บทที่ 225-2 คำสั่งฉุกเฉิน (2)

สูตรโกงฉบับเด็กเรียน

บทที่ 225 คำสั่งฉุกเฉิน (2)

กองบรรณาธิการของโรงพยาบาลผู่เจ๋อตั้งอยู่บนอาคารสามด้านตะวันออกของโรงพยาบาล หลิวป๋อหลี่พาไป๋เยี่ยไปรายงานตัว กองบรรณาธิการเคยได้ยินวีรกรรมของไป๋เยี่ยมานานพอสมควรแล้ว ตั้งแต่ตอนเรียนปริญญาตรีที่เขาได้ตีพิมพ์บทความลง ‘เซลล์’ รวมกับวารสารชั้นนำต่างๆ จนมีคะแนนไอเอฟสูงถึงสองร้อยห้าสิบหกคะแนน ก่อนหน้านี้ก็ไล่ตีพิมพ์บทความทางการแพทย์ลงวารสารชั้นนำแทบทุกฉบับ

วารสาร ‘เดอะแลนซิต’ ‘นิวอิงแลนด์’ ‘เจเอเอ็มเอ’ ฯลฯ ล้วนแต่เป็นวารสารทางการแพทย์ทั้งนั้น

กองบรรณาธิการชุดปัจจุบันของ ‘การแพทย์ผู่เจ๋อสมัยใหม่’ มีแต่คนเก่าคนแก่ พวกคนรุ่นใหม่ที่มีศักยภาพต่างไม่สนใจทำงานตรงนี้ จึงขาดแคลนบุคลากรไป

พวกเขาให้การต้อนรับไป๋เยี่ยเล็กน้อย

ไม่ว่าแต่ละคนจะมีทัศนคติอย่างไรต่อไป๋เยี่ยที่เข้ามาเป็นหัวหน้าบรรณาธิการ พวกเขาก็ทำได้เพียงยอมรับ อย่างไรเขาก็เป็นบุคคลที่ผู้อำนวยการและท่านเลขาแต่งตั้งขึ้นมา

อีกทั้งตอนนี้ไป๋เยี่ยยังเป็นบุคคลมีชื่อเสียง เหตุการณ์ที่โตเกียวแพร่สะพัดไปทั่วโรงพยาบาล จนผู้คนในแวดวงการแพทย์ต่างรู้จักชื่อของเขา

ปัจจุบันเขากลายเป็นหัวหน้าบรรณาธิการแล้ว ต้องรับหน้าที่ดูแลเรื่องต่างๆ ในกองบรรณาธิการ เดิมทีเขาก็อยากจะจัดทำวารสารขึ้นมาเองอยู่แล้ว ตอนนี้ทุกอย่างพร้อม เขาไม่จำเป็นต้องขวนขวายต่อไปแล้ว

ช่วงนี้นอกจากการทดลองแล้ว ไป๋เยี่ยก็คอยสอบถามและหาวิธีการจัดทำวารสารไปด้วย

สิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับวารสารที่ดีคือชื่อของวารสารและรากฐาน

หากคุณต้องการให้คนจำนวนมากเข้ามามีส่วนร่วมในวารสารของคุณ สิ่งแรกที่คุณต้องทำคือทำให้โลกรับรู้ถึงสถานะของวารสาร

ไป๋เยี่ยริเริ่มนำบทความตีพิมพ์ลง ‘การแพทย์ผู่เจ๋อสมัยใหม่’ ได้ ซึ่งอาจนำไปสู่การปรับปรุงคุณภาพของวารสารได้ในระยะเวลาอันสั้น

อย่างไรก็ตาม คนเราย่อมมีขีดจำกัด ต้องตุนบทความต้นฉบับไว้เป็นเวลานาน เพื่อคงความต่อเนื่องในการตีพิมพ์วารสารไว้

เหตุผลที่ ‘เดอะแลนซิต’ กลายเป็นวารสารอันเลื่องชื่อมาโดยตลอดก็เพราะว่าได้รับบทความต้นฉบับจากทั่วโลกมาอย่างต่อเนื่อง มิได้พึ่งพาแต่บารมีคนใหญ่คนโต

ไป๋เยี่ยคิดว่าตราบใดที่คะแนนไอเอฟของวารสารเพิ่มขึ้น ก็ย่อมมีผู้คนส่งบทความเข้ามามากขึ้นเรื่อยๆ คุณสมบัติที่กองบรรณาธิการพึงมีคือความสามารถในการคัดเลือกและตรวจสอบบทความ

ดังนั้นไป๋เยี่ยจึงตัดสินใจจัดระเบียบกองบรรณาธิการใหม่ หลังจากที่ได้พูดคุยกับคาร์ลและเอ็นเดอร์สมาแล้ว

สมาชิกในกองบรรณาธิการถูกส่งไปศึกษาเพิ่มเติม วารสารจะหยุดตีพิมพ์ชั่วคราวเป็นเวลาหนึ่งเดือน

หลังจากที่มีข่าวออกมา ผู้คนต่างพากันตกตะลึง เป็นไปได้ไง

ผอ.จะยอมระงับการตีพิมพ์จริงเหรอ

มันเกินไปหรือเปล่า

ทว่าไม่น่าเชื่อ หลิวป๋อหลี่เห็นด้วย!

นอกจากจะส่งคนในกองบรรณาธิการไปศึกษาดูงานแล้ว ไป๋เยี่ยยังออกประกาศรับสมัครอีกด้วย!

ข่าวนี้ดึงดูดบรรดาบุคลากรจากทั้งในและนอกประเทศเข้ามา จนหนึ่งสัปดาห์ให้หลังก็เริ่มมีผู้คนเข้ามาสมัคร

ชื่อเสียงของวารสาร ‘การแพทย์ผู่เจ๋อสมัยใหม่’ ยังไม่เลื่องลือนัก จึงยังดึงดูดเหล่าผู้เชี่ยวชาญไม่ได้

เรื่องวารสารคงไม่ประสบความสำเร็จภายในวันหรือสองวัน ไป๋เยี่ยยังคงพุ่งเป้าไปที่งานวิจัยเรื่องจุลชีพภายในลำไส้มากกว่า

ไป๋เยี่ยปรึกษาคาร์ลมาแล้ว เขาจะรอให้สมาชิกกองบรรณาธิการกลับมาจากการศึกษาดูงานก่อน จากนั้นจะขอให้ผู้เชี่ยวชาญที่ทำงานวิจัยเรื่องจุลชีพภายในลำไส้ทยอยเขียนบทความเข้ามา ถึงตอนนั้นวารสาร ‘เซลล์’ จะเข้ามาช่วยดำเนินการนำวารสารเข้าสู่ฐานข้อมูลโดยเร็วที่สุด

ขั้นตอนต่อไปคือเชิญผู้เชี่ยวชาญมาเขียนคำนำให้วารสารเพื่อตีพิมพ์ต่อไป

นี่คือการทดสอบเส้นสายอย่างหนึ่ง…

ตอนนี้ผู้เชี่ยวชาญที่ไป๋เยี่ยรู้จักและค่อนข้างสนิทคงมีแค่เดซี่และคาริสจากสถาบันแพทย์แผนจีน

ไป๋เยี่ยจึงบากหน้าไปชวนพวกเขามาเขียนบทความลงใน ‘การแพทย์ผู่เจ๋อสมัยใหม่’

แต่เท่านี้ยังไม่เพียงพอ…

อย่างไรก็ตาม บทความคุณภาพสูงมักจะเขียนยาก อีกทั้งไป๋เยี่ยยังต้องการบทความจำนวนมากด้วย ยิ่งยุ่งยากเข้าไปใหญ่

ไป๋เยี่ยจึงได้แต่โพสต์ข้อความลงบนโมเมนต์วีแชตด้วยความหมดหวัง

[กำลังหาคนมาเขียนบทความลงในวารสาร ‘การแพทย์ผู่เจ๋อสมัยใหม่’…ใครมีคุณสมบัติเหมาะสมก็โปรดส่งบทความมาให้ผมทีครับ]

หลังจากโพสต์โมเมนต์ลงไปไม่นาน ไป๋เยี่ยก็ได้รับข้อความมากมาย

อาจารย์ถูโยว [เดือนนี้ฉันเขียนบทความไว้ เสร็จแล้วจะส่งให้]

อาจารย์จางเสวียเวิ่น [ต้องการกี่บทความล่ะ ผมจะบอกให้ลูกศิษย์เขียนให้]

สวี่โฮ่วเต้า [ฉันได้ยินมาว่าคุณได้เป็นหัวหน้าบรรณาธิการของวารสาร ‘การแพทย์ผู่เจ๋อสมัยใหม่’ ขอแสดงความยินดีด้วย เดือนหน้าผมจะส่งบทความไปให้คุณ]

ไป๋เยี่ยกปลื้มปีติมาก บทความเหล่านั้นแทบจะทำให้เขาตกอยู่ในภวังค์

อย่างไรเสียทั้งศาสตราจารย์ถูโยว อาจารย์จางเสวียเวิ่น สวี่โฮ่วเต้าและคนอื่นๆ ต่างก็มีชื่อเสียงในวงการนี้ บทความต้นฉบับที่เขียนโดยปรมาจารย์แพทย์แผนจีนและผู้คนเหล่านี้ล้วนหายากยิ่ง!

เรื่องบทความก็ไม่มีอะไรน่ากังวลแล้ว!

ไป๋เยี่ยรู้สึกดีขึ้นมาก

จู่ๆ โทรศัพท์ของไป๋เยี่ยก็ดังขึ้น

ปรากฏว่าเป็นสายจากต่างประเทศ ไป๋เยี่ยจึงกดรับสายด้วยความงุนงง

“สวัสดีครับ คุณไป๋เยี่ย ผมเจียลี่”

น้ำเสียงของเจียลี่ฟังดูผิดแปลกไป ทำเอาไป๋เยี่ยอดสงสัยไม่ได้ เขามีเรื่องอะไรหรือเปล่านะ

ไป๋เยี่ยทักทายกลับ “สวัสดีครับ คุณเจียลี่”

เจียลี่ยังคงกล่าวด้วยรอยยิ้ม “ผมมาเข้าร่วมการประชุมที่จีนและได้พบกับคุณหลี่มู่หยางโดยบังเอิญ เขาเล่าเรื่องคุณให้ผมฟังแล้ว ขอแสดงความยินดีที่ได้รับตำแหน่งเป็นหัวหน้าบรรณาธิการของวารสาร ‘การแพทย์ผู่เจ๋อสมัยใหม่’ นะครับ ผมเชื่อมั่นในศักยภาพของคุณ คุณต้องทำมันได้ดีอย่างแน่นอน”

ไป๋เยี่ยยิ้ม ข่าวไปไวจริงๆ “ขอบคุณที่คอยเป็นห่วงนะครับ คุณไม่ได้บอกผมว่าจะกลับมาที่จีน ไม่อย่างนั้นผมคงไปต้อนรับคุณแล้ว”

เจียลี่หัวเราะเบาๆ “ผมได้ยินมาว่าช่วงนี้คุณงานยุ่งมาก เลยไม่อยากรบกวนน่ะ วันนี้ผมโทรมาหาคุณเพราะตั้งใจจะบอกบางอย่างกับคุณ”

“ผมเขียนบทความทบทวนเกี่ยวกับการพัฒนาวิทยาการการแพทย์บริเวณทวารหนัก ตอนแรกผมกำลังพิจารณาว่าจะส่งมันไปให้วารสารเจ้าไหนดี แต่ดูเหมือนว่าตอนนี้ผมจะไม่ต้องกังวลเรื่องนั้นแล้ว ผมส่งบทความฉบับนั้นมาให้คุณแทนได้ไหมครับ”

ไป๋เยี่ยอึ้งงันไป!

ใครเล่นบทเป็นเจียลี่อยู่

เขาเป็นถึงประธานสาขาทวารหนักแห่งสมาคมศัลยแพทย์ ไม่เกินจริงเลยหากจะกล่าวว่าปัจจุบันเขาคือผู้ทรงอิทธิพลมากที่สุดในโลกประจำสาขาทวารหนัก เขาคิดจะเผยแพร่บทความทบทวนของเขาลงในวารสาร ‘การแพทย์ผู่เจ๋อสมัยใหม่’ ทั้งที เหตุใดไป๋เยี่ยจะไม่ตั้งตารอล่ะ!

ไป๋เยี่ยครุ่นคิดก่อนจะถามอีกฝ่าย “ได้เหรอครับ คือว่าวารสารของผมยังไม่ถือเป็นวารสารเต็มตัวเลยครับ อิทธิพลของมันยังน้อยเกินไป อีกอย่าง…ประวัติย่อๆ เกี่ยวกับการแพทย์สาขาทวารหนักก็ดูจะ…”

ไป๋เยี่ยพูดไม่ทันจบ เจียลี่ก็แทรกขึ้นมา “ได้สิ ผมจำคำกล่าวหนึ่งของจีนได้ คนเราต้องรู้จัก ‘มอบถ่านยามหิมะตก[1]‘ บ้าง! แน่นอนว่าผมก็มีเงื่อนไขให้คุณ!”

ไป๋เยี่ยรีบตอบรับ “บอกผมทีครับ”

“ผมขอเป็นรองบรรณาธิการของคอลัมน์สาขาทวารหนักใน ‘การแพทย์ผู่เจ๋อสมัยใหม่’ ได้ไหมครับ เป็นตำแหน่งชั่วคราวก็ได้ แน่นอนว่าผมจะไม่ทำตัวเกียจคร้าน ผมจะคอยตีพิมพ์บทความให้ทุกๆ ปี หัวหน้าไป๋ว่าไงบ้างครับ”

ไป๋เยี่ยจะตอบอย่างอื่นได้อย่างไร ตื่นเต้นตอนนี้ก็ยังไม่สายเกินไป!

เขาพยายามควบคุมอารมณ์อย่างเต็มที่ ทำไมวารสารหลายๆ ฉบับถึงต้องมีบรรณาธิการกิตติมศักดิ์มากมายหลายรายล่ะ หากไม่ใช่เพราะต้องการเพิ่มความนิยม

นับเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้เจียลี่เข้ามาบริหารคอลัมน์สาขาทวารหนัก!

ไป๋เยี่ยเข้าใจแล้วว่าเจียลี่มีเจตนาอยากช่วยเขาจึงกล่าวขอบคุณอย่างรวดเร็ว “ขอบคุณครับ!”

เจียลี่ยิ้มพลางกล่าวต่ออย่างสุภาพ “เมื่อวารสารของคุณตีพิมพ์แล้ว ผมจะช่วยคุณเผยแพร่มันเอง เผื่อจะมีประโยชน์บ้าง”

ไม่ใช่แค่มีประโยชน์บ้าง แต่มีประโยชน์อย่างยิ่งเลยต่างหาก!

[1] มอบถ่านยามหิมะตก แปลว่าช่วยเหลือผู้อื่นในยามจำเป็น