บทที่ 102: คุณต้องการสมบัติของฉันหรือไม่?

เวลา: 12.12 น.

ณ มุมเงียบสงบของโรงพยาบาลจิตเวชชานเมืองด้านตะวันตก

รอบตัวพวกเขาเป็นสีดําสนิทเงาสีดําทั้งสองกําลังนั่งยองๆอยู่ในมุมอับและกระซิบกันไปมา

“พี่เขย…”

“ฉันบอกให้หยุดเรียกฉันว่าพี่เขยไงเรียกชื่อฉันซะ”

“พี่เต็ง…”

“..ทําไมมันฟังดูแปลกจัง?”

“พี่กําลังทําอะไรกัน?”

“ฉันกําลังเพิ่มส่วนผสมบางอย่างลงในไวน์เพื่อเพิ่มผลข้างเคียงของมัน พอดีฉันมีเพื่อนที่อยู่ข้างในนั้นที่ชอบดื่มเหล้าแรงๆ”หวังเต็งกล่าวด้วยน้ําเสียงจริงจัง

“พี่แน่ใจใช่ไหม?” หลินซัวเซียสงสัย

“ฉันจะโกหกเธอไปทําไม? เอาล่ะ ไปกันเถอะ”

หวังเต็

เละพาหลินซัวเซียไปที่ทางเข้าอาคาร เขาเอียงร่างกายของเขาและซ่อนตัวอยู่ในความมืด

“ร้องเหมียวๆให้เหมือนแมว” เขาพูดกับหลิน ซัวเซีย

หลินซัวเซียตกตะลึง หวังเด็งกระตุ้นเธออีกครั้งก่อนที่เธอจะร้องออกมาสองครั้งอย่างไม่เต็มใจ

ผมของหวังเต็งตั้งเมื่อเขาได้ยินเสียงของเธอ

“เสียงของหญิงสาวคนนี้ช่างเย็นยะเยือกยิ่งนัก!” เขาคิดกับตัวเองเงียบๆ

ในเวลาเดียวกัน มันก็ได้ยินเสียงฝีเท้าภายในอาคารใกล้เข้ามาขึ้นเรื่อยๆ หวังเต็งทําซ้ําในสิ่งที่เขาเคยทําในอดีตสับคอ!

หลินซัวเซียเบิกตากว้างด้วยความตกใจ

พยาบาลในครั้งนี้ต่างไปจากครั้งก่อน พนักงานตรงหน้าพวกเขาเป็นหญิงวัยกลางคนที่สูงและอ้วนชุดพยาบาลดูแน่นมากสําหรับเธอและเธอก็ดูแข็งแกร่งและร่าเริง

“ฉันไม่คิดว่าเราจะใส่เสื้อผ้าของเธอได้” หวังเต็งลูบคางและบ่นกับตัวเอง

ลืมมันไปเถอะ ฉันจะไปดูห้องเปลี่ยนเสื้อผ้าของพวกเขาในภายหลัง

จากนั้นหวังเต็งก็ลากนางพยาบาลตัวสูงไปที่มุมอับด้านนอกแล้วซ่อนเธอไว้ เขาพาหลินซัวเซียไปที่ห้องเปลี่ยนเสื้อผ้าขณะหลบกล้องพวกเขาพบชุดพยาบาลสองชุดและเปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นชุดดังกล่าวจากนั้นพวกเขาก็สวมหน้ากากอนามัยและเดินขึ้นบันไดไป

หลินซัวเซียพบว่าทุกสิ่งนั้นน่าสนใจและแปลกใหม่มากสําหรับเธอ

เธอมองสภาพแวดล้อมรอบๆด้วยดวงตาที่สดใสและโตของเธอ สายตาของเธอนั้นเป็นไปด้วยความสุข

เธอไม่ได้ออกมาเล่นตั้งแต่ยังเด็ก ดังนั้นเธอจึงไม่ค่อยมีประสบการณ์ที่น่าตื่นเต้นเช่นนี้

แม้ว่ามันจะเป็นเรื่องที่ไม่ดีก็ตาม…

หวังเต็งพาเธอขึ้นไปที่ชั้นสาม เขาพบห้องที่ชายผมหยิกอยู่และมองผ่านหน้าต่างเข้าไป

ไฟถูกเปิดอยู่ ชายผมหยิกกําลังจ้องมองไปที่อากาศข้างๆเตียงของเขา

แคร่ก!

หวังเต็งหยิบกุญแจออกมาแล้วเปิดประตู

อีกฝ่ายเงยหน้าขึ้นและถามว่า “คุณเป็นใคร”

“คุณไม่รู้จักฉันหรอ?” หวังเต็งถอดหน้ากากออกและเปิดเผยใบหน้าของเขา

“ทําไมฉันถึงต้องรู้จักนายด้วย” ชายผมหยิกมองเขาด้วยความสงสัย ราวกับว่าเขาจําหวังเต็งไม่ได้

หลินซัวเซียมองไปที่ทั้งสองคนอย่างสงสัย

“หวังเต็งตกตะลึงเล็กน้อย ทําไมเขาถึงต้องโต้เถียงกับผู้ป่วยจิตเวชกัน?” เขาส่ายหัวอย่างเร่งรีบและยกของในมือขึ้น

เขากล่าวว่า “มันไม่สําคัญว่าคุณจะจําฉันได้หรือไม่? ฉันนําแอลกอฮอล์และบุหรี่ดีๆมาด้วยคุณต้องการพวกมันไม่ใช่หรอ?”

ดวงตาของชายคนนั้นเป็นประกาย เขาลุกขึ้นจากเตียงแล้วตอบว่า “เข้ามาเลยๆ”

“รับนะ!” แววตาของหวังเต็งเปลี่ยนไปเล็กน้อยและเขาก็โยนไวน์ให้อีกฝ่าย

ชายผมหยิกรับขวดไป การกระทําของเขาราบรื่นมาก เขาจับขวดแอลกอฮอล์ บิดฝาแล้วเปิดออกในคราวเดียว

อึก อึก อึก อึก…

เขาเงยหน้าขึ้นและกระดกแอลกอฮอล์ลงคอ

“ฮ่าฮ่าง สดชื่น! ฉันไม่ได้ดื่มแอลกอฮอล์มานานแล้ว” ชายผมหยิกอุทาน จากนั้นเขาก็ถามว่า“แล้วบุหรี่อยู่ที่ไหนล่ะ? คุณไม่ได้บอกว่าคุณนําบุหรี่มาด้วยหรอ?”

“อื้ม เอาไปสิ”

หวังเต็งหยิบซองบุหรี่และไฟแช็คอจากกระเป๋าของเขาออกมา จากนั้นเขาก็โยนพวกมันไปที่ชายคนนั้น

ชายผมหยิกรับพวกมันไปและจุดบุหรี่สูบอย่างตื่นเต้น เขาเริ่มสูบบุหรี่

หวังเต็งใช้โอกาสนี้เก็บฟองสบู่ค่าคุณสมบัติที่กระจัดกระจายอยู่บนพื้น

พลังวิญญาณ*0.5

พลังวิญญาณ*0.2

พลังวิญญาณ*0.2

ปืนกังฟู*1

ห้ะ?!

ปืนกังฟู!

ปืนกังฟูหนึ่งคะแนน!

หวังเต็งตกตะลึง

ค่าคุณสมบัติที่อยู่ข้างหน้านั้นเป็นค่าคุณสมบัติพลังวิญญาณทั้งหมด นี่เป็นสิ่งที่อยู่ในความคาดหมายของเขาดังนั้นเขาจึงไม่ได้ประหลาดใจกับพวกมัน

อย่างไรก็ตาม เขาก็ไม่ได้คาดหวังมาก่อนว่าค่าคุณสมบัติปืนกังฟูจะปรากฎออกมาเช่นนี้

มันดรอปออกมาได้อย่างไรกัน?

หวังเต็งรู้สึกงุนงง แต่ก็ตื่นเต้นในเวลาเดียวกัน!

ผู้ชายคนนี้เป็นพระเจ้าแห่งปืนจริงๆ!

ปืนกังฟู (พื้นฐาน 4/10)

ปืนกังฟูของเขากระโดดจากสามเป็นสี่คะแนน หวังเต็งสามารถสัมผัสได้ถึงความชํานาญในการใช้ปืนกังฟูที่เพิ่มขึ้นมาได้ในทันที

ฉันสงสัยว่าพลังของปืนกังฟูนี้คืออะไร ถ้าฉันดําเนินการตอนนี้ วังเต็งคิดกับตัวเอง

“ชายคนนี้ไม่ใช่คนธรรมดาใช่ไหม?” หลินซัวเซียเคลื่อนไปยังด้านข้างของหวังเต็งและกระซิบกับเขาหลังจากที่เธอเห็นชายที่มีผมหยิก

“เธอรู้ได้อยังกัน?” หวังเต็งเลิกคิ้วและถามเธอกลับเบาๆ

“ฉันเห็นเขาจับขวดเมื่อกี้ คนธรรมดาไม่สามารถทําเช่นนั้นได้” หลินซัวเซียตอบ

“มีคนบอกว่าเขาเป็นพระเจ้าแห่งปืน” หวังเต็งกล่าวด้วยน้ําเสียงลึกลับ เขาไม่ได้ซ่อนข้อมูลจากเธอ

“จริงหรอ?” ดวงตาของหลินซัวเซียเปิดกว้าง เธอรู้สึกตื่นเต้นเล็กน้อยในหัวใจของเธอราวกับว่าเธอได้ค้นพบความลับที่ยิ่งใหญ่บางอย่าง

“แน่นอน ฉันจะโกหกเธอไปทําไม” หวังเต็งกล่าวต่อว่า “อย่างไรก็ตาม เขาก็ไม่เคยแสดงทักษะของเขามา ก่อน ดังนั้นฉันจึงไม่รู้ว่ามันจริงหรือไม่”

แม้ว่าเขาจะได้รับค่าคุณสมบัติปืนกังฟูมาจากชายคนนี้และเกือบจะสามารถยืนยันได้ว่าชายคนนี้คือพระเจ้าแห่งปืนแต่เขาก็ไม่สามารถใช้สิ่งนี้เป็นคําอธิบายได้

“ทําไมพวกคุณสองคนถึงเอาแต่กระซิบกันอย่างลับๆล่ะ” ทันใดนั้นเสียงของชายคนนั้นก็ดังมาจากด้านข้าง

“โอ้ เรากําลังพูดถึงทรงผมของคุณ เราว่ามันดูดีมาก” หวังเต็งพูดเรื่องไร้สาระ ในเวลาเดียวกันเขาก็ขยิบตาให้หลินซัวเซียและถามว่า“ใช่ไหม?”

“แน่นอน มันดูดีมากจริงๆ” หลินซัวเซียพยักหน้าอย่างเมามันส์

ชายผมหยิกเองก็พยักหน้าด้วยความพึงพอใจ “พวกคุณมีรสนิยมที่ดี”

เขาคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะเดินไปที่โต๊ะข้าง เขาหยิบยูเอสบีออกมาแล้วเดินไปหาพวกเขาจากนั้นเขาก็ส่งมันต่อให้หลินซัวเซีย

“นี่สําหรับเธอ สิ่งที่เธอต้องการอยู่ข้างในนั้น”

ยูเอสบีนี้ดูคุ้นๆ และคําพูดของเขาก็ฟังดูคุ้นๆเช่นกัน

นี่คืออะไรกัน?

“สําหรับคุณ..” ชายคนนั้นกลับมาที่โต๊ะแล้วหยิบปากกากับกระดาษแผ่นหนึ่งออกมา เขาเริ่มขีดเขียนบนมันอย่างชุ่ย

มันมีการวาดเส้นเป็นนามธอเรียบง่ายปรากฎบนกระดาษ

“คุณต้องการสมบัติของฉันใช่ไหม? หากต้องการ คุณก็จงใช้แผนที่นี้ในการค้นหาซะ ฉันซ่อนทุกอย่างไว้ที่นั่น!”

ชายผมหยิกโบกกระดาษในมือไปมา น้ําเสียงของเขาดเร่าร้อนและกระตือรือร้นราวกับว่าเขากําลังพูดต่อหน้าผู้คนหลายพันคน

หวังเต็ง: ..

คิดว่าฉันจะเชื่อแกหรอ!

“คุณไม่ต้องการมันหรอ?” ชายผมหยิกถามอย่างงุ่มง่ามเมื่อสังเกตเห็นว่าหวังเต็งไม่ได้แสดงปฏิกิริยาใดๆ

“ฮ่าๆ” หวังเต็งยิ้มอย่างมีนัยยะ

“ช่างเถอะ คุณคงจะเป็นคนขี้อายแน่ๆ ฉันจะให้มันกับคุณแม้คุณจะไม่ต็มใจก็ตาม เอาล่ะมันดึกแล้วรีบออกไปได้แล้ว” ชายผมหยิกยัดกระดาษขาวในกระเป๋าของหวังเต็ง จากนั้นเขาก็ไล่คนทั้งสองคนออกไปจากห้องและปิดประตูด้วยเสียงปัง

“ฉัน…” หวังเต็งพูดไม่ออก

“ป๋าฟฟ!” หลินซัวเซียหัวเราะออกมาเมื่อเห็นท่าทางหงุดหงิดแต่ทําอะไรไม่ถูกของหวังเต็ง