ลู่เฟิงได้ยินการแจ้งเตือนจากระบบเขาถึงกับผงะ สิ่งนี้ทำให้ความภักดีของอีกฝ่ายเพิ่มขึ้นถึง 10 คะแนน? ปัจจุบัน ค่าความภักดี 99 คะแนน!
มันง่ายขนาดนั้นเลยเหรอ?
เขาไม่อยากจะเชื่อในสิ่งที่ตนเองได้ยิน
เขาได้รับความภักดีจาก จางซุนหวูจี๋ ความภักดี 99 คะแนน นั้นเกือบที่จะเรียกได้ว่าสมบูรณ์ ตราบใดที่เขาไม่ทำอะไรให้อีกฝ่ายโกรธหรือไม่พอใจ อีกฝ่ายไม่มีทางทรยศตนเองอย่างแน่นอน!
ดังนั้นตอนนี้เขาจึงรู้สึกตื่นเต้นมาก
อย่างไรก็ตาม การแสดงออกของเขาไม่ได้เปลี่ยนไปมากนัก เขามองไปที่ จางซุนหวูจี๋ ด้วยรอยยิ้ม”ดูเหมือนว่าก่อนหน้านี้เจ้าจะไม่ได้มอบความภักดีให้ข้าอย่างเต็มร้อยสินะ”
จางซุนหวูจี๋ได้พยักหน้าและตอบกลับ”เรียนฝ่าบาทตามตรง ก่อนหน้านี้ แม้ข้าจะตัดสินใจเป็นข้าราชบริพารของพระองค์ แต่ถ้าข้าได้พบกับคนที่เหมาะสมกว่าข้าไม่ลังเลที่จะละทิ้งพระองค์ไปรับใช้คนผู้นั้น แต่ตอนนี้ ข้าขอสาบานว่าจะรับใช้พระองค์เพียงคนเดียว!”
ช่างตรงไปตรงมาดีแท้!
ลู่เฟิง สั่นศีรษะอย่างช่วยไม่ได้และกล่าวถามด้วยรอยยิ้ม”เช่นนั้น ตอนนี้เจ้าไม่เกรงกลัวว่าข้าจะลงโทษเจ้าในฐานความผิดหลอกลวงข้างั้นหรือ?”
“ข้าน้อย ได้บอกต่อพระองค์ไปแล้วว่า จะรับใช้พระองค์เพียงคนเดียว ถ้าเกิดพระองค์ต้องการสังหารข้าหน่อยจริง ข้าน้อยยินดีถวายชีวิตให้!”จางซุนหวูจี๋ ได้ตอบกลับ
ลู่เฟิง ได้กล่าวถามเพิ่มเติมเกี่ยวกับคำถามนี้”ขอถามได้หรือไม่ว่าทำไมเจ้าถึงเลือกที่จะทำแบบนี้?”
“เพราะข้าน้อยเห็นเหตุผลสองประการในสายตา!”
“โอ้ว,ไหนลองว่ามา?”
จางซุนหวูจี๋ได้ตอบกลับ”เหตุผลแรก ในสายตาของข้าน้อย สิ่งที่ข้ามองเห็น คือความสามารถของฝ่าบาทในการจัดการสถานการณ์ ฝ่าบาทไม่หวั่นเกรงที่จะยอมทำการใด ๆ ที่กระทบกับชื่อเสียง แทนที่จะเป็นหายนะ อย่างที่ฝ่าบาทได้ตรัส หากข้าน้อยไม่ยอมเป็นข้าราชบริพารของพระองค์ พระองค์จะสังหารข้าน้อยเพื่อไม่ให้ข้าน้อยที่มีความสามารถไปรับใช้ประเทศศัตรู การตัดไฟตั้งแต่ต้นลมถือเป็นความคิดที่วิเศษมาก”
“ส่วนเหตุผลที่สอง ฝ่าบาททรงมีความทะเยอทะยานอันแรงกล้ากล้าที่จะทำสิ่งที่ไม่มีใครในโลกสามารถกระทำได้ หากฝ่าบาทไม่มีความทะเยอทะยานเช่นนี้ จะควรค่าแก่การรับใช้ได้อย่างไร?”
“ดังนั้น ด้วยเหตุผลสองข้อนี้ทำให้ ข้าน้อยเคารพนับถือในตัวของพระองค์ทั้งยังเชิดชูพระองค์ให้เป็นบุคคลที่ควรค่าแก่การติดตามตลอดชีวิต!”
“ฮ่าฮ่า!”
ลู่เฟิง หัวเราะออกมา เขาได้ไปช่วยพยุง จางซุนหวูจี๋ ให้ลุกขึ้น”เช่นนั้นในอนาคตข้าคงต้องรบกวนเจ้าแล้ว!”
“หามิได้พะยะค่ะ!”
จางซุนหวูจี๋ รู้สึกตื่นเต้นมาก เขาอยากจะพูดอะไรบางอย่าง แต่เพียงแค่คำพูดเหล่านี้ก็สามารถแทนความรู้สึกของเขาได้แล้ว
ว่ากันว่า รัฐมนตรีที่มีความสามารถมักจะเลือกติดตามรับใช้นายที่ดี
ในสายตาของ ลู่เฟิง จางซุนหวูจี๋ เป็นคนที่มีความสามารถ ในสายตาของ จางซุนหวูจี๋ ลู่เฟิง เองก็เป็นคนที่ควรค่าแก่การรับใช้
นี่คือวัฏจักรโดยธรรมชาติ
หลังจากนั้น ลู่เฟิง ได้พา จางซุนหวูจี๋ ร่วมคุยเรื่องการปกครองประเทศ
“จางซุนหวูจี๋ เนื่องจากเจ้ามีความรู้เกี่ยวกับอาณาจักรซีหยางเป็นอย่างดี เจ้าลองบอกข้ามาหน่อยว่าข้าควรทำอย่างไรกับตระกูลขุนนางภายในอาณาจักรซีหยาง?”ลู่เฟิง มองไปที่ จางซุนหวูจี๋ ด้วยรอยยิ้ม
จางซุนหวูจี๋ ได้ครุ่นคิดเล็กน้อยและตอบกลับ”ฝ่าบาท ตระกูลขุนนาง คือรากฐานของอาณาจักร คนกลุ่มนี้แม้จะถูกฆ่าตาย แต่ก็จะมีตระกูลขุนนางอื่น ๆ โผล่ออกมา ดังนั้นมันเป็นไปไม่ได้ที่จะกำจัดอย่างสมบูรณ์!”
“เป็นเช่นนั้น!”ลู่เฟิง พยักหน้า”ดังนั้นข้าจะไม่ทำลายตระกูลทั้งหมด เพียงแค่ทำให้พวกเขายอมสยบและเชื่อฟังคำสั่งของข้า ถ้าเกิดตระกูลเหล่านี้ไม่ต่อต้าน ข้าเองก็ไม่จำเป็นจะต้องสร้างความลำบากให้พวกเขา”
“ก็เหมือนกับวิธีการจัดการกับตระกูลในอาณาจักรหนานหยานของข้า ข้าไม่อนุญาติให้ตระกูลขุนนางเหล่านี้ครอบครองทหารส่วนตัว แต่ข้าไม่รู้ว่าสถานการณ์ในอาณาจักรซีหยาง นั้นเป็นอย่างไร ข้าจึงต้องการปรึกษาเจ้า”
“ฝ่าบาท ข้าน้อยเห็นด้วยว่าสมควรจัดการเกี่ยวกับตระกูลขุนนางของอาณาจักรซีหยางแบบเดียวกับตระกูลขุนนางของอาณาจักรหนานหยาน!”จางซุนหวูจี๋ ได้ตอบกลับ
ลู่เฟิง มองไปที่ จางซุนหวูจี๋ ด้วยความประหลาดใจ”ข้าเองก็คิดเห็นเช่นนั้น แต่ทว่า ข้าขอถามเจ้าสักหน่อย ในฐานะที่เจ้าเองก็เป็นตระกูลขุนนาง และ มีทหารส่วนตัวมากกว่า 5 พันนาย หากเจ้าถูกจัดการแก้ไขปัญหาด้วยวิธีการแบบนี้ เจ้าจะไม่รู้สึกเสียกับทหารส่วนตัวมากกว่า 5 พันนายเหล่านั้นงั้นหรือ?”
จางซุนหวูจี๋ ได้ยิ้มออกมา”ข้าน้อยเพียงแค่ต้องการช่วยเหลือฝ่าบาทให้กลายเป็นจักรพรรดิเพียงหนึ่งเดียวในใต้หล้าการเสียสละทหารส่วนตัวเหล่านี้นับว่าเป็นเรื่องที่สมควรแล้ว ในอนาคต ฝ่าบาทย่อมตอบแทนข้าน้อยได้มากกว่าทหารส่วนตัว 5 พันนายนี้อย่างแน่นอน!”
“ฮ่าฮ่า เจ้าเป็นคนที่ฉลาดจริง ๆ !”
ลู่เฟิง ยิ้มออกมาและตอบกลับ”ตอนนี้ อาณาจักรซีหยาง ถือว่าอยู่ภายใต้การควบคุมของข้าแล้ว ข้าต้องการหาคนที่ไปช่วยจัดการ 13 มณฑลดั้งเดิมของอาณาจักรซีหยาง ข้าไม่รู้ว่าเจ้าจะมีความสามารถในการจัดการ 13 มณฑลเหล่านี้หรือไม่?”
จางซุนหวูจี๋ ผงะเล็กน้อย เขาไม่คิดเลยว่า ลู่เฟิง จะเชื่อใจเขามากถึงขนาดมอบหน้าที่จัดการ 13 มณฑลดั้งเดิมของอาณาจักรซีหยางให้กับตัวเอง ทั้ง ๆ ที่เขาเป็นคนของอาณาจักรซีหยาง
เขาครุ่นคิดอยู่ครู่นึงและตอบกลับ”ฝ่าบาท โปรดวางพระทัย ข้าจะเปลี่ยน 13 มณฑลดั้งเดิมของอาณาจักรซีหยาง ให้กลายเป็นหนึ่งเดียวกับอาณาจักรหนานหยานของพระองค์!”
“ข้ารู้ว่าเจ้ามั่นใจตัวเอง”ลู่เฟิง มองไปที่ จางซุนหวูจี๋ ด้วยรอยยิ้ม”แต่ทว่า การจัดการ 13 มณฑลดั้งเดิมนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย หากเจ้าไม่สามารถทำได้ ข้าก็จะไม่กล่าวโทษอะไร”
“ฝ่าบาท โปรดวางพระทัย ข้าน้อยจะทำทุกวิถีทางเพื่อช่วยเหลือฝ่าบาทในการจัดการ 13 มณฑลทั้งหมด!”จางซุนหวูจี๋ ได้ตอบกลับอย่างเคร่งขรึม
“เช่นนั้นก็ดี!”
ลู่เฟิง หัวเราะออกมา”ข้ามั่นใจว่าเจ้าจะสามารถช่วยข้าจัดการ 13 มณฑลเหล่านี้ได้”
สำหรับการยึดครอง 13 มณฑล ที่เหลือ ลู่เฟิง ไม่ได้สนใจแม้แต่น้อย
ตอนนี้ กองกำลัง 1.5 ล้านที่นำโดย ชูหยี ได้พังทลายลงไปแล้ว อาณาจักรซีหยาง จะสามารถรวบรวมกองทัพนับล้านได้ในระยะเวลาอันสั้น?
ไม่มีทางอย่างแน่นอน
จางซุนหวูจี๋ ได้จากไป เขาได้เตรียมข้อมูลของ 13 มณฑลดั้งเดิมและเตรียมพร้อมสำหรับการจัดการภายหลัง
“ฝ่าบาท พระองค์ ดูวางพระทัย จางซุนหวูจี๋ คนนี้มากนัก พระองค์ไม่กลัวว่าเขาจะเป็นคนสองจิตสองใจ?”จางฮั่น ได้กล่าวถามออกมา
ลู่เฟิง ได้ตอบกลับ”ข้าสามารถบอกเจ้าได้ว่า ข้ามีวิธีการดูคน ไม่งั้นข้าคงไม่มอบหน้าที่นี้ให้เขาจัดการ ถ้าข้าไม่เชื่อใจเขา ฉไนเลยจะมอบหน้าที่จัดการ 13 มณฑลเหล่านี้ให้?”
แน่นอนว่า ลู่เฟิง รู้ว่า ความภักดีของ จางซุนหวูจี๋ นั้นมากกว่า 99 หากไม่ไว้ใจอีกฝ่ายและจะไว้ใจใครได้อีก?
จางฮั่น ได้ฟัง เขาก็ชื่นชม หาก จักรพรรดิของเขาทรงวางพระทัยเช่นนี้ เขาไหนเลยจะกล้าต่อต้าน
หากเป็นคนจักรพรรดิคนอื่น กับคนที่เพิ่งรู้จักกันไม่ถึงชั่วโมงมีหรือที่จะมอบความไว้ใจเช่นนี้ได้
ตอบเลยว่าไม่มีทาง
มีเพียง จักรพรรดิลู่เฟิง เท่านั้น ดังนั้นเขาเชื่อว่าการตัดสินใจของอีกฝ่ายไม่มีทางผิดพลาดอย่างแน่นอน
เพราะไม่งั้น ภายใต้เงื้อมมือของฝ่าบาท คงไม่มียอดแม่ทัพที่ดุร้ายเช่นนี้จำนวนมาก
ครึ่งชั่วโมงต่อมา จางซุนห่าว ก็มาเชิญลู่เฟิงไปรับประทานอาหารที่ห้องนั่งเล่น
ทันทีที่เขามาถึง ดวงตาของลู่เฟิง ก็สว่างวาบขึ้น เขาเห็นหญิงสาวที่สวยงามมากคนนึง
ริมฝีปากเป็นสีแดงฟันสีขาวมีลักษณะสวยงามและรูปร่างที่สง่างาม
สวมชุดผ้าไหมสีเขียวรอบตัวรัดพันด้วยผ้าแพร
ช่างเป็นความสง่างามที่น่าทึ่ง
“หม่อมฉัน จางซุนอู๋โกว ถวายบังคมเพคะฝ่าบาท”