ตอนที่ 191 การโจมตีของเอเลี่ยนเกอหลัวผู้น่ารัก 7

สตรีมเมอร์สาว กินพิชิตอวกาศ

วิกฤตบนดาวเคราะห์หทัยกล้วยไม้ถูกคลี่คลายลงอย่างง่ายดาย ดูเหมือนจะซ้ำซากจำเจไปสำหรับเหล่านักเรียนเกือบหนึ่งหมื่นคนที่มาตามไล่ฆ่าเอเลี่ยนหรือเปล่า?

หลังจากที่เอเลี่ยนเกอหลัวรู้ว่าเอเลี่ยนเหล่านั้นมีรสชาติอร่อย พวกมันที่ไม่ได้รักใคร่กันราวกับเครือญาติก็ขับไล่เอเลี่ยนปลาหมึกยักษ์ เอเลี่ยนต๋าหลู่ และเอเลี่ยนตั๊กแตนทุกวัน และขอให้สวี่หลิงอวิ๋นปรุงอาหารอันแสนอร่อยให้พวกมัน

พอติดสินบนพวกมันเสร็จ สวี่หลิงอวิ๋นจึงติดตั้งปุ่มมิติกักเก็บจำนวนสิบกว่าปุ่ม และอนุญาตให้พวกมันเก็บอาหารไว้ในปุ่มมิติกักเก็บ

เจ้าถั่วน้อยหลายสิบตัวนั่งเรียงกันเป็นแถว และรู้สึกได้ถึงปุ่มมิติกักเก็บที่ห้อยอยู่บนคอของพวกมัน พวกมันเอาเนื้ออบแห้งออกมาวางบนพื้น ก่อนจะเอาใส่เข้าไป และเอาออกมาอีกครั้ง ราวกับว่าปุ่มมิติกักเก็บคือของเล่นชิ้นใหม่

เพลิดเพลินกับการละเล่น

“เอ่อ ตอนนี้พวกเรายังต้องจับเอเลี่ยนอยู่ไหมครับ?” รุยเอ่ยถามองค์หญิงสามด้วยความวิตกกังวล

ถึงแม้ว่าพวกเขาจะไม่ได้เรียนเก่งมากนัก! แต่ตลอดการปฏิบัติงานในช่วงนี้ เขาก็รู้สึกว่าทักษะของตนเองพัฒนาขึ้น ไม่ว่าจะเป็นความว่องไว การสังเกตการณ์ และความแข็งแกร่งของแรงมือที่พัฒนาขึ้นเป็นอย่างมาก

“จับสิ!” ถึงแม้ว่าวิกฤตจะคลี่คลายลงแล้ว แต่เนื่องจากนี่เป็นเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นเพียงครั้งเดียวในชีวิตและไม่ง่ายนักที่พวกเขาจะได้ออกมาข้างนอก เพราะฉะนั้นจะต้องทำมันออกมาให้สมบูรณ์แบบที่สุด ไม่ใช่เริ่มต้นอย่างสวยงาม แต่จบอย่างแย่

สมาชิกทุกคนยืนอยู่ด้านหน้าเวทีอีกครั้ง ขณะจ้องมององค์หญิงสามบนเวที

“จากนี้ไป พวกนายจะออกล่าได้อย่างอิสระ!” สวี่หลิงอวิ๋นหยิบถังขนาดใหญ่ออกมาจากปุ่มมิติกักเก็บ “รู้ไหมว่าข้างในนี้มีอะไรอยู่?”

เหล่านักเรียน รวมทั้งทหารทั้งหลายต่างส่ายหัวว่าพวกเขาไม่รู้

“ของสิ่งนี้มันดีมาก มันคือน้ำอ้อยที่ถูกกลั่นออกมาเป็นอนุภาคขนาดเล็ก ถ้าอยากจะดื่มด่ำน้ำหวานพวกนี้ ก็แค่คว้านขึ้นมาหนึ่งช้อน หึหึ! หวานจังเลย!”

สวี่หลิงอวิ๋นเคาะถัง ยิ้ม และจ้องมองฝูงชนที่อยู่ด้านหลังพยายามกลั้นหายใจด้วยความตื่นเต้น “อยากลองไหม?!”

“อยาก!” ทุกคนส่งเสียงร้องคำรามอย่างทุ่มสุดตัว

“ถ้าอยาก ก็ออกไปล่าเอเลี่ยนเท่าที่พวกนายจะล่าได้! ฉันจะคำนวณผลลัพธ์ตามระดับพลังงานและปริมาณ ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มหรือเดี่ยว แต่ใครก็ตามที่ล่าเอเลี่ยนได้มากที่สุด คนคนนั้นจะได้น้ำหวานทั้งถัง!”

ทุกคนต่างจับจ้องไปที่ถังน้ำหวาน และปรารถนาที่จะต้องคว้าชนะมาให้ได้!

“พวกเราสองคนมาอยู่ทีมเดียวกันเถอะ!”

“กับนายเนี่ยนะ? ก็ได้ ฉันไม่มีทางเลือกอีกแล้วนิ!”

“ให้ตายเถอะ นายคิดว่าฉันแย่ขนาดนั้นเลยหรือไง!”

“รู้อะไรมะ?! ฉันไปก่อนล่ะ! ถ้าได้ถังน้ำหวานนั้นมาครอง ฉันจะไม่ลืมนายแล้วกัน”

ในการรวมกลุ่มกัน บุคคลที่แข็งแกร่งก็จะจับคู่กับคนที่แข็งแกร่งเช่นเดียวกัน ส่วนคนที่อ่อนแอก็อยากร่วมสนุกด้วยเช่นกัน แต่กลับไม่มีใครยอมรับพวกเขา ดังนั้นพวกเขาจึงต้องหันกลับไปหากลุ่มคนที่อ่อนแอกว่าเท่านั้น

เอเลี่ยนปลาหมึกยักษ์หนึ่งตัวมีค่าเท่ากับเอเลี่ยนต๋าหลู่ห้าตัว และเอเลี่ยนตั๊กแตนหนึ่งตัวมีค่ากับเอเลี่ยนต๋าหลู่หนึ่งตัวครึ่ง

ในแง่ของความแข็งแกร่ง เอเลี่ยนตั๊กแตนค่อนข้างอ่อนแอกว่าเอเลี่ยนต๋าหลู่ เพียงแต่เอเลี่ยนต๋าหลู่จะไม่ก้าวร้าว และเอเลี่ยนตั๊กแตนเพียงแค่ว่องไวกว่าเท่านั้น จากมุมมองของนักล่า เอเลี่ยนตั๊กแตนค่อนข้างจับยากกว่าเอเลี่ยนต๋าหลู่

ทุกคนต่างแยกย้ายกันออกไป แม้แต่เหล่าทหารก็ให้ความสนใจสูง ก่อนจะวิ่งนำหน้าออกไป

นักเรียนชั้นปีที่สี่ออกไปเป็นลำดับที่สอง ส่วนนักเรียนชั้นปีที่หนึ่งออกไปเป็นลำดับท้ายสุด

พระอาทิตย์ยามเช้าซ่อนความเหน็บหนาวเอาไว้ ขณะที่พื้นที่ทั่วทั้งฐานทัพกลายเป็นที่โล่ง

ชาวเน็ตทั้งหลายยังคงหลับใหลอยู่ภายใต้ผ้าห่ม และไม่รู้ว่าตอนนี้การล่าครั้งยิ่งใหญ่ได้เกิดขึ้นบนดาวเคราะห์หทัยกล้วยไม้แล้ว

พิธีกรยังคงมีอาการง่วงเหงาหาวนอน และไม่จำเป็นต้องอธิบายอะไร เพราะทันทีที่เห็นน้ำหวาน ดวงตาของพวกเขาก็พุ่งตรงไปที่มันและแทบอยากจะออกไปล่าเอเลี่ยนทันที

เมื่อวานนี้พวกเขารับรู้มาว่าต้นอ้อยยังคงปลอดภัย และเอเลี่ยนเกอหลัวทั้งหลายจะทำหน้าที่คุ้มครองดาวเคราะห์แห่งนั้น ทว่าความตื่นเต้นของพวกเขายังไม่จางหายไป และตอนนี้ต้องมาเกาะติดหน้าจอเพราะน้ำตาลทรายขาวอีกครั้ง

[น้ำหวาน! น้ำหวาน! น้ำหวาน! ว่าแต่พวกคุณลงทะเบียนขึ้นยานอวกาศท่องเที่ยวไปที่ดาวเคราะห์กาตาร์หรือยัง? ฉันได้ยินว่าของหวานบนภูมิภาคนั้นอร่อยมาก!]

[ใช่ ๆ ฉันได้ยินคุณลุงคนที่สองของคุณลุงเขยของลูกพี่ลูกน้องของคุณป้าบอกว่าเขาเองก็อยู่ในกองทัพนั้นเหมือนกัน เขาได้ลองกินของหวานจากอารยธรรมท้องถิ่นและเอามาฝากครอบครัวของเขาด้วยแหละ!]

[ว่ากันว่าของหวานของอารยธรรมท้องถิ่นจะกินกันเท่าไหร่ก็ได้ ไม่รู้จริงหรือเปล่านะ!]

[ใช่! ก็คงจะจริงแหละมั้ง! องค์หญิงสามถึงกับเปิดสาขาย่อยของร้านของหวานที่นั่นด้วย และทั่วทั้งภาคพื้นทวีปก็ขายของหวานที่องค์หญิงสามทำ!]

[อา! ฉันอยากไปที่ดาวเคราะห์กาตาร์นั้นจัง! แต่จะทำยังไงดีในเมื่อฉันลงทะเบียนชื่อไม่ได้อ่ะ!]

[คุณล้อเล่นหรือเปล่า? ผมรีบลงทะเบียนตั้งแต่ที่ประกาศออกมาอย่างเป็นทางการ แต่ลำดับชื่อก็อยู่ในอีกสามปีหน้าแหนะ คุณจะลงทะเบียนตอนนี้เหรอ? คงอีกยี่สิบปีนู้นป่ะ!]

ยังคงมีเอเลี่ยนปลาหมึกยักษ์อีกจำนวนหนึ่งหมื่นตัวหลงเหลืออยู่บนดาวเคราะห์หทัยกล้วยไม้ และเอเลี่ยนต๋าหลู่อีกหลายแสนตัว ส่วนเอเลี่ยนตั๊กแตนล่ะ? มีมากกว่านั้นเสียอีก!

เหล่าทหารคือผู้ริเริ่ม และเป้าหมายของพวกเขาก็คือเอเลี่ยนปลาหมึกยักษ์!

พวกเขาเห็นพ้องร่วมมือกันและมีความเชี่ยวชาญในการจับเอเลี่ยนปลาหมึกยักษ์ ในขณะที่กลุ่มที่ทรงพลังที่สุดสามารถจับเอเลี่ยนปลาหมึกยักษ์ได้ภายในสิบนาที…

และจับอีกตัวหนึ่งได้ภายในเวลายี่สิบนาที

เมื่อนักเรียนชั้นปีที่สี่เห็นเหตุการณ์ดังกล่าว พวกเขาก็รีบออกไปจับเอเลี่ยนต๋าหลู่และเอเลี่ยนตั๊กแตนทันที!

อย่างน้อยพวกเขาก็ไม่จำเป็นต้องเร่งรีบจัดการเอเลี่ยนปลาหมึกยักษ์พวกนั้น เพราะบางทีอุบัติเหตุครั้งใหญ่ที่ไม่คาดคิดอาจจะเกิดขึ้น

นักเรียนชั้นปีที่หนึ่งออกไปจับเอเลี่ยนตั๊กแตน

ข้อดีหนึ่งอย่างคือพวกเขามีประสบการณ์ และอีกหนึ่งอย่างคือเอเลี่ยนตั๊กแตนยังมีค่ามากกว่าเอเลี่ยนต๋าหลู่! ตราบใดที่ร่วมมือกัน ก็ไม่มีอะไรที่เป็นไปไม่ได้!

แต่ก่อนเคยต่อสู้เพียงลำพัง แต่ตอนนี้พวกเขากลับฉลาดขึ้น นักเรียนสามถึงห้าคนไล่ตามอย่างรวดเร็ว และให้คนที่อยู่ในระดับ 6 ดาวเหวี่ยงตาข่ายออกไป แค่นั้นก็สามารถจับเอเลี่ยนตั๊กแตนได้หลายตัวแล้ว

แน่นอนว่าหนึ่งในนั้นย่อมมีคนฉลาดกว่า และจดจำคำพูดขององค์หญิงสามที่ว่าดอกไม้สามารถใช้เป็นเหยื่อล่อได้ และครั้งนี้นักเรียนแผนกเกษตรกรรมที่ไม่มีใครเคยต้องการกลายเป็นผู้ที่ได้รับความชื่นชมอีกครั้ง พวกเขาเพียงยืนอยู่ที่เดิมและเปิดขวดน้ำหอม จากนั้นฝูงเอเลี่ยนตั๊กแตนจำนวนนับไม่ถ้วนก็บินเข้ามารุมทึ้งพวกเขา

ทีมพวกอ่อนแอจากชั้นปีที่หนึ่งพลิกผันมาเอาชนะได้ตั้งแต่จุดเริ่มต้น!

เหตุการณ์ดังกล่าวทำให้นักเรียนชั้นปีที่สี่รู้สึกอิจฉาริษยาจนแทบบ้า

ทำไมทีมของพวกเขาถึงไม่มีนักเรียนจากแผนกเกษตรกรรมเลยสักคน?! ถึงจะเคยดูถูกการแต่งตัวที่โอ่อ่าของพวกเขา เหยียดหยามอยู่ในใจ แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่าการมีอยู่ของคนพวกนี้จะเป็นสิ่งจำเป็น!

พิธีกรมองดูนักเรียนทั้งหลายที่อยู่ด้านล่างแสดงพลังอันน่าอัศจรรย์ แม้แต่จิตวิญญาณก็เช่นกัน

“ทุกท่านจะสามารถเห็นได้ว่าทีมนี้ โอ้ ประกอบไปด้วยนักเรียนชั้นปีที่หนึ่งสิบห้าคน และมีระดับ 6 ดาวเพียงคนเดียว ในขณะที่เหลืออยู่ในระดับ 4 หรือ 5 ดาวเท่านั้น แต่การร่วมมือของพวกเขาเป็นไปในทิศทางที่ดีมากครับ”

“นักเรียนคนหนึ่งกำลังถือขวดของเหลวเอาไว้เพื่อดึงดูดเอเลี่ยนตั๊กแตนจำนวนนับไม่ถ้วน ขณะที่นักเรียนคนอื่นรอคอยเพื่อซุ่มโจมตี และทันทีที่เอเลี่ยนตั๊กแตนเคลื่อนตัวเข้ามา นักเรียนพวกนี้ก็จับพวกมันได้เป็นฝูง”

“โอ้โห! อยากจะชื่นชมว่าพวกเขาเชื่อใจกันมากเหลือเกินครับ เพราะพวกเขากำลังประสานพลังดวงดาวทั้งหมดไปที่นักเรียนระดับ 6 ดาว จากนั้นนักเรียนระดับ 6 ดาวคนนั้นก็แปรสภาพพลังงานดวงดาวให้กลายเป็นตาข่ายขนาดใหญ่ มาครอบงำเอเลี่ยนตั๊กแตนทั้งหมด”

“แล้วก็ช็อต… ยอดเยี่ยมมากครับ! ฮ่า ๆๆ! ขอเสียงปรบมือให้กับนักเรียนของเราหน่อยครับ!”

“พวกเรามาดูกันที่ทีมต่อไป” พิธีกรแบนกล้องหันไปทางอื่น โดยไม่สนใจความตื่นเต้นของชาวเน็ตทั้งหลาย