ตอนที่ 143

My Disciples Are All Villains

พลังที่ดูไร้พิษสงได้พุ่งออกมาจากฝ่ามือของยู่เฉิงไห่ มันชนเข้ากับพลังฝ่ามือทั้งหมดที่กำลังถาโถมเข้าใส่ตัวเขา

ตู๊ม!

คลื่นกระแทกที่เกิดขึ้นทรงพลังมาก มันเป็นคลื่นที่เกิดจากการปะทะกันนั่นเอง

ตู๊ม! ตู๊ม! ตู๊ม!

ต้นไม้ทั้งหมดที่อยู่ใกล้ได้ถูกทำลายไปในทันที คลื่นแรงกระแทกที่เกิดจากพลังโจมตีของจากทั้งสองฝ่ายได้สั่นสะท้านไปทั่วทั้งหุบเขาพยัคฆ์

น่าแปลกที่คลื่นกระแทกไม่ได้ทำลายหุบเขาไป มันถูกพลังที่แปลกประหลาดชักนำพลังทั้งหมดไป

ใบหน้าของซู่ฮ่องกงเต็มไปด้วยทั้งความอิจฉาและความหวาดกลัว การโจมตีของยู่เฉิงไห่เป็นเพียงการโจมตีโดยใช้ฝ่ามือเท่านั้น มันเป็นพลังของฝ่ามืออนุสรณ์สรวงสวรรค์แห่งความมืด เป็นสุดยอดฝ่ามือสรวงสวรรค์แห่งความมืด!

เพียงแค่พลังฝ่ามือเพียงแค่ฝ่ามือเดียว พลังฝ่ามือทั้งหมดจากทั้งจางชุนไหลและพลังจากเหล่าผู้ฝึกยุทธทั้งหลายก็ถูกทำลายไปจนหมดสิ้น

แม้แต่ซู่ฮ่องกงเองก็ไม่คิดมาก่อนว่าพลังของศิษย์พี่ใหญ่ของเขาจะทรงพลังได้มากถึงขนาดนี้

“ถอยเร็วเข้า! ” จางชุนไหลตกใจมากเมื่อเห็นแบบนั้น เขารีบสั่งให้ทุกคนถอยในทันที จางชุนไหลรู้ได้ทันทีว่าชายวัยกลางคนคนนี้จะต้องเป็นยอดฝีมือที่ไม่มีใครสามารถเทียบเคียงได้

ยู่เฉิงไห่ที่ได้ยินแบบนั้นได้เงยหน้าขึ้นมา “มันสายไปแล้ว” เสียงของเขาได้ดังไปทั่วทั้งหุบเขาพยัคฆ์

ตู๊ม! ตู๊ม! ตู๊ม!

ผู้ฝึกยุทธขั้นมหาราชครูไม่สามารถที่จะต้านทานการโจมตีได้แม้แต่เพียงครั้งเดียว เหล่าผู้ฝึกยุทธทั้งหลายที่ถูกโจมตีได้ล้มลงกับพื้นไม่ต่างอะไรกับแมลงวัน ในเวลาเดียวกันผู้ฝึกยุทธขั้นศักดิ์สิทธิ์เองก็พยายามที่จะพุ่งตัวขึ้นสู่ท้องฟ้าให้ได้ไกลที่สุด แต่ถึงแบบนั้นจุดจบของพวกเขาก็ไม่ต่างอะไรกับผู้ฝึกยุทธก่อนหน้านี้

มีเพียงผู้ฝึกยุทธขั้นมหาภัยพิบัติศักดิ์สิทธิ์อย่างจางชุนไหลเท่านั้นที่ยังยืนหยัดได้อยู่ เขาเหลือบมองไปที่ยู่เฉิงไห่ก่อนที่จะเริ่มหนีในทันที จางชุนไหลไม่รอช้าใช้สุดยอดพลังขึ้นมาอีกครั้ง “ร่างอวตารแห่งร้อยวิถี! “

ยู่เฉิงไห่ได้ยิ้มก่อนที่จะพูดขึ้น “ข้ากำลังรอเจ้าใช้พลังนั่นอยู่เลย! ” ยู่เฉิงไห่ได้โบกแขนขวาของตัวเองออกไป ในตอนนั้นเองดาบนิลโลหิตของเขาก็ได้หมุนตัวเองก่อนที่จะทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้า!

อาวุธระดับสรวงสวรรค์ได้พุ่งเข้าโจมตีพลังร่างอวตารของจางชุนไหล มันสามารถทำลายการป้องกันของพลังร่างอวาตารได้อย่างง่ายดาย! จางชุนไหลตั้งใจที่จะใช้พลังร่างอวตารแห่งร้อยวิถีเพื่อที่จะหนีให้เร็วที่สุด แน่นอนว่าการใช้พลังร่างอวตารจะทำให้ผู้ฝึกยุทธสูญเสียพลังลมปราณที่มีไปมาก และเมื่อพลังร่างอวตารถูกทำลายไป ความเสียหายนั้นเองก็จะไหลเข้าตัวของผู้ใช้โดยที่ไม่อาจที่จะหลีกเลี่ยงได้

“ศิษย์พี่ เจ้าน่ะตั้งใจที่จะใช้พลังขั้นสุดยอดในการหนี! ” ซู่ฮ่องกงตะโกนขึ้นมา

จางชุนไหลได้ใช้พลังร่างอวตารแห่งร้อยวิถีเคลื่อนที่ไปด้านหน้ากว่า 1,000 เมตรภายในพริบตาเดียว เพียงแค่ไม่กี่วินาทีเท่านั้นเขาก็ได้ออกจากอาณาเขตของหุบเขาพยัคฆ์ไปเป็นที่เรียบร้อย แต่เมื่อมองย้อนกลับไป จางชุนไหลก็ได้เห็นชายชุดดำลอยตรงมา ยู่เฉิงไห่ได้ตามตัวเขามาติดๆ นั่นเอง

เมื่ออยู่ภายใต้แสงของดวงอาทิตย์ ชุดสีดำและใบหน้าที่ดูเฉียบคมทำให้ยู่เฉิงไห่ทั้งดูยิ่งใหญ่และดูสง่างามมากขึ้น

จางชุนไหลได้ยินเสียงอะไรบางอย่างที่มาจากทางด้านบน และเมื่อเงยหน้ามองขึ้น สิ่งๆ นั้นมันก็คือดาบนิลโลหิตนั่นเอง มันถูกห่อหุ้มด้วยพลังลมปราณที่ดูหนาแน่นอยู่ ในตอนนี้ดาบเล่มนั้นกำลังหมุนอยู่ตลอดเวลา การหมุนของดาบนิลโลหิตเป็นผลมาจากกระบวนท่าแสงดาวแห่งสรวงสวรรค์อันมืดมิด

“เจ้ามีพลังร่างอวตารดอกบัว 5 กลีบเองอย่างงั้นหรอ? ” ยู่เฉิงไห่ถามขึ้น ‘ผู้ฝึกยุทธที่มีพลังร่างอวตารดอกบัว 5 กลีบทำได้เพียงวิ่งหนีเท่านั้นเองสินะ? น่าเสียดายจริงๆ ชายชราคนนี้ยังห่างไกลจากการเป็นศัตรูที่คู่ควร! ‘ ฝีมือและพลังวรยุทธที่จางชุนไหลมีมันเทียบเท่าไม่ได้กับพลังวรยุทธของสุดยอดผู้พิทักษ์ทั้ง 4 ซะด้วยซ้ำ

“จะ…เจ้า…” จางชุนไหลพูดออกมาในระหว่างที่พยายามจะใช้สุดยอดกระบวนท่าในการหนีอีกครั้ง

ยู่เฉิงไห่เอามือไขว้หลังก่อนที่จะพูดขึ้น “ถ้าหากนี่เป็นสิ่งที่สำนักเที่ยงธรรมพอจะทำได้ ข้าก็คิดว่าเจ้าคงจะประมาทหุบเขาพยัคฆ์ของศิษย์น้องแปดของข้ามากเกินไป”

“เจ้าคือศิษย์คนแรกของศาลาปีศาจลอยฟ้า?! “

ในตอนนั้นเองพลังจากแสงดาวแห่งสรวงสวรรค์อันมืดมิดก็จู่โจมเข้าถึงพลังร่างอวตารแห่งร้อยวิถี

ตู๊ม!

เมื่อถูกการโจมตีไปพลังร่างอวาตารแห่งร้อยวิถีก็ดูนุ่มนิ่มไปในทันที พลังร่างอวตารถูกดาบนิลโลหิตทำลายไม่เหลือชิ้นดี!

พลังจากดาบนิลโลหิตยังไม่หยุดแค่นั้น พลังการโจมตีของมันได้สร้างความวุ่นวายราวกับเป็นพลังของพายุเฮอริเคน มันได้ปัดเป่าป่าไม้ นก หรือแม้แต่สัตว์ป่าทั้งหลายต่างก็ได้รับลูกหลงไปด้วยเช่นเดียวกัน

ยู่เฉิงไห่เป็นเพียงคนเดียวเท่านั้นที่ไม่ได้รับผลกระทบอะไรเลยจากการโจมตีนี้ เขายังคงจ้องมองดูพลังทำลายล้างของอาวุธตัวเองต่อไป

จางชุนไหลสิ้นหวัง ‘ข้าจะหนีได้ไหม? ถ้าหากใช้สุดยอดเคล็ดวิชาในการหนีอีกครั้ง ข้าก็คงจะหมดพลังแน่! ‘ จางชุนไหลได้ยกฝ่ามือขึ้นมา ในตอนนั้นพลังลมปราณก็ได้ไหลออกมาจากฝ่ามือของเขา! ในตอนนี้จางชุนไหลได้สูญเสียพลังไปเกือบทั้งหมดแล้ว

พลังฝ่ามือนับไม่ถ้วนได้ถาโถมเข้าใส่อาวุธระดับสรวงสวรรค์ แต่น่าเสียดาย พลังของทั้งสองฝ่ายมันต่างกันมากเกินไป และยิ่งไปกว่านั้นดาบนิลโลหิตก็ยังเป็นเหมือนสุดยอดอาวุธในหมู่ของอาวุธระดับสรวงสวรรค์อีกด้วย

ตู๊ม!

เมื่อดาบนิลโลหิตได้เฉือนไปที่ร่างของจางชุนไหล ในตอนนั้นยู่เฉิงไห่ก็ได้หันหลังกลับในทันที เขาเดินกลับไปยังหุบเขาพยัคฆ์ที่เพิ่งจะจากมา ดาบนิลโลหิตเองก็ได้กลับไปหาผู้ที่เป็นเจ้าของทันทีที่เสร็จสิ้นภารกิจ

เพียงพริบตาเดียวเท่านั้น ที่หุบเขาพยัคฆ์ก็กลับมาสงบสุขอีกครั้ง พลังทำลายล้างทั้งหมดเองก็ได้เงียบหายไป

สมาชิกจากหุบเขาพยัคฆ์ต่างก็ตกตะลึงกับสิ่งที่ได้เห็น เพียงแค่การใช้ฝ่ามือเพียงครั้งเดียวและดาบ การต่อสู้ทั้งหมดก็ได้จบลงแล้ว เมื่อมองออกไปดูรอบๆ หุบเขาพยัคฆ์ในตอนนี้ต้นไม้ส่วนมากได้ถูกถอนรากถอนโคนออกมา สิ่งที่หลงเหลืออยู่มีเพียงความโกลาหลเท่านั้น ถ้าหากสมาชิกของหุบเขาพยัคฆ์ไม่ได้เห็นสิ่งนี้กับตาตัวเอง พวกเขาทั้งหมดก็คงจะไม่เชื่ออย่างแน่นอนว่าทั้งหมดนี้เป็นฝีมือของศิษย์คนที่หนึ่งอย่างยู่เฉิงไห่ สมาชิกจากหุบเขาพยัคฆ์ทั้งหมดได้เลือกติดตามซู่ฮ่องกงก็เพราะว่าเขาเป็นสาวกของศาลาปีศาจลอยฟ้า ในตอนนี้ทุกสิ่งทุกอย่างได้เกินความคาดหมายของพวกเขาทั้งหมดไปแล้ว ใครจะรู้ว่าศิษย์คนแรกของศาลาปีศาจลอยฟ้าจะมีพลังที่มากมายขนาดนี้? เมื่อสู้กับผู้ฝึกยุทธผู้ที่มีพลังอวตาร 5 กลีบ การต่อสู้ทั้งหมดได้จบลงไปอย่างรวดเร็ว จางชุนไหลไม่มีแม้แต่จะมีโอกาสโจมตีกลับได้เลย

ยู่เฉิงไห่ได้กลับไปที่หุบเขาพยัคฆ์ก่อนที่จะเดินไปหาซู่ฮ่องกง เขาได้ยกมือขึ้นมาก่อนที่จะตบไหล่ของผู้เป็นศิษย์น้องเอาไว้ “โชคดีสำหรับเจ้ามากที่เจ้านั่นเป็นเพียงแค่ผู้มีพลังร่างอวตาร 5 กลีบเท่านั้น…ถ้าหากเจ้านั่นมีพลังร่างอวตาร 6 กลีบ เจ้าคงจะต้องเจอกับปัญหาใหญ่ในก่อนหน้านี้แน่”

ซู่ฮ่องกงเองยังคงดูสับสน ใบหน้าของเขาว่างเปล่า แต่เมื่อยู่เฉิงไห่ได้ตบไหล่ตัวเขา ในตอนนั้นเองเขาก็กลับมารู้สึกตัวอีกครั้ง

“ศะ…ศิษย์พี่ใหญ่! ” ทันทีที่กลับมารู้สึกตัว ซู่ฮ่องกงก็รีบพูดชมเชยพูดเป็นศิษย์พี่ในทันที “หลังจากที่แยกตัวออกจากศาลาปีศาจลอยฟ้า ศิษย์พี่เก่งขึ้นมากจริงๆ! “

“เจ้านั่นมันก็แค่ลูกไก่ในกำมือเท่านั้น ไม่มีอะไรที่น่าพูดถึงหรอก” ยู่เฉิงไห่ได้ตอบกลับมาเบาๆ

“มันจะต้องน่าพูดถึงอยู่แล้ว! ข้าไม่เคยเห็นอะไรที่ยิ่งใหญ่อย่างฝ่ามือแสงดาวแห่งสรวงสวรรค์อันมืดมิดของศิษย์พี่ใหญ่มาก่อนเลย! ฝ่ามือของศิษย์พี่ทรงพลังจริงๆ! พลังฝ่ามือของท่านยิ่งใหญ่เหมือนกับกระแสน้ำที่ไม่มีจุดสิ้นสุดจริงๆ …”

“พอได้แล้ว” ยู่เฉิงไห่เดินกลับไปยังฐานที่มั่นก่อนที่จะนั่งลง “เจ้าทำงานกับศิษย์น้องเจ็ดมานานแล้ว ข้ารู้แล้วล่ะว่าเจ้าเรียนรู้ที่จะใช้คำพวกนี้ทั้งหมดมาจากใครกันแน่? “

ซู่ฮ่องกงได้หัวเราะออกมาอย่างเขินอายก่อนที่จะพูดต่อไป “ขอบคุณศิษย์พี่มากจริงๆ ที่ช่วยเหลือข้าในวันนี้ ถ้าหากไม่มีท่านอยู่ข้าก็คงจะต้องตกที่นั่งลำบากไปแล้วแน่”

ยู่เฉิงไห่ไม่ได้ตอบอะไรกลับไป เขาเลือกที่จะถามขึ้นมาอีกครั้ง “ศิษย์น้องเจ็ดช่วยเจ้าสร้างค่ายกลแปดทิศขึ้นมาอย่างงั้นหรอ? “

“เอ่อ…ดวงตาของศิษย์พี่ใหญ่ช่างเฉียบคมยิ่งนัก ข้าเก็บซ่อนอะไรไม่ได้เลยจริงๆ “

“แล้วศิษย์น้องเจ็ดให้เสื้อคลุมตัวนี้กับเจ้าด้วยอย่างงั้นหรอ? ” ยู่เฉิงไห่ถามออกไป

ซู่ฮ่องกงที่ได้ยินแบบนั้นได้พูดออกไปอย่างรีบร้อนไปในทันที “ศิษย์พี่ใหญ่…ได้โปรด! มันเป็นสมบัติเพียงชิ้นเดียวของข้า! “

ยู่เฉิงไห่ได้แต่ถอนหายใจก่อนที่จะส่ายหัว

ซู่ฮ่องกงได้หัวเราะเบาๆ ก่อนที่จะพูดต่อมา “ศิษย์พี่ท่านนี้ยอดเยี่ยมจริงๆ ไม่มีทางเลยที่ท่านจะสนใจเสื้อคลุมตัวนี้ได้ มันเป็นเพียงเสื้อคลุมที่เพิ่มพลังป้องกันของผู้ใช้เท่านั้น พลังป้องกันของศิษย์พี่คงจะล้ำหน้าพลังป้องกันของเสื้อคลุมตัวนี้ไปมากแล้ว! ถูกของศิษย์พี่แล้วล่ะ ศิษย์พี่เจ็ดได้ของสิ่งนี้มาจากวิหารเส้นทางแห่งสวรรค์”

ยู่เฉิงไห่ที่ได้ฟังคำตอบก็ได้พูดขึ้นอีกครั้ง “อย่าให้ความตั้งใจของศิษย์น้องเจ็ดเสียเปล่าไปซะล่ะ ถ้าหากไม่ได้เสื้อคลุมแห่งนิกายเซนตัวนี้ เจ้าก็คงตายไปตั้งนานแล้ว! “

“ศิษย์พี่ใหญ่พูดถูกแล้ว! “

“ในตอนนี้สำนักเที่ยงธรรมได้สูญเสียกำลังคนและยอดฝีมือไป ข้าคิดว่าจางหยวนฉาน เจ้าสำนักเที่ยงธรรมจะต้องไม่คิดที่จะมาที่นี่ในเร็วๆ นี้แน่” ยู่เฉิงไห่ได้พูดขึ้นมาอย่างช้าๆ ขึ้นมาอีก “แต่ถึงแบบนั้นเขาก็อย่าลดการป้องกันของตัวเองลงซะล่ะ! “

“ครับ ศิษย์พี่ใหญ่” ซู่ฮ่องกงตอบรับกลับมาอย่างเชื่อฟัง

ยู่เฉิงไห่ได้มองไปที่กล่องก่อนที่จะถามขึ้นมาอีกครั้ง “ศิษย์พี่สี่ของเจ้าจะกลับมาเอากล่องใบนี้เมื่อไหร่กัน? “

ซู่ฮ่องกงได้นับนิ้วของตัวเองก่อนที่จะโต้ตอบกลับไป “ศิษย์พี่สี่คงจะกลับมาอีกใน 3 วัน”

“ถ้างั้นข้าจะอยู่ที่นี่อีก 3 วัน”

“ศิษย์พี่ใหญ่จะอยู่นานแค่ไหนก็ได้! ” ซู่ฮ่องกงได้ตอบกลับมาอย่างแยบยล

ยู่เฉิงไห่ที่ได้ฟังแบบนั้นก็ได้หัวเราะออกมาอย่างเต็มที่ “พูดกับเจ้าแล้วมันน่าเบื่อจริงๆ ข้าน่ะอยากที่จะเจอศิษย์น้องเจ็ดที่นี่ซะจริง” หลังจากพูดจบยู่เฉิงไห่ก็ได้ลุกขึ้นยืนก่อนที่จะโบกแขนออกมา ในตอนนั้นเองกล่องลึกลับก็ได้ลอยเข้าสู่มือของเขา ไม่นานนักดาบนิลโลหิตเองก็ปรากฏออกมาเช่นกัน

เมื่อซู่ฮ่องกงเห็นดาบนิลโลหิต ในตอนนั้นใบหน้าของเขาก็ถูกความอิจฉาครอบนำในทันที ซู่ฮ่องกงได้แต่หวังให้กล่องลึกลับใบนี้มีอาวุธระดับสรวงสวรรค์ถูกเก็บเอาไว้ “ศิษย์พี่ใหญ่จะเปิดกล่องใบนี้อย่างงั้นหรอ? “

ดาบนิลโลหิตได้ลอยเข้าไปในช่องว่างของมัน

แคล๊ก!

เสียงของกลไกได้ดังขึ้นมาอย่างชัดเจน ในตอนนั้นดาบนิลโลหิตก็ได้ถูกดีดออกมาก่อนที่จะหายไปในทันที

“ท่านอาจารย์ ท่านจะครอบครองสมบัติไปอีกกี่ชิ้นกัน”