The Demon Prince goes to the Academy
ตอนที่ 7
ฉันไม่เคยนึกเลยว่าวันหนึ่งชีวิตของฉันจะต้องเกี่ยวพันกับเด็กที่ไม่ได้เป็นตัวละครหลักในนิยายของฉัน
แต่ฉันก็ไม่คาดคิดเหมือนกันว่าจะได้เห็นทหารปล้นสะดมในสงครามโลกปีศาจที่ ไม่มีความจำเป็นหรือเหตุผลใดที่ฉันจะต้องจินตนาการถึงสิ่งต่างๆตอนเขียนนิยาย
ปกติเรื่องแบบนี้ไม่ได้ถูกเ่าในเนื้อเรื่องหลักใช่มั้ยล่ะ? มันไม่ได้เกี่ยวข้องกับเนื้อเรื่องหลักเลยซักนิด แต่โลกนี้กว้างกว่าเนื้อเรื่องหลักมากล่ะนะ?
ในขณะที่ตัวละครหลักกำลังรอที่จะเข้าสู่สถาบันในส่วนอารัมภบทก่อนเนื้อเรื่องหลัก เจ้าหญิงกำลังจะถูกลอบสังหารและเจ้าชายปีศาจก็ต่อสู้เพื่อช่วยเธอ นั่นคือสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นในตอนนี้
ด้วยช่องว่างจากการเขียนของฉัน โลกนี้ซึ้งสมจริงกว่าที่ฉันจินตนาการไว้ ได้ทำให้เรื่องราวทั้งหมดนี้น่ากลัวยิ่งขึ้น
ไดรัสไม่ได้หยุดเดิน ในขณะที่เขาดูผิดหวังและโกรธที่ถูกปฏิบัติแบบเดียวกับพวกลูกหมาที่ทำเพราะความโลภส่วนตัว
ขณะที่ฉันกำลังรีบออกจากปราสาทของราชาปีศาจจู่ๆ ไดรัสก็คว้าแขนฉันไว้
“!”
ทันใดนั้นไดรัสก็แอบเข้าไปในโถงทางเดินข้างๆ เขา ไม่ใช่ทางที่เราจะไป และซ่อนฉันไว้หลังรูปปั้นการ์กอยล์ในโถงทางเดิน การแสดงออกของไดรัสนั้นดูจริงจัง
“อัศวินของดยุคซาเลเรียน”
ฉันรู้ว่าเขาหมายถึงอะไร ฉันจึงกลั้นหายใจทันที
ดยุคซาเลเรียน
ครอบครัวฝั่งมารดาของเบอร์ทัสและเหตุผลที่ทำให้เขามีผู้ติดตามมากมาย หากชาร์ลอตต์ตัดสินว่าเซอร์ฟรานซิสไม่ใช่ศัตรู ดยุคซาเลเรียนก็จะเป็นศัตรูของเจ้าหญิงอย่างแน่นอน เป้าหมายสูงสุดของดยุคซาเลเรียนคือการทำให้เบอร์ทัสเป็นจักรพรรดิ
เป็นไปได้มากว่าเซอร์ฟรานซิสถูกพวกเขาฆ่า
ไดรัสกลั้นหายใจและเกร็งขึ้น ฉันไม่รู้ว่าไดรัสมีสถานะแบบไหน แต่เขาบอกว่าเขาเป็นร้อยโท
นอกจากนี้ อัศวินของดยุคซาเลเรียนซึ่งเป็นหนึ่งในตระกูลขุนนางที่มีอำนาจมากที่สุดในจักรวรรดิ จะมีบรรดาศักดิ์ที่เทียบไม่ได้กับขุนนางคนอื่นๆ แม้ว่าฉันจะไม่ค่อยแน่ใจ แต่พวกเขาต้องเป็นอัศวินระดับสูงที่เหนือกว่ามากเมื่อเทียบกับอัศวินทั่วไป
ไม่ต้องพูดถึงทักษะของพวกเขา
-ตุบ, ตับ, (เสียงคนเดินเยอะ)
มีพวกเขาจำนวนมาก
– คุณแน่ใจใช่มั้ยว่าพวกเขาเข้าไปในปราสาทแล้วยังไม่ได้ออกมา?
– ใช่ครับ
– บอกไม่ได้ว่านี่ดีหรือไม่ดี….
– จะทำยังไงหากเราหาเขาเจอ?
– ต้องให้ฉันบอกนายด้วยหรอ
– ต้องจัดการเจ้าหน้าที่คนนั้นด้วยมั้ยครับ?
– มันเป็นชะตากรรมของเขาที่ต้องจบชีวิตลงด้วยความโชคร้ายเช่นนี้
พวกเขาไม่ได้พูดถึงบุคคลที่เป็นรูปธรรมในการสนทนา แต่เห็นได้ชัดว่าพวกเขากำลังมองหาใคร
พวกเขาตามหาฉันกับไดรัส ไดรัสกลั้นหายใจขณะกัดฟัน
พวกเขาผ่านไป พวกเขาไม่ได้สังเกตเห็นเรา
ทว่า
ฉันรู้ว่ามันโง่แค่ไหนที่คิดว่าเราสามารถหลอกประสาทรับรู้ของอัศวินระดับสูงได้
“ฉันคิดว่าพวกเขาอยู่ที่นั่น”
อัศวินคนหนึ่งพูดอย่างใจเย็นราวกับว่าพวกเขาไม่รีบเร่งที่จะตามหาเรา
“พวกมันหายใจค่อนข้างแรง ดูเหมือนว่าพวกเขาจะประหม่า มันยากที่จะไม่สังเกตเห็น”
อัศวินที่อยู่ใกล้เคียงจำนวนหนึ่งมาถึงที่นั่นหลังจากได้ยินเสียงเรียก
มีอัศวินทั้งหมดสี่คน ผมกับไดรัสก้าวออกมาจากด้านหลังรูปปั้นและถอยห่างออกไปอย่างช้าๆ
อัศวินสี่คนในชุดเกราะที่สวยงามเดินเข้ามาและมองไปที่ไดรัส
อัศวินแสดงท่าทางผ่อนคลาย แลบลิ้นเล็กน้อย จากนั้นผู้ที่ดูอาวุโสที่สุดก็เปิดปากของเขา
“เจ้าหญิงช่างเป็นผู้หญิงที่น่าสงสารจริงๆ”
“…..”
“ไม่ใช่แค่คนเดียว แต่เธอบังคับให้ฉันฆ่าพวกเขาเรื่อยราวกับเป็นว่าเป็นหัวรุนแรง”
อัศวินถอนหายใจว่าเขาต้องฆ่าคนไปเรื่อยๆไม่ว่าจะ 1 หรือจะ 10 คน ฉันไม่ได้รู้สึกขัดแย้งกับเขาด้วยซ้ำ
“แกนี่มันอัปยศ เป็นอัศวินของจักรวรรดิ แต่กลับมือกับราชวงศ์!”
ไดรัสตะโกน
“ถ้าคุณคิดว่าการคร่ำครวญของเด็กบางคนที่ฉันไม่รู้ชื่อด้วยซ้ำ นั้นจะทำให้เกียรติยศของฉันเสียหายแม้แต่น้อย …… ฉันขอโทษที่ต้องพูดแบบนี้ แต่ฉันไม่สนใจจริงๆ”
ดูเหมือนเขาจะไม่สนใจเลยเกี่ยวกับข้อกล่าวหาที่เขาได้ยินจากคนที่ไม่คุ้มกับเวลาของเขา
“แต่ก็ใช่ มันไม่ใช่เรื่องน่ายินดี ฉันยอมรับ”
เขายิ้มอย่างขมขื่นกับตัวเอง
“ฉันไม่อยากเชื่อเลยว่าฉันต้องจบวันที่ชุ่มไปด้วยเลือดของปีศาจด้วยการทำให้เลือดมนุษย์หลั่งไหล”
มันดูไม่เป็นที่พอใจสำหรับเขาที่จะต้องทำสิ่งนี้ แต่เพราะเจ้าหญิงยังไม่ตายเขาถึงต้องทำเรื่องแบบนี้
นอกเหนือจากความไม่พอใจนั้นแล้ว การกระทำของเขาไม่มีความลังเลเลย
– ชิ้ง!
เมื่ออัศวินคนนั้นชักดาบออกมา อัศวินคนอื่นๆ ก็ทำเช่นเดียวกัน แม้ว่าเราสามารถหนีไปได้ แต่เราจะต้องถูกจับได้ไม่ช้าก็เร็ว ความสามารถทางกายภาพของพวกเขาน่าจะเหนือกว่าทั้งของฉันและแม้แต่ของไดรัสก็ด้วย
เราจะผ่านสถานการณ์นี้ไปได้มั้ยนะ?
อย่างไรก็ตาม ในขณะที่ฉันกำลังพลิกหนังสือม้วนคัมภีร์เพื่อเลือกเวทมนตร์ พวกเขาก็วิ่งเข้ามาหาฉันและฟันหัวของฉันออกก่อนที่ฉันจะได้หายใจด้วยซ้ำ
ในที่สุดฉันก็สามารถหนีออกจากปราสาทของราชาปีศาจได้ แต่ฉันกลับมาที่นี่เพื่อตายแบบนี้เหรอ?
ความคิดที่จะตายเหมือนสุนัขในสถานการณ์ที่ไร้สาระนั้นทำให้ฉันรู้สึกป่วย
ฉันต้องตายอีกครั้งในเสลาน้อยกว่าหนึ่งวันหลังจากที่ฉันตายครั้งแรก อัศวินเริ่มเข้ามาหาเราช้าๆ ขณะที่ฉันหายใจติดขัด แม้จะอยู่ในทางเดินขนาดใหญ่ แต่การปรากฏตัวของอัศวินทั้งสามก็เพียงพอที่จะเต็มขวางทางเดินนั้น
แน่นอนว่านั่นเป็นเพียงเปรียบเปรย พวกเขาไม่ได้เติมเต็มทางเดินจริงๆ แค่รู้สึกอย่างนั้น การปรากฏตัวของอัศวินที่เข้ามาใกล้นั้นเทียบไม่ได้เลยกับรูปปั้นการ์กอยล์ขนาดมหึมาที่ไดรัสและฉันซ่อนตัวอยู่ข้างหลังเมื่อสักครู่ที่ผ่านมา….
เดี๋ยวก่อนนะ
การ์กอยล์?
ฉันจ้องไปที่รูปปั้นการ์กอยล์อย่างว่างเปล่า
นั่น
ของพวกนี้มักจะเคลื่อนไหวได้ไม่ใช่เหรอ?
แม้ว่านั่นจะเป็นความคิดที่น่ากลัว
– หวือ!
-บูม!
ง้าวขนาดยักษ์ของการ์กอยล์พุ่งเข้าใส่อัศวินที่เดินเข้ามาหาเราจากด้านหน้า
เกิดระเบิด
ความประหลาดใจ
ความตาย
“วิ่ง!”
และการตัดสินใจ
ตอนนี้ไม่ใช่เวลาที่จะคิด
* * *
เรื่องประหลาดใจครั้งใหญ่ที่การ์กอยล์ได้บดขยี้อัศวินที่กำลังเข้ามาหาเราด้วยพลังอันบ้าคลั่ง ฉันเห็นชัดเจนว่าอัศวินระดับสูงเหล่านั้นถูกฉีกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยแม้จะสวมชุดเกราะอยู่ก็ตาม พวกเขาไม่ได้รับโอกาสแม้แต่จะกรีดร้อง
พวกเขาอาจจะแข็งแกร่ง แต่นี่คือปราสาทของราชาปีศาจ
มันเป็นสถานที่รวมผู้แข็งแกร่งที่สุดของโลกปีศาจ
ไม่ยากที่จะเข้าใจว่าการ์กอยล์เป็นสัตว์ประหลาดที่ทรงพลังเมื่อเทียบกับอัศวินระดับสูงที่เป็นสัตว์ประหลาดในหมู่มนุษย์
ฉันไม่รู้สึกคลื่นไส้ด้วยซ้ำ ฉันหลบเลี่ยงศพก่อนที่จะทันได้คิด
-ตุ้บ! บูม! ตุ้บ!
เราสามารถหลบหนีได้ในขณะที่อัศวินที่ไล่ตามเรากำลังสู้อยู่การ์กอยล์ที่เคลื่อนไหวอย่างกระทันหัน
“ทำไมจู่ๆ มันถึงเคลื่อนไหวล่ะ”
“ฉัน ฉันไม่รู้!”
ไม่ ฉันรู้
เห็นได้ชัดว่าความสามารถทางกายภาพทั้งหมดของฉันแทบจะเป็น 0 แต่ฉันก็มีความสามารถในการควบคุมปีศาจได้ บางทีความคิดของฉันอาจกระตุ้นการ์กอยล์ หรือสัมผัสได้ถึงเจตนาฆ่าของอัศวินและลงมือเอง
อย่างไรก็ตาม มันเคลื่อนไหวอย่างชัดเจนเพื่อปกป้องฉัน
ฉันเกิดมาพร้อมกับพลังในการควบคุมปีศาจ
อย่างไรก็ตาม ฉันไม่สามารถบอกเขาได้ ดังนั้นการวิ่งหนีจึงเป็นสิ่งสำคัญที่สุดของเรา ไม่ว่าจะมีอัศวินกี่คน พวกเขาก็ไม่สามารถต้านทานการโจมตีของสัตว์ประหลาดขนาดมหึมาได้
ปราสาทที่อยู่ระหว่างการคตรวจค้นถูกระเบิดอย่างกะทันหันจนพังพินาศ ผมกับไดรัสใช้โอกาสนั้นหนีออกจากปราสาทของราชาปีศาจอย่างรวดเร็ว
“จะต้องมีคนตามเรามาแน่”
“ใช่”
อัศวินของดยุคซาเลเรียน กระจายกำลังและออกตามหาเรา แม้ว่าจะมีการชุลมุนเกิดขึ้น แต่พวกมันก็ไล่ตามเราแน่ถ้ารู้ว่าเราหนีไดรัสวางฉันบนหลังม้าของเขา และเราขี่ตรงออกจากปราสาท
เราได้รับการมองอย่างสงสัยในขณะที่เรารีบออกไป แต่นี่ไม่ใช่เวลาที่จะต้องกังวลเกี่ยวกับเรื่องนี้
-กุบกับ กุบกับ!
ทันทีที่เราไปถึงกองทหารรักษาการณ์ เราต้องเทเลพอร์ตออกไปจากที่นี่พร้อมกับชาร์ลอตต์ ฉันเกือบจะเสียสติในขณะที่ขี่ม้าตัวนั้น แค่ขี่ไม่ให้ตกมันก็ยากแล้ว
“ชิ! พวกมันตามเราทันแล้ว!”
การบังคับบัญชาของพวกเขาอยู่ในระดับที่สมบูรณ์แบบ จนอัศวินของดยุคซาเลเรียนตามทันพวกเรา แม้จะมีสายตามากมายรอบด้าน แต่พวกเขาก็อยากจะจับเราแม้ว่าจะเสี่ยงกับข่าวลือก็ตาม
นั่นต้องหมายความว่าแม้ว่าพวกเขาจะฆ่าฉันและไดรัสที่นี่ พวกเขาก็สามารถจัดการผลที่ตามมาได้
เป็นไปไม่ได้ที่พวกเขาจะฆ่าเจ้าหญิงบนถนนสายหลัก แต่ถ้าเป็นเพียงพวกเรา พวกเขาสามารถทำได้อย่างง่ายดาย พวกเขาจะคิดหาเหตุผลในภายหลัง
“เวรเอ้ย!”
ม้าที่อัศวินขี่นั้นเหนือกว่าม้าของไดรัสมาก แม้ว่าพวกเขาจะขี่มันในขณะที่สวมชุดเกราะ แต่ก็ยังมีความเร็วขนาดนั้น
แม้จะอยู่ไกลจากเราในตอนแรก แต่พวกเขาก็เข้ามาใกล้เรามากขึ้นเรื่อยๆ
จำนวนผู้ไล่ตามที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วตอนนี้เกิน 10 คนแล้ว ทหารที่ขับเกวียนปล้นสะดมและคนที่พาเชลยศึกออกไปต่างจ้องมองการไล่ล่าอย่างกะทันหันนี้อย่างว่างเปล่า
“ร้อยโท! จับฉันไว้ให้แน่น!”
“ได้!”
ไดรัสจับเอวฉันไว้ไม่ให้หล่นโดยไม่ถามว่าฉันกำลังจะทำอะไร ฉันเปิดหนังสือม้วนที่ห้อยลงมาจากเอว แล้วรีบมองหาคาถาที่อาจช่วยเราในสถานการณ์ปัจจุบันของเรา
อะไรก็ตาม
ไม่มีอะไรที่เราสามารถใช้ได้บ้างเลยรึไง?
[เร่งความเร็ว]
ฉันเปิดม้วนหนังสือและโยนเวท บนหลังม้า
– กุ๊บกั๊บ กุ๊บกั๊บ!
ทันใดนั้น การเคลื่อนไหวของม้าก็เร็วขึ้น ฟองสีขาวเริ่มก่อตัวขึ้นรอบปากม้า
“ให้ตายเถอะ! ดีที่มันเร็วกว่าเดิม แต่นี่อาจทำให้ม้าตายก่อนที่เราจะไปถึงด้วยซ้ำ!”
เร่งความเร็วทำให้การเคลื่อนไหวเร็วขึ้น แต่ก็ทำให้เป้าหมายสูญเสียความแข็งแกร่งอย่างรวดเร็วเช่นกัน ม้าไม่ใช่สัตว์ที่สามารถวิ่งได้เป็นเวลานานตั้งแต่แรก นอกจากนั้น ฉันใช้เวทมนตร์เร่งความเร็ว ซึ่งเพิ่มการเผาผลาญของมันอย่างบ้าคลั่ง มันเหมือนกับการเผาชีวิตของม้า
มันจะเป็นอย่างนั้นในไม่ช้าอย่างไรก็ตาม
“ฉันยอมตายหลังจากสามนาทีแทนที่จะเป็นนาทีเดียว!”
“อะไรล่ะนั่น!”
แม้จะอยู่ในสถานการณ์เช่นนี้ เขาก็ยังมีเวลาที่จะระเบิดเสียงหัวเราะในขณะที่เขาพูดไม่ออก ไดรัสขี่ม้าอย่างบ้าคลั่ง แม้ว่าการขี่ม้าที่เร็วนี้จะยากมาก แต่เขาก็ยังจับตัวฉันไว้และบังคับม้าด้วยมือข้างเดียวได้
“ชิ…!”
ไดรัสมองไปข้างหลังและสบถ
“พวกมันกำลังจะยิงธนู!”
อัศวินไม่ได้ใช้ดาบด้วยซ้ำ พวกเขาแค่ยิงธนูใส่เราเพราะตามไม่ทัน โชคดีที่ไดรัสสามารถหลบลูกธนูได้ในท่าทางที่โลดโผน ซึ่งทำให้ลูกธนูเบี่ยงเบนไป
“ดูเหมือนม้าจะอ่อนล้ามากขึ้นเรื่อยๆแล้ว!”
สภาพม้าของพวกเขาและม้าของเราแตกต่างกันมาก ในตอนนั้นฉันรีบมากไดรัสได้เร่งม้าของเขาตอนขาไปปราสาทของราชาปีศาจเมื่อไม่นานมานี้นี่เอง
เขาให้ม้าวิ่งจนเหนื่อยแล้ว และเหนือไปกว่านั้น ฉันได้ร่ายเ่งความเร็วไปที่มัน ดังนั้นมันจึงเป็นธรรมดาที่ความแข็งแกร่งของมันจะถึงจุดสิ้นสุดในไม่ช้า
ฉันมองผ่านหนังสือม้วนเพื่อดูว่ามีคาถาใดที่สามารถเติมความแข็งแกร่งของม้าได้หรือไม่ แต่ไม่มีเวทมนตร์แบบนั้น มีเพียงเวทมนตร์เสริมเช่นภาพลวงตา ความหลงใหล และหลอนประสาท อยู่ภายใน
“คุณคิดว่าพวกเขาจะได้รับผลกระทบจากคาถาเสน่ห์หรือไม่!”
“พวกเขาจะไม่! อัศวินจำเป็นต้องฝึกการต่อต้านเวทมนตร์!”
พวกเขาทั้งหมดต่อต้านเวทมนตร์ เวทมนตร์เสริมระดับต่ำใช้ไม่ได้กับพวกเขา นั่นคือสิ่งที่ไดรัสบอกฉัน ใช่ ฉันคาดไว้แล้วว่ามันจะไม่ได้ผล มันคงเป็นเรื่องไร้สาระสำหรับผู้เชี่ยวชาญระยะประชิดที่จะตายหลังจากได้รับเวทมนตร์ ดังนั้นพวกเขาจึงจัดการฝึกอบรมเกี่ยวกับวิธีตอบโต้เวทมนตร์
ฉันรู้เพราะฉันใส่วิชา “ต่อต้านเวทมนต์” เข้าไปในหลักสูตรของสถาบัน ยังไงก็ตามการตั้งค่าบางอย่างของฉันกำลังฉุดขาของฉันอยู่ตอนนี้
ยังไงก็ตาม ฉันต้องใช้ม้วนกระดาษ
มันเป็นการเดิมพันที่เสี่ยง
ฉันใช้ภาพลวงตา
“ฉันบอกแล้วว่ามันไม่ได้ผล!”
“ฉันไม่ได้มุ่งเป้าไปที่อัศวิน!”
ฉันเปิดคัมภีร์เพื่อใช้เวทมนตร์ของมัน
เป้าหมายไม่ใช่อัศวิน
ถ้าจะยิงนายพล ให้ยิงม้าก่อน
ฉันตั้งใจจะทำตามสำนวนเก่านั้น
[ภาพลวงตา]
คาถาเปิดใช้งาน
– ฮีฮี่ฮี่!
– อ๊ากกก!
จากนั้น เสียงอัศวินล้มลงกับพื้นและเสียงม้าร้องดังมาจากข้างหลังเรา
โชคดีที่ดูเหมือนว่าม้าเหล่านี้ไม่ได้ถูกฝึกให้ต่อต้านเวทมนตร์
ถ้าเวทย์มนตร์ใช้ไม่ได้กับอัศวิน ฉันแค่ร่ายมนตร์ไปที่ม้าของพวกเขา ฉันเพิ่งแสดงภาพลวงตาของมังกรให้ม้าดู