บทที่ 218 ไปรับรางวัลกลับมาแทนผมที (1)
ระหว่างที่ไป๋เยี่ยเอาแต่ขลุกอยู่ในห้องแล็บ อีกด้านที่กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่นก็กำลังมีข่าวฮือฮา
ไม่รู้ว่าใครเป็นมือดีที่แพร่ข่าวว่าไป๋เยี่ยเดินทางกลับจีนออกไปสู่สาธารณะ
ตอนนี้ไป๋เยี่ยกลายเป็นคนมีชื่อเสียงเพราะงานวิจัยเกี่ยวกับสมดุลยภาพภายในลำไส้ที่เขาเสนอไป แนวทางการล้างแผลรูปแบบใหม่ สเปรย์ลิโดเคนสูตรใหม่และโฟมปิดแผล สิ่งเหล่านี้ต่างเพียงพอที่จะทำให้ผู้คนจดจำชื่อของเขาได้
วันสุดท้ายของการประชุมประจำปีของสาขาทวารหนักกำลังจะมาถึงแล้ว จะมีการประกาศรายงานสรุปผลและประกาศชื่อผู้ชนะเลิศของรางวัลผลงานดีเด่นอีกด้วย รวมถึงมีการมอบถ้วยรางวัล
ข่าวคราวแพร่สะพัดไปทั่ว
แนวคิดของไป๋เยี่ยและหุ่นยนต์ซากุระจากญี่ปุ่นกลายเป็นคู่แข่งขันสุดดุเดือดประจำปีนี้
หากทฤษฎีของไป๋เยี่ยได้รับการยอมรับเมื่อไหร่ หุ่นยนต์ซากุระก็จะขายได้น้อยลงมาก อีกทั้งแนวทางการล้างแผลและสเปรย์ลิโดเคนของไป๋เยี่ยยังเป็นสิ่งที่นำมาใช้งานได้จริงและเกิดประสิทธิภาพอย่างมาก
กล่าวตามตรง ถ้าสุดท้ายแล้วไป๋เยี่ยพิสูจน์ทฤษฎีสมดุลยภาพภายในลำไส้ ค้นหาสาเหตุและป้องกันการเกิดโรคได้สำเร็จ
เช่นนั้นแล้ว! เงินจำนวนมหาศาลและเวลาอันยาวนานที่บริษัทเอดะทุ่มทุนไปพร้อมกับบริษัทอื่นๆ ก็ย่อมหายไปในพริบตา!
ตอนแรกอันดะ คิโยะเป็นกังวลมาก เมื่อเขาได้ข่าวว่าไป๋เยี่ยแอบเดินทางกลับจีนไปก็พลันรู้สึกงุนงงขึ้นมา ทว่าหลังจากได้พูดคุยกับไอดะ ทามะเป็นการส่วนตัวความมั่นใจของเขาก็พอจะกลับคืนมาบ้างแล้ว
วันนั้นเขาแอบส่งคนไปแพร่ข่าวในที่ประชุมว่าไป๋เยี่ยได้หลบหนีไปแล้ว
ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมานี้ บริษัทเอดะกำลังจัดทริปท่องเที่ยวให้กับเหล่าผู้เชี่ยวชาญและคณาจารย์เหล่านี้ ทว่าระหว่างนั้นกลับเริ่มมีเสียงซุบซิบนินทาแว่วขึ้นมาเป็นระยะ
เพราะว่าตอนนี้ไป๋เยี่ยเป็นที่รู้จักอย่างมากในแวดวง นักศึกษาปริญญาโทวัยยี่สิบสี่ปีค้นพบเรื่องพวกนี้ได้อย่างไม่น่าเชื่อ ถ้าไม่ใช่อัจฉริยะจะเรียกว่าอะไร
เป็นผลให้บางคนแขวะไป๋เยี่ยว่าเป็นพวกชอบฉวยโอกาสสร้างความประทับใจให้ผู้อื่นโดยการคาดเดาอันไร้มูลเหตุ
พูดให้น่าเกลียดหน่อยก็คือไป๋เยี่ยแอบหนีกลับประเทศไปเพราะกลัวถูกเปิดโปง!
ทว่า ที่แห่งนี้ล้วนแต่มีบุคลากรระดับแนวหน้าของวงการจากแต่ละสาขาวิชา ทำไมพวกเขาจะไม่คิดเรื่องพรรค์นี้
สิ่งที่ไป๋เยี่ยเสนอคือการเปิดโลกทัศน์ให้กับพวกเขา พวกเขาเป็นถึงบุคลากรทางการแพทย์ระดับแนวหน้า ย่อมรู้อยู่เต็มอกว่าปัญหาทางการแพทย์หลายอย่างแก้ไขโดยอาศัยทฤษฎีดั้งเดิมไม่ได้
ตอนนี้ไป๋เยี่ยเป็นผู้ที่หยิบยกแนวคิดเรื่องสมดุลยภาพภายในลำไส้ขึ้นมาอธิบายโดยใช้ถ้อยคำเรียบง่ายแต่เจาะลึกตรงประเด็น สำคัญที่สุดคือเขาอ้างอิงข้อมูลมาจากเอกสารจำนวนมาก คงไม่ต้องบอกว่าบทความในวารสารการแพทย์อันดับต้นๆ ทั้งสิบฉบับนั้นน่าเชื่อถือมากเพียงใดแต่
ทำไมพวกเขาจะไม่คิดล่ะ
พวกเขาไม่ใช่คนโง่ ไม่ใช่พวกเกรียนบนอินเทอร์เน็ตที่ไหลไปตามคำพูดสาดโคลนเหล่านั้นโดยไม่คำนึงถึงเหตุผลหรือขอบเขต
เพราะฉะนั้น เมื่อพวกเขาได้ข่าวว่าไป๋เยี่ยหายตัวไปก็พลอยถอนหายใจไปตามๆ กัน บอกตามตรงพวกเขาค่อนข้างสิ้นหวัง!
มันไม่เกี่ยวกับรางวัลผลงานดีเด่น พวกเขาเป็นเพียงกลุ่มแพทย์แผนกทวารหนักที่ต้องการรักษาโรคช่วยชีวิตผู้คนและพัฒนายารักษาโรคบริเวณทวารหนัก
คำกล่าวว่า ‘ความสามารถที่มากล้นย่อมมาพร้อมกับความรับผิดชอบอันล้นหลามและภาระอันหนักหน่วง’ นั้นไม่เกินจริงเลย!
ในฐานะที่เป็นแนวหน้าของวงการ หากพวกเขาไม่ค้นคว้าสิ่งใหม่ๆ และเปลี่ยนแปลงสิ่งที่เป็นอยู่ ผู้อื่นจะพึ่งพาพวกเขาได้อย่างไร
ดังนั้น ตอนนี้หลายคนจึงคาดหวังว่าไป๋เยี่ยจะพิสูจน์ทฤษฎีของเขาได้จริงๆ!
เจียลี่กำลังหารือกันกับคณะกรรมการหลายคนในห้องอย่างเคร่งเครียด
ไอดะ ทามะขมวดคิ้ว “พรุ่งนี้ก็เป็นวันสุดท้ายของการประชุมแล้ว ไป๋เยี่ยยังไม่ส่งผลอะไรมาเลย ชัดหรือยังครับว่าไม่มีผลลัพธ์ ทฤษฎีสมดุลยภาพภายในลำไส้เป็นแค่เรื่องไร้สาระ ผมแนะนำให้ถอนชื่อเขาออกจากรายชื่อเข้าชิงรางวัลนะครับ ทฤษฎีอะไรนั่นน่ะ เทียบชั้นกับหุ่นยนต์ซากุระไม่ได้เลยสักนิด!”
สมาชิกคนหนึ่งของคณะกรรมการพยักหน้าเห็นด้วย “ผมก็คิดเห็นเช่นนั้นครับ สุดท้ายนั่นก็เป็นแค่ทฤษฎีที่พิสูจน์ไม่ได้ อีกทั้งเราก็ได้แจ้งให้ทางนั้นทราบแล้วว่าต้องส่งหลักฐานสนับสนุนมาด้วย แต่ทางนั้นก็ยังไม่ส่งมา ผมคิดว่าทฤษฎีนั้นจะเป็นจริงหรือเท็จก็ไม่สำคัญแล้ว ท่านผอ.ครับ ผมแนะนำให้ท่านตัดสินใจลงคะแนนสรุปผลโดยเร็วนะครับ พรุ่งนี้ต้องประกาศรางวัลแล้ว!”
เจียลี่ดูลังเลเล้กน้อย อันที่จริงแล้วไม่เพียงแต่เขา แต่ยังมีคณะกรรมการอีกราวๆ สามคนจากเจ็ดคนที่มองเห็นคุณค่าในทฤษฎีที่ไป๋เยี่ยเสนอ หากไป๋เยี่ยพิสูจน์ได้จริง ทฤษฎีนั้นจะกลายเป็นรากฐานที่นำไปสู่ก้าวสำคัญของการพัฒนาองค์ความรู้ด้านสาเหตุการเกิดโรคบริเวณทวารหนัก!
ทว่ากฎก็คือกฎ ใกล้จะถึงเดดไลน์แล้ว แต่ช่วงที่ผ่านมากลับไม่มีข่าวคราวจากไป๋เยี่ยเลย เขาคิดจะยอมแพ้แล้วจริงๆ เหรอ
เจียลี่ถอนหายใจพลางมองดูเวลาที่กำลังเดินต่อไป “เริ่มลงคะแนนได้เลยครับ”
แต่จู่ๆ เสียงโทรศัพท์ของเขาก็ดังขึ้น
เขามีท่าทีลังเล แต่ก็ยังเปิดโทรศัพท์ขึ้นมา ก่อนจะพบว่ามีอีเมล์ส่งมาหาเขา
เขาเปิดอีเมล์ฉบับนั้นและพบว่ามีชื่อของไป๋เยี่ยกำกับอยู่ แววตาของเขาก็เป็นประกายขึ้นมาทันใด!
นี่มันข้อความจากไป๋เยี่ย
เขาเปิดไฟล์ที่แนบมากับอีเมล์และพบว่ามันเป็นบทความชื่อว่า ‘ตัวชี้วัดสมดุลยภาพของสภาพแวดล้อมภายในลำไส้: บทบาทของสารฟทาริกชนิดอาร์’
เจียลี่เบิกตากว้าง!
นี่มันหมายความว่าอะไร หมายความว่า…ไป๋เยี่ยค้นพบตัวชี้วัดที่บ่งบอกถึงสภาพของจุลชีพในลำไส้ได้แล้วเหรอ
เจียลี่คิดได้ดังนั้นก็ลุกขึ้นไปอ่านบทความนี้ด้วยท่าทีจริงจัง
บทความนี้มีความยาวเพียงสามถึงสี่พันตัวอักษรเท่านั้น ไม่รวมกับบรรณานุกรม เป็นการสรุปกระบวนการทั่วๆ ไปตั้งแต่วิธีทดลอง วิธีทางเวชสถิติและกระบวนการที่ได้จากการวิเคราะห์ข้อมูล
เจียลี่อ่านจบก็สั่นเทิ้มไปทั้งร่าง! ขนลุกไปทั้งตัว!
ตื่นเต้นชะมัด! ดฮณ๊ฯดฯฌซ,
นี่เป็นเรื่องดี งานวิจัยของไป๋เยี่ยเดินมาถึงจุดนี้เชียวเหรอ เรากำลังจะก้าวไปข้างหน้าได้ไกลขนาดนั้นจริงเหรอ
ตอนแรกเจียลี่คิดว่าไป๋เยี่ยจะแค่กลับไปค้นคว้า ไม่คิดเลยว่าเขาจะค้นพบตัวชี้วัดด้วย
การค้นพบเช่นนี้กล่าวได้ว่าเป็นการขยายองค์ความรู้ใหม่ เช่นเดียวกับการค้นพบไขมันในเลือด
คิดว่าไขมันในเลือดมีความสำคัญไหม
สำคัญสิ มากด้วย!
ก่อนที่จะมีการค้นพบไขมันในเลือดต่างไม่มีใครรู้ว่ามันคืออะไร แต่จู่ๆ คุณกลับได้เรียนรู้เกี่ยวกับตัวชี้วัดดังกล่าว ลองคิดดูสิ นี่มันคือการขยายองค์ความรู้ใหม่เลยนะ!
ไป๋เยี่ยในตอนนี้ก็เป็นเช่นนั้น เขาทำมามากมายถึงขนาดนี้แล้ว!
หลังจากอ่านบทความจบ เจียลี่ก็สังเกตเห็นข้อความสองถึงสามบรรทัดที่ไป๋เยี่ยทิ้งท้ายไว้
[เรียนท่านผู้อำนวยกรเจียลี่ เนื่องด้วยตอนนี้การทดลองดำเนินมาถึงจุดสำคัญแล้ว ผมจึงไปเข้าร่วมประชุมในวันพรุ่งนี้ไม่ได้ แต่เนื้อหาที่อยู่ในบทความข้างต้นคือหลักฐานจากผม ผมคิดว่าท่านน่าจะพิสูจน์ความน่าเชื่อของสิ่งที่ผมเสนอได้ สุดท้ายนี้ผมหวังว่าการประชุมจะสำเร็จไปได้อย่างราบรื่นนะครับ!]
เจียลี่ยิ้มพลางส่งข้อความตอบไป๋เยี่ยไป
[วางใจและทดลองต่อไปครับ พวกเรากำลังรอข่าวดีจากคุณอยู่ หลังจากที่คุณทำการทดลองเสร็จสิ้นแล้ว ทางเราจะมอบรางวัลผลงานดีเด่นให้กับคุณย้อนหลัง วันพรุ่งนี้ผมจะนำบทความของคุณไปประกาศต่อหน้าที่ประชุม]
แม้บทความของไป๋เยี่ยจะไม่ได้ตีพิมพ์ลงวารสาร แต่ก็ถือเป็นรายงานการประชุมอย่างหนึ่ง
เจียลี่เดินกลับเข้าไปในห้องทั้งรอยยิ้ม ตอนนี้กรรมการอีกหกคนต่างกำลังพูดคุยกันว่าจะมอบรางวัลอย่างไรดี ไอดะ ทามะเองก็ตื่นเต้นไม่น้อยที่ญี่ปุ่นจะได้รับรางวัลในครั้งนี้
รางวัลนี้แสดงให้เห็นถึงสถานะของชาตินั้นๆ ในสาขานี้ระดับนานาชาติ ซึ่งซื้อไม่ได้ด้วยเงิน
ตลอดสี่สิบปีที่ผ่านมา มีผู้ได้รับรางวัลผลงานดีเด่นเพียงสิบคนเท่านั้น ไม่เกินจริงหากจะกล่าวว่านี่คือรางวัลโนเบลสาขาทวารหนัก
จู่ๆ เจียลี่ก็เอ่ยปากขึ้น “ทุกท่านโปรดอ่านบทความนี้แล้วค่อยตัดสินใจ”