บทที่ 211 ความจริงในตอนนั้น
จี้จือฮวนปิดประตูลง แล้วหยิบกล่องยาน้อยออกมา เลือกยาเข็มหนึ่งออกมาจากในนั้น ยานี้สามารถทำให้คนเห็นภาพหลอนได้ โดยเฉพาะคนที่มีอาการทางจิตไม่มั่นคงอย่างเซี่ยฉงฟาง หลังจากใช้มัน ไม่แน่นางอาจกลายเป็นบ้าไปจริง ๆ
หากว่านางเป็นแม่แท้ ๆ ของเผยยวน จี้จือฮวนก็คงยังไม่ใช้วิธีการนี้ แต่น่าเสียดายที่สตรีชั่วผู้นี้แอบอ้างเป็นแม่ผู้ให้กำเนิดของเผยยวนมาหลายปี เช่นนั้นนางก็ควรเล่าเรื่องราวทั้งหมดออกมาได้แล้ว
การทรมานที่ยาวนานเมื่อครู่ คิดว่าคงทำลายเกราะป้องกันภายในใจของเซี่ยฉงฟางไปแล้ว ดังนั้นนางก็ควรจะจบมันด้วยตัวเอง
เซี่ยฉงฟางนอนหมอบอยู่บนพื้นราวกับสุนัขตัวหนึ่ง เมื่อถูกจี้จือฮวนฉีดยาให้ดวงตาของนางก็เบิกโพลง ทว่าพริบตาต่อภาพตรงหน้าของนางก็เริ่มพร่ามัว
“เจ้า…เจ้า…”
จี้จือฮวนเอ่ยกล่อมเสียงเบา “ตอนนี้ที่อยู่ตรงหน้าของเจ้าคือเซี่ยชิงหรู ท่านหญิงซ่างหยางสบายดีหรือไม่เจ้าคะ?”
นางจงใจสะกดน้ำเสียงที่เย็นชาของตัวเอง และเผยความนุ่มนวลออกมาแทน
แววตาของเซี่ยฉงฟางเริ่มพร่าเลือน จากนั้นนางก็ได้สติขึ้นมา มุมปากกระตุกยิ้มเหยียดหยามอย่างไม่ปิดบัง “เป็นเจ้าหรือ? ทำไม เจ้าคิดว่าทักษะกลไกของเจ้าน่าทึ่งมาก เผยเกอจะต้องมองเจ้าหรืออย่างไร?”
เซี่ยฉงฟางเอ่ยถึงตรงนี้ก็ปัดผมตัวเองออก ใบหน้าชั่วร้ายนั้นแฝงไว้ด้วยความเย่อหยิ่ง “พ่อข้าเป็นถึงยงอ๋อง เจ้ารู้หรือไม่ว่าการที่เผยเกอเลือกแต่งกับข้า หรือเลือกแต่งกับเจ้านั้นแตกต่างกันเพียงใด?”
จี้จือฮวนหรี่ตาลง น้ำเสียงนอบน้อมอย่างยิ่ง “แต่สิ่งที่ท่านหญิงอยากให้ ท่านโหวเคยต้องการหรือไม่เจ้าคะ?”
เซี่ยฉงฟางเผยแววตาวาวโรจน์ออกมา และจ้องจี้จือฮวนเขม็ง “เซี่ยชิงหรู ในที่สุดเจ้าก็เผยโฉมหน้าที่แท้จริงออกมาเสียที ปกติแสร้งทำตัวอ่อนแอเป็นผู้ถูกกระทำ ทำให้เผยเกอรังเกียจข้า ข้าแค้นใจยิ่งนักที่ตอนนั้นไม่ฆ่าเจ้าซะ”
“ไม่ทราบว่าชิงหรูไปล่วงเกินอันใดพี่หญิงหรือเจ้าคะ?”
“เจ้าเสแสร้งอะไรของเจ้า? ข้ากับเผยเกอเรารู้จักกันมาตั้งแต่เด็ก ตอนนั้นเราเรียนที่สำนักศึกษาด้วยกัน ข้าเป็นคนที่โดดเด่นที่สุด ใคร ๆ ต่างก็ชื่นชมว่าข้ากับเผยเกอเหมาะสมกัน ทว่านับตั้งแต่เจ้าโผล่มา ทุกอย่างก็ไม่เหมือนเดิม สายตาของเขากลับอยู่ที่เจ้าตลอด”
เซี่ยฉงฟางเอ่ยถึงตรงนี้ ก็ยากจะปิดบังความริษยาเอาไว้ได้อีก “ข้าตั้งใจเตรียมของขวัญวันเกิดให้เขาอย่างดี ทว่าเขาไม่แม้แต่จะมองเลยด้วยซ้ำ มิหนำซ้ำเขายังบอกข้าด้วยว่า ‘ท่านหญิง วันหน้าไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับวันเกิดของข้าอีกแล้ว ข้ากำลังจะแต่งงาน ทำเช่นนี้ดูไม่เหมาะสม’
แต่งงาน? เขามีสิทธิ์อะไรจะแต่งงาน เพื่อจะแต่งงานกับผู้หญิงสารเลวเช่นเจ้าอย่างนั้นหรือ? ครอบครัวยากจนที่มาจากทางใต้ วิชากลไกอะไรกัน พูดตรง ๆ ก็แค่ช่างไม้เท่านั้น ทำของเล่นเป็นไม่กี่ชิ้นก็ได้รับความไว้ใจจากฮ่องเต้ ก็แค่ขุนนางที่ไร้ชื่อเสียงของกรมโยธา
ตาแก่ยายแก่สองคนของตระกูลเผยกลับตกลงให้เผยเกอไปสู่ขอเจ้า เฮอะ เจ้าคงยังไม่รู้กระมัง เดิมเผยเกอตั้งใจว่าหากชนะศึกกลับมาจะขอพระราชทานสมรสจากฝ่าบาท ข้าจะยอมให้เขาแต่งกับเจ้า ให้พวกเจ้าได้อยู่กันอย่างมีความสุขได้อย่างไรกัน สิ่งที่ข้าต้องการไม่มีสิ่งใดที่ไม่ได้!”
จี้จือฮวนจ้องมองนาง “เจ้าอยากฆ่าข้าหรือ?”
“ข้าต้องฆ่าเจ้าอยู่แล้ว หากเจ้ายังไม่ตายก็คงไม่สามารถบรรเทาความแค้นในใจของข้าได้ หากไม่ใช่เพราะเจ้าจงใจยั่วยวนเผยเกอ เขาจะไม่ต้องการข้าได้อย่างไร ข้าคือท่านหญิงซ่างหยาง เป็นสตรีที่สูงศักดิ์ เจ้าก็แค่สตรีที่มาจากครอบครัวทางใต้ผู้หนึ่ง เทียบกับข้าได้อย่างนั้นหรือ?!
…ข้าวางยาเจ้า” เซี่ยฉงฟางหัวเราะออกมาอย่างชั่วร้าย “เป็นพิษที่รุนแรง เผยเกออยู่สนามรบเมื่อได้รับข่าว ศึกที่เดิมต้องสู้กันถึงหนึ่งเดือน เขากลับเอาชนะได้ภายในครึ่งเดือน เขาเดินทางหามรุ่งหามค่ำเพื่อกลับมาเมืองหลวงก่อน ยอมเสี่ยงที่จะถูกฮ่องเต้ตำหนิ และยอมไปตระกูลเซี่ยด้วยตัวเอง
เขาทำร้ายจิตใจของข้า ข้าเห็นเขาอยู่ในห้องของเจ้า กอดเจ้า ร้อนใจจนดวงตาแดงก่ำกับตาของตัวเอง ชายชาตรีที่หยิ่งทะนงในศักดิ์ศรีเช่นนั้น และไม่เคยก้มหัวให้ใครมาก่อน ทว่าหลังจากหมอรักษาไม่สำเร็จ เพื่อเจ้าแล้วเขากลับยอมคุกเข่าต่อหน้าข้า”
เซี่ยฉงฟางน้ำตาไหลออกมา กุมหน้าอกเอาไว้แล้วเอ่ยออกมา “เพื่อเจ้าแล้ว เขายอมตายแต่ไม่ยอมแต่งกับข้า ในใจของเขาข้ากลับเป็นคนที่ไม่คู่ควรถึงเพียงนั้น จะให้ข้าปล่อยเจ้าไว้ได้อย่างไร! แต่ข้ายังมีวิธีอื่นอีก ท่านแม่ข้ารักข้าจึงให้ท่านพ่อไปขอร้องฮองเฮา ราชวงศ์จึงประทานสมรสให้ หากเขาไม่ยอมตระกูลเผยทั้งตระกูลก็ต้องตายไปด้วย!!”
“เจ้าได้ตามที่ปรารถนาแล้ว เช่นนั้นยังมีอะไรไม่พอใจอีก?”
เซี่ยฉงฟางพูดถึงตรงนี้ก็เริ่มเสียใจอย่างมาก “เขาไม่แตะต้องข้า ตอนส่งเกี้ยวไปรับเจ้าสาวเขากลับใช้ไก่แทนตัวเอง ช่างน่าอัปยศอดสูยิ่งนัก! นี่เป็นความอัปยศอดสูอย่างมากสำหรับข้า!!! ทุกคืนเขาจะนอนที่ห้องหนังสือ ไม่ว่าข้าจะล่อลวงเช่นไร ขอร้องอ้อนวอนเช่นไร เขาก็ไม่เคยกินของที่ข้าทำ และไม่เคยมองข้าแม้แต่หางตา”
จี้จือฮวนเองก็คิดไม่ถึงว่าเผยเกอจะไม่เคยแตะต้องนาง สตรีชั่วช้าผู้นี้จนป่านนี้ก็ยังเป็นสาวบริสุทธิ์อยู่อย่างนั้นหรือ?
“สาแก่ใจเจ้าแล้วใช่หรือไม่ เผยเกอแต่งกับข้าแต่ยอมไปอยู่ชายแดนและไม่กลับมาเมืองหลวงอีก แต่เจ้าคิดว่าแค่นี้ก็จบแล้วอย่างนั้นหรือ! ความอัปยศของข้าล้วนเป็นเพราะเจ้าที่นำพามาให้ข้า ข้าจะปล่อยให้เจ้ามีชีวิตอยู่ได้อย่างไร”
“แต่พวกเจ้าก็มีลูกชายด้วยกันหนึ่งคน ชื่อว่าเผยยวนไม่ใช่หรือ?”
เซี่ยฉงฟางเผยความรังเกียจออกมา “เขาน่ะหรือ? ไม่รู้ว่าเป็นเด็กที่เผยเกออุ้มกลับมาจากที่ใด คู่ควรเรียกข้าว่าแม่ด้วยอย่างนั้นหรือ? ข้าก็แค่เห็นแก่ที่เผยเกอรักเด็กคนนี้ จึงแสร้งทำเป็นแม่ที่มีเมตตาก็เท่านั้น เขาก็เป็นแค่เครื่องมือที่ข้าเอามาทำให้เผยเกอพอใจ!”
เห็นได้ชัดว่าเซี่ยฉงฟางไม่ต้องการพูดอะไรเกี่ยวกับเผยยวนอีก นางจมดิ่งลงไปในความทรงจำของตัวเองอีกครั้ง
“เผยเกอแต่งงานกับข้ามาห้าปี แต่เจ้ากลับไม่ยอมแต่งงาน เจ้าวางแผนอะไรเอาไว้? หากข้าไม่สั่งสอนเจ้าเสียบ้าง มิเท่ากับเจ้าเห็นข้าเป็นพระโพธิสัตว์ที่ไม่มีเลือดเนื้อหรอกหรือ!
จะโทษก็ต้องโทษที่เจ้าดวงไม่ดีเอง เจ้าโง่จี้เม่าซวินของจวนจี้กั๋วกงถูกตาต้องใจเจ้า เผยเกอไม่อยู่เมืองหลวง ข้าย่อมต้องช่วยเขาอยู่แล้ว จี้เม่าซวินรับเจ้าที่พลัดตกลงมาจากโรงน้ำชาเอาไว้ พวกเจ้าแตะเนื้อต้องตัวกันแล้ว เจ้าไม่อยากแต่งก็ต้องแต่ง”
เอ่ยถึงตรงนี้เดิมเซี่ยฉงฟางควรที่จะสบายอกสบายใจ “แต่ผู้หญิงชั้นต่ำอย่างเจ้า กลับใช้แผนภาพกลไกซื้อตัวจี้เม่าซวิน แลกกับการให้เขาไม่แตะต้องตัวเจ้า เจ้าจะครองตัวเพื่อใครกัน? เพื่อเผยเกออย่างนั้นหรือ!”
จี้จือฮวนจึงเอ่ยเสียงเรียบ “เจ้าวางแผนกับจี้เม่าซวินทำลายชื่อเสียงของข้า เพราะต้องการให้ข้ายอมรับชะตากรรมอย่างนั้นหรือ? เจ้าคิดว่าตัวเองเป็นใครกัน”
เซี่ยฉงฟางชะงักไปครู่หนึ่ง ทันใดนั้นก็คว้าแขนของจี้จือฮวนเอาไว้ “ก็สิทธิ์ที่ข้าเป็นฮูหยินของเผยเกอ ชาตินี้เขามีข้าได้เพียงคนเดียวเท่านั้น!”
“เขาไม่อยากแตะต้องเจ้า เขาโกรธแค้นเจ้าที่สุด เจ้าเฝ้ารอทั้งชีวิตก็แค่ทำให้ตัวเองเป็นทุกข์ก็เท่านั้น”
เซี่ยฉงฟางนั่งลงด้วยความนิ่งงัน น้ำตาไหลอาบแก้ม “เจ้าคงสะใจมากกระมัง หากไม่ใช่เพราะข้าตีคนรับใช้ข้างกายของเผยเกอจนเกือบตาย เอาตัวน้องสาวมาข่มขู่เขา ข้าก็คงไม่รู้ว่าตอนที่ข้าแกล้งป่วยช่วงสองเดือนที่เผยเกอกลับมาเมืองหลวง เขาได้กินยาที่ข้าเป็นคนวางเอาไว้ จากนั้นก็วิ่งไปหาเซี่ยชิงหรู”
จี้จือฮวน “…”
สมกับที่เป็นนิยายน้ำเน่าจริง ๆ
“ชายหญิงสารเลวคู่นี้แอบไปมีอะไรกัน สุดท้ายข้าก็ให้จี้เม่าซวินไปบังคับเซี่ยชิงหรูแต่งงานด้วย ฮ่า ฮ่า ฮ่า เกรงว่าเผยเกอตายไปแล้วก็คงยังไม่รู้กระมัง ว่าตัวเองมีลูกสาว
เจ้าจี้เม่าซวินหน้าโง่นั่น เพื่อแผนภาพกลไกถึงกับยอมถูกสวมเขา แต่ข้าทนไม่ได้! ข้าจึงวางแผนทำให้เจ้าคลอดลูกสาวที่ถูกพิษมาตั้งแต่อยู่ในครรภ์ นางจึงอัปลักษณ์อย่างมาก! และแล้วเจ้าก็ตาย ตายได้ดี ตายได้ดีจริง ๆ”
เซี่ยฉงฟางหัวเราะเสียงดังลั่น จากนั้นก็ทึ้งผมตัวเองอย่างบ้าคลั่งและเจ็บปวด “แต่เผยเกอกลับตามเจ้าไปแล้ว ข้าคิดว่าเขาแต่งงานกับข้าห้าปี หากข้าตั้งใจเลี้ยงดูเผยยวนสักวันเขาจะยอมรับข้า ทว่าหลังจากที่เจ้าแต่งงานกับจี้เม่าซวิน แม้แต่พบหน้าเขาก็ไม่ยอมมาพบข้า และกลับไปชายแดนทันที ทุกครั้งที่เขียนจดหมายกลับมาบ้านก็ต้องถามทุกครั้งว่าเจ้าอยู่จวนจี้กั๋วกงสบายดีหรือไม่ แม่ของเขาก็ยังคอยช่วยดูแลเจ้าอยู่ แต่ฝันไปเถอะ!”
.
.
.