ตอนที่ 154 – ปอมปีย์กับพ่อของเขา!

*ก่อนจะอ่านนิยาย โปรดตรวจสอบว่าท่านได้อยู่ในสถานที่ที่มีแสงเพียงพอ หรือถ้าท่านอ่านในความมืดก็อย่าลืมเปิด Night Mode หรือจอส้ม เพื่อป้องกันการปวดหัวและสายตาสั้นด้วยนะครับ*

“ไปเร็ว!”

เย่เทียนควบม้าของเขาให้วิ่งเร็วขึ้น นําทางนักรบสปาตั้นนับ100คนไป ไม่นานพวกเขาก็มาถึงด้านหลังกองทัพโรมัน.

ชิ้ง

ชิ้ง

…..

พอกลุ่มทหารม้าของเย่เทียนใกล้เข้ามา พวกทหารของโรมันก็เริ่มกังวล. บางคนถึงกับชักดาบออกมาเตรียม และยกโล่ขึ้นมา

พวกสปาตั้นดูน่าเกรงขามในสายตาพวกเขาจริงๆ!

ทหารพวกนั้นส่วนใหญ่เป็นพลราบเกือบทั้งหมด แต่ก็มีบ้างที่เป็นพลม้า

“อย่ากังวลไปเลย ทุกๆคนที่นี่เป็นทหารของโรม!”

เย่เทียนหัวเราะ เขาไม่ได้ตั้งใจจะเข้ามายั่วยุ แค่จุดหมายปลายทางเป็นที่เดียวกัน นั่นก็คือเหมืองของฟิลิป.

“เก็บดาบ! เก็บดาบพวกเจ้าลงซะ! นี่คือลอร์ดซาตานแห่งโรมของเรา!”

ในตอนนั้นเองชายวัยกลางคนคนหนึ่งก็ควบม้ามาแล้วกล่าว

ชายวัยกลางคนคนนี้ดูท่าทางใจดี แต่ก็แข็งแกร่งดุดัน ดูเหมือนว่าเขาน่าจะผ่านสงครามมาก่อน.

ข้างๆเขามีเด็กหนุ่มคนหนึ่งตามมาซึ่งเป็นคนที่หน้าคุ้นเคยของเยู่เทียน นายน้อย แนอุส ปอมปิย์นั่นเอง

ส่วนชายวัยกลางคนนั้น เย่เทียนเคยเห็นเขามาก่อน. เขาเป็นบิดา สตราโบ ปอมปีย์นั่นเอง

สตราโบเป็นแม่ทัพที่เก่งกาจมากและเป็นหนึ่งในคนสําคัญของทางสภา, หากเย่เทียนจําไม่ผิด ปีหน้าเขาจะได้รับเลือกเป็นกงสุลแห่งโรมของปี 89ก่อนคริสตกาล จากนั้นเขาจะพาลูกชายเข้าสนามรบไปด้วยกัน

แต่ชายคนนี้ยังไม่รู้ว่าเขาจะต้องตายอย่างน่าอนาถ 87ปีก่อนคริสตกาล เขาจะถูกฟ้าผ่าตาย ทิ้งมรดกมากมายไว้ให้ลูกชายของเขาเพียงคนเดียว

เย่เทียนไม่นึกเลยว่าพ่อลูกสองคนนี้จะเป็นคนนําทัพมาปราบทาสจลาจล.

แต่เย่เทียนก็อยากจะใช้โอกาสนี้ให้เป็นประโยชน์ หลังจากเล่นงานแครสซัส, สุละไปแล้ว คงจะถึงเวลาเล่นงานชื่อเสียงของปอมปีย์แล้วสินะ?

สตราโบพาคนนับพันกับม้าออกมาเพื่อปราบทาสจลาจล แต่ถ้าเย่เทียนปราบได้ก่อนด้วยคนแค่100คน พอ ข่าวแพร่ออกไปชื่อเสียงของสตราโบคงมีกระทบแน่นอน

แม้จะไม่รุนแรงเท่าของแครสซัสกับสุละ แต่ก็มากพอจะกระทบการเลือกตั้งในปีหน้าแน่น

ไม่รู้ว่า บังเอิญหรือเพราะโชคชะตา แต่ชะตาของปอมปีย์จะถูกอัดอีกครั้งแล้ว.

เย่เทียนผู้มาจากอนาคตได้เริ่มแยกเขี้ยวอันน่ากลัวของเขาแล้ว

“เป็นอย่างไรบ้างครับ ท่านลอร์ดสตราโบ!”

พอเห็นพ่อของปอมปีย์เข้ามา เย่เทียนก็ยิ้มทักทาย

“ท่านลอร์ดซาตาน ข้าไม่นึกเลยว่าท่านจะเคลื่อนไหวเร็วขนาดนี้ ข้านึกว่าท่านจะออกมาไม่ได้ซัก2-3วันเสียอีก!”

สตราโบกล่าวแต่สายตาของเขามองไปทางด้านหลังของเย่เทียน จากนั้นความรู้สึกหวาดกลัวก็ผุดขึ้นมาในดวงตา เพราะเขาเห็นว่าทหารที่เย่เทียนนําอยู่คือเหล่าสปาตั้น.

ซาตาน เย่เทียน เขาได้ยินชื่อชายคนนี้มาเมื่อไม่กี่วันก่อน. ชื่อซาตานนั้นเป็นที่โด่งดังมาก เขาสามารถเล่นงานชื่อเสียงของแครสซัสอย่างหนักได้ในศาล ทั้งยังกล้าจะฆ่าแครสซัสผ่าน “กฏ12โต๊ะ” ด้วย.

ยิ่งไปกว่านั้น เขารู้มาอีกว่าลูกชายเขานอกจากจะเสียทองให้ไทาเลนตั้มแล้ว เขายังถูกเฆี่ยนอย่างแรงอีกด้วย.

ตอนแรกที่เขารู้เรื่องนั้น เขาก็ตกใจสุดขีดแต่ก็คิดว่าเย่เทียนเป็นแค่หน้าใหม่ ยังเด็กอยู่จึงตัดสินใจปล่อยให้ ปอมปีย์สะสางด้วยตัวเอง หวังจะให้เย่เทียนสั่งสอนลูกแทน เพราะในอนาคตมันคงไม่ง่ายสําหรับเขาเสมอไป.

ก่อนหน้านี้เขาคิดว่าเย่เทียนเป็นคนหน้าใหม่ แต่พอเห็นนักรบสปาต้นด้านหลังแล้ว ชายคนนี้คงไม่ธรรมดาแน่

“ลอร์ดสตราโบครับ ข้าอยากจะใช้เวลาหานักรบมาเพิ่มจริงๆ แต่พวกทาสที่กําลังก่อจลาจลนั้นคงไม่รีรอแน่ จะให้พวกมันเพ่นพ่านไปไหนมาไหนไม่ได้ ดังนั้นข้าจึงไม่มีทางเลือกนอกจากพาทาสออกมาแทน!”

เย่เทียนยิ้มแล้วกล่าว

“ฮ่าๆ….พวกทาสนะให้เราปราบเองก็ได้ ท่านไม่ต้องลําบากหรอก. แต่ก็นะ ถ้าท่านอยากจะตาย ข้าก็จะไม่ห้าม!”

นายน้อยปอมปีย์หัวเราะออกมาแล้วมองไปทางเย่เทียนราวกับว่ามองคนที่ตายไปแล้ว

มันต่างกันยังไงหรอระหว่างส่งทาส100คนไปปราบทาสจลาจลกับการประหารพวกมัน?

“ขอบใจนายน้อยปอมปีย์ที่เป็นห่วง แต่ทาสจํานวนพันคนแค่นี้ ใช้แค่100คนก็เกินพอแล้ว!”

เย่เทียนส่ายหัว

“ลอร์ดสตราโบ ข้าคงจะเสียเวลาปราบทาสไม่ได้อีกแล้วดังนั้นขอหยุดการสนทนาเพียงเท่านั้น โปรดอภัยในความหยาบคายของข้าด้วย!”

เย่เทียนคํานับสตราโบเล็กน้อยแล้วควบม้าไป

ม้าศึกนับ100ตัววิ่งไปอย่างดุดันพร้อมๆกันจนฝุ่นคลุ้งตามไปหมด. ปอมปีย์สบถด้วยความโมโหแต่ก็เห็นว่า พ่อตัวเองกําลังจ้องไปทางเย่เทียน

“ท่านพ่อ ท่านคิดอะไรอยู่ครับ?”

พอเห็นพ่อนิ่งไป ปอมปีย์จึงถาม.

“พอมาคิดดูใหม่แล้ว ข้าดูถูกซาตานไว้จริงๆ!”

สตราโบกล่าวอย่างสุขุม “เจ้าไม่สังเกตุเห็นอะไรเลยรี? ทหารทุกคนที่ซาตานมันพามาล้วนเป็นพลม้าทั้งนั้น พวกมันไวกว่าเราหรือแม้แต่พวกทาสจลาจลนั่นอยู่แล้ว!”

“ท่านพ่อครับ ท่านคิดมากเกินไป ต่อให้มันมีทหารม้านับร้อย มันก็ส์ทาสจลาจลนับพันไม่ไหวหรอก จํานวนมันต่างกันเกินไป!”

ปอมปีย์กล่าวอย่างรังเกียจ.

“ไม่ ในสงครามแล้วมันไม่ใช่สิ่งปกติที่จะสู้ด้วยคนที่น้อยกว่า! ข้าไม่รู้ว่าทหารของซาตานแกร่งแค่ไหน แต่ข้าก็รู้สึกไม่สบายใจ! ถ้ามันสามารถปราบทาสได้ก่อนเรา ชื่อเสียงของเราคงกระทบอย่างหนักแน่ เจ้าเองก็รู้หนิ ว่าพ่อจะลงเลือกตั้งเป็นกงสุลในปีหน้าน่ะ!”

สตราโบกล่าวเบาๆ “ดังนั้นตอนนี้เราจะเปลี่ยนแผน เจ้าช่วยพ่อด้วยการนําทหารราบตามมาทีหลัง ข้าจะพาพลม้าทั้งหมดตามพวกมันไปก่อนแล้วเจ้าก็รอโอกาสโจมตี เ

ข้าใจมั้ย?”

“ครับท่านพ่อ!”

ปอมปีย์พูดอย่างจริงจัง แต่ในใจของเขานั้นระสับระส่ายหรือจะพูดให้ถูกก็อิจฉาหน่อยๆ เย่เทียนสามารทําให้พ่อของเขารู้สึกไม่ดีได้ แต่นั่นก็เป็นข่าวดีสําหรับเขา

“นายท่านครับ ทหารม้าของโรมันกําลังไล่ตามมา!”

พอได้ยินเสียงม้าวิ่งมาด้านหลัง บาคก็รายงานสถานการณ์ให้เย่เทียนฟัง.

“อย่าไปสนใจ รีบมุ่งหน้าไปต่อ! ตามร่องรอยที่ซาบัคทิ้งไว้ เราคงจะหาตัวพวกมันเจอเร็วๆนี้แน่!”

เย่เทียนกล่าว เขาไม่กลัวสตราโบแย่งสู้พวกทาสกับเขาเลย.