ตอนที่ 94

Earth’s Best Gamer

น้ำในทะเลสาบนั้นราวกับกระจกกำลังสะท้อนแสงจันทร์

ในศาลาที่มีรูปแกะสลักไม้โบราณและดอกไม้ ธูปส่งควันลอยขึ้นไปในอากาศในขณะที่ดนตรีบรรเลงอย่างเบาหวิว

ภายใต้นิ้วเรียวของหญิงงามในชุดสีขาวสะอาดสะอ้าน พิณสีดำขลับดูเหมือนจะทำให้แสงจันทร์บนท้องฟ้าก่อให้เกิดท่วงทำนองที่คลุมเครือ

ลมกระโชกแรงพัดไปทั่วทะเลสาบ ผมที่ยาวถึงเอวของเธอพัดตามกระแสลมและมีผมปิดบังใบหน้าของเธอไว้ ทำให้ใบหน้าที่เหลืออีกครึ่งหนึ่งดูน่าหลงใหลยิ่งขึ้นภายใต้แสงจันทร์

เมื่อเผชิญหน้ากับบุคคลเช่นนี้ คำอธิบายเดียวที่สามารถใช้ได้ก็คือการทบทวนคำอธิบายที่ใช้กับผู้จัดการสาวชุดม่วงจากร้านอาหารสามพันซึ่งก็คือท่าทางที่คล้ายกับผู้เป็นอมะ!

อย่างไรก็ตามฝ่ายแรกนั้นเป็นผู้เป็นอมตะที่ลงมายังโลกมนุษย์ ในขณะที่ฝ่ายที่สองนั้นน่าจะเป็นผีอมตะ

นี่เป็นเพราะพลังงานอมตะสีขาวบริสุทธิ์นี้ซ่อนความเครียดแค้นเอาไว้!

“ปรมจารย์หนุ่ม คุณยืนฟังมานานแล้วนะ คุณไม่คิดพิณามานั่งฟังในศาลาเหรอ?”

หญิงสาวชุดขาวกล่าวออกมาเบาๆ เสียงของเธอไพเราะยิ่งกว่าเสียงพิณ แต่น้ำเสียงของเธอนั้นเต็มไปด้วยความไม่พอใจ

ความไม่พอใจของเนี่ยเสี่ยวเชี่ยนนั้นเป็นเรื่องสมเหตุสมผล

ในอดีต เมื่อคนธรรมดาได้ยินเสียงดนตรีของเธอ พวกเขาส่วนใหญ่ก็จะอดไม่ได้ที่จะพุ่งเข้าหาเธอเมื่อพวกเขาเห็นใบหน้าเธอ

อย่างไรก็ตามชายหนุ่มชุดน้ำเงินผู้ที่ปีศาจต้นไม้ให้เกลี้ยกล่อมนั้นไม่ได้ก้าวเข้ามาแม้แต่ก้าวเดียว เขารักษาระยะห่างและฟังเธอบรรเลงเป็นเวลาเกือบ 2 ชั่วโมง

เป็นที่รู้กันดีว่าการบรรเลงพิณนั้นทำให้เจ็บนิ้ว แม้ว่าเธอจะเป็นวิญญาณ แต่การดีดพิณในขณะที่เป็นวิญญาณนั้นเป็นเรื่องที่เหนื่อยกว่าคนที่มีชีวิตจริงๆ

“โอ้ ขอโทษทีนะ!”

สีหน้าของจีเย่แข็งทื่อในขณะที่เขาดูเหมือนจะงุนงง

เนี่ยเสี่ยวเชี่ยนเป็นลูกสาวของเจ้าหน้าที่ทางการ ดังนั้นทักษะพิณของเธอจึงโดดเด่นอย่างมาก

โดยเฉพาะอย่างยิ่งความสามารถเช่น หมากรุก พิณ การวาดภาพและการเขียนตัวอักษรในดินแดนแห่งมรดกนั้นมีความพิเศษในระดับหนึ่ง

เสียงดนตรีของเนี่ยเสี่ยวเชี่ยนเพียงพอสำหรับคนธรรมดาที่จะดื่มด่ำกับมันจนถึงจุดที่ลงใหลไปโดยไม่รู้ตัว

อย่างไรก็ตามเมื่อรู้ว่านี่คือวัดหลานรั่ว จีเย่ก็อดไม่ได้ที่จะทำตัวเฉื่อยชาเล็กน้อย แม้ว่าเขาจะติดตามเสียงดนตรีมาที่นี่ แต่เขาก็แอบใช้พลังของสัมผัสศักดิ์สิทธิ์ของเขาเพื่อป้องกันไม่ได้ตัวเองได้รับผลกระทบจากเสียงดนตรี

พูดตามตรง สองชั่วโมงที่เนี่ยเสี่ยวเชี่ยนใช้ในการดีดพิณนั้นเสียไปอย่างสูญเปล่า…

อย่างไรก็ตามสำหรับจีเย่ มันเป็นการเก็บเกี่ยวที่ยอดเยี่ยม

นี่เป็นเพราะเขาค้นพบการต้านทานเสียงดนตรีนั้นสามารถกระตุ้นความแข็งแกร่งทางจิตใจของเขา ทำให้สัมผัสศักดิ์สิทธิ์ของเขาได้มาถึงจุดสูงสุดของอันดับ 3 และส่งสัญญาณว่าจะทะลวงอันดับ 4 แล้ว!

“อ๊ะ ผ้าคลุมหน้าของฉัน!”

เมื่อเห็นจีเย่เป็นแบบนี้ เนี่ยเสี่ยวเชี่ยนก็ไม่สามารถอดทนได้อีกต่อไป

ทันใดนั้นเธอก็ปล่อยมือของเธอออกจากผ้าคลุมหน้าและปล่อยให้ลมพัดผ้าคลุมหน้าลอยไปด้านข้างจีเย่

ครั้งนี้ในที่สุดจีเย่ก็หยุดนิ่ง เขาเอื้อมมือไปคว้าผ้าคลุมหน้าสีขาวที่มีกลิ่นหอมจางๆ ของดอกไม้

“ขอบคุณมากปรมจารย์หนุ่ม…”

ในชั่วพริบตา มือสีขาวน้ำนมทั้งคู่และผมสีดำที่ยาวลงมาราวกับน้ำตกก็ได้มาอยู่ที่ไหลของจีเย่

เมื่อเขาหันกลับไปมอง หญิงสาวผู้ที่มาอยู่ตรงหน้าเขาก็ได้ส่งยิ้มให้เขา

ราวกับว่าดวงจันทร์บนท้องฟ้านั้นหม่นแสงลงอย่างกระทันหัน

ตามทฤษฏีแล้วใครก็ตามที่สมองทำงานได้ปกติจะพบว่าไม่ใช่เรื่องปกติที่มีหญิงสาวปรากฏในวัดร้างอย่างกะทันหัน แต่ถึงอย่างนั้นก็มีคนมากมายที่ตกหลุมพรางในโลกนี้

ตอนนี้เขาเข้าใจแล้วว่าทำไม

นี่เป็นเพราะทุกสิ่งบนใบหน้าของหญิงสาวตรงหน้าเขานั้นชวยให้หลวงใหล คนธรรมดาจะรู้สึกว่ามันยากที่จะต้านทานความงดงามเช่นนี้

“ที่นี่หนาวเกินไป เข้ามาในบ้านกับฉันสิ!”

จีเย่เอื้อมมือออกไปและอุ้มเนี่ยเสี่ยวเชี่ยน เธอรู้สึกเย็นเล็กน้อยเมื่อถูกสัมผัส

ในฐานะวิญญาณ เนี่ยเสี่ยวเชี่ยนนั้นมีอุณภูมิหนาวเย็นกว่าปกติ แต่เธอก็ไม่ได้ไร้การรับรู้อุณภูมิอย่างสมบูรณ์

อันที่จริงแล้วเขารู้สึกถึงน้ำหนักของเธอ เธอไม่ได้มีความรู้สึกไร้น้ำหนักเหมือนผีเลย

ในทางทฤษฏีแล้ว นักรบมีพลังชีวิตที่ทรงพลัง ผีธรรมดาจะไม่กล้าเข้ามาสิงร่างของพวกเขา แต่เห็นได้ชัดว่าผีในโลกนี้มีลักษณะพิเศษ

จีเย่จำได้ว่าในหนังสือต้นฉบับของเหลียวไจจื้ออี้ เนี่ยเสี่ยวเชี่ยนจะค่อยๆ มีความรู้สึกเหมือนกับคนธรรมดาเพราะเธอมักจะมีปฏิสัมพันธ์กับคนที่มีชีวิต เธอแม้กระทั่งให้เกิดเนิดลูกชาย

เป็นไปได้มั้ยว่าโลกนี้จะพิจารณาถึงประเด็นนี้แล้ว?

‘เห้อ ตอนแรกฉันคิดว่าเขามีความอดทนทางจิตใจและเป็นพรสวรรค์ที่ยอดเยี่ยม!’

‘ฉันไม่คิดมาก่อนว่าเขาจะไม่สามารถต้านทานเสน่ห์ของหญิงสาวคนนี้ได้’

‘ลืมไปเถอะ ฉันไม่สนใจ ไม่ว่านายจะเป็นหรือตายก็ขึ้นอยู่กับโชคของนาย!’

หยานซีเซียผู้ที่ถือดาบทองเหลืองอยู่ในมือก็ได้ปรากฏตัวขึ้นในมุมที่ห่างไกล หลังจากเห็นฉากนี้ เขาก็ส่ายหัวด้วยความผิดหวัง

‘ลืมมันไปซะ ฉันจะไปล่าสัตว์และทำอาคารใต้แสงจันทร์’

‘อืมมม ทำไมฉันถึงรู้สึกว่ามีอะไรผิดปกติ? มีหมาป่าจำนวนมากและพวกมันก็ไม่ได้ตัวเล็กเลย ฉันจะล่ามันสักหนึ่งตัว มันน่าจะพอสำหรับฉันให้อยู่ได้อีกสองสามวัน!’

หลังจากนั้นหยานซีเซียก็มองไปที่ป่าสีดำ พูดให้ชัดเจนก็คือหมาป่าเทาตัวใหญ่ที่อยู่รอบวัดหลานรั่วด้วยความคิดชั่วร้าย

“ทำไมหลวงจีนถึงไร้หัวใจ!?”

ในวัดหลานรั่ว

มีบางอย่างที่คล้ายกันเกิดขึ้นที่ริมทะเลสาบ

หญิงสาวชุดน้ำเงินที่งดงามยืนอยู่ที่ทางเข้าห้อง สายลมพัดมาชุดที่บางของเธอในขณะที่เธอแสดงสีหน้าเสียใจ

“ออกไป ฉันไม่ชอบผู้หญิง!”

เมื่อได้รับจากแจ้งเตือนจากจีเย่ล่วงหน้า หลู่จือเซินจึงไม่มีความคิดอื่นใด

อย่างไรก็ตามเขาไม่เก่งกาจในการแสดง ดังนั้นเขาจึงทำเพียงแค่ตะโกนให้ผีสาวที่มาเคาะประตูของเขาให้ออกไป

“ฮึ่ม”

สีหน้าของผีสาวที่มีชื่อว่าเสี่ยวฉิงได้เปลี่ยนเป็นสีเขียวเพราะความโกรธ เป็นเรื่องน่าอายพอสมควรแล้วที่ปีศาจต้นไม้พันปีส่งเธอมาล่อลวงหลวงจีน แต่หลวงจีนคนนี้ไม่ได้มักมากในกาม

ส่วนอีกคน…

เสี่ยวฉิงหันกลับไปและมองไปที่เนี่ยเสี่ยวเชี่ยนที่ถูกจีเย่อุ้มเข้าห้อง ประตูและหน้าต่างถูกปิดทันทีเมื่อพวกเขาเข้าไปในห้อง

ความอิจฉาทำให้ใบหน้าของเธอเปลี่ยนเป็นใบหน้าผีที่น่ากลัวซึ่งถูกปกคลุมด้วยก๊าซสีดำ ช

อย่างไรก็ตามเธอก็ไม่มีทางเลือก เธอทำได้เพียงแค่กลับไปและแจ้งปีศาจต้นไม้พันปีว่าเธอล้มเหลว

อย่างไรก็ตามหลังจากเขาประสบความสำเร็จในการพา ‘ผีสาว’ ที่มีผู้เล่นชายนับไม่ถ้วนบนโลกเคยฝันถึงมาในห้องเขาและปิดประตูหน้าต่างทั้งหมด

จีเย่ก็โยนเนี่ยเสี่ยวเชี่ยนลงบนโซฟา

“ปรมจารย์หนุ่ม คุณทำให้ฉันเจ็บนะ!”

“เสี่ยวเชี่ยน ฉันจะพูดความจริงกับเธอ เธอไม่ได้เป็นมนุษย์ใช่มั้ย?”

จีเย่มองไปที่เนี่ยเสี่ยวเชี่ยนที่ไม่พอใจซึ่งนอนอยู่บนโซฟา สีหน้าของเขาดูเคร่งขรึมมาก

มันช่วยไม่ได้ ในฐานะคนที่มีเลือดอุ่นที่บ่มเพาะศิลปะการต่อสู้ เป็นเรื่องนากสำหรับเขาที่จะอดทนต่อไปได้ เขาทำได้เพียงแค่รักษาสีหน้าไว้

โชคดีที่เขาเป็นคนที่สามารถเอาชีวิตรอดได้อย่างง่ายดายในถิ่นทุรกันดารเป็นเวลาหลายสิบวัน เขาจึงมีเจตจำนงที่แน่วแน่

“คุณ… คุณเป็นใครกันแน่? คุณรู้ชื่อฉันได้ยังไง?”

เนี่ยเสี่ยวเชี่ยนผู้ที่ทรุดตัลงบนโซฟาก็ได้มีสีหน้าที่เปลี่ยนไปในทันที ในขณะที่เธอมองจีเย่ด้วยสีหน้าตกตะลึง

“ศพบนหลังคาเป็นผลลัพธ์จากการทำงานหนักของเธอใช่มั้ย?”

จีเย่ไม่ตอบ แต่ยังคงจ้องเธอด้วยสีหน้าเคร่งขรึม

“ฉัน…”

สีหน้าของเนี่ยเสี่ยวเชี่ยนมืดลง

เธอจับมุมโซฟาด้วยนิ้วสีขาวน้ำนมของเธอและรู้สึกผิดเล็กน้อย และกลัวว่าจะถูกเปิดโปงการกระทำผิดของเธอ

“เสี่ยวเชี่ยน ฉันรู้ว่าเธอไม่มีทางเลือก ศพของเธออยู่ในเงื้อมมือของปีศาจต้นไม้พันปี ภายใต้การคุกคามของมัน เธอจึงถูกบังคับให้ทำร้านมนุษย์ อันที่จริงแล้วเธอเป็นคนที่มีจิตใจดี”

“ฉันมาที่วัดหลานรั่วเพื่อกำจัดปีศาจต้นไม้ตัวนี้เพื่อปกป้องเธอ ดังนั้นฉันหวังว่าเธอจะเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับมันให้ฉันฟัง”

ในที่สุดสีหน้าของจีเย่ก็เปลี่ยนไปเมื่อเขากล่าวออกมา

พูดตามตรง หากเขาไม่ได้อยู่ในสนามรบแห่งโชคชะตาและอยู่ในโลกจริงของโปเยโปโลเย เขาอาจจะพัฒนาความสัมพันธ์กับเสี่ยวเชี่ยนอย่างช้าๆ เหมือนกับที่ผู้ชายส่วนใหญ่บนโลกจินตนาการ เขาจะใช้ความสามารถของเขาเพื่อทำให้เธอตกหลุมรัก

อย่างไรก็ตามนี่คือ ‘สนามรบ’ เวลาแบบนี้ทำให้เขาต้องใช้มาตรการฉุกเฉิน