เจี๋ยสวี่ ได้ตอบกลับ”ฝ่าบาท ข้าน้อยคิดว่าเราควรเริ่มต้นบุกโจมตีเพื่อระงับแผนการบางอย่างของชูหยี แม้ว่ากองทัพของอีกฝ่ายจะมีจิตวิญญาณทหารหลงเหลืออยู่แต่เราก็มีโอกาสชนะได้ถ้ายอมสูญเสียจำนวนคนแต่ว่า…”

เจี๋ยสวี่ ได้พูดต่อ”ข้าน้อยคิดว่าเราควรเสี่ยง นี่เป็นโอกาสที่ดีสำหรับพวกเราและอีกฝ่ายเช่นเดียวกัน!”

ลู่เฟิง พยักหน้าและตอบกลับ”เหวินเหอ เจ้าพูดถูก!”

ลู่เฟิง ยืนขึ้นและมองไปที่แม่ทัพทั้งหมด”การต่อสู้ในวันนี้เป็นการต่อสู้เพื่ออาณาจักรของพวกเรา การบาดเจ็บล้มตายเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้”

“แต่ถ้าพวกเราเอาชนะอาณาจักรซีหยางได้ อาณาเขตของอาณาจักรหนานหยานของพวกเราจะมีเพิ่มขึ้นมากกว่าสองเท่า! ถ้าเราแพ้ก็แค่เสียเมืองซีหยาง และ เมืองหยุนไห่ แต่เราก็ยังมีหุบเขาหยางผิงในมือทำไมเราต้องกลัว?”

“พวกเจ้าทุกคนยินดีที่จะต่อสู้เพื่ออาณาจักรของพวกเราไหมไปพร้อมกับข้าหรือไม่?”

“ฝ่าบาท พวกเราทุกคนยินดีบุกน้ำลุยไฟเพื่อพระองค์!”

แม่ทัพทุกคนได้คุกเข่าลงและตะโกนเสียงดัง

“ดีมาก!”

“เอาล่ะ เช่นนั้นเตรียมตัวให้พร้อมเราจะออกเดินทางไปล้อมปิดค่ายเมืองโฮวฉิวกัน!”

“ขอรับ!”

ตามคำสั่งของ ลู่เฟิง กองทัพของเขาก็ได้เคลื่อนตัวทันที

สายลับที่ถูกจัดโดย ชูหยี ได้รับข่าวในขณะนี้ เขาได้มุ่งหน้าไปที่เมืองโฮวฉิวและรายงานให้ชูหยีฟัง

หลังจาก ชูหยี ได้รับข่าว เขาก็ไม่เเปลกใจ ตอนนี้เขามีโอกาสแล้วที่จะเอาชนะอีกฝ่ายแล้วดังนั้นเขาจึงได้ยกเลิกคำสั่งถอยทัพ

ตอนนี้จักรพรรดิแห่งอาณาจักรหนานหยานกล้าที่จะบุกโจมตีกองทัพขนาดใหญ่ของเขาอย่างไม่หวั่นเกรง เป็นไปได้หรือไม่ที่อีกฝ่ายคิดว่าจะสามารถเอาชนะเขาได้ด้วยทหารชั้นยอดเพียงไม่กี่คนภายใต้คำสั่งของเมิ่งเถียน ? และ ทหารส่วนตัวจากตระกูลขุนนางเหล่านั้น ?

“เข้ามา!”

“ข้าน้อยอยู่นี่แล้วพะยะค่ะ!”

“สั่งกองทัพให้เตรียมพร้อมรบ!”

“ขอรับ!”

ชูหยี ได้ออกคำสั่ง ทันใดนั้น ประตูของค่ายนอกเมืองโฮวฉิวก็ถูกเปิดออก ภายใต้การนำของ ชูหยี กองทัพได้มาถึงประตูหน้าค่ายทหารและสร้างรูปแบบกองทัพขึ้นมา

ชูหยี ไม่ได้เลือกที่จะยึดติดกับค่ายเพราะเขารู้ว่ากองทัพของเขาเหลือเสบียงไม่มาก การยึดติดอยู่กับค่ายนั้นมีแต่จะเป็นการปิดทางตนเองเท่านั้น

ทางเดียวของเขาก็คือการเผชิญหน้ากับกองทัพของลู่เฟิง!

ครึ่งวันต่อมาระยะห่างระหว่างสองกองทัพก็น้อยกว่าหนึ่งกิโลเมตร

ในเวลานี้กองทัพทั้งหมดได้หยุดลง

ตามกฏของสงครามแห่งชาติทหารทั้งสองฝ่ายจะต่อสู้กันด้วยทุกอย่างที่มีผู้ชนะจะกำหนดทุกสิ่งผู้แพ้จะสูญเสียทุกสิ่งไป

นี่เป็นสิ่งที่บ่งบอกถึงกฏของสงคราม

“เจ้าเด็กน้อยลู่เฟิง เจ้ากล้าออกมาเผชิญหน้ากับข้าหรือไม่?”

ชูหยี ได้ควบม้าไปด้านหน้า และ ตะโกนใส่ ลู่เฟิง

“ฮ่าฮ่า,ก็อีแค่ขยะคนนึงใยข้าจำเป็นจะต้องกลัว?”

ลู่เฟิง ได้หัวเราะออกมาและควบม้าไปด้านหน้าทันที

ความแข็งแกร่งของ ชูหยี อยู่ที่ระดับ 6 ขั้นเชื่อมจิตวิญญาณเท่านั้น สำหรับ ความแข็งแกร่งของลู่เฟิง คือ ระดับ 8 ขั้นเชื่อมจิตวิญญาณ ทำไมเขายังต้องกังวล?

ขณะที่ ระยะห่างของพวกเขาห่างกันไม่ถึง 100 เมตร ลู่เฟิงก็หัวเราะออกมา”ชูหยี บิดาของเจ้าถูกจับโดยข้าก่อนหน้านี้ วันนี้เจ้าได้ยินมาว่าบิดาของเจ้าอยู่ในมือของข้า จึงต้องการส่งกองทัพมาช่วยเหลือบิดาของเจ้าใช่หรือไม่?”

ใบหน้าของ ชูหยี ได้จมดิ่งลง

บิดาของเขา จักรพรรดิแห่งอาณาจักรซีหยาง ถูกจับโดยแม่ทัพของ ลู่เฟิง สิ่งนี้ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในประวัติศาสตร์ของอาณาจักรซีหยาง

มันเป็นความอัปยศ!

สิ่งนี้ไม่ควรจะเกิดขึ้น!

อย่างไรก็ตาม ตราบใดที่เขาสามารถจับ ลู่เฟิง และ ฆ่ามันได้ ความอัปยศที่อาณาจักรซีหยางได้รับ ก็จะถูกล้างออกไป เหล่าข้าราชบริพารในอาณาจักรที่ไม่สนับสนุนเขา คนเหล่านี้ ก็จะไม่กล้าพูดอะไรทันทีที่เขาได้รับตัวบิดากลับคืนมา

ชูหยี มองไปที่ ลู่เฟิง และกล่าวพูดอย่างเย็นชา”ลู่เฟิง อย่าได้พล่ามวาจาไร้สาระ เจ้ากล้าที่จะสู้กับข้าหรือไม่?”

“สู้กับเจ้า?”

ลู่เฟิง มองไปที่ ชูหยี และสั่นศีรษะ”เจ้ามีคุณสมบัติอะไรที่จะมาท้าข้าสู้?”

“ข้าได้กลายเป็นจักรพรรดิเมื่อตอนอายุครบ 16 ปี ข้ากวาดล้างราชสำนักและทำลายกลุ่มกบฏทั้งภายในและภายนอก ข้าชนะกองกำลังนับล้านของอาณาจักรซีหยาง และ เข้ายึดเมืองหลวงของอาณาจักรซีหยาง และ เมืองหยุนไห่ สำหรับเส้นทางสำหรับเดินทางสองอาณาจักรอย่าง หุบเขาหยางผิง ก็ถูกข้ายึดครอง แล้ว เจ้า เจ้ามีคุณสมบัติอะไรที่จะมาเทียบกับข้า?”

“เจ้าใช้ประโยชน์จากการที่บิดาของเจ้าถูกจับตัวไป แต่งตั้งตนเองขึ้นเป็นจักรพรรดิ เพียงเพราะความทะเยอทะยานของเจ้า เจ้าถึงกับโกหกคนของตนเองไม่บอกเรื่องเสบียงที่หายไป ตอนนี้เจ้าเหลือเสบียงอยู่ไม่มากแล้ว บอกข้ามาสิ เจ้ามีคุณสมบัติอะไรที่จะมาท้าข้าต่อสู้?”

ลู่เฟิง หัวเราะออกมา

ใบหน้าของ ชูหยี ได้น่าเกลียดมากยิ่งขึ้น สิ่งที่ ลู่เฟิงพูด มันคือการเหยียบหัวอาณาจักรซีหยางของเขา

แต่เขาก็ไม่สามารถพูดอะไรเพื่อหักล้างมันได้

ในไม่ช้าเขาก็เยาะเย้ยออกมา”ลู่เฟิง ดูเหมือนว่าเจ้าจะมีปากที่ดีจริง ๆ มาดูกันว่าวันนี้ กองทัพของข้าจะบดขยี้กองทัพของเจ้ายังไง หลังจากข้าบดขยี้เจ้าแล้ว ข้าจะมุ่งหน้ายึดครองอาณาจักรหนานหยานของเจ้า!”

“ทุกคนก็สามารถพูดได้ แต่พวกเขาจะสามารถพูดได้ก็ต่อเมื่อคนผู้นั้นมีความสามารถมากพอ!”

ลู่เฟิง สั่นศีรษะออกมา”สำหรับเจ้าข้ามองยังไงก็ไม่เห็นความหวัง สู้กลับบ้านไปเลี้ยง หมู เลี้ยง วัวดีกว่า!”

“ลู่เฟิง มันจะมากเกินไปแล้ว มาดูกันว่าวันนี้ข้าจะเด็ดศีรษะของเจ้าอย่างไร!”

ชูหยี รู้สึกหงุดหงิดกับคำพูดของ ลู่เฟิงอย่างมาก ด้วยความโกรธ เขาได้ตะโกนเข้าใส่ลู่เฟิงด้วยดาบในมือของเขา

ลู่เฟิงได้หรี่ตาลง”ถ้าข้าฆ่าเจ้าได้ในตอนนี้ กองทัพนับล้านของเจ้าก็คงจะพ่ายแพ้ทันที!”

ลู่เฟิง ได้กระพริบร่างหายไปอย่างรวดเร็ว เขาได้วาดดาบออกไปเพื่อหวังจะตัดศีรษะชูหยีโดยตรง

“ไม่ดีแล้ว!”

ชูหยี รับรู้ได้ถึงพลังที่ร้ายกาจของดาบเล่มนี้ เขาไม่ใช่ คู่ต่อสู้ของอีกฝ่ายและได้หยุดลงเมื่อดาบพุ่งมาตรงหน้าของเขา

ตู้ม!

เพร้ง!

ดาบทั้งสองได้เข้าปะทะกัน มันเป็นเสียงปะทะระหว่างใบดาบของเขากับดาบของชูหยี

“พลังนี้มัน ระดับ 8 ขั้นเชื่อมจิตวิญญาณ!”

“เวรเอ้ย เจ้าเด็กสารเลว ลูเฟิง มันมีความแข็งแกร่งเช่นนี้ได้ยังไง มันอายุเพียงแค่ 16 ปี เท่านั้น! มันจะมีความแข็งแกร่ง ในระดับ 8 ขั้นเชื่อมจิตวิญญาณได้อย่างไร!”

หัวใจของ ชูหยี ได้เต้นแรงทันที เดิมเขาคิดว่าความสามารถของเขาสามารถตัดร่างกายของลู่เฟิงได้ในดาบเดียว

แต่ท้ายที่สุดผลลัพธ์กลับกลายเป็นว่าเขาได้ถูกผลักกระเด็นออกมา

ในตอนนี้ ลู่เฟิง ได้ขมวดคิ้วเล็กน้อย”ดูเหมือนว่าดาบใหญ่ในมือของชูหยี จะเป็นสมบัติมีระดับเช่นเดียวกัน!”

ลู่เฟิง มั่นใจอย่างมาก พลังที่เขาแสดงออกมาเพียงพอที่จะฆ่านักรบระดับ 6 ขั้นเชื่อมจิตวิญญาณ แต่มันกลับถูกปิดกั้นด้วยพลังดาบในมือของชูหยี

ในตอนนี้ ชูหยี ลังเลที่จะสู้ต่อ เขาได้หันหลังกลับทันที

เมื่อ ลู่เฟิง เห็นสิ่งนี้ เขาก็หัวเราะออกมา”คิดจะหนีงั้นหรือ ทำไม เจ้ากลัวข้าแล้วหรือไม่!”

หลังจากกล่าวพูดออกมา ลู่เฟิง ก็เคลื่อนไหวร่างกายของเขาวิ่งไล่ตามไปอย่างรวดเร็ว

ม้าศึกของ ชูหยี เป็นม้าศึกที่ดี มันมีความเร็วอย่างมาก แม้ว่า ลู่เฟิง จะเร่งความเร็วสูงสุดเขาก็ไม่สามารถตามได้ทัน

“ทักษะดาบฉิงซาน,ดาบเคลื่อนภูผา!”

ลู่เฟิง ได้พุ่งไปที่ด้านหลัง ของชูหยี ที่เคลื่อนตัวสู่กองทัพ แม้ว่าจะไม่ใช่ระยะที่ดีที่สุด แต่ร่างของเขาก็พริ้วไหวเข้าไปในระยะการโจมตีของทักษะตนเอง

ตู้ม!

ลู่เฟิง ได้ซัดการโจมตีใส่ ชูหยี ได้สำเร็จ

ปั้ง!

ชูหยี ได้กระเด็นลอยไปและกระอักโลหิตออกมา

อย่างไรก็ตาม พลังดาบที่ ลู่เฟิงปลดปล่อยออกไป ได้สร้างความเสียหายให้กับ ชูหยี ก็จริง แต่ระบบยังไม่ได้แจ้งเตือนว่า ชูหยี ถูกฆ่า กล่าวก็คือ…

ชูหยี ยังไม่ตาย!