ตอนที่ 311 ความหวาดกลัวที่แพร่กระจายไปทั่ว (2)
เกาชงหน้าซีดในทันที สิ่งที่เขาพูดนั้นชัดเจนมากแล้ว ครั้งนี้เคอฉังจวีตั้งใจแน่วแน่ที่จะนำคนไปจากยอดเขาเมฆาเขียว ยอดเขาเมฆาเขียวสูญเสียการปกป้องจากเจียงเฉินชิงแล้ว หากเขายังต่อต้านเคอฉังจวีอีก คนที่ซวยก็จะเป็นเขา
“ถ้าเช่นนั้น…ก็รบกวนผู้อาวุโสเคอด้วย” เกาชงพยายามอย่างมากที่จะไม่พ่นเลือดที่อยู่ในปากออกมา
ฮวาเหยาพยักหน้าด้วยความพึงพอใจและนำจวินอู๋เสียและเฉียวฉู่เดินเล่นรอบๆ ยอดเขาเมฆาเขียวโดยไม่สนใจสายตาผู้อื่น
ตลอดทางที่พวกเขาทั้งสามเดินได้ดึงดูดสายตาของลูกศิษย์ยอดเขาเมฆาเขียวมากมาย หลังจากนั้นไม่นานเกาชงก็แจ้งข่าวเรื่องที่ผู้อาวุโสเคอมายอดเขาเมฆาเขียวเพื่อ ‘คัดเลือก’ ลูกศิษย์ออกไป
ในช่วงเวลาสั้นๆ ทุกคนในยอดเขาเมฆาเขียวต่างตกอยู่ในอันตรายเพราะทุกคนต่างรู้ว่าจุดประสงค์ที่เคอฉังจวีเลือกลูกศิษย์นั้นเพื่ออะไร
หากพวกเขาถูกเลือกให้ไปที่ยอดเขาเร้นเมฆา สิ่งที่รอคอยพวกเขาคือการทรมานที่เจ็บปวดจนไม่อยากมีชีวิตอีกต่อไป
ทุกคนต่างแอบอธิษฐานให้ผู้อาวุโสเคอไม่ ‘เลือก’ ตัวเอง
เฉียวฉู่เดินตามหลังฮวาเหยาและมองลูกศิษย์ทั้งหลายที่ต่างเดินถอยหลังด้วยความเกรงกลัวทำให้เขารู้สึกเหมือนสุนัขจิ้งจอกแอบอ้างบารมีเสือ
“ทำไมข้ารู้สึกเหมือนจะเราที่กลายเป็นคนชั่ว” เฉียวฉู่ลูบจมูกของเขา
“ถ้าให้โอกาสพวกเขาตอบโต้ คนชั่วก็จะเป็นพวกเขา ตอนนี้ที่เจ้ารู้สึกว่าพวกเขาน่าสงสารนั้นเป็นเพราะเราอยู่สูงแต่พวกเขาอยู่ต่ำ พวกเขาจึงถูกทรมานและสังหารโดยเรา แต่ถ้าไม่ใช่เพราะแผนของจวินเสีย คนที่กำลังถูกทรมานและสังหารในตอนนี้ก็คงเป็นเรา ” ฮวาเหยาไม่รู้สึกผิดเลย เขามาที่สำนักชิงอวิ๋นก่อนเฉียวฉู่ ในเวลาเพียงครึ่งเดือนก็ทำให้เขาเห็นความชั่วร้ายและไร้ยางอายของสำนักที่เป็นที่หนึ่งของโลกนี้อย่างชัดเจน
เหล่าลูกศิษย์ที่เงียบไม่กล้าพูดในตอนนี้ ในอดีตพวกเขาหยิ่งผยองมากเพียงใด
ภายใต้เทือกเขาเมฆา เดิมทีมีหมู่บ้านมากมาย แต่ตอนนี้อย่าว่าแต่หมู่บ้านเลยเพราะแม้แต่เงาคนก็ไม่มี ชาวบ้านเหล่านั้นไปอยู่ที่ไหนแล้วเพราะเหตุใดที่พักของพวกเขาจึงหายไป
บนเทือกเขาเมฆาไม่มีผู้ที่บริสุทธิ์จริง
“พูดดีมีเหตุผล ถ้าเป็นเช่นนั้น ข้าก็ขอเป็นคนชั่วตั้งแต่แรกเริ่ม ดีกว่าถูกคนชั่วคนอื่นทำลายก่อน” เฉียวฉู่กล่าวด้วยรอยยิ้ม
มีความเมตตาต่อลูกศิษย์ของสำนักชิงอวิ๋น
ลูกศิษย์ของยอดเขาเร้นเมฆาส่งชายหนุ่มที่เข้ามาใหม่ไปให้เคอฉังจวีทรมานจนตาย ก็ไม่เห็นว่าพวกเขาจะสงสารหรือเห็นอกเห็นใจแม้แต่เล็กน้อย
หัวใจของลูกศิษย์สำนักชิงอวิ๋นนั้นดำมืดไปหมดแล้ว
ในสำนักชิงอวิ๋นนี้ เกรงว่าผู้ที่มีจิตสำนึกน่าจะถูกฆ่าตายไปหมดแล้ว
ฮวาเหยาและเฉียวฉู่กระซิบกัน จวินอู๋เสียมองดูพวกเขาอย่างเงียบๆ การสนทนาเมื่อครู่ของพวกเขาได้เข้าหูนางทั้งหมด นางเลิกคิ้วเล็กน้อยและมองไปที่ชายหนุ่มสองคนที่ยังไม่คุ้นเคย
พวกเขาอายุน้อยกว่ามั่วเฉี่ยนยวน แต่จิตใจของพวกเขากลับเป็นผู้ใหญ่กว่า
การร่วมมือในครั้งนี้ไร้กังวลมากกว่าครั้งก่อนมาก
หลังจากเดินเล่นไปทั่วยอดเขาเมฆาเขียว พวกเขาทั้งสามก็ทำให้ลูกศิษย์ของยอดเขาเมฆาเขียวหวาดกลัวกันมาก สุดท้ายจึงจะเลือกลูกศิษย์ออกมาสองคน
ลูกศิษย์สองคนที่ถูกเลือกต่างตกใจจนล้มลงตรงนั้นทันที ทั้งสองต่างหน้าซีดเหมือนจะร้องไห้ ดวงตาขอความช่วยเหลือของพวกเขามองไปที่เกาชงที่ยืนหน้าเครียดอยู่ข้างๆ พวกเขา
เกาชงเป็นเพียงลูกศิษย์คนโตของเจียงเฉินชิง ในขณะที่เคอฉังจวีเป็นผู้อาวุโส แม้ว่าเขาจะมีความกล้าเป็นร้อยเท่า แต่เขาก็ไม่กล้าที่จะฝ่าฝืนคำสั่งของเคอฉังจวี โดยเฉพาะหลังจากที่เจียงเฉินชิงอาจารย์ของเขาล้มลง เขาจึงไม่สนใจสายตาขอความช่วยเหลือของลูกศิษย์ทั้งสองคนนั้นและพยายามเดินส่งเคอฉังจวีออกจากยอดเขาเมฆาเขียวด้วยรอยยิ้ม
…………
ตอนที่ 312 ความหวาดกลัวที่แพร่กระจายไปทั่ว (3)
ลูกศิษย์ทั้งสองคนนั้นถูกนำตัวกลับไปที่ยอดเขาเร้นเมฆาด้วยท่าทางสิ้นหวัง เมื่อพวกเขาเดินมาถึงด้านนอกประตูยอดเขาเมฆาเขียว ขาทั้งสองข้างของพวกเขาก็เริ่มสั่นในทันที ใบหน้าของพวกเขาขาวซีดและสีหน้าของพวกเขาก็โศกเศร้าเหมือนใกล้เสียชีวิต
เรื่องที่ ‘เคอฉังจวี’ ไปเอาคนที่ยอดเขาเมฆาเขียวได้แพร่กระจายไปทั่วสำนักชิงอวิ๋นภายในวันนั้นและอาจารย์ของแต่ละยอดเขาก็ได้รับข่าวนี้ แต่พวกเขาไม่ได้มีปฏิกิริยามากนักกับเรื่องนี้
ในสายตาของพวกเขา หลังจากไม่มีการปกป้องจากเจียงเฉินชิงยอดเขาเมฆาเขียวได้รับการปฏิบัติที่ไม่เป็นธรรมนั้นถือว่าเป็นเรื่องปกติ
ตอนที่เจียงเฉินชิงยังอยู่ ลูกศิษย์ของยอดเขาเมฆาเขียวเห็นว่าอาจารย์ของตัวเองสนิทสนมกับฉินเย่ว์ พวกเขาจึงหยิ่งผยองและมีความขัดแย้งกับลูกศิษย์ของยอดเขาอื่นๆ อยู่บ่อยครั้ง
ตอนนี้เมื่อเห็นเจ้าเด็กพวกนี้ถูกเคอฉังจวีจัดการ ผู้อาวุโสท่านอื่นๆ ไม่เพียงแต่ไม่รู้สึกว่ามันไม่เหมาะสมหรือไม่ถูกต้อง แต่พวกเขากลับรู้สึกว่าเคอฉังจวีช่างกล้าหาญมากที่ไปหาเรื่องถึงยอดเขาเมฆาเขียวหลังจากที่เจียงเฉินชิงเพิ่งจากไป
อย่างไรก็ตาม ฉินเย่ว์ก็ตามใจเคอฉังจวีมาโดยตลอดอยู่แล้ว พวกเขาจึงไม่รู้สึกว่ามันแปลกอะไร
ผู้อาวุโสท่านอื่นๆ เฝ้ามองอย่างนิ่งดูดายแต่ลูกศิษย์ของยอดเขาเมฆาเขียวกลับไม่เป็นเยี่ยงนั้น
วันรุ่งขึ้นหลังจากที่ลูกศิษย์สองคนนั้นถูกพาตัวไปที่ยอดเขาเร้นเมฆา เกาชงก็เริ่มสืบเรื่องลูกศิษย์สองคนนั้นอย่างเงียบๆ แม้ว่าเคอฉังจวีจะบอกว่าแค่พาลูกศิษย์สองคนนั้นกลับไป แต่เกาชงก็ยังไม่วางใจ เพราะนิสัยของผู้อาวุโสเคอคนนี้แปรปรวนตลอดเวลา ถ้าเขากลับมาอีกครั้งในอีกไม่กี่วัน เกาชงก็ทำอะไรไม่ได้อย่างแน่นอน
ดังนั้นเขาจึงทำได้เพียงแอบสืบข่าวของลูกศิษย์สองคนนั้น ภาวนาว่าพวกเขาจะไม่ทนทุกข์ทรมานมากมายเมื่ออยู่บนยอดเขาเมฆาเขียว และเพื่อให้ความหวังกับลูกศิษย์คนอื่นๆ
หลังจากวันนั้น บรรยากาศของยอดเขาเมฆาเขียวก็ยิ่งหดหู่มากขึ้น เดิมทีการเสียชีวิตของเจียงเฉินชิงก็ทำให้ลูกศิษย์ของยอดเขานี้อกสั่นขวัญหายแล้ว ใครจะไปรู้ว่าหลังจากข่าวการเสียชีวิตของเจียงเฉินชิงเพิ่งมาถึงเคอฉังจวีก็มาหาเรื่องถึงที่!
เมื่อไม่มีการปกป้องจากอาจารย์ ลูกศิษย์ของยอดเขาเมฆาเขียวจึงทำได้เพียงแค่เชื่อฟังไม่กล้าทำอะไร
และในวันที่สามหลังจากเคอฉังจวีไปที่ยอดเขาเมฆาเขียว เกาชงก็ไม่ได้รับข่าวของลูกศิษย์สองคนนั้นจากผู้อื่นอีกเลย นั่นหมายความว่าอะไร เกาชงรู้อยู่แก่ใจ!
ลูกศิษย์ที่หายตัวไปจากยอดเขาเร้นเมฆาจะเป็นเพราะอะไรได้อีก นอกจากถูกทรมานจนเสียชีวิตแล้วกลายเป็นปุ๋ยดอกไม้ในยอดเขาเร้นเมฆา
เกาชงไม่ได้ปิดบังข่าวนี้ ไม่นานลูกศิษย์ของยอดเขาเมฆาเขียวทุกคนต่างก็รู้เรื่องนี้และลูกศิษย์ของยอดเขาเมฆาเขียวทุกคนก็เหมือนถูกฟ้าผ่าในทันที
สูญเสียเจียงเฉินชิง อาจารย์ท่านอื่นก็ไม่สนใจและเจ้าสำนักก็ปล่อยให้เคอฉังจวีทรมานและฆ่าลูกศิษย์ของสำนักชิงอวิ๋น เรื่องราวทั้งหมดนี้ทำให้ลูกศิษย์ที่เคยหยิ่งยโสและหยิ่งผยองภายใต้การปกป้องของเจียงเฉินชิงรู้สึกตื่นตระหนกและโกรธแค้นอยู่ในใจ
พวกเขากลัวอย่างยิ่งว่าพวกเขาจะกลายเป็นเป้าหมายต่อไป และพวกเขาก็ไม่พอใจผู้อาวุโสท่านอื่นและเจ้าสำนักที่ไม่สนใจพวกเขาเป็นอย่างมาก
พวกเขาก็เป็นลูกศิษย์ของสำนักชิงอวิ๋น เพราะเหตุใดจึงปล่อยให้เคอฉังจวีมารังแกและดูถูกพวกเขาแบบนี้ในขณะที่อาจารย์ของพวกเขาเพิ่งเสียชีวิตไป
ความขุ่นเคืองและความกลัวเต็มอยู่ในใจของลูกศิษย์ยอดเขาเมฆาเขียวทุกคน พวกเขาไม่ได้พบเจอหรือติดต่อกับยอดเขาอื่นๆ อีก ยอดเขาเมฆาเขียวปิดยอดเขาทั้งหมดและลูกศิษย์ภายในยอดเขาก็ไม่เคยปรากฏในสถานที่ที่อื่นของสำนักชิงอวิ๋นอีกเลย
พวกเขารู้สึกว่าพวกเขาถูกทอดทิ้งจากสำนักชิงอวิ๋น ในเมื่อเจ้าสำนักไม่สามารถปกป้องพวกเขาได้ ทำไมพวกเขาจะต้องเป็นลูกแกะที่รอความตายด้วย
ไม่กี่วันหลังจากที่ยอดเขาเมฆาเขียวประสบภัยพิบัติอันใหญ่หลวง ผู้อาวุโสทั้งหลายที่เฝ้ามองอย่างนิ่งดูดายก็หัวเราะไม่ออกอีกต่อไป
เพราะว่า ‘เคอฉังจวี’ นำลูกศิษย์สองคนมาที่ยอดเขาของพวกเขา และสิ่งที่เขาพูดก็เหมือนกับที่เคยเกิดขึ้นกับยอดเขาเมฆาเขียวมาก่อน
ยอดเขาที่โดนเป็นยอดเขาแรกก็คือยอดเขาธงเมฆา
…………