ตอนที่ 83

Earth’s Best Gamer

เมื่อลืมตาขึ้น จีเย่ก็พบว่าตัวเองอยู่ในห้องสูทขนาดใหญ่ที่มีสไตล์คลาสสิก

กระจกทองแดงหยก ภาพทิวทิศน์ ราวบันไดแกะสลัก และม้วนหนังสือ…

อย่างไรก็ตามการตกแต่งและสิ่งของที่อยู่ภายในนั้นงดงามกว่าภายในภูเขามังกรคู่ที่เรียบง่ายและหยาบกร้านร้อยเท่า

“นี่คือเมืองแห่งมนุษย์?”

หลู่จือเซินปรากฏตัวข้างเขาด้วยสีหน้าสงสัย

“นี่คือเมืองแห่งมนุษย์ ยินดีต้อนรับสู่เมืองแห่งมนุษย์หมายเลขหนึ่ง!”

“ฉันเป็นพนักงานของร้านอาหารสามพันแห่งนี้ ตามประเภทของถิ่นฐานที่พวกคุณสองคนอยู่ พวกคุณสามารถเรียกฉันว่าบริกร!”

มีเสียงหนึ่งดังขึ้นมาในห้อง คนที่ยืนอยู่ในห้องก็คือชายหนุ่มชุดสีน้ำเงินที่แต่งตัวราวกับคนรับใช้ เขายิ้มให้กับพวกเขาสองคน

“ร้านอาหารสามพัน? ชื่อนี้ไม่ธรรมดา”

“ชาวพุทธกล่าวว่ามีโลกดอกไม้สามพันใบ ในขณะที่สามพันของลัทธิเต๋าหมายถึงไร้ที่สิ้นสุด… ร้านอาหารกล้าที่จะตั้งชื่อเช่นนี้ได้ไง?”

หลู่จือเวินมองไปรอบๆ และกล่าวกับชายในชุดสีน้ำเงินผู้ที่เรียกตัวเองว่าบริกร

“คุณรอบรู้ในพระพุทธศาสนา! ในร้านอาหารสามพันของเรามีทั้งหมดสามพันห้อง และมีอยู่ในเมืองแห่งเผ่ามนุษย์นับไม่ถ้วน”

บริกรยิ้มและตอบกลับ

“เมืองมนุษย์นับไม่ถ้วน?”

จีเย่จับใจความชิ้นส่วนข้อมูลจากการสนทนานี้

“ถูกต้อง เมืองมนุษย์หมายเลขหนึ่งควบแน่นจากพลังแห่งโชคชะตา ในขณะเดียวกันก็ได้ต้อนรับแขกทั้งหมดจากถิ่นฐานมนุษย์ที่ปฏิบัติตามข้อกำหนด เป็นไปไม่ได้ที่จะกล่าวว่าเพียงแค่เมืองเดียวจะเพียงพอ”

“แน่นอนว่า ‘นับไม่ถ้วน’ เป็นเพียงแค่คำพูด หลังจากเปิดใช้งานแต่ละครั้ง จำนวนที่แน่นอนของเมืองแหืงมนุษย์จะถูกกำหนดโดยจำนวนคนที่เข้ามา!”

บริกรพยักหน้า

“ในกรณีนั้น เราควรจะได้พบกับอารยธรรมอื่นของมนุษย์ที่นี่ใช่มั้ย?”

จีเย่เอ่ยถามคำถามที่ชาวโลกทุกคนอยากรู้

เผ่ามนุษย์บนโลกเพียงอย่างเดียวก็มีถิ่นฐานนับแสนแห่งในดินแดนแห่งมรดก ส่วนหนึ่งถูกมนุษย์ต่างดาวทำลายไปแล้ว และส่วนที่เหลือก็พัฒนาเป็นอันดับ 2 ก่อนที่พวกเขาจะสามารถเข้ามาได้ จำนวนถิ่นฐานที่สามารปฏิบัติตามข้อกำหนดจึงมีไม่มากนัก จึงไม่จำเป็นต้องมีเมือง ‘นับไม่ถ้วน’ ต้อนรับพวกเขา

“แน่นอนว่าเผ่ามนุษย์ของเรานั้นเป็นเผ่าขนาดใหญ่ เรายังห่างไกลไปยังโลกและดาวเคราะห์ได้เพียงแค่หนึ่งหรือสองแห่งเท่านั้น”

“อย่างไรก็ตามแขกของอารยธรรมมนุษย์ที่แตกต่างกันจะอยู่ในเมืองแห่งมนุษย์ที่แตกต่างกันในตอนแรก แม้ว่าพวกเขาจะมีจากอารยธรรมเดียวกัน แต่พวกเขาก็จะปรากฏในเมืองมนุษย์ที่แตกต่างกันเนื่องจากระยะทางหรือเนื่องจากพวกเขามาจากถิ่นฐานที่แตกต่างกัน”

“อย่างไรก็ตามเพราะเมืองมนุษย์ที่แตกต่างกันก็จะมาบรรจบกัน จึงมีโอกาสที่จะได้พบกับผู้คนจากอารยธรรมอื่นโดยตรง แต่ก็ต้องเงื่อนไขด้านโอกาส”

คำตอบของบริกรได้พิสูจน์เรื่องนี้ได้อย่างไม่ต้องสงสัย

“มีอารยธรรมมนุษย์อื่น…”

อารมณ์ของจีเย่นั้นค่อนข้างอธิบายยาก

เขารู้สึกตื่นเต้นเล็กน้อย แต่เขาก็ยังรู้สึกว่าร่างกายของเขาเบาขึ้นด้วยเหตุผลบางอย่าง

นี่เป็นเพราะเรื่องนี้หมายความว่าผู้คนบนโลกไม่ได้อยู่เพียงลำพังในดินแดนแห่งมรดก ไม่จำเป็นต้องพึ่งพาดาวเคราะห์ขนาดเล็กและอารยธรรมพื้นฐานที่ยังไม่ก้าวเข้าสู่จักรวาลในการเผชิญหน้ากับมนุษย์ต่างดาวที่ไม่รู้จักจำนวนนับไม่ถ้วนจากอารยธรรมขั้นสูง

แม้ว่ามนุษย์คนอื่นอาจจะแตกต่างจากชาวโลกในแง่ของอารยธรรม แต่การปรากฏของเมืองแห่งมนุษย์ก็หมายความว่าทุกคนจะไม่ได้อยู่ในฝ่าย ‘ศัตรู’ กันในดินแดนแห่งมรดก

จักรวาลและมิติอื่นจะมีมนุษย์ยังไง? พวกเขามีความสัมพันธ์อะไรกับมนุษย์บนโลก? ทฤษฏีการวิวัฒนาการของดาร์วินผิดหรือไม่ และมนุษย์นั้นมาจากนอกมิติ…

คำถามเหล่านี้ควรจะเป็นความกังวลของบรรดา ‘ผู้เชี่ยวชาญ’ เหล่านั้นบนโลก!

“อารยธรรมที่แตกต่างกันสามารถสื่อสารกันในเมืองแห่งมนุษย์แห่งนี้ได้หรือไม่?”

อย่างไรก็ตามมีปัญหาที่จีเย่ค่อนข้างสนใจ

เขาแน่ใจว่าเป็นไปไม่ได้ที่ผู้คนจะพูดภาษาประเทศมังกรในจักรวาลและอารยธรรมที่แตกต่างกัน อย่างไรก็ตามคำพูดของ ‘บริกร’ คนนี้ฟังดูเหมือนภาษาประเทศมังกรสำหรับเขา และมันฟังดูเหมือนภาษาท้องถิ่นของจังหวักทางตะวันตกเฉียงใต้ด้วยซ้ำ

“แน่นอน!”

“เช่นเดียวกับที่ฉันเข้าใจภาษาของคุณ คุณก็สามารถเข้าใจสิ่งที่ฉันพูดได้เช่นกัน”

“นี่ไม่ใช่เพราะฉันพูดภาษาเดียวกับพวกคุณ แต่เพราะในเมืองแห่งมนุษย์ การสื่อสารเป็นการแสดงออกถึงความคิดของผู้คนโดยตรง! ดังนั้นก็ไม่จำเป็นต้องกังวลว่าอารยธรรมจากถิ่นฐานที่แตกต่างกันจะมีปัญหาในการสื่อสารกัน แน่นอนว่าหากสติปัญญาของอีกฝ่ายไม่สูงพอก็อาจมีอุปสรรคในการทำความเข้าใจ”

บริกรตอบกลับ

“นี่… เป็นการเปิดหูเปิดตาสำหรับฉันจริงๆ”

หลู่จือเซินถอนหายใจ

“ถ้าแอย่างนั้นพวกคุณเต็มใจที่จะเลือกร้านอาหารสามพันเป็นจุดเกิดพิเศษของพวกคุณในเมืองแห่งมนุษย์มั้ย?”

บริกรยิ้มให้กับพวกเขาทั้งสอง

“การที่ตั้งให้มันเป็นจุดเกิดพิเศษหมายยความว่ายังไง?” จีเย่เอ่ยถาม

“หากคุณทำแบบนั้น คุณจะปรากฏในห้องของร้านอาหารสามพันของเราในครั้งต่อไปและเพลิดเพลินกับบริการที่ดีที่สุดของที่นี่ ยิ่งไปกว่านั้นผู้ที่มาจากถิ่นฐานเดียวกันกับคุณก็จะปรากฏในร้านอาหารสามพันกับคุณ คุณไม่ต้องกังวลว่าจะถูกแยกกัน!”

“คุณสามารถตรวจสอบบัตรของเมืองแห่งมนุษย์เพื่อยืนยันคำพูดของฉัน” บริกรอธิบาย

เห็นได้ชัดว่าเขาพยายาม ‘ชักชวน’ ราวกับคนขายประกัน

ท้ายที่สุดแล้วการตั้งร้านอาหารเป็นจุดเกิดพิเศษ เป้าหมายของมันก็คือการทำธุรกิจ

“ได้เลย”

พวกเขาสื่อสารกับบัตรทองในใจของพวกเขา

อย่างไรก็ตามเขาก็ตระหนักว่าบัตรไม่มีคุณสมบัติปรากฏในมือของเขา และคำบนบัตรก็ได้ยืนยันคำพูดของบริกร

“อ่าา พวกคุณเป็นแขกผู้มีเกียรติที่ได้รับบัตรทอง!”

เมื่อเขาเห็นสีของบัตรในมือของพวกเขา รอยยิ้มที่สงบนิ่งแต่เดิมของบริกรก็เปลี่ยนเป็นประหลาดใจ

“หัวหน้าได้สั่งว่าในระหว่างการเปิดของเมืองแห่งมนุษย์ แขกที่มีบัตรทองจะสามารถเพลิดเพลินกับอาหารและที่พักฟรี”

“นอกจากนี้หัวหน้ายังต้องการให้ฉันอยู่ดูแลพวกคุณ ฉันจะจัดการตามคำขอของพวกคุณในขณะที่พวกคุณอยู่ในเมืองแห่งมนุษย์!”

จากนั้นราวกับเขากำลังสื่อสารกับใครบางคน ทัศนคติของเขาก็กลายเป็นค่อนข้างเคารพทันที

“บัตรทองและบัตรเงินแตกต่างกันยังไง?” หลู่จือเซินเอ่ยถามด้วยความสับสน

“ฉันไม่รู้รายละเอียด แต่มีการกล่าวว่ามันเกี่ยวข้องกับคะแนนการมีส่วนร่วมที่คนมีต่อถิ่นฐานและควาสามารถที่พวกเขาแสดงออกมา วีไอพีที่มีบัตรทองนั้นเป็นตัวแทนของมนุษย์ที่มีศักยภาพสูงที่สุดในปัจจุบัน พวกเขาจึงสมควรได้รับการบริการที่ดีที่สุด!” บริกรตอบด้วยความเคารพ

“ฉันเข้าใจแล้ว…”

“เมืองแห่งมนุษย์แห่งนี้สร้างขึ้นมาเพื่อการทำธุรกรรมเป็นหลัก แล้วเราควรทำธุรกรรมที่ไหน?”

จีเย่และหลู่จือเซินมองหน้ากันอย่าไงม่แปลกใจ

ท้ายที่สุดแล้วหนึ่งในสองคนนั้นก็คือวีรบุรุษขั้นสมบูรณ์ ในขณะที่อีกคนมีพรสวรรค์ขั้น ‘มรดก’

“ในร้านอาหารสามพัน มีพื้นที่สำหรับการแลกเปลี่ยนโดยเฉพาะ นอกจากนี้คุณยังสามารถแลกเปลี่ยนแบบส่วนตัวในห้องของคุณได้!”

“อย่างไรก็ตามเพราะพวกคุณได้กำหนดให้สถานที่แห่งนี้เป็นจุดเกิดของพวกคุณ ห้องนั้นจึงถูกป้องกันโดยแสงจากโชคชะตาจากถิ่นฐานของพวกคุณ พวกคุณไม่ต้องกังวลว่าจะถูกสอดแนมหรือถูกรบกวนในระหว่างการทำธุรกรรม!”

“นอกจากนี้สไตล์ของห้องยังสามารถปรับเปลี่ยนได้ตามความต้องการของพวกคุณ สำหรับวีไอพีบัตรทอง บริการนี้ก็ฟรีเช่นกัน” บริกรกล่าว

เมืองแห่งมนุษย์ได้หลอมรงมถิ่นฐานจำนวนนับไม่ถ้วน ดังนั้นพวกเขาจึงไม่ได้มีแค่สไตล์คลาสสิก ในทางกลับกันพวกเขาก็มีถ้ำบ่มเพาะ ล่องเรือชมดวงดาว พระราชวัง ห้องส้วมและสไตล์อื่นอีกมายมายให้เลือก!

“ผู้นำหลู่ไปที่พื้นที่แลกเปลี่ยนกันเถอะ!”

จีเย่พยักหน้าและกล่าวกับหลู่จือเซิน

“ครับ!”

หลู่จือเซินไม่ปฏิเสธ

“เอ๊ะ? คุณคือ… พี่ชายจี!”

ในขณะที่จีเย่เดินตามบริกรออกจากห้อง ทันใดนั้นเสียงที่คุ้นเคยก็ดังขึ้นมาจากด้านข้าง