บทที่ 180 ได้ยินมาว่างานเลี้ยงต่างๆนั่น เป็นเรื่องง่ายในการเสียตัว

ปลอบใจฉัน ด้วยรักเธอ

เฉียวโยวโยวก็ถึงกับตัวสั่น และมองฟูสีเกอด้วยความตกใจกลัว

ผ่านไปสักพัก เธอก็เพิ่งจะตื่นจากความหวาดกลัวในเมื่อกี้ และมองไปที่เขา : “ คุณไม่ได้ผิดปกติตรงไหนใช่ไหม ?”

เขามองด้วยความว่างเปล่า : “ นี่ผมตั้งใจสารภาพรักกับคุณนะ แต่คุณกลับบอกผมว่าผิดปกติ ?”

เธอจ้องไปที่เขา : “ นี่เป็นการสารภาพรักของคุณหรอ ? เห็นชัดอยู่แล้วว่าคุณกำลังล้อฉันเล่น เพื่ออยากให้ฉันขายหน้า !”

ฟูสีเกอหรี่ตาลง : “ เมื่อกี้คุณคิดว่าผมไม่บริสุทธิ์ใจอย่างนั้นหรอ ? ถ้าอย่างนั้นผมจะเอาความบริสุทธิ์ใจออกมาให้ดู ?”

ในขณะที่พูดนั้น เขาก็ยื่นแขนออกไปหยิบไวน์แดงบนโต๊ะ ดื่มไปอึกใหญ่ จากนั้นก็โอบไปที่เอวของเฉียวโยวโยว และก้มลงไปจูบเธอ

เฉียวโยวโยวจะมีแรงเยอะสู้กับเขาได้ยังไง ? เธอผลักเขา แต่ก็กลับไม่ขยับสักนิดแล้วก็กลับมาดิ้น แต่ก็กลับถูกกอดไว้แน่นกว่าเดิม

จากนั้น ริมฝีปากของฟูสีเกอก็กดลงไป แล้วก็ลูบไล้เธอ และพยายามจะแหย่ปลายลิ้นเข้าไปในปาก แต่ทว่าเธอกลับปิดเอาไว้อย่างแน่น

จู่ๆบนริมฝีปากก็รู้สึกเจ็บขึ้นมา เฉียวโยวโยวรู้สึกว่าต้องพูด แต่กลับถูกฟูสีเกอฉวยโอกาสแหย่ปลายลิ้นเข้าไป

ทันทีหลังจากนั้น เธอรู้สึกว่าไวน์แดงหกเลอะระหว่างริมฝีปากและฟันของเธอ ในไม่ช้าอวัยวะของทั้งหมดของเธอก็ถูกครอบครอง

เขาบังคับให้ลิ้นของเธอนั้นพัวพันกับของเขา และจากนั้นเขาป้อนไวน์แดงอึกใหญ่เข้าไป

ไม่รู้ว่าเป็นเพราะขาดออกซิเจนหรือเปล่า ไวน์แดงอึกนี้ทำให้คนรู้สึกเมาเป็นพิเศษ เฉียวโยวโยวรู้สึกเพียงแค่ว่าในหัวของเธอมึน โดยคาดไม่ถึงว่าจะลืมขัดขืน

ฟูสีเกอรู้สึกพอใจกับท่าทีตอบโต้ของเฉียวโยวโยวอย่างมาก ริมฝีปากที่ยกขึ้น ก็จิบไวน์อึกใหญ่เข้าไปอีกครั้งและจากนั้นก็เข้าไปใกล้

เฉียวโยวโยวถูกป้อนไวน์เข้าไปสองอึก รู้สึกว่าหัวของเธอเริ่มเวียนหัวมากขึ้น เธอลืมตาขึ้น สายตาที่กั้นไว้ด้วยละอองก็มองไปยังฟูสีเกอ ใช้สิติที่มีเหลือยู่น้อยนิดบอกกับเขาว่า : “ คุณรังแกฉัน ”

เขาก็หัวเราะอย่างลึกซึ้ง : “ รู้สึกถึงความบริสุทธิ์ใจแล้วหรือยัง ?”

ในขณะที่พูดนั้น โมเมนตัมของเขาก็เปลี่ยนไป แล้วก็รัดเฉียวโยวโยวแน่นขึ้น จูบที่รุนแรงดั่งพายุฝน ไม่ทำให้เธอได้หายใจเลยสักนิด และเขาก็ยึดครองการหายใจของเธออย่างบ้าคลั่ง

เฉียวโยวโยวขาดออกซิเจนได้สุดยอดมาก และด้วยสัญชาตญาณก็แย่งกันหาออกซิเจนที่เหลืออยู่ในอากาศกับฟูสีเกอ

เมื่อเธอเป็นฝ่ายรุก มันก็ยิ่งทำให้เขารู้สึกตื่นเต้นขึ้นไปอีก เลือดในร่างกายก็ร้องเอะอะอย่างต่อเนื่องไม่หยุด และความปรารถนาเดิมมันก็ถูกปลุกให้ตื่นขึ้น

เฉียวโยวโยวรู้สึกว่าตัวเองไปถึงจุดสุดยอด ผ่านไปไม่กี่วินาที ก็รู้สึกตัวขึ้นมา และอดไม่ได้ที่จะยื่นมือออกไปจับที่ชุดคลุมนอนของฟูสีเกอ

เดิมทีเธอนั่งอยู่บนตักของเขา ในระหว่างที่จูบนั้น ชุดนอนของก็ถูกรูดขึ้นมาต้นขาแล้ว มือของเขาก็ลูบไล้เข้าไป ฝ่ามืออันใหญ่โอบไปยังแผ่นหลังของเธอ ไม่ว่าจะลูบไล้ไปยังส่วนไหน มันก็จะกระตุ้นให้ไฟลุกโชนขึ้นมา

ในขณะที่เฉียวโยวโยวสูดหายใจเข้า ก็อยากที่จะดิ้นให้หลุด แต่กลับไม่มีแรงในการดิ้น กลับค้อยตามฝีมือในการจูบที่ดีเยี่ยมของฟูสีเกอ รู้สึกราวกับว่าร่างกายกลายเป็นน้ำ ที่อ่อนระทวยไปในอ้อมกอดของเขา และไม่มีแรงเลยแม้แต่นิด

เขายกแขนของเธอขึ้น จากนั้นก็ถอดชุดนอนของเธอออก ร่างกายของเธอก็เย็นขึ้นมา ในทันใดนั้น ก็มีอารมณ์ที่เหมือนกับว่าได้สติ

เมื่อรู้ตัวว่ากำลังทำอะไรอยู่ ในหัวของเฉียวโยวโยวก็ราวกับมีเสียงดังขึ้น ขาทั้งสองข้างที่พยายามเอื้อมไปแตะพื้นเพื่อหนี

แต่ทว่าเขาก็กลับแยกขาทั้งสองข้างของเธอ และวางความปรารถนาที่ตื่นขึ้นของเขาก็ไปยังที่ที่อ่อนนุ่มที่สุดของเธอ

เฉียวโยวโยวทำไม้ทำมือด้วยความตื่นตระหนก กลัวว่าตัวเองจะร้องเสียงดังจนทำให้ฟู้เจียนปอที่อยู่ห้องข้างๆตื่น อารมณ์ความเคลิ้มของเธอถูกลดลงในช่วงเวลาสั้นๆ ร่างกายที่สั่น และริมฝีปากที่สั่นเล็กน้อย

“ เราอยู่ด้วยกันนะ !” ฟูสีเกอพูดย้ำอีกครั้ง

เขาเห็นว่าเธอกลัว ด้วยเหตุนี้จึงก้มลงไปจูบยังริมฝีปากของเธอ

ทั้งเบาและนุ่มนวลเป็นอย่างมาก

รู้สึกว่าอุณหภูมิร่างกายของเธอนั้นก็ค่อยๆสูงขึ้น ดังนั้นจึงค่อยๆจูบลงไปและลูบไล้เบาๆตรงคอของเธอ

เฉียวโยวโยวรู้สึกเพียงว่ามีคลื่นไฟฟ้าที่ถูกปล่อยออกมาจากจุดที่ฟูสีเกอนั้นจูบ มันเหมือนกับกระแสน้ำที่อยู่ในร่างกาย ซึ่งมันทำให้รูขุมขนทั่วร่างกายของเธอเปิดออกอย่างควบคุมไม่ได้

ตัวสั่นแต่ร้อนลึกไปยังร่างกาย คาดไม่ถึงว่าจะมีทั้งความร้อนอบอ้าวและความว่างเปล่าที่โผล่ออกมา

เธอหอบหายใจ แต่เขากลับค่อยๆจูบเธออย่างอดทน เลื่องลงไปยังกระดูกไหปลาร้า ท้ายที่สุดก็หยุดอยู่จุดที่อวบอิ่มของเธอ

ในขณะที่เขาจูบ มืออีกข้างก็ไม่หยุดที่ลูบไล้เป็นวงกลม เธอไม่สามารถควบคุมการตอบโต้ของร่างกายของเธอได้ และเกือบจะร้องไห้ออกมา

เขารู้สึกว่าเธอไม่ได้ตัวสั่นแล้ว จึงโอบไปยังเอวของเธอและดันมันเข้าไป

ทันใดก็รู้สึกว่าเต็มไปด้วยความอวบอิ่ม และมันทำให้เส้นธนูที่อยู่ในหัวของเธอนั้นขาด

เธอไม่รู้ว่าตัวเองต้องทำยังไง มีเพียงเหตุผลเดียวที่บอกกับเธอยู่ซ้ำแล้วซ้ำเล่า และคิดไม่ถึงว่าเธอจะนอกลู่นอกทางอีกครั้ง

และอีกอย่างฟู้เจียนปอก็ยังอยู่ห้องข้างๆอีกด้วย และยังคิดไม่ถึงอีกว่าเธอกำลังมีเซ็กส์กับผู้ชายคนอื่นอยู่ที่ระเบียงข้างๆอีกด้วย !

เฉียวโยวโยวรู้สึกสับสนวุ่นวายอยู่ในใจ บริเวณเบ้าตาก็รู้สึกร้อนขึ้นมาโดยที่ไม่รู้ตัว และบนแก้มก็เปียกไปแล้ว

น้ำตาของเธอไหลอาบบนแก้ม ไหลผ่านคางอย่างรวดเร็ว และหยดลงบนไหล่ของฟูสีเกอ

เขารู้สึกถึงเขาความเย็น จึงค่อยๆดึงเธอออกมาเล็กน้อย และเห็นว่าภายใต้แสงจันทร์นั้นมีน้ำตาไหลอาบบนแก้มของเฉียวโยวโยว

เขารู้สึกงุนงงเล็กน้อย : “ โยวโยว ผมทำให้คุณเจ็บหรือเปล่า ?”

เธอส่ายหัว แล้วก็กัดที่ริมฝีปากไม่พูดอะไร แต่ทว่าน้ำตาก็ไหลมากขึ้น

เขาไม่รู้ว่าจะทำยังไง แต่ทว่ามันเข้าไปแล้ว มันแย่มากถ้าจะหยุดกลางคัน ดังนั้น ทำได้แค่ขยับให้มันช้าลงบ้าง : “ แบบนี้ดีขึ้นมาหน่อยไหม ?”

เธอยังคงไม่พูดอะไร และมองไปยังเธอ

ทันใดนั้นฟูสีเกอก็รู้สึกอึดอัดบริเวณหน้าอกเล็กน้อย เขายื่นแขนออกไปแล้วก็ดึงเฉียวโยวโยวเข้ามาในอ้อมกอด แล้วก็ยังไม่ได้ขยับอีกและตบไปที่หลังของเธอเบาๆ : “ ร้องไห้ขนาดนี้ มันก็กับราวกับผมกำลังรังแกคุณจริงๆ ”

ในที่สุดเธอก็ยอมเอ่ยปาก แต่น้ำเสียงที่พูดก็ยังคงสะอึกสะอื้นอยู่ : “ คุณก็รังแกฉันอยู่นิ ”

เขาพูดอย่างไม่มีความผิด : “ ผมรังแกคุณตรงไหน ? ถึงแม้เมื่อก่อนผมจะมีแฟนมาไม่ใช่ก็ตาม แต่ระหว่างที่ผมมีแฟนอยู่นั้น ไม่เคยที่จะทำอะไรผิดต่อเธอ ถ้าหากคุณอยู่กับผม ผมก็ไม่มีทางที่จะนอกลู่นอกทางเหมือนกัน และถ้าผมไม่ยินยอมที่จะอยู่กับใคร ก็จะบอกเลิกในทันที ไม่มีทางที่จะกล้าทำแต่ไม่กล้ายอมรับ ”

เธอรู้ว่าฟูสีเกอกำลังพูดถึงฟู้เจียนปอ ไม่รู้ว่าเป็นเพราะฤทธิ์ของไวน์หรือเปล่า เธอเพียงรู้สึกว่าอารมณ์ของตัวเองดูเหมือนจะขยายออกไปอย่างไม่สิ้นสุด รู้สึกแค่ว่ามาเต็มไปด้วยความรู้สึกที่น้อยเนื้อต่ำใจ ดังนั้นจึงอ้าปากและกัดไปบนไหล่ของฟูสีเกอ

เขารู้สึกเจ็บอยู่ชั่วขณะจากนั้นก็จ้องมองไปยังเธอ : “ ยัยแมวป่า กัดทีนี่ร้ายจริงๆ !”

เธอหัวแข็งและทำปากมุ่ย : “ นี่คุณเอาแต่หัวเราะเยาะฉันใช่ไหม ที่บอกว่าเขานอกลู่นอกทางฉันก็ยังทนได้ ? นี่คุณกำลังดูถูกฉันอยู่ใช่ไหม ?”

ฟูสีเกอยิ้มมุมปาก : “ นี่แคร์ความเห็นของผมขนาดนั้นเลยหรอ เป็นเพราะว่าหวั่นไหวกับผมแล้วใช่ไหม ?”

ในขณะที่พูดนั้น เขาก็กระพริบตาและพราวเสน่ห์ใส่เธอ

เดิมทีอารมณ์ที่ไม่สบายคาดไม่ถึงว่าจะถูกเขาในขณะนั้นทำให้มันหายไปหมด เฉียวโยวโยวหยุดร้องไห้แล้วและสูดจมูก

“ โอเคพอแล้ว ผมไม่ได้หัวเราะเยอะคุณ และไม่ได้ดูถูกคุณ ” ฟูสีเกอยื่นมือออกไปเช็ดน้ำตาให้เธอ : “ ถ้าเกิดว่าผมดูถูกคุณจริงๆแล้วละก็ ตอนนี้ผมก็คงไม่มี——”

เฉียวโยวโยวยกมือขึ้นและเอาไปปิดที่ปากของฟูสีเกอ ไม่ให้เขาพูดต่อ

เขาแลบลิ้น และเลียไปบนฝ่ามืออันอ่อนนุ่มของเธอ

เธอก็หดมือกลับโดยสัญชาตญาณ

แผนชั่วของฟูสีเกอสำเร็จ และพูดต่อคำที่ยังพูดไม่จบเมื่อกี้ : “ เซ็กส์ ”

จู่ๆแก้มของเฉียวโยวโยวก็แดงขึ้นมาในทันที รู้สึกว่าหัวใจเต้นรุนแรงเกินไป และสั่นจนหน้าอกของเธอเริ่มชา

เธอหายใจสั้นๆ : “ ไม่แล้ว ฉันจะทำกับคุณแบบนี้ไม่ได้ !”

แต่เขากลับอุ้มเธอแล้วก็ยืนขึ้น จากนั้นก็วางตัวเธอลงบนโต๊ะ และดันมันเข้าอีกไปอีกครั้ง

เฉียวโยวโยวถพยายามถีบขา แต่ทว่ากลับถูกฟูสีเกอจับข้อเท้าไว้ แล้วเขาก็ดันมันเข้าไปลึกขึ้น ก้มหัวลงและยิ้ม : “ สบายไหม ?”

เมื่อร่างกายของเธอสัมผัสกับโต๊ะก็รู้สึกเย็นเจี๊ยบ แต่ทว่าที่ที่กำลังมีความสัมพันธ์กับฟูสีเกอนั้น มันกำลังร้องแรงอย่างยิ่ง

ดูเหมือนว่าเธอจะเคลื่อนไปมาระหว่างความเย็นและความร้อน บริเวณหน้าอกก็ขึ้นลงอย่างรุนแรง และไม่กล้าที่จะมองฟูสีเกอที่อยู่ตรงหน้า

เขาโน้มตัวลงแล้วก็กอดเธอไว้อ้อมกอดแน่นขึ้น ระหว่างที่จูบยังไปใบหูของเธอ ก็พูดว่า : “ รู้ไหม ตั้งแต่คืนนั้นเป็นต้นมา ผมก็มักจะฝันเปียก และมีอะไรกับคุณในฝัน ”

หูครึ่งหนึ่งของเธอร้อนผ่าวขึ้นมาอย่างยิ่ง จนไม่รู้ควรจะตอบคำพูดของเขาอย่างไร

เธอรู้ว่าเรื่องที่ตัวเองทำอยู่ในตอนนี้นั้นมันไม่ถูก แต่ทว่าก็ไม่รู้ว่าควรจะหยุดมันยังไง

แค่การยั่วเย้าของฟูสีเกอ ร่างกายของเธอก็สั่นไม่สามารถที่จะควบคุมมันได้ ถึงขั้นที่อยากจะได้มันยิ่งขึ้นอีก

เธอหายใจเร็วขึ้นเรื่อยๆ แทบจะกัดฟัน เพื่อที่จะหลีกเลี่ยงเสียงที่เขินอายนั้นไม่ให้ดังผ่านระหว่างฟันออกมา

รู้สึกว่าร่างกายยิ่งร้อนขึ้นเรื่อยๆ ดูเหมือนว่าจะถึงจุดจุดยอดแล้ว เฉียวโยวโยวอดไม่ได้ที่จะเอื้อมมืออกไปคลำรอบๆโต๊ะด้วยความร้อนรน

เธอที่ไม่ทันได้ระวังมือก็กวาดไปโดนไวน์แดง พอดีกับขณะที่ฟูสีเกอนั้นที่กำลังออกแรงปะทะ มือก็คว่ำไปโดนไวน์แดง ไวน์ก็ไหลรินไปทั่วเรือนร่างของเธอ และกลิ่นหอมของเหล้าองุ่นก็ซึมซาบไปบนตัวเธอ

“ อ๊าก——” ไวน์ที่เย็นก็หกใส่บนเรือนร่าง และทำให้เฉียวโยวโยวร้องเสียงเบาออกมา

พอฟูสีเกอเห็นก็อุ้มเธอขึ้นมา เขายังคงไม่เคยออกห่างจากร่างกายของเธอ แต่กลับพาเธอไปที่ผนังระเบียงและจูบเธออย่างต่อเนื่องพร้อมกับขยับไปด้วย

และในทันใดนั้น ก็มีเสียงดังออกมาจากห้องข้างๆ ระหว่างที่ฟูสีเกอกำลังขยับก็นึกอะไรบางอย่างขึ้นได้ และหันไปมองที่ระเบียงข้างๆ

เสียงก็ยิ่งดังชัดขึ้น ประตูระเบียงของฟู้เจียนปอก็กำลังมีเสียงดังขึ้น จากนั้น ประตูก็ถูกผลักมาออกจากด้านใน

แทบจะชั่วพริบตาเดียวก็มีท่าทีตอบโต้มา ฟูสีเกอก็ดึงชุดคลุมนอนพร้อมกับกางเกงในที่วางไว้อยู่บนเก้าอี้มา จากนั้นก็ห่อบนตัวของเฉียวโยวโยว กอดเธอเอาไว้พ้อมกับฝีเท้าก้าวใหญ่และซ่อนตัวอยู่ที่มุมระเบียง

ฟู้เจียนปอเดินมายังระเบียง แล้วชะเง้อมองมายังข้างๆ

ภายใต้แสงจันทร์ เขาเห็นขวดไวน์ข้างๆหกล้มลงอยู่กับโต๊ะ บนโต๊ะกระจกนั้น เต็มไปด้วยไวน์แดง และยังมีที่กำลังหยดลงมา

เมื่อกี้ เขาก็ถูกเสียงของขวดไวน์ที่ล้มนั้นปลุกให้จนตื่น พอเขาเห็นว่าระเบียงข้างๆไม่มีคน ก็อดไม่ได้ที่จะงงงวย

ถึงแม้ในตอนนั้นจะมีลม แต่ทว่าก็ไม่ถึงขั้นที่จะพัดให้ขวดไวน์ล้มได้หรอก ?

ดังนั้น เขาก็คล้ายกับทดสอบ ก็เลยเรียกหาเธออยู่ตรงระเบียงของเฉียวโยวโยว : “ โยวโยว ? คุณอยู่ไหม ?”

เฉียวโยวโยวที่อยู่ในอ้อมกอดของฟูสีเกอก็เกร็งไปทั้งตัว และเพียงแค่รู้สึกราวกับถูกสาดน้ำเข้ามาที่ตัว จนทำให้ตื่น

ในขณะนั้น ในอ้อมกอดของฟูสีเกอยังคงอยู่กับตัวของเฉียวโยวโยวไม่ยอมออกมา พวกเขาก็ซ่อนตัวอยู่ตรงมุมของระเบียงด้วยท่านี้ และฟู้เจียนปอ ก็อยู่ห่างจากที่ของพวกเขาเพียงแค่ 3 เมตรกว่าเท่านั้น !

หัวใจของเต้นราวกับกลอง และมองไปยังฟูสีเกอด้วยความลุกลี้ลุกลนและไม่มีแผนการใดๆ

ฟูสีเกอเห็นดวงตาของเฉียวโยวโยวเต็มไปด้วยความกลัว ราวกับกวางตัวน้อยๆที่กำลังหวากกลัว เขาก้มลงไปจูบที่คิ้วและดวงตาของเธอ และส่ายหัว เพื่อเป็นการบอกใบ้เธอว่าไม่ต้องกลัว

แต่ทว่าเรื่องแบบนี้ จะไม่ให้กลัวได้ยังไงกัน ?

เมื่อเห็นว่าเฉียวโยวโยวร้องไห้ออกมา ฟูสีเกอก็ออกมาจากตัวของเธอ แล้วก็ค่อยๆวางเธอลง จากนั้นก็ยกมือของเธอขึ้นมา และเขียนตัวหนังสือลงบนฝ่ามือของเธอ