ตอนที่ 5 โอ๊คการ์ด

Game of the World Tree

ตัวตนของโอ๊คการ์ด คือเทพารักษ์แห่งพรไพรศักดิ์สิทธิ์ที่เหล่าเอลฟ์เคยอาศัยอยู่

ในยุคสมัยที่อารยธรรมเอลฟ์รุ่งเรืองถึงขีดสุดเมื่อหลายพันปีก่อน โอ๊คการ์ดคือสัญลักษณ์ของเทพพิทักษ์แห่งธรรมชาติ ซึ่งกองทัพอันเกรียงไกรของอาณาจักรเอลฟ์มีโอ๊คการ์ดนับแสน ๆ คอยอารักขา

แม้จะเป็นโอ๊คการ์ดตนที่อ่อนแอที่สุด ก็มีพลังไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าระดับเงิน!

ศิลามองตัวตนที่ประดุจมังกรเบื้องหน้า หัวใจของมันเต้นรัวราวกับจะระเบิด

“พลัง … ระดับเงิน …”

หัวของมันว่างเปล่าลงทุกขณะเมื่อเผจิญหน้ากับแรงกดดันมหาศาล

เป็นไปได้อย่างไร?

ไม่ใช่ว่าพวกโอ๊คการ์ดตายไปหมดแล้วเหรอ?

ข้าตาฝาดหรือเปล่า?

มือหนาขยี้ตาด้วยความหวาดหวั่นแกมไม่เชื่อสายตา แต่ภาพเบื้องหน้ายังคงเหมือนเดิมทุกประการ ร่างของมันสั่นเทาราวกับลูกนก …

ไม่ … ข้าไม่มีทางเข้าใจผิด ข้าเห็นภาพวาดฝาผนังเกี่ยวกับมันนับครั้งไม่ถ้วน ข้าไม่มีทางมองผิดไป!

เจ้ายักษ์นี่คือโอ๊คการ์ดไม่ผิดแน่! องครักษ์ของเทพธิดาแห่งธรรมชาติ!

เป็นไปได้อย่างไร?!

สมองทึบ ๆ ของมันทำงานอย่างหนัก แต่จะเค้นอย่างไรก็ปะติปะต่อเรื่องราวไม่ได้ … แต่ความคิดหนึ่งที่แจ่มชัดคืออสูรกายเบื้องหน้าไม่ได้มาดีแน่

มันจะฆ่าพวกเรา!

สัญชาตญาณเอาตัวรอดของมันส่งสัญญาณเตือนอย่างแรงกล้า

“หนี ….”

ศิลาพูดแผ่วเบา ก่อนที่จะคืนสติแล้วเปลี่ยนโทนเสียงเป็นตะโกนลั่น

“หนีไป!”

เท้าของมันไวกว่าความคิด ร่างสูงใหญ่พุ่งทะยานไปทิศตรงข้ามโดยไม่ทันสิ้นเสียง

ราวกับเป็นเรื่องล้อเล่น! ต่อให้มีศิลาสิบตนก็ไม่สามารถสู้กับโอ๊คการ์ดระดับเงินตนเดียวได้ ต่อให้นักบวชประจำเผ่าออร์คเข้ามาขวางก็คงโดนสังหารในไม่กี่วินาที!

เหล่าออร์คที่ตื่นตะลึงมาพักใหญ่พากันโกยแน่บตามหัวหน้าของพวกมันไปโดยพร้อมเพรียงราวกับสัตว์ป่าในยามวิกฤติ ตอนนี้พวกมันลืมจุดประสงค์ของการออกล่า ลืมสิ้นทุกสิ่งอย่าง ความคิดเดียวที่ยังแจ่มมชัดคือการหนีจากภยันตรายเบื้องหน้า …

ศิลาที่วิ่งนำไปก่อนยังคงคิดไม่ตกจนกลายเป็นความหวาดหวั่น …

ทำไมโอ๊คการ์ดยังเหลือรอดมาถึงสมัยนี้?

ต้นไม้โลกได้ตายไปแล้ว มันเป็นเรื่องที่ใครในดินแดนซากัสก็รู้ ๆ กันอยู่

เมื่อไม่มีพลังจากเทพประจำเผ่า มันจะไปมีโอ๊คการ์ดได้อย่างไร?!

บ้าน่า …

ไม่ใช่มั้ง …

ความคิดหนึ่งพลันผุดขึ้นกลางใจของมัน วินาทีนั้นมีภาพของต้นไม้โลกทอดเงาตระหง่านผ่านเข้ามาในมโนภาพของศิลา …

“ไม่ .. เป็นไปไม่ได้ …”

เสียงของมันแหบแห้ง พร้อมร่างกายที่เย็นเยียบจากเหงื่อกาฬ

ข้าต้องหนี!

ข้าต้องกลับไป! ข้าต้องเตือนทุกคนในเผ่า!

ท่านนักบวชต้องทราบสิ่งนี้! เผ่าออร์คกำลังตกอยู่ในอันตราย!

เสียงคำรามของเบอร์เซิร์กเกอร์ดังกึกก้อง

เมื่ออึดใจก่อน มันได้รับวิวรณ์จากพระมารดา การได้รับใช้องค์เทพธิดานับเป็นเกียรติอันสูงยิ่ง หัวใจของมันแทบระเบิดด้วยความตื่นเต้น

ทว่า เมื่อโอ๊คการ์ดเดินทางมาถึงสถานที่ในวิวรณ์จากพระมารดา มันกลับพบเหล่าออร์คโสมมที่มันเกลียดนักเกลียดหนา ซ้ำร้ายพวกออร์คกำลังไล่ล่าบุตรีแห่งธรรมชาติ

และสิ่งที่ร้ายแรงที่สุดคือการลบหลู่ดูหมิ่นพระมารดา การกระทำที่ป่าเถื่อนนี้ทำให้สติของเบอร์เซิร์กเกอร์ขาดผึงลงทันควัน ในเวลาเดียวกันพลันบังเกิดสุรเสียงของเทพธิดาขึ้นในใจของโอ๊คการ์ด …

“จงสังหาร”

ราวกับพันธนาการสุดท้ายได้ถูกปลดออก โอ๊คการ์ดคลุ้มคลั่งขึ้นในบัดดล

“โอออออออ——-”

เสียงคำรามกึกก้องกระชากทุกสรรพชีวิตในป่าให้ตื่นขึ้น

“ไอ้พวกลบหลู่! ตาย!”

พลังเวทมนตร์มหาศาลเจือด้วยพลังศักดิ์สิทธิ์กระจายเป็นวงกว้างโดยมีโอ๊คการ์ดเป็นศูนย์กลาง ร่างของมันที่เดิมทีสูงร่วมสามสิบเมตรพลันขยายขึ้นอีก ดวงตานิ่งสงบพลันเปล่งประกายแดงฉาน กิ่งหนาจำนวนนับไม่ถ้วนที่เกี่ยวพันกันเป็นแขนยักษ์ถูกเหวี่ยงเข้าปะทะอย่างไม่ปราณี

“พลียุทธ!”

โอ๊คการ์ดร่ายมนต์เป็นทำนอง แขนของมันกลายเป็นเถาวัลย์จำนวนมหาศาลไล่ล่ากลุ่มออร์คที่แตกกระเจิงเป็นผึ้งแตกรัง …

เถาวัลย์พุ่งทะลวงด้วยความเร็วมหาศาล ออร์คบางตนสิ้นชีพไปในไม่กี่ก้าวเดิน

“นี่มันอะไรวะ? ปล่อยข้า! ปล่อย!”

“ท่านศิลาช่วยข้าด้วย!”

“ปีศาจ! ปีศาจ! มันกำลังสูบพลังชีวิตข้า อ๊ากกกก”

“ขาข้า โอ๊ย! ขาของข้า!”

“…”

ศิลารู้สึกหวาดหวั่นทั่วสรรพางค์เมื่อได้ยินเสียงโหยหวนที่น่าเวทนาจากเบื้องหลัง

สัญชาตญาณของมันร้องเตือนอีกครั้ง ศิลาเอี้ยวตัวหลบซ่อนโดยทันที ในวินาทีนั้นเถาวัลย์เส้นเขื่องพุ่งผ่านไปตามทางที่มันเคยอยู่ ความสะพรึงสุดขีดผุดขึ้นบนใบหน้า

เถาวัลย์เส้นเดิมหักเลี้ยวเข้าหามันอย่างไม่ทันตั้งตัว!

ศิลากัดฟัน มันคว้าพร้าคู่ใจออกจากฝักพร้อมฟันสวนเข้าอย่างเต็มเปา

เคล้ง!

สิ่งที่หักสะบั้นลงกลับเป็นใบมีดพร้าเล่มโต ในทางกลับกันเถาวัลย์ยังคงไร้รอยขีดข่วน

“ได้ไงวะ?!”

ท่ามกลางความงุนงงของมัน เถาวัลย์พุ่งเข้ารัดร่างศิลาไว้ราวกับจะบีบให้ตาย ที่สำคัญคือพลังลึกลับบางอย่างมาพร้อมกับพันธนาการที่ไร้ทางต้าน ศิลารู้สึกถึงพลังชีวิตทั่วร่างกายที่มันเคยภาคภูมิใจถูกสูบออกอย่างรวดเร็ว มันสูญเสียพลังราวกับชราลงเป็นสิบ ๆ ปีภายในไม่กี่วินาที …

“พลียุทธ …”

เสียงของมันแหบแห้งและเต็มไปด้วยความหวาดกลัว

พลียุทธ คือทักษะระดับกลางของดรูอิด ผู้ใช้งานสามารถแปลงบางส่วนของร่างกายให้กลายเป็นรากไม้และเถาวัลย์ การโจมตีจะดูดพลังชีวิตของเป้าหมายเพื่อแปรเปลี่ยนเป็นพลังรบของตน อีกทั้งยังสังเวยพลังบางส่วนของเหยื่อแด่พระมารดาแห่งธรรมชาติ

ช่วงเวลาที่สติสัมปชัญญะของมันใกล้ดับสูญ ศิลานึกขึ้นมาได้ว่าทักษะนี้เป็นของดรูอิดผู้มีศรัทธาในระดับที่เรียกได้ว่าคลุ้มคลั่ง … เพียงชั่วพริบตาเดียวทหารของมันถูกกวาดล้างไปกว่ายี่สิบตน

เหตุการณ์ทั้งหมดพลิกผันในเวลาไม่ถึงสิบวินาที

อลิซที่นั่งทรุดอยู่กับผืนดินได้แต่จ้องด้วยสายตาที่เปี่ยมไปด้วยความรู้สึกบางอย่าง

“โอ๊คการ์ด … พลียุทธ …”

เอลฟ์สาวพึมพำบางอย่างเมื่อชำเลืองมองเหล่าออร์คที่ถูกดูดพลังชีวิตจนแทบจะกลายเป็นซากแห้งกรัง หยาดน้ำตาไหลอาบแก้มของเธอช้า ๆ

อลิซเงยขึ้นมองไปในทิศทางที่มีต้นไม้โลกตั้งอยู่ด้วยความฉงนเจ็ดส่วน กับความหวั่นวิตกอีกสามส่วน ในใจของเธอพลันบังเกิดความละอายและหวาดหวั่น

“พระมารดา … ใช่ไหมคะ?”

ลมเย็นวูบหนึ่งพัดเข้าปะทะ …

กลุ่มแสงสีเขียวจำนวนมหาศาลโปรยปรายลงจากฟากฟ้า ส่องประกายที่ดูเยือกเย็นและศักดิ์สิทธิ์ไปในเวลาเดียวกัน แสงอันอ่อนโยนไหลเข้าสู่ร่างกายของอลิซและซามีร์ราวกับถูกชักจูงด้วยพลังบางอย่าง

บาดแผลของทั้งสองพลันมลายหายไปสิ้น พร้อมพละกำลังดั้งเดิมหวนคืนสู่ร่างกาย ซามีร์ฟื้นคืนสติช้า ๆ …

ทุกอย่างเกิดขึ้นราวกับปาฏิหาริย์

ร่างนักบวชชราสั่นเทิ้ม เขามองไปยังโอ๊คการ์ดด้วยสายตาที่เปี่ยมไปด้วยความฉงน ซามีร์พิจารณาร่างที่เคยเต็มไปด้วยบาดแผลของตนด้วยความประหลาดใจ เมื่อเขาปะติปะต่อเรื่องราวบางอย่างได้ ร่างชราพลันทรุดลงบนพื้นอีกครั้ง

เขาอยากจะคาดหวัง แต่ก็กลัวที่จะผิดหวัง

เขาอยากจะเชื่อ แต่ก็กลัวจะไขว่คว้าได้เพียงความฝันที่ไม่มีวันเป็นจริง

นี่คือเรื่องจริงใช่ไหม?

ข้าจะยังคงเชื่อมั่นต่อไปได้ไหม?

ในวินาทีนั้น เสียงที่เต็มไปด้วยอำนาจและความศักดิ์สิทธิ์ผุดขึ้นในใจของเอลฟ์ทั้งสอง

“นามของเรา อีฟ อึกก์ดราซิลล์”

ทั้งคู่ตกอยู่ในสภาวะตะลึงสุดขีด

เอลฟ์ทั้งสองหันมามองหน้ากัน สิ่งที่สะท้อนในแววตาของทั้งคู่เริ่มจากความหวาดหวั่นพรั่นพรึง แต่เพียงชั่วพริบตาที่อารมณ์เหล่านั้นกลายมาเป็นความประหลาดใจ

พระมารดา!

ท่านคือพระมารดาจริง ๆ!

ท่านกลับมาแล้ว …

ในวินาทีนั้น อลิซรู้สึกว่าตนเองหมดสิ้นเรี่ยวแรง เธอสั่นเทาไม่หยุด ร่างเล็กล้มลงสู่ผืนดินพร้อมหยาดน้ำตาที่หลั่งไหล

ใบหน้าซามีร์ที่ได้ยินเสียงเมื่อครู่เริ่มบิดเบี้ยว น้ำตาเม็ดใหญ่หยดลงราวกับไข่มุก เอลฟ์ผู้สูงศักดิ์ในเวลานี้หลั่งน้ำตาไม่ต่างอะไรกับเด็กน้อย …

“พระมารดา … เป็นท่านใช่ไหม? เป็นท่านจริง ๆ ใช่ไหม!”

“พระมารดากลับมาแล้ว”

“ท่านกลับมาแล้ว!”

เพลิงแห่งศรัทธาของเอลฟ์ทั้งสองที่เคยมอดดับไป บัดนี้ได้ลุกโชติช่วงขึ้นอีกครั้ง

_ .. _ .. _ .. _ .. _ .. _ ._ .. _ .. _ .. _ .. _ .. _ .

T/N: เถาวัลย์ต้นไม้+ออร์คคุง = วัตถุดิบชั้นดี

ต้มผัดแกงทอดหอมอร่อยในพริบตา–

ถ้าถูกใจโปรเจ็คนี้ ขอความอนุเคราะห์ในการซัพพอร์ทได้ที่ต้นทางนะคะ

Support the project: https://book.qidian.com/info/1016509432

_ .. _ .. _ .. _ .. _ .. _ ._ .. _ .. _ .. _ .. _ .. _ .