บทที่ 192 ตราลัญจกรหยกราชวงศ์เก่าปลอม

หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป

บทที่ 192 ตราลัญจกรหยกราชวงศ์เก่าปลอม

“หึ!”

เขาเช็ดมุมปากที่มีเลือดที่ไหลออกมา สายตาที่กระหายเลือดแสนอันตรายกวาดมองไปยังนักการอีกคนหนึ่ง ดวงตาดูชั่วร้ายเป็นที่สุด

หลังจากชะงักไปไม่กี่วินาที เขาก็หมุนตัวขยับฝีก้าวเดินไปทางปากซอย

เหลือแค่นักการคนนั้นที่พบว่าตัวเองรอดชีวิตมาได้ วิ่งล้มลุกคลุกคลานไปในทางที่กลับกัน

เพียงแต่วิ่งได้ไม่กี่ก้าว ด้านหลังก็เหมือนกับโดนอะไรดูดไว้ ทำให้เขาไปด้านหน้าไม่ได้ แต่ทว่าทันใดนั้นเองก็ถูกดูดเข้าไปอยู่ในเงื้อมมือของหานแส จากนั้นทั้งเลือดเนื้อก็เหือดแห้งไปด้วยความเร็วในชั่วพริบตา สุดท้ายก็เหลือเพียงโครงกระดูก……

เวลาเกือบหนึ่งมื้ออาหาร หลานเยาเยาได้กินอาหารทะเลย่างที่สั่งไปก่อนหน้านี้หมดไปนานแล้ว นางจึงสั่งมาใหม่อีกหลายชุด

นางประเมินว่า หานแสน่าจะยังไม่กลับมา

ดังนั้นจึงกำลังจะให้เจ้าของร้านเอาอาหารทะเลที่ยังไม่ได้แตะใส่ห่อ เมื่อหันกลับมา หานแสก็ได้นั่งลำตัวตรงอยู่ที่นั่งของเขาแล้ว

“หย๊า? เจ้ากลับมาตั้งแต่เมื่อไหร่?”

น่าแปลงจัง!

ยิ่งได้รู้จักยิ่งพบว่า หานแสกับเย่แจ๋หยิ่งไม่ต่างกัน บางครั้งก็ลึกลับ บางครั้งก็ไม่ต่างจากคนปกติทั่วไป

แต่ละคนประหลาดๆทั้งนั้น!

“เมื่อครู่”

ขณะพูด เขาก็หยิบอาหารทะเลไม้หนึ่งขึ้นมากินอย่างช้าๆ

เจ้าของร้านปิ้งย่างกำลังหยิบกล่องกระดาษหันกลับมาพอดี หลานเยาเยาก็โบกมือให้เขา จากนั้นก็นั่งลงอีกครั้ง

นางอดไม่ได้ที่จะสังเกตหานแสอย่างละเอียด กลับพบสิ่งที่น่าประหลาดใจ เขาออกไปครู่หนึ่ง ไม่เพียงแค่เปลี่ยนเสื้อผ้า แต่ยังฉีดน้ำหอมอีกด้วย กลิ่นหอมฟุ้งไปทั้งตัว

ที่น่าแปลกว่านั้นคือ ท่าทางของเขาที่เห็นก่อนหน้านี้ ยังคิดว่าเขาแพ้อาหารทะเล บวกกับอาการป่วยของเขา ดังนั้นจึงทำให้เขารู้สึกทรมานขึ้นมากะทันหัน

ดูจากตอนนี้ น่าจะไม่ใช้แล้ว

ไม่ว่าอย่างไร ท่าทางเขาที่กำลังกินอาหารทะเลในตอนนี้ดูมีความสุขมาก

“ผมของเจ้า……”

หลานเยาเยายังไม่ทันพูดจบ ก็เห็นหานแสเงยหน้าขึ้นมา มองนางแปลกๆ จากนั้นก็ก้มหัวลงอย่างรวดเร็ว ถามด้วยความไม่แน่ใจว่า :

“ผมทำไมรึ?”

“ไม่ทำไมหรอก! แค่เปียกแฉะ คิดว่าเจ้าไปอาบน้ำมาซะแล้ว”

“อืม!”

หานแสตอบรับเบาเบา แล้วก็หยิบปิ้งย่างขึ้นมากินอีก หลานเยาเยาคิดว่าเขาจะไม่พูดอะไรอีก กลับคิดไม่ถึง กินหมดไปหนึ่งไม้ เขาก็พูดขึ้นมาอีกประโยคหนึ่ง : “เสื้อผ้าสกปรก ก็เลยไปอาบน้ำ”

“อ่อ!”

หลานเยาเยาไม่ได้พูดอะไรอีก และกินปิ้งย่างอย่างเงียบๆ และไม่รู้ว่าผ่านไปนานเท่าไหร่ ปิ้งย่างบนโต๊ะก็ถูกกินไปพอประมาณแล้ว

นางเงยหน้าขึ้นมากะทันหัน กล่าวด้วยสีหน้าที่จริงจังอย่างมาก :

“มีกลิ่นคาวเลือด”

คราวนี้ มือของหานแสชะงักไป แววตาแสดงความประหลาดใจออกมาแวบหนึ่ง : “กลิ่นคาวเลือด?”

“อืม โชยมาจากทางนั้น” หลานเยาเยาชี้ไปทางกลุ่มคนข้างๆ

ไม่รู้ว่าคนพวกนั้นกำลังมุงดูอะไรอยู่ โดยรวมแล้วก็คือชี้ไปชี้มา แสดงความคิดเห็นกันเบาๆ

ดูท่าแล้ว น่าจะเกิดเรื่องอะไรขึ้น

“ไป พวกเราไปดูกัน” ยังไงก็ถือว่ากินดื่มอิ่มเต็มที่แล้ว ในเมื่อมีเรื่องสนุกให้ดู หากไม่ดูก็น่าเสียดายมาก

“ดี!”

หลานเยาเยาไปจ่ายเงินก่อน จากนั้นก็เดินไปดู หานแสที่อยู่ด้านหลังมองดูที่มือของตัวเอง จากนั้นแอบถอนหายใจ แล้วก็เดินตามหลานเยาเยาไป

ในกลุ่มคน

ผู้ชายใส่ชุดคลุมสีขาวผู้หนึ่งนอนอยู่ที่พื้น บาดแผลตรงตำแหน่งหัวใจมีเลือดออก เลือดที่ไหลออกมาจากบาดแผลทำให้ชุดที่เขาใส่ท่อนบนกลายเป็นสีแดง สีหน้าซีดขาวราวกระดาษ กำลังจะสิ้นลมหายใจ

และผู้ชายชุดดำรัศมีแข็งแกร่งที่ยืนอยู่ตรงข้ามเขา ใส่หน้ากาก มือถือดาบยาว บนดาบยาวนั้นอาบไปด้วยคราบเลือด

หลานเยาเยาที่เพิ่งแหวกฝูงชนได้ ก็เห็นชายชุดดำที่ทำให้ผู้คนสะดุดตา

เป็นเขา!

ตอนอยู่ด้านล่างของป่าแห่งความลับ ที่ฝังสมบัติของราชวงศ์เก่า ชายชุดดำใส่หน้ากากผู้นี้เคยสะกดรอยตามเย่แจ๋หยิ่งอย่างลับๆเข้าไปที่นั่น นางยังเกือบตายด้วยน้ำมือของเขา

เย่แจ๋หยิ่งตั้งใจไว้ชีวิตเขา กลับคิดไม่ถึง เขาจะปรากฏตัวที่นี่

คนๆนี้มีประวัติความเป็นมายังไงกันแน่?

ชายชุดดำผู้นี้ไม่สนใจคนดูที่ยืนชี้และมุงอยู่รอบๆ ริมฝีปากเปิดขึ้นเล็กน้อย กล่าวด้วยน้ำเสียงที่เยือกเย็นว่า :

“มอบสิ่งของมาซะ”

“ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า……” แม้ชายชุดขาวจะมีชีวิตใกล้ตาย แต่เขาก็ยังหัวเราะออกมา “ของที่ข้าไม่ได้มา เจ้าก็อย่าหวังจะได้ครอบครอง”

พูดจบ ชายชุดขาวก็เอาห่อของที่สะพายอยู่ด้านหลัง เขวี้ยงไปที่พื้นอย่างสุดแรง

ชายชุดดำมีท่าทางเปลี่ยนไป รีบเข้าไปเปิดห่อของออกดู ของด้านในแตกออกเป็นสี่ห้าเสี่ยง

“ของปลอม?”

เมื่อเขารู้สึกว่าผิดปกติ มือก็โดนเข้ากับผงสีดำไปทั้งมือ

“ฮ่าฮ่าฮ่า คิดไม่ถึงใช่หรือไม่? ว่าเจ้าก็มีวันนี้ แม้ว่าพิษชนิดนี้จะเป็นยาพิษที่ออกฤทธิ์ช้า แต่จะทำให้คนได้รับความทุกข์ทรมานอย่างที่สุด แม้จะตายก็จะน่าเวทนาเป็นอย่างยิ่ง” ชายชุดขาวก็คิดไม่ถึง ว่าของที่เขาได้มาด้วยความยากลำบากเหนือคณานี้จะเป็นของปลอม

แต่ว่า!

ก่อนตายได้ดึงคู่ต่อสู้ที่แสนจะเก่งกาจนี้มาลงโทษ ก็ตายโดยไม่เสียใจแล้ว

ดังนั้น เขาใช้มือสองข้างดึงกำลังภายออกมา และโจมตีไปที่หัวกะโหลกของตัวเอง……

“เจ้า……”

เมื่อชายชุดดำสกัดจุดของตัวเองแล้ว เห็นชายชุดขาวสิ้นลมหายใจไปแล้ว ดวงตาหรี่ลง ขยับร่าง เหาะขึ้นหลังคาบ้าน จากนั้นก็หายไปพร้อมกับความมืดยามค่ำคืน

หลานเยาเยาละสายตาจากจุดที่ชายชุดดำหายตัวไปแล้วกวาดสายตาไปยัง ห่อของที่โดนเขวี้ยงไว้บนพื้น

มองดูของที่แตกอยู่เป็นชิ้นๆ ดวงตาของนางก็เบิกโพรงขึ้น

ตราลัญจกรหยกปลอม!

ดูท่าทางแล้วตราลัญจกรหยกราชวงศ์เก่านี้มีเสน่ห์มากไม่ธรรมดาเลยทีเดียว! ทุกฝ่ายที่มีอำนาจล้วนแย่งชิงกัน คาดว่าแม้แต่ประเทศต่างๆแต่ละประเทศก็พร้อมที่จะลงมือแย่งชิงด้วยความเขลา!

ตาเฒ่าเย่น

ดูแล้วที่ท่านเลือกจะจากไปคือสิ่งที่ถูกต้อง

แล้วข้าหล่ะ? ตอนนี้กำลังตกอยู่ในกระแสน้ำวนที่ยิ่งรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ?

“เจ้ารู้จักเขาหรือ?”

น้ำเสียงที่ดูสนิทสนมของหานแสดังขึ้นข้างหู จากนั้นก็เอามือไปจัดการผมที่ยุ่งเหยิงบนหัวนางให้เรียบร้อย ทุกอย่างเป็นไปด้วยความธรรมชาติ

หลานเยาเยาที่โดนดึงสติความคิดกลับมามองไปที่หานแสแวบหนึ่ง นางรู้ว่าเขาที่หานแสพูดถึงหมายถึงชายชุดดำ

แต่ทว่า!

นางส่ายหัว : “ไม่รู้จัก”

นางไม่รู้จักจริงๆ ไม่รู้ว่าเขาคือใคร และก็ไม่รู้จักหน้าตาที่แท้จริงของเขา อย่างมากก็แค่ได้เผชิญหน้าในการต่อสู้กันเพียงครั้งเดียวเท่านั้น

ทันใดนั้นก็มีสายตาที่จ้องมองอย่างรุนแรงจับจ้องอยู่ที่ตัวของหลานเยาเยา นี่ทำให้นางหันหน้าไปทันที แวบแรกก็มองเห็นเงาคนคนหนึ่งที่อยู่ในห้องส่วนตัวบนโรงเหล้า

แม้จะเห็นเพียงแค่แวบเดียวเท่านั้น แต่ลางสังหรณ์บอกนางว่า คนผู้นั้นเป็นคนที่นางรู้จัก และน่าจะเป็นคนที่นางคุ้นเคยมากเสียด้วย

ดังนั้น!

นางจึงไม่พูดพร่ำทำเพลง วิ่งมุ่งตรงไปยังทิศทางที่คนผู้นั้นหายตัวไปทันที ปล่อยหานแสยืนครุ่นคิดอยู่ที่นั่นผู้เดียว

หลานเยาเยาที่วิ่งอย่างไม่หยุดหย่อน เพียงอึดใจเดียวก็พุ่งเข้าไปในโรงเหล้า ภายใต้สายตาที่ดูเป็นศัตรูของเจ้าของร้านและพนักงาน นาง “ตึ่งตึ่งตึ่ง” วิ่งขึ้นไปชั้นสี่ จากนั้น “ปั่ง” เสียงหนึ่ง ผลักประตูให้เปิดออกทันที

“อ้า……”

“อ้า……”

ชายหนึ่งหญิงหนึ่งได้ส่งเสียงร้องแหลมดังลั่น

ชายที่ท่อนบนเปลือยเปล่ารีบร้อนลงมาตัวของผู้หญิง ทั้งสองคนมองดูนางด้วยความหวาดผวา

“คนล่ะ?” หลานเยาเยากระแอมเบาๆทีหนึ่ง แล้วถาม

“ที่นี่มีเพียงพวกข้า ท่านหาใคร? และท่านเป็นใครกัน?”

ความใคร่ที่กำลังคุกรุ่น ร้อนแรงดั่งไฟที่กำลังเผาไหม้กองฟืน โดนคนบุกรุกเข้ามาด้วยความดุเดือด จะทำตกใจจนตัวอ่อน

และที่สำคัญที่สุดก็คือ ผู้ที่บุกรุกเข้ามาเป็นคนที่ทั้งสองไม่รู้จัก

“เป็นไปไม่ได้!”

หลานเยาเยามั่นใจมาก สายตาเมื่อสักครู่นั้นและเงาร่างคนนั้นไม่ได้เป็นภาพลวงตา……