บทที่ 60 การปกป้องจากเขา

สะกิดหัวใจนายขี้เก๊ก

ฐิติกานต์ยืนอยู่หน้าห้องประธานพร้อมกับถือสิ่งของที่เก็บเรียบร้อยแล้ว ตั้งแต่การประชุมเมื่อครู่จนถึงตอนนี้ บนใบหน้ายังคงมีสีหน้าเหลือเชื่อ

เธอ เธอติดตามประธานมาสี่ปี เป็นเลขาประธานที่สารพัดประโยชน์ที่สุด!

“ท่านประธานคะ ฉันสำนึกผิดแล้ว ให้ฉันอยู่ต่อได้ไหมคะ คุณจะลงโทษฉันยังไงก็ได้!”

แม้ปกติฐิติกานต์มักจะเย่อหยิ่งจองหอง แต่เวลานี้เธอไม่ขอร้องอ้อนวอนไม่ได้

แม้ก่อนหน้านี้มีบริษัทมากมายมาขอซื้อตัว ซึ่งเธอไม่แม้แต่จะมองเลย แต่ตอนนี้มาถูกธราเทพไล่ออก แล้วเธอจะมีที่ยืนได้อย่างไร

ผู้ช่วยนรินทร์มองธราเทพซึ่งยืนอยู่หน้าประตูโดยไม่มีปฏิกิริยาด้วยความกระอักกระอ่วน เขากำลังพูดบางอย่างกับณัฐณิชา เห็นได้ชัดว่าไม่ชายตาแลฐิติกานต์เลยสักนิด

“เลขาฐิติกานต์…โอ้ไม่สิ…อาจจะไม่ควรเรียกคุณว่าเลขาฐิติกานต์แล้ว” ผู้ช่วยนรินทร์ดันแว่นตา แล้วพูดว่า “คุณทำตัวให้ดีเถอะ เรื่องที่คุณทำไว้ท่านประธานรู้หมดแล้ว แต่ท่านประธานยังไว้หน้าคุณ”

ผู้ช่วยนรินทร์ส่ายหน้าอย่างหมดหนทาง

เขาร่วมงานกับฐิติกานต์มีสี่ปี แต่ไหนแต่ไรมาต่างคนต่างอยู่ไม่ก้าวก่ายกัน ครั้งนี้ ถ้าไม่ใช่เพราะฐิติกานต์วางแผนร้ายต่อนายหญิง เกรงว่าเธอต้องมีอนาคตที่สดใสแน่

“ผู้ช่วยนรินทร์ ฉันสำนึกผิดแล้วจริงๆ คุณช่วยขอร้องให้ฉัน……”

ผู้ช่วยนรินทร์ส่ายหน้า รปภ.ก้าวเข้ามาพาตัวฐิติกานต์ออกไปทันที

ธราเทพไม่แม้แต่เหล่มอง พาณัฐณิชากลับห้องทำงาน ณัฐณิชาได้ยินเสียงอ้อนวอนของฐิติกานต์ค่อยๆ จางหายไป ในจิตใจเกิดความรู้สึกที่ค่อนข้างหลากหลาย เธอสามารถมองออกได้ว่าฐิติกานต์เป็นคนที่จริงจังต่อการทำงานมาก

“ทำไม อยากให้เธออยู่เหรอ”

ณัฐณิชาส่ายหน้า นั่งบนโซฟา ก่อนจะมองไปยังธราเทพ ตอนนี้เธอเพิ่งรู้ แม้ว่าพวกเขาจะเป็นคนที่มีสองตาหนึ่งจมูกและหนึ่งปากเหมือนกัน แต่ก็ยังคงแตกต่าง

เพราะ ธราเทพสามารถชี้เป็นชี้ตายคนได้อย่างง่ายดาย

ณัฐณิชารู้สึกหดหู่เล็กน้อย แต่ยังบังคับจิตวิญญาณให้เอ่ยคำพูดออกมาได้ “คุณรู้ได้ยังไงว่าเธอใส่ร้ายฉัน”

ธราเทพแววตาหม่นหมอง

พูดถึงเรื่องนี้ เขาอดไม่ได้ที่จะรู้สึกผิดหวังเล็กน้อย เมื่อวานเขารู้สึกว่าเรื่องนี้มันไม่ใช่แค่นั้น จึงให้ผู้ช่วยนรินทร์ลงไปสืบ เป็นอย่างที่คิดไว้เพราะเพราะเบื้องหลังปณิดามีฐิติกานต์ยุยง

เขาค่อนข้างมองในเชิงบวกกับความสามารถของฐิติกานต์ แต่น่าเสียดาย……

เธอเข้ามาที่แกรนด์อิมพีเรียลกรุ๊ปทันทีที่จบการศึกษา ตอนนั้นธราเทพก็เพิ่งรับช่วงต่อจากบริษัท ตอนนั้นเขาทำงานล่วงเวลาทั้งวัน ฐิติกานต์สาวน้อยที่คอยดึงดันจะอยู่เป็นเพื่อน มีหลายครั้งที่เธอแอบปาดน้ำตาเพราะความผิดพลาดในการทำงาน จนสุดท้ายก็มักจะทำได้ดีขึ้น

ธราเทพคิดว่าเธอแค่อยากแข็งแกร่ง เขาชื่นชมผู้หญิงที่แข็งแกร่ง

แต่เธอ……หากโทษก็ต้องโทษที่เธอไม่ควรขยับความคิดที่มีต่อตน

“เรื่องที่เกิดเมื่อวานเป็นแค่เกม ตอนนี้ทั้งปณิดาและฐิติกานต์ได้รับการลงโทษที่เหมาะสมแล้ว เหล่านี้เป็นพวกเขาก่อกรรมเอง”

นี่เป็นครั้งแรกที่ณัฐณิชาเห็นธราเทพจัดการกับสิ่งต่างๆ อย่างรุนแรงขนาดนี้ ในเวลาไม่ถึงสิบนาที ไม่เพียงแต่เตือนทุกคนซึ่งๆ หน้า ยังถึงขั้นไล่ฐิติกานต์ออกไปด้วย

“ขอโทษ” ณัฐณิชานึกถึงคำพูดของแม่บุญสิตา ความรู้สึกผิดเจือสีหน้า

ตอนนั้นเธอรู้สึกแค่ว่าธราเทพทำเกินไป เมื่อได้ยินแม่บุญสิตาพูดว่าชุดนั้นเป็นของสำคัญและสมบัติล้ำค่าที่สุดที่แม่ของธราเทพทิ้งไว้ ทันใดนั้นเธอก็เข้าใจ

ณัฐณิชาสัมผัสจี้ห้อยคอ จู่ๆ ก็รู้สึกค่อนข้างสูญเสีย

สำหรับเด็กทุกคน แน่นอนว่าต้องได้รับการปกป้องจากพ่อแม่ เพียงแต่ ทำไมตอนนั้นพ่อแม่ของเธอถึงทอดทิ้งตัวเธอไปล่ะ

ณัฐณิชาลดสายตาลง

คุณพ่อคุณแม่ พวกคุณอยู่ที่ไหนกันแน่คะ……