ตอนที่ 187 การโจมตีของเอเลี่ยนเกอหลัวผู้น่ารัก 3

สตรีมเมอร์สาว กินพิชิตอวกาศ

ลูกสาวเราซื่อเกินไปหรือไง? นั่นมันระดับ 8 ดาวนะ!” พ่อผู้แก่ชราหันกลับมาด้วยความวิตกกังวลและออกคำสั่งกับหัวหน้าพ่อบ้าน “รีบส่งข้อความหาโอคาซีเดี๋ยวนี้ ถามว่าเขาถึงไหนแล้ว ทำไมยังไม่ไปอยู่ที่นั่นอีก? ทำไมยังช้าอยู่? ถ้ายังเป็นแบบนี้ ก็อย่าได้คิดจะแต่งงานกับลูกสาวของเราเลย!”

หลังจากที่สวี่หลิงอวิ๋นและพรรคพวกกลับมา จอมพลก็อดวินได้ทูลราชวงศ์ให้จัดงานแต่งงาน โดยหวังจะตบแต่งองค์หญิงสามให้เข้ามายังตระกูลแอนดรูว์

โชคดีที่เขากำลังสองจิตสองใจ ไม่อย่างนั้น เขาจะใช้วิธีการนี้ข่มขู่โอคาซีได้อย่างไร?

หัวหน้าพ่อบ้านรู้ดีว่าจักรพรรดิกำลังวิตกกังวลและรู้สึกสับสน จึงกล่าวปลอบประโลมว่า “ฝ่าบาท อย่าได้ใจร้อนไปเลยพ่ะย่ะค่ะ องค์หญิงสามเป็นคนดีฟ้าคุ้มครอง จะต้องไม่มีอุบัติเหตุอะไรเกิดขึ้นแน่”

“นอกจากนี้ท่านพลเอกโอคาซีอยู่ห่างออกไปไม่ไกล ได้ข่าวว่าเขามาถึงครึ่งทางแล้ว แค่นี้ก็รู้แล้วว่าท่านพลเอกรีบร้อนออกเดินทางมามากแค่ไหนพ่ะย่ะค่ะ”

“อีกอย่างกระหม่อมได้ข่าวมาว่านักรบระดับ 8 ดาวได้เดินทางมาถึงดาวเคราะห์หทัยกล้วยไม้แล้วพ่ะย่ะค่ะ ฝ่าบาทอย่าได้กังวลนักเลย”

จิตใจของจักรพรรดิสงบลงเล็กน้อย

สวี่หลิงอวิ๋นเดินออกมาจากเครื่องจักรกล ขณะถือกุนเชียงเชือกใหญ่ไว้ในมือ และเขย่ากุนเชียงต่อหน้าเอเลี่ยนเกอหลัวทั้งหลาย “เป็นยังไง? ชอบไหม?”

ถึงแม้ว่าเอเลี่ยนเกอหลัวจะกินกุนเชียงอย่างช้า ๆ และละเมียดละไม แต่นั่นก็ไม่เพียงพอสำหรับพวกมันอยู่ดี กุนเชียงหมดลงหลังจากกัดไปได้แค่สองสามคำ

ตอนนี้พวกมันจ้องมองกุนเชียงในมือของสวี่หลิงอวิ๋น ก้มตัวลงเล็กน้อยและแยกเขี้ยวขู่ด้วยเสียงร้อง ‘เจี๊ยบ ๆๆๆ’ นั่นหมายความว่าพวกมันกำลังจะโจมตี!

สวี่หลิงอวิ๋นยกยิ้ม และหยิบเนื้ออบแห้งชิ้นใหญ่ออกมาจากปุ่มมิติกักเก็บ นอกจากเนื้ออบแห้งจะไม่เผ็ดแล้ว มันยังมีความหอมของกลิ่นเนื้ออบแห้งอีกด้วย

แววตาของเอเลี่ยนเกอหลัวแน่วแน่ขึ้น!

คนคนนี้คือใคร? ทำไมถึงโผล่มาพร้อมกับอาหารอันแสนอร่อยมากมาย?

“ชอบไหม? มาสิ มาลองชิมดู!” สวี่หลิงอวิ๋นขว้างเนื้ออบแห้งไปข้างหน้าพวกมัน

เอเลี่ยนเกอหลัวโฉบขึ้นมากัดกิน เอเลี่ยนเกอหลัวตัวเล็กแยกเขี้ยวขู่ และร้องคำรามออกมาอีกครั้ง แต่กลับกลายเป็นว่าไม่มีตัวไหนสนใจมัน

หลังจากปล่อยทิ้งมานาน มันก็ปีนป่ายขึ้นมาด้วยความขุ่นเคือง ก่อนจะกัดกินคำใหญ่

แววตาของมันยังคงดุร้าย ขณะครุ่นคิดถึงวิธีการล้างแค้นอยู่พักหนึ่ง

ทว่าเอเลี่ยนเกอหลัวตัวอื่นไม่ได้รู้สึกเกรงกลัว พวกมันยังคงกินต่อไป

สำหรับนักกินนั้น ไม่มีมีอะไรสำคัญไปกว่าการกินอีกแล้ว แม้แต่ชีวิต บางครั้งก็ถูกมองข้ามไปชั่วขณะหนึ่ง

เนื้ออบแห้งชิ้นใหญ่ถูกเอเลี่ยนเกอหลัวนับสิบกว่าตัวแบ่งออกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย ท้องของพวกมันแต่ละตัวปูดสูงขึ้น ราวกับหญิงสาวที่ตั้งครรภ์ทารก

นอนอยู่บนพื้นอย่างไม่ขยับเขยื้อน อีกทั้งยังเรอออกมาอย่างอิ่มหนำสำราญ ดวงตาหรี่ลงเล็กน้อยราวกับกำลังหลับใหล

สวี่หลิงอวิ๋นพยายามที่เดินขึ้นไปสัมผัสหัวของเอเลี่ยนเกอหลัวตัวหนึ่ง

ในตอนแรก เอเลี่ยนเกอหลัวแยกเขี้ยวของมันอย่างดุร้าย แต่เมื่อสวี่หลิงอวิ๋นเริ่มเกาคางของมัน…

หงิงหงิงหงิง สบายจัง! เกาอีกสิ!

จากนั้นมันก็ริเริ่มเปิดท้องเพื่อให้เธอได้สัมผัสพุงของมัน!

และแล้วเสียง ‘ครอกฟี้ ๆ’ ก็ดังเล็ดลอดออกมาปากที่อิ่มหนำสำราญ

สวี่หลิงอวิ๋นยิ้ม เจ้าพวกนี้ไม่ต่างอะไรจากหมาและแมวในชาติก่อนเลย ยกเว้นแต่ว่าเอเลี่ยนเกอหลัวพวกนี้จะแข็งแกร่งและสามารถเอาชนะเธอได้เท่านั้นเอง

แน่นอนว่าหมาและแมวในชาติก่อนไม่ได้ต่อสู้กับมนุษย์ หากพวกมันต่อสู้กับมนุษย์ ไม่ต้องกล่าวถึงชัยชนะ คงต้องเป็นของพวกมัน เพราะเผ่าพันธุ์มนุษย์จะพ่ายแพ้อย่างแน่นอน

มันคงจะดีถ้าสามารถทำให้สิ่งมีชีวิตดุร้ายพวกนี้เชื่องเหมือนกับสัตว์เลี้ยงได้

จากข้อสันนิษฐาน เอเลี่ยนเกอหลัวที่อยู่ตรงหน้ามีคุณสมบัติที่จะทำให้เชื่องได้

เมื่อเอเลี่ยนเกอหลัวตัวอื่นจ้องมองมาทางเธอ เฮ้ ทำไมน้องตัวนั้นถึงได้ดูสบายใจนักล่ะ? ไม่ได้การแล้ว พวกมันเองก็อยากให้เกาพุงเหมือนกัน!

เอเลี่ยนเกอหลัวตัวเล็กที่สุดเป็นพวกเอาแต่ใจ มันไม่พูดพร่ำทำเพลง เพียงแต่ขับไล่เอเลี่ยนเกอหลัวอีกตัวที่อยู่ใต้ฝ่ามือของสวี่หลิงอวิ๋นออกไป และเข้าไปแทรกใต้ฝ่ามือของสวี่หลิงอวิ๋นแทน ก่อนจะส่งสัญญาณให้เกาพุงอย่างว่องไว!

ชาลีที่อยู่ด้านบนไม่รู้ว่าเขาควรจะรู้สึกโล่งใจหรือวิตกกังวลดี

ชาวเน็ตทั้งหลายมีความรู้สึกเดียวกันกับชาลี พวกเขากำลังสับสน

[เอเลี่ยนเกอหลัวเคยเป็นแบบนี้มาก่อนหรือเปล่า? ตอนนี้มันเหมือนไม่มีพิษไม่มีภัยเลย!] ผู้ชมต่างตั้งคำถามอย่างลึกซึ้งอีกครั้ง

[ไม่! พวกมันแค่จงใจทำให้องค์หญิงสามตายใจและเลิกระวังตัว เมื่อไหร่ก็ตามที่องค์หญิงสามทำให้พวกมันไม่พอใจ พวกมันทั้งกลุ่มจะโจมตีทันที!]

[โอ้โห จู่ ๆ ฉันก็รู้สึกว่าเอเลี่ยนเกอหลัวพวกนี้น่ารักขึ้นมาซะงั้น! แง ๆๆๆ อยากจะเอามันมาไว้ที่บ้านจัง ฉันจะได้ป้อนอาหารอร่อย ๆ ให้มันทุกวัน! ]

[อะไรอร่อย? เนื้ออบแห้งหรืออาหารกระป๋องล่ะ?! เธอคิดว่าตัวเองเป็นองค์หญิงสามหรือไง! เฮอะ! จะว่าไปเธอก็เป็นผู้หญิงนี่เนอะ!]

[บัดซบ ผู้หญิงแล้วมันยังไง? อย่ามาดูถูกผู้หญิงเชียวนะ! องค์หญิงสามก็เป็นผู้หญิงเหมือนกัน!]

[คอมเมนต์บนใจเย็นก่อน พวกเรามารอดูการพัฒนาขั้นต่อไปเถอะ!]

นักรบระดับ 8 ดาวได้มาถึงที่นี่แล้ว เท่ากับว่านักรบระดับแปดจำนวนทั้งสิบสองคนกำลังอยู่ที่นี่

อันที่จริง นักรบระดับ 8 ดาวหรือมากกว่านั้นได้รับการแต่งตั้งตำแหน่งอย่างเป็นทางการแล้ว แต่เมื่อพวกเขาได้รับแจ้งว่าองค์หญิงสามถูกล้อมรอบไปด้วยเอเลี่ยนเกอหลัวระดับ 8 ดาว พวกเขาก็รีบร้อนตรงมาที่นี่ทันที

“เดี๋ยวก่อน!” ผู้ชายที่อยู่ในวัยสี่สิบกว่าปีดูเหมือนจะเป็นหัวหน้า ถือได้ว่าเขาเป็นผู้เชี่ยวชาญระดับแปดที่มีประสบการณ์โชกโชน อีกทั้งยังสะสมเอเลี่ยนเกอหลัว

“ตอนนี้เอเลี่ยนเกอหลัวกำลังอยู่ในสภาวะผ่อนคลาย พวกคุณรีบส่งข้อความหาองค์หญิงสามว่าเธอถอยห่างออกไปอีกหน่อย แล้วพวกเราจะเข้าไปจัดการพวกมัน!”

การฉวยโอกาสในขณะที่พวกมันกำลังงุนงง จะสามารถจัดการพวกมันให้ราบคาบในคราวเดียวได้

นักรบระดับ 8 ดาวคนอื่น ๆ พยักหน้า

สวี่หลิงอวิ๋นได้รับข้อมูลดังกล่าว ว่ากันตามตรง เธอไม่ต้องการจากไปและจ้องมองเหล่านักรบต่อสู้กับเอเลี่ยนเกอหลัว

ดูเหมือนว่าเอเลี่ยนเกอหลัวตัวเล็กจะได้ยินอะไรบางอย่าง ใบหูของมันขยับไปมา ทว่ามันกลับไม่ได้ลงมือทำอะไร

สวี่หลิงอวิ๋นยังคงสัมผัสมัน และนั่นทำให้มันรู้สึกสบายตัว

หัวหน้านักรบระดับ 8 ดาวขมวดคิ้ว เกิดอะไรขึ้นกับองค์หญิงสาม? เธอไม่ได้รับคลื่นสัญญาณหรืออย่างไร?

สวี่หลิงอวิ๋นถอนหายใจ และลุกขึ้นยืน ขณะที่เอเลี่ยนเกอหลัวตัวเล็กบินโฉบไปบนร่างกายของสวี่หลิงอวิ๋น “เจี๊ยบ ๆๆๆ!”

มันพยุงตนเองขึ้น และดูเหมือนกำลังประท้วง

สวี่หลิงอวิ๋นมองดูดวงตาที่แวววาวสดใสของมันอย่างใกล้ชิด โอ้ ยิ่งมองมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งน่ารักมากขึ้นเท่านั้น! ถ้าเข้าใจคำพูดของมันได้ก็คงดีไม่น้อย!

“ฉันจะใช้พลังจิตแทรกแซงเข้าไปในหัวสมองของมัน! มารอดูกันว่าจะควบคุมมันได้ไหม!” จู่ ๆ สวี่หลิงอวิ๋นก็นึกขึ้นได้ถึงทักษะของเธอ และสงสัยว่าทักษะนี้จะสามารถใช้กับสิ่งมีชีวิตระดับ 8 ดาวได้หรือไม่

สวี่หลิงอวิ๋นแปรสภาพพลังจิตของตนเองให้แตกออกเป็นแขนง แทรกแซงเข้าไปในสมองของเอเลี่ยนเกอหลัว และพยายามครอบครองร่างกายของอีกฝ่าย

ทว่า… พลังจิตของเอเลี่ยนเกอหลัวแข็งแกร่งมาก! เมื่อมันสัมผัสได้ถึงการรุกรานของพลังวิญญาณที่ไม่คุ้นเคย มันก็ต่อต้านด้วยการแผ่ขยายพลังจิตของตัวเองออกมา

การต่อต้านดังกล่าวกลับไม่เป็นผล เพราะสวี่หลิงอวิ๋นคาดคิดไม่ถึงว่าเธอจะสามารถรับรู้อารมณ์ต่าง ๆ ได้ รวมทั้งความหมายของคำพูดด้วย?!

เอเลี่ยนเกอหลัวตกตะลึงเช่นกัน มันสามารถรับรู้ความคิดของอสุรกายสองขาที่อยู่ตรงหน้าได้อย่างไร?

อสุรกายผมยาวตัวนี้ต้องการสัมผัสมัน และอยากจะพามันกลับไปเป็นสัตว์เลี้ยงที่บ้าน เพื่อป้อนอาหารให้มันทุกวันอย่างนั้นเหรอ!?

ไอ้คนเลว! มันจะยอมจำนนง่ายดายขนาดนั้นเชียวหรือ?!

เฮือก! มันน่ะ!