ตอนที่ 218 ฉันคิดถึงทุกคน
เพิ่งเลยห้าโมงเย็นมานิดหน่อยมู่เถาเยาก็กลับถึงบ้านแล้ว
พวกเหลียงจีอยู่กันในครัว
ภายในห้องรับแขกมีชายวัยกลางคนที่บุคลิกสง่างามเพิ่มมาอีกคนนอกจากอวิ๋นไป๋
ไม่รอให้อวิ๋นไป๋แนะนำเธอ มู่เถาเยาก็พูดขึ้นก่อน “นี่อาเขยซานใช่ไหมคะ”
สวีจิงเทายิ้มพยักหน้า “หนูก็คือเสี่ยวเยาเยาลูกศิษย์คนเล็กของหมอเทวดาหยวนเหรอ ดูเหมือนยังอายุสิบห้าสิบหกอยู่เลยนะ! เด็กสมัยนี้เก่งขนาดนี้เลยเหรอเนี่ย!”
ฉือซานออกมาจากห้องครัวพอดี ได้ยินเสียงสามีพูดเสร็จก็พูดต่อ “ใช่ไหมล่ะ! รอดูต่อได้เลย เสี่ยวเยาเยาทำให้ตกใจช็อกได้เลยล่ะ…”
เธอเล่าในสิ่งที่ได้ยินมาจากพวกเด็กสาวให้สามีฟัง
มู่เถาเยาพูดอย่างจนปัญญา “อาซานคะ หนูเป็นแค่คนธรรมดาค่ะ”
เจียงเฟิงเหมียนเดินออกมาจากครัวได้ยินประโยคนี้พอดี เธอพูดคัดค้านอย่างแข็งขัน “ไม่ใช่ซะหน่อย! พี่เยาเยาเก่งที่สุดในโลก!”
มู่เถาเยา “…”
ช่างเถอะ คนเหล่านี้ตกอยู่ในห้วงจินตนาการของตัวเอง ปลุกไม่ตื่นแล้ว
“กินข้าวจ้ากินข้าว” มู่หว่านออกมาจากห้องครัวแล้ว
เจียงเฟิงเหมียนพยักหน้าไม่หยุด “ใช่ๆๆ กินข้าวกัน พี่เยาเยา พวกเราทำกับข้าวคนละอย่าง อาเขยซานด้วย”
เมื่อครู่เธอตั้งใจออกมาเรียกทุกคนกินข้าว ปรากฏว่าพอได้ยินมู่เถาเยาพูดแบบนั้นก็เถียงกลับจนลืมไปเลย
“ลำบากทุกคนเลยนะ”
เจียงเฟิงเหมียนคล้องแขนมู่เถาเยา ยิ้มดวงตาโค้งมน “พี่เยาเยา ไว้พอฉันทำเป็นหลายๆ อย่างจะทำให้พี่กินทุกวันเลย”
“เธอจะผันตัวเป็นเชฟเหรอ”
เป็นเชฟก็ไม่เป็นไร ขอแค่ชอบก็พอ
เจียงเฟิงเหมียนส่ายหน้า “เปล่าค่ะ ฉันแค่อยากทำให้พี่เยาเยากิน รวมถึงพ่อแม่ อาจารย์ปู่…” พูดชื่อออกมาหลายคนยืดยาว
“เสี่ยวเหมียน เธอชอบทำอาหารหรือแค่อยากทำให้พวกเรากิน”
เจียงเฟิงเหมียนเอียงหน้า ไม่รู้ว่ามันย้อนแย้งกันตรงไหน
“ถ้าไม่ชอบก็ไม่ต้องฝืน ไม่ว่าจะเพื่อใครก็ตาม ขอแค่เธอไม่ยึดเป็นอาชีพ แค่ทำเป็นก็พอแล้ว ไม่จำเป็นต้องเสียเวลากับเรื่องที่ไม่ได้ชอบและก็ไม่ถนัด พวกเธอก็เหมือนกันนะ”
มู่เถาเยามองเด็กสาวคนอื่นๆ ที่ทยอยเดินออกมา
เด็กสาวเหล่านี้ไม่ได้เรียนทำอาหารเพราะชอบ
ทักษะการใช้ชีวิตแค่ทำเป็นก็พอแล้ว จะเชี่ยวชาญหรือไม่ก็ไม่ส่งผลต่อการใช้ชีวิต
เธอสนับสนุนให้เรียนเรื่องพวกนี้ แม้ตอนนี้จะดูไม่มีที่ให้นำไปใช้ก็ตาม แต่สักวันหนึ่งก็ต้องได้ใช้
มู่หว่าน “เสี่ยวเยาเยา พวกเราเชื่อฟังเธอ เลือกทำในสิ่งที่ชอบ เรื่องอื่นแค่พอทำเป็นก็พอแล้ว”
อวิ๋นสุ่ยเหยาพยักหน้า
“อืม พวกเธอมีตัวเลือกเยอะ นี่ก็โชคดีกว่าคนส่วนใหญ่แล้ว อย่าทำให้พวกผู้ใหญ่ที่สร้างสภาพแวดล้อมที่ดีให้พวกเธอต้องผิดหวัง ทำเรื่องที่ตัวเองชอบ ไม่ว่าจะวงการไหนก็ล้วนมีประโยชน์ต่อสังคมอยู่แล้ว”
สาวๆ พากันพยักหน้า
อวิ๋นไป๋รู้สึกขำ มองมู่เถาเยาที่ใช้น้ำเสียงเหมือนผู้ใหญ่สั่งสอนเด็ก ราวกับตัวเองเป็นผู้อาวุโส
เด็กสาวคนนี้ที่แกล้งทำตัวเป็นผู้ใหญ่ก็เหมือนอยู่นะ!
ฉือซานรู้สึกหมั่นเขี้ยวจนอดหยิกแก้มมู่เถาเยาไม่ได้
เด็กคนนี้น่ารักชะมัด
มู่เถาเยา “…”
เหลียงจียิ้มพูด “กินข้าวก่อนดีกว่าค่ะ”
แม้ตอนนี้จะเป็นช่วงฤดูร้อน แต่กินอาหารตอนร้อนๆ ก็ย่อมดีกว่ากินแบบเย็นชืด
ทุกคนพากันเดินไปที่ห้องอาหาร
มู่เถาเยามองอาหารบนโต๊ะที่หน้าตาดีกลิ่นหอมดูปกติดี เธอพูดชมจากใจ “ดีกว่าอาหารเช้าเยอะเลย ดูเป็นแบบที่ควรจะเป็น”
ฉือซานกับเหลียงจีพากันหัวเราะ
มู่หว่าน เจียงเฟิงเหมียน และอวิ๋นสุ่ยเหยาต่างไม่แคร์ที่คนอื่นหัวเราะ พากันคีบอาหารให้มู่เถาเยาด้วยความดีใจ
มู่เถาเยาก็ให้เกียรติกินจนหมด
“ใช้ได้”
เด็กสาวทั้งสามก็รู้สึกว่าอาหารที่ตัวเองทำอร่อยมาก แต่ละคนกินไปไม่น้อย!
กินอาหารเย็นเสร็จ ทุกคนก็ช่วยกันทำความสะอาดห้องอาหารและห้องครัว
มู่เถาเยาไปเตรียมของที่จะฝากอวิ๋นไป๋ไปที่เผ่าในวันพรุ่งนี้
อันที่จริงก็ไม่มีอะไรมาก ส่วนใหญ่เป็นของกินกับพวกยาบำรุงต่างๆ
คนสูงวัยหลายคนสภาพจิตใจไม่ค่อยดีในช่วงสิบแปดปีมานี้ มองภายนอกดูแก่กว่าคนวัยเดียวกัน ยิ่งไม่ต้องพูดถึงถ้าเทียบกับอาจารย์ทั้งสองคนของเธอ
ไว้ปรับสมดุลให้ร่างกายพวกเขาดีแล้วเธอค่อยใช้วิชาหุยหยางช่วยชะลอความแก่ให้
“เสี่ยวเยาเยา แน่ใจนะว่าจะไม่ไปเที่ยวด้วยกันสักสองวัน”
“ไม่ค่ะ ช่วงนี้หนูค่อนข้างยุ่ง รอปิดเทอมหน้าร้อนแล้วกัน”
“ก็ได้ จะฝากบอกอะไรไหม”
มู่เถาเยาทำหน้างง
อวิ๋นไป๋ยกตัวอย่าง “เช่น คิดถึงทุกคนนะ เมื่อไรจะได้ไปเยี่ยมทุกคน ทำนองนี้…”
มู่เถาเยา “…”
อวิ๋นไป๋หัวเราะเสียงดัง
“หลานน้า เธอไปตอนปิดเทอมหน้าร้อน ไว้ถึงตอนนั้นเดี๋ยวน้าจะกลับมาพร้อมเธอ”
“อ่อ พี่รองบอกว่าจะรับคุณปู่คุณย่าคุณตาคุณยายไปอยู่ที่หมู่บ้านเถาหยวนซานระยะหนึ่งค่ะ”
อวิ๋นไป๋พูดด้วยสีหน้าจริงจังอย่างอดไม่ได้ “หมู่บ้านเถาหยวนซานปลอดภัยเหรอ”
ถึงแม้คนตระกูลตี้หลายคนจะอยู่ที่นั่น แต่อย่างไรเสียศัตรูของตระกูลเย่ว์ก็ไม่เกี่ยวกับตระกูลตี้ คนที่ดูสถานการณ์เป็นย่อมไม่มีทางไปหาเรื่องตระกูลตี้ พวกเขาเลยไม่กังวลเรื่องความปลอดภัยของคนตระกูลตี้
ยิ่งไปกว่านั้นเดิมทีหมู่บ้านเถาหยวนซานก็ไม่ใช่หมู่บ้านธรรมดา
“ปลอดภัยค่ะ ทุกคนที่เข้าออกหมู่บ้านเถาหยวนซานรู้จักกันหมด”
“งั้นก็ดี เดี๋ยวไว้กลับมาน้าก็จะลองไปหมู่บ้านเถาหยวนซานกับพวกเธอด้วย”
“ค่ะ อาซาน อาเขย มานั่งตรงนี้นะคะ หนูจะจับชีพจรให้”
“จ้ะ”
ฉือซานกับสวีจิงเทาเข้ามานั่งข้างมู่เถาเยาอย่างเกร็งๆ
“อาซานทำตัวสบายๆ นะคะ ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร”
ฉือซาน “…”
กลุ้มใจมาสิบกว่าปียังไม่ถือเป็นเรื่องใหญ่อีกเหรอ
มู่เถาเยาจับชีพจรที่มือทั้งสองข้างของฉือซานเสร็จก็พยักหน้า “ปัญหาเล็กน้อยค่ะ กินยาขับพิษสักเดือนแล้วบำรุงอีกสองเดือนก็ดีขึ้นแล้วค่ะ งดเหล้า บุหรี่ อย่านอนดึก ออกกำลังกายเป็นประจำ”
ฉือซานกับสวีจิงเทามีสีหน้าดีใจ น้ำตาคลอเบ้า
แต่ตอนจับชีพจรให้สวีจิงเทา มู่เถาเยากลับขมวดคิ้วเล็กน้อย
“เสี่ยวเยาเยา ปัญหาใหญ่อยู่ที่อาเหรอ”
“อืม…ก็ไม่ถือว่าใหญ่ค่ะ แค่ต้องใช้เวลา ราวครึ่งปี ถ้าไม่รีบร้อนมีลูกก็เร็วกว่านั้นได้หน่อย แต่อาซานกับอาเขยอยากมีลูก งั้นก็ต้องเลือกวิธีรักษาที่ค่อนข้างอ่อนโยน”
“เสี่ยวเยาเยา สวีจิงเทาเป็นโรคอะไรเหรอ ไม่ใช่แค่ร่างกายมีสารพิษเหรอ”
“สารพิษตกค้างในร่างกายอาเขยมีไม่เยอะ พูดอีกอย่างก็คือ ตอนอายุสามสิบกว่าที่อาซานไม่ตั้งท้องก็มีสาเหตุมาจากอาเขยค่ะ”
“เสี่ยวเยาเยา งั้นทำไมโรงพยาบาลถึงบอกว่าเขาไม่ได้เป็นโรคอะไรล่ะ” ฉือซานร้อนใจจนจะร้องไห้แล้ว
“เดิมทีร่างกายคนเราก็มีสิ่งที่เครื่องมือตรวจออกมาไม่ได้ เช่น เรี่ยวแรง กำลังวังชา…”
มู่เถาเยาเริ่มพูดตั้งแต่ว่าทำไมคนเราถึงเจ็บป่วย ปัจจัยภายนอก ปัจจัยภายใน ความสัมพันธ์และอิทธิพลระหว่างธาตุต่างๆ ในร่างกายกับสุขภาพ…
ทุกคนไม่ค่อยเข้าใจศัพท์เฉพาะทางเท่าไร แต่พวกเขาก็เชื่อใจมู่เถาเยา
“วางใจได้ค่ะ โรคของอาเขยรักษาง่าย เช้าวันพรุ่งนี้และมะรืนนี้หนูจะไปเขาเซิ่งเย่ว์เก็บสมุนไพรมาทำยาให้อาเขยพกติดตัว กินวันละเม็ด เปลี่ยนตำรับเดือนละครั้ง”
ฉือซานลังเล “เสี่ยวเยาเยา พรุ่งนี้อาจารย์ของหนูจะมาไม่ใช่เหรอ”
“ไม่เป็นไรค่ะ หลักๆ คืออาจารย์หนูมาเยี่ยมศิษย์พี่หญิงห้า ศิษย์พี่หญิงห้าของหนูอายุเท่าอาซานกำลังท้องได้สองเดือนกว่าค่ะ”
“จ้ะ”
อวิ๋นไป๋ “เสี่ยวเยาเยา ใช้สมุนไพรอะไร หาซื้อเอาไม่ได้เหรอ มหาวิทยาลัยเย่ว์ตูก็ไม่มีเหรอ”
“ต้องใช้สมุนไพรที่เก็บก่อนเก้าโมงเช้าค่ะ…”
เหลียงจี “เสี่ยวเยาเยา เดี๋ยวพี่ไปเป็นเพื่อน”
พวกมู่หว่านก็อยากไปด้วย
“ไม่ต้องหรอกค่ะ ฉันจะรีบไปรีบกลับ พี่เหลียงจีไปรับอาจารย์ใหญ่ที่หมู่บ้านเถาหยวนซาน เครื่องบินของฉันเร็วกว่าของตระกูลตี้”
“ได้จ้ะ”
ตอนต่อไป