสด แต่ก็ไม่ชอบ
รู้ว่ามันกินได้ก็เพราะอ่านหนังสือของจินเฉิงเจียงเหมือนกัน
พืชชนิดนี้ไม่ได้หาเจอง่ายๆ ที่ข้างนอก ในหนังสือของจินเฉิงเจียงบอกว่ามีแค่ในป่าลึกเท่านั้น
เป่ยซี “ในเมื่อไม่อร่อย งั้นก็เก็บไว้ให้ม้าที่ชอบกินมันแล้วกัน”
ตอนนี้ไม่ใช่สมัยโบราณที่ยากจนถึงขั้นต้องแย่งอาหารสัตว์กิน
“ค่ะ” เดิมทีก็เอามาให้ม้ากินอยู่แล้ว
อาจารย์ใหญ่ “เสี่ยวเยาเยา เอาม้าไปไว้ที่โรงเรือนด้านข้างก่อนเถอะ อาหยวนกับอาฉีกำลังอาบน้ำให้ม้าสองตัวนั้นพอดี”
“ค่ะ”
“พี่สาว อันเหยี่ยขี่ม้าๆ”
พอเห็นตี้อันเหยี่ยกำลังจะเข้าไปกอดขาม้า มู่เถาเยารีบคว้าตัวกลับมาอย่างรวดเร็ว
“อันเหยี่ย ห้ามกอดมันส่งเดช มันจะเตะให้นะ”
ตี้อันเหยี่ยถามด้วยความไม่เข้าใจ “อันเหยี่ยไม่ได้ตีมัน ทำไมมันต้องเตะอันเหยี่ยด้วย”
“เพราะมันยังไม่สนิทกับหนู ก็เหมือนคนแปลกหน้าจะมากอดหนู หนูยินดีเหรอ”
ตี้อันเหยี่ยส่ายหน้ารัวๆ
“ม้าม้าก็เหมือนกัน ไม่ชอบคนแปลกหน้าจ้ะ”
“งั้นอันเหยี่ยรอสนิทกับมันก่อนค่อยขี่”
“จ้ะ”
มู่เถาเยาจูงตี้อันเหยี่ย พาราชาม้าป่าเดินกลับไปที่โรงเรือนข้างห้องปรุงยา
คนอื่นๆ ก็พากันยกขบวนตามไปดูครอบครัวม้าอยู่กันพร้อมหน้า
เสี่ยวเหยี่ยชอบความครึกครื้น พอได้ยินเสียงจอแจข้างนอกก็ไม่สนอาหยวนที่กำลังอาบน้ำให้มันอยู่ รีบวิ่งออกไปทันที
พอมันเห็นราชาม้าป่า มันก็เอียงหน้าด้วยความสงสัยหนัก
มู่เถาเยาเห็นมันทำหน้างงเหมือนเด็กน้อย จึงยิ้มพูด “เสี่ยวเหยี่ย นี่พ่อของนาย ไม่รู้จักแล้วเหรอ”
ราชาม้าป่าเดินเข้าไป เอาจมูกชนกับจมูกของเสี่ยวเหยี่ย
เสี่ยวเหยี่ยร้องฮี้ ท่าทางเหมือนทำตัวไม่ถูก
พอถูกราชาม้าป่าเอาจมูกชนมันก็เบือนหน้าไปมองมู่เถาเยา
“เสี่ยวเหยี่ย พ่อนายออกมาเยี่ยมนายกับแม่แล้ว”
เสี่ยวเหยี่ยยืนอยู่กับที่สักพัก ราวกับจำได้แล้วว่าม้าตัวนี้เป็นใคร มันเอาหัวไปคลอเคลียหัวของราชาม้าป่า
มู่เถาเยาอมยิ้มมองพวกมัน
เสี่ยวเซวี่ยค่อยๆ เดินออกมาเห็นสองพ่อลูกคลอเคลียกัน สายตาของมันพอใจเป็นอย่างมาก
มู่เถาเยาลูบม้าทั้งสามตัว เอาเถาวัลย์ตี้หวังลงจากหลังม้าแล้วถามอาหยวนกับอาฉีที่ดูแลพวกมัน “เสี่ยวเหยี่ยกับเสี่ยวเซวี่ยน่าจะยังไม่ได้กินอาหารเย็นหรือเปล่า”
อาหยวนพยักหน้า “ครับ ยังไม่ได้กิน กะว่าอาบน้ำเสร็จจะให้อาหารครับ”
“งั้นฉันจะทำความสะอาดเกาหม่าก่อน เดี๋ยวให้พวกมันสามตัวกินด้วยกัน”
“เสี่ยวเยาเยา อาจารย์อาบเอง ตระกูลซย่าโหวก็เลี้ยงม้าเหมือนกัน รู้ว่าต้องทำยังไง” ซย่าโหวโซ่วถกแขนเสื้อขึ้น
“อาจารย์เล็กคะ เกาหม่าไม่ชอบให้คนแปลกหน้าแตะตัว หนูเองดีกว่าค่ะ ทุกคนกลับเข้าบ้านก่อน หนูเสร็จแล้วจะตามไป”
มู่เถาเยาถอดกระเป๋าผ้าออกจากบ่า
ตี้อู๋เปียนยื่นมือออกไปก่อน หยิบกระเป๋ามาสะพายเอง
“ซาลาเปาน้อย ฉันจะรอเธอตรงนี้”
เจ้าถุงลมน้อยกอดขาแสดงความต้องการ “อันเหยี่ยก็จะรอพี่สาว”
“ได้จ้ะ ปู่ทวด ปู่ตี้ ย่าตี้ คุณแม่…เข้าไปกันก่อนเถอะค่ะ”
“จ้ะ”
เหล่าคนชราพาทุกคนออกจากตรงนั้นกลับเข้าบ้าน