ตอนที่ 92

Earth’s Best Gamer

จีเย่ยืนอยู่หน้าป้ายหิน ‘วัดหลานรั่ว’ ที่ถูกปกคลุมด้วยเถาวัลย์และกล่าวเบาๆ ว่า “วัดหลานรั่ว… ฉันไม่คิดว่าจะเจอกับภูมิหลังแบบนี้”

นี่ไม่ใช่โลกแห่งโชคชะตาที่เขาไม่คุ้นเคยอย่างเห็นได้ชัดเจน

อาจกล่าวได้ว่าคนส่วนใหญ่ของประเทศมังกรนั้นคุ้นเคยกับภูมิหลังของโลกนี้เป็นอย่างดี หนิงไฉ่เฉิน หยานซีเซีย เนี่ยเสี่ยวเชี่ยน!

อย่างไรก็ตามนี่ดูเหมือนจะไม่ใช่โลกแห่งโชคชะตาที่ควรจะปรากฏออกมาด้วยความแข็งแกร่งในปัจจุบันของภูเขามังกรคู่

แม้ว่าเขาจะไม่มั่นใจ แต่จากสไตล์ของหมาป่าเทาเหล่านี้และวัดหลานรั่ว สนามรบแห่งโชคชะตาแห่งนี้น่าจะเป็นไปตามหนังโปเยโปโลเย และไม่ใช่นิยายต้นฉบับของเหลียวไจจื้ออี้

นี่ยังหมายความว่าปีศาจอายุพันปีอย่างปีศาจต้นไม้พันปีและปีศาจภูเขาทมิฬในโลกแห่งโชคชะตาแห่งนี้

แม้ในนิยายหลายเรื่อง ปีศาจที่มีชีวิตนานกว่าพันปีจะไม่สามารถเอาชนะนักบวชลัทธิเต๋าที่บ่มเพาะมานานหลายทศวรรษ

โดยเฉพาะอย่างยิ่งพวกเขาทั้งสองที่เดิมทีเป็นต้นไม้และภูเขา พวกเขาเป็นประเภทที่บ่มเพาะได้ช้ามาก

อย่างไรก็ตามพลังปีศาจที่สะสมมานานกว่าพันปี แม้ว่ามันจะไม่ถึงระดับวิสามัญ แต่อย่างน้อยก็ควรถึงระดับสามัญอันดับ 8 หรือ 9

ในตอนนี้แม้ว่าเขาจะนับเวลาที่บ่มเพาะด้วยค่าประสบการณ์ แต่อย่างมากที่สุดก็เทียบได้กับการบ่มเพาะหลายปี ความแตกต่างระหว่างทั้งสองอาจมากเกินไป

ดังนั้นคำอธิบายเพียงอย่างเดียวก็คือตามที่ผูัจัดการสาวชุดม่วงกล่าว สิ่งที่ปรากฏในสนามรบแห่งโชคชะตาจะเป็นเพียงภาพฉายเท่านั้น ความแข็งแกร่งของมันจึงลดลงจากเดิม

แม้แต่บอสอายุพันปีอย่างปีศาจต้นไม้พันปีและปีศาจภูเขาทมิฬจึงไม่ควรผิดปกติมากเกินไป

นอกจากนี้มันยังมีความเป็นไปได้มาว่าจะมี ‘วีรบุรุษ’ จากกลุ่มของเขาในวัดร้างแห่งนี้

ตราบใดที่พวกเขาไม่ประมาท ก็ไม่ควรเป็นอันตรายสำหรับพวกเขาทั้งสองคน

ดังนั้นจีเย่จึงไม่กลัววัดหลานรั่วที่โด่งดัง เขายังกล่าวกับหลู่จือเซินว่า “ผู้นำหลู่ดูเหมือนว่าคืนนี้เราจะไม่จำเป็นต้องนอนในป่า!”

“นายอาจจะออกไปตอนนี้ก็ได้ แต่อยู่แถวนี้อีก 2-3 วันข้างหน้า อย่าไปไกลมากเกินไป!”

เมื่อรู้ว่าหมาป่าเทาที่อยู่ข้างหลังเขานั้นน่าจะหวาดกลัวกลิ่นอายปีศาจในวัด เขาจึงให้ ‘ฮัสกี้’ นำหมาป่าออกไปจากทางเข้าวัดหลานรั่ว จีเย่ถือดาบงูดำและเข้าไปในวัดหลานรั่วพร้อมกับหลู่จือเซิน

[เข้าไปในวัดหลานรั่วและรับภารกิจหลักของค่าย : สังหารแม่ทัพปีศาจภูเขาทมิฬของค่ายฝั่งศัตรู!]

ในขณะที่พวกเขาทั้งสองก้าวผ่านประตูที่เสียหายก็มีข้อความปรากฏขึ้นในใจของเขา

โอ้ แม่ทัพปีศาจภูเขาทมิฬ!

มันควรจะเป็นปีศาจภูเขาทมิฬไม่ใช่เหรอ?

จีเย่รู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย

จากนั้นข้อมูลเกี่ยวกับภูเขาทมิฬก็ปรากฏขึ้นในใจของเขา

ภูเขาทมิฬเคยเป็นแม่ทัพที่กล้าหาญของอาณาจักรซุนทางตอนใต้ เขามีความเชี่ยวชาญในศิลปะการต่อสู้เป็นอย่างมากและครั้งหนึ่งเคยนำทหารองครักษ์สามร้อยคนไปปราบนักรบหุ้มเกราะแห่งทะเลทรายตะวันตกห้าพันนาย!

ซุนตางตอนใต้?

ทะเลทรายตะวันตก?

ไม่ต้องสงสัยเลยว่านี่ไม่ใช่ชื่อทางภูมิศาสตร์ในโปเยโปโลเย

เนื่องจากเขารู้สึกตื่นเต้นเล็กน้อยหลังจากยืนยันภูมิหลัง จีเย่ลืมไปชั่วขณะว่านี่คือสนามรบแห่งโชคชะตาที่เกิดจากการหลอมรวมของโชคชะตาของอารยธรรมมนุษย์สองแห่งหรือมากกว่านั้น มันไม่ใช่โลก ‘โปเยโปโลเย’ เพียงอย่างเดียว

ดังนั้นเรื่องราวในโลกนี้จึงไม่ยึดติดกับหนังจากโลกอย่างสมบูรณ์

ตัวอย่างเช่น สิ่งที่ไล่ล่าหนิงไฉ่เฉินไปที่วัดหลานรั่วในตอนแรกก็คือหมาป่าสามตัวเท่านั้น อย่างไรก็ตามสิ่งที่พวกเขาพบในตอนนี้ก็คือหมาป่าตัวใหญ่สิบตัวที่คนธรรมดาไม่สามารถเอาชนะได้

นี่น่าจะเป็ร ‘กับดัก’ ที่สร้างขึ้นโดยพลังแห่งโชคชะตาของอีกฝ่าย

หากเป็นผู้เล่นธรรมดา พวกเขาอาจถูกหมาป่ากำจัดทันทีที่การต่อสู้เริ่มต้นขึ้น!

อย่างไรก็ตามพลังแห่งโชคชะตาของอีกฝ่ายก็ไม่คาดหวังว่าเขาจะมีสัญลักษณ์หัวหน้าหมาป่า ดังนั้นหมาป่าฝูงนี้จึงกลายเป็น ‘ของขวัญสุดพิเศษ’ ที่ถูกส่งมาถึงหน้าบ้านของเขา!

แน่นอนว่านี่เป็นเพียงการคาดการณ์ของจีเย่ฝ่ายเดียว มันยากที่จะตรวจสอบในขณะนี้

อย่างไรก็ตามจีเย่ก็คาดว่าการปะทะกันของพลังแห่งโชคชะตาระหว่างทั้งสองฝ่ายได้สิ้นสุดไปแล้งก่อนที่สนามรบจะเริ่มต้น

ไม่น่าจะเป็นการแทรกแซงการแข่งขันระหว่างทั้งสองฝ่ายโดยตรง!

หวูดดด! หวูดดด! หวูดดด!

หลังจากที่พวกเขาทั้งสองเดินผ่านกำแพงวัด สิ่งแรกที่พวกเขาเห็นก็คือร่างที่กำลังฝึกฝนดาบภายใต้แสงจันทร์!

มือหยาบกร้านที่บ่งชี้ว่าเกิดขึ้นจากการฝึกฝนศิลปะการต่อสู้มาหลายปีถือดาบที่ดูเหมือนว่าจะทำจากอทงเหลือง มันกว้างกว่าดาบทั่วไปเล็กน้อย

อย่างไรก็ตามเมื่อร่างนั้นเหวี่ยงดาบ ความว่องไวของเขาก็เกินกว่าดาบทั่วไป!

นี่เป็นเพราะการเหวี่ยงดาบทองเหลืองนั้นทำให้ใบไม้บนพื้นโล่งหลายสิบฟุตนั้นถูกลมที่เกิดจากการเหวี่ยงดาบพัดลอยขึ้นไปในอากาศ

หวูดดด! หวูดดด! หวูดดด!

ในขณะที่ร่างนั้นเคลื่อนไหวด้วยความเร็วสูงและยังคงเหวี่ยงดาบอย่างต่อเนื่อง ใบไม้ที่ลอยอยู่ในอากาศซึ่งมีจำนวนหลายพันใบก็ยังไม่ตกลงบนพื้น!

“ช่างเป็นเทคนิคดาบที่ยอดเยี่ยมจริงๆ!”

หลู่จือเซินตกตะลึง

“มันยอดเยี่ยมจริงๆ เพื่อให้บรรลุระดับนี้ จะขาดทั้งความแข็งแกร่งและเทคนิคไม่ได้ อย่างไรก็ตามในฐานะนักบวชลัทธิเต๋า หยานซีเซียจะมีเทคนิคดาบที่ยอดเยี่ยมเช่นนี้ได้อย่างไร?”

จีเย่พยักหน้า

ไม่จำเป็นต้องกล่าวอะไรมากนัก ในวัดหลานรั่วเพียงแค่วีรบุรุษคนนี้ที่มีความแข็งแกร่งในทางทฤษฏีถึงระดับวิสามัญที่กล้าที่จะฝึกฝนดาบในเวลากลางคืน

เมื่อนึกถึงเนื้อเรื่องของโปเยโปโลเย จีเย่ก็เข้าใจว่าทำไมเทคนิคดาบของหยานซีเซียจึงน่าอัศจรรย์

ในโปเยโปโลเย หยานซีเซียเป็นตัวแทนของการมีพรสวรรค์ที่หลากหลาย

ครั้งหนึ่งเขาเคยเป็นผู้พิพากษาที่โหดเหี้ยมซึ่งชื่อเสียงของเขาแพร่กระจายไปทั้งยี่สิบหกจังหวัด อีกหนึ่งความสำเร็จก็คือเทคนิคเต๋าของเขาที่สามารถเอาชนะปีศาจพันปีได้ด้วยมือเดียว และศิลปะดาบของเขานั้นค่อนข้างมีเบื้องหลัง

เมื่อหนิงไฉ่เฉินมาที่วัดหลานรั่วเป็นครั้งแรก หยานซีเซียได้เอาชนะนักดาบที่ไล่ล่าเขาพื่อชิงตำแหน่งนักดาบอันดับหนึ่งของโลกเป็นเวลาเจ็ดปีติดต่อกัน เขาแม้กระทั่งสอนวิถีดาบให้กับหนิงไฉ่เฉิน

กล่าวอีกนัยหนึ่ง เขามีแนวโน้มท่จะเป็น ‘นักดาบอันดับหนึ่ง’ ในโลกนี้ นอกจากนี้เขายังครองบัลลังก์อันดับหนึ่งเป็นเวลาเจ็ดปีติดต่อกัน

‘ฉันสามารถปรึกษาหยานซีเซียเกี่ยวกับเทคนิคดาบได้ที่นี่ มันเป็นทางเลือกที่ดีกว่าโจวจี้เยียกอย่างแน่นอน!’

จีเย่ครุ่นคิด

แม้ว่าระดับความแข็งแกร่งของหยานซีเซียจะลดลง แต่ความเข้าใจวิถีดาบของเขาก็ไม่ได้ลดลงมากนัก เห็นได้ชัดจากฉากตรงหน้าเขา

นอกจากนี้วิถีดายของเขายังใช้ในเส้นทางแห่งการต่อสู้กับปีศาจและภูติผี มันเหมาะกับจีเย่มาก

ยิ่งไปกว่านั้นเขาไม่เพียงแค่เข้าใจเทคนิคดาบของมนุษย์เท่านั้น

ในตอนนี้การฝึกฝนของหยานซีเซียสิ้นสุดลงแล้ว ทันใดนั้นดาบทองเหลืองในมือของเขาก็ถูกโยนออกไปและพุ่งขึ้นไปบนฟ้า

ใบไม้ที่ลอยอยู่เต็มฟ้านั้นกระจัดกระจาย ภายใต้แสงจันทร์พวกมันดูราวกับมังกรที่ลอยอยู่บนท้องฟ้า แม้กระทั่งหมุนกลางอากาศ

“ศิลปะดาบบิน?”

เมื่อเห็นสิ่งนี้ สีหน้าของหลู่จือเซินก็แข็งทื่อในขณะที่เขาโพล่งออกมา

เนื่องจากแขนของอู่ซงได้รับบาดเจ็บจากดาบบินโกลาหลดั้งเดิมของเป่าไต้จือ เขาจึงมีความประทับใจที่ลึกซึงในศิลปะดาบบิน

“ใครหน่ะ?”

ในขณะนั้นเองหยานซีเซียผู้ที่ฝึกฝนดาบของเขาก็หยุดชะงัก และดาบทองเหลืองในอากาศก็บินกลับมาในมือของเขา

ในขณะที่ใบไม้ล่วงลงมาจากท้องฟ้าก็มีสายตาอันแหลมคมสองดวงปรากฏบนใบหน้าของเขาซึ่งมีเคราเช่นเดียวกับหลู่จือเซิน

Fanpage : ผีเสื้อกลางคืน