บทที่ 174 แต่งงานกับเศรษฐี

ทะลุมิติไปเป็นสาวนาผู้ร่ำรวย

บทที่ 174 แต่งงานกับเศรษฐี

บทที่ 174 แต่งงานกับเศรษฐี

เมื่อเห็นท่าทางที่มีความสุขของลูกสาว ซุนซื่อก็ตื่นเต้นมากเช่นกัน แต่ความตื่นเต้นนั้นลดลงกว่าคราแรก อย่างไรก็ตาม โฉนดบ้านก็มีชื่อพวกเขาแล้ว บ้านหลังนี้มันกลายเป็นของพวกเขาแล้วจริง ๆ

“ใช่แล้ว ที่นี่คือบ้านของเรา!” สีหน้าของซุนซื่อภาคภูมิใจ “จากนี้ไป เจ้าจะต้องรับผิดชอบงานปักและเขียนจดหมายในห้องส่วนตัว มาเรียนรู้การใช้ชีวิตแบบคุณหนูและฮูหยินกันเถอะ!”

เมื่อกู้ซินเถาคิดว่าในอนาคตจะตนเองจะมีสาวรับใช้คอยปรนนิบัติ นางก็รู้สึกภูมิใจมากขึ้นไปอีก

จากเด็กหญิงในชนบท สู่เด็กหญิงภายในเมือง

“ท่านแม่เจ้าคะ เหล่าสหายของข้าได้ยินว่าครอบครัวของเราซื้อบ้านหลังใหญ่ ไม่ต้องพูดถึงว่าพวกนางจะอิจฉาแค่ไหน พวกนางทั้งหมดเข้ามาประจบประแจง และบอกว่าต้องการมาเยี่ยมบ้านของเรา!”

“ซินเถา เจ้าต้องมองอนาคตให้ไกลกว่านี้!” ซุนซื่อกล่าว “เราเคยอาศัยอยู่ในร้านอาหารกับพ่อของเจ้า และบรรดาสหายที่เราพบต่างก็มาจากครอบครัวเล็ก ๆ ตอนนี้ครอบครัวของเราอยู่ในเมือง หลังจากนี้ต้องตั้งเป้าหมายให้สูงขึ้น ทำความรู้จักกับผู้มีอำนาจมากที่สุดในเมืองนี้ให้ได้ เข้าใจหรือไม่?”

หลังจากที่กู้ซินเถาได้ยิน นางก็สับสนเล็กน้อย “ท่านแม่หมายถึงหลังจากนี้ไม่ต้องติดต่อกับสหายพวกนั้นแล้วใช่หรือไม่เจ้าคะ?”

“ถ้าเราติดต่อไม่ได้ ก็ไม่ต้องติดต่อ!” ซุนซื่อกล่าว “เมื่อก่อนเรายังไม่มั่นคง เราจึงสามารถเดินไปกับพวกนางได้ แต่ตอนนี้เราไม่เหมือนเดิมแล้ว และเราก็ไม่เหมือนพวกนาง เจ้าต้องเข้าใจสถานะของตนเอง! เจ้าต้องรู้ว่าที่ดินที่เหยียบอยู่และบ้านที่อาศัยอยู่ตอนนี้เป็นสถานที่ที่หรูหราและแพงที่สุดในเมือง รู้ใช่ไหมว่าคนแบบไหนอาศัยอยู่ที่นี่?”

“ท่านแม่…”

“ที่แห่งนี้คือสถานที่สำหรับผู้มั่งคั่งและร่ำรวยที่สุดในเมืองหลิวเจียอาศัยอยู่ ดูบ้านที่อยู่ห่างจากเราสองหลังสิ บ้านของเขาใหญ่กว่าบ้านเราสองสามเท่า แค่คนรับใช้ก็มีเป็นสิบคน!”

เมื่อกู้ซินเถาได้ยินสิ่งนี้ นางก็อ้าปากค้างด้วยความประหลาดใจ และไม่สามารถหุบปากได้ครู่หนึ่ง “ท่านแม่เจ้าคะ ท่านพูดจริงหรือ ครอบครัวของพวกเขาใหญ่ขนาดนั้นเชียวหรือ”

“ข้าจะโกหกเจ้าเพื่ออะไร? ข้าได้ยินมากับหูว่าคนบนถนนพูดอะไร” ซุนซื่อกระซิบ “ข้าได้ยินคนพูดว่าแซ่ของครอบครัวนี้คือเจียง และมีญาติห่าง ๆ เป็นขุนนางในเมืองหลวง!”

“…” กู้ซินเถาไม่เคยได้ยินเรื่องนี้ แต่หลังจากได้ยินคำพูดของซุนซื่อนางอาจยังไม่รู้ ครอบครัวนี้ร่ำรวยและมีญาติเป็นขุนนาง แต่เรื่องนี้เกี่ยวอะไรกับนางอย่างไร?

“เด็กโง่ อยากเป็นเหมือนแม่ตลอดชีวิตหรืออย่างไร? อยากทำทุกอย่างด้วยตัวเองหรือ? ไม่อยากมีสาวรับใช้ คอยรับใช้อยู่ใกล้ ๆ หรือ?”

“ท่านแม่หมายความว่าอย่างไร…” กู้ซินเถาไม่ได้คิดเรื่องนั้น ครั้นได้ยินมารดาพูดเช่นนั้น เด็กหญิงคนนี้ก็เขินอายเล็กน้อย และพูดว่า “ท่านแม่…”

“เด็กโง่ ไม่ว่าสตรีคนไหนก็อยากแต่งงานกันทั้งนั้น! ไม่มีอะไรต้องอาย!” ซุนซื่อเห็นสีหน้าเอียงอายของลูกสาว แม้นางจะอายุแค่สิบเอ็ดขวบ แต่นางก็ดูดีมาก ผอมเพรียว มีเนื้อตรงที่ควรมีเนื้อ และเว้าตรงส่วนที่ควรจะเว้า คราวนี้ใบหน้าของนางขึ้นสีแดงระเรื่อ ตอนนี้สวมชุดฤดูใบไม้ผลิสีชมพูอยู่ ดูราวกับดอกท้อแรกแย้ม

ความงามของกู้ซินเถา ไม่ต้องพูดถึงความภูมิใจในใจของซุนซื่อ ในอนาคตหากลูกสาวคนนี้แต่งงานกับชายผู้ที่ฐานะมั่งคั่ง กู้ซินเถาก็จะมีความสุขตลอดชีวิต แม้แต่กู้จือเหวินหรือพวกเขาก็จะมีความสุขเช่นกัน

ตั้งแต่นางให้กำเนิดลูกสาว ซุนซื่อก็มีความคิดนี้ ตอนนี้นางเต็มไปด้วยเสน่ห์และไม่มีผู้ใดในเมืองนี้ที่งดงามไปกว่าลูกสาวของตน นางรู้สึกอิ่มเอมใจ ในเมืองนี้ ครอบครัวที่มีอำนาจมากที่สุดและร่ำรวยที่สุด กู้ซินเถาจะเป็นคนเลือกเอง!

“ข้าบอกเจ้าว่า ครอบครัวข้างบ้านเรามีลูกชายคนเดียวชื่อเจียงหย่วน” ซุนซื่อกล่าวจากข้อมูลที่ได้ฟังมา “เด็กชายคนนั้นอายุใกล้เคียงกับเจ้า ปีนี้อายุแค่สิบสามปี ถ้าเจ้าสามารถเป็นภรรยาของเขาได้ หลังจากนั้นเจ้าก็จะเป็นฮูหยินของตระกูลเจียง และจะได้สวมใส่ทอง เงิน ผ้าไหมชั้นดี และกินดีอยู่ดี เจ้าอยากมีชีวิตแบบนั้นหรือไม่?”

ตามคำอธิบายของซุนซื่อ กู้ซินเถาก็คิดเกี่ยวกับประโยชน์ที่จะได้รับหากนางกลายเป็นภรรยาของเจียงหย่วน และไม่สามารถระงับความตื่นเต้นได้ “ท่านแม่ ข้า…ข้า…อยาก! “

“อืม เด็กดี เจ้าเกิดมารูปโฉมงดงาม และครอบครัวของเราก็ไม่แย่ พ่อของเจ้าเป็นพนักงานบัญชี น้องชายของเจ้าก็เรียนที่หอหนังสืออวี้และจะสอบซิ่วไฉในอนาคต เมื่อถึงเวลานั้นเจ้าจะมีน้องชายที่เป็นขุนนาง ก็ไม่รู้ว่าครอบครัวสามีของเจ้าจะชื่นชอบเจ้ามากขนาดไหน!” ซุนซื่อพอใจกับอนาคตนี้มาก ทั้งรวยทั้งมีอำนาจ ช่างวิเศษเหลือเกิน!

และกู้ซินเถาก็ติดเชื้อจากซุนซื่อ ยิ่งมีความมั่นใจที่จะแต่งงานกับตระกูลเจียง

“แต่ท่านแม่เจ้าคะ ข้าไม่รู้จักเจียงหย่วน และสหายของข้าก็ไม่มีใครรู้จักเจียงหย่วน แล้วจะรู้จักเขาได้อย่างไร!” กู้ซินเถารู้สึกกังวลเล็กน้อยเมื่อนึกถึงเรื่องนี้

“อย่ากังวลไปเลย แม่รู้หมดแล้ว เจียงหย่วนคนนี้ชอบไปโรงน้ำชาเพื่อดื่มชา วันหลังถ้าไม่มีอะไรทำ เจ้าก็ออกไปสร้างโอกาสการติดต่อกับเจียงหย่วนคนนั้นรู้ไหม?” ซุนซื่อมีภาพที่ชัดเจน คงจะดีถ้าได้เจียงหย่วนมาเป็นลูกเขยของนาง

“ท่านแม่ ข้ารู้แล้วเจ้าค่ะ!”

เมื่อกู้ซินเถาเข้าใจสิ่งที่นางหมายถึงแล้ว ซุนซื่อก็ไม่ได้พูดอะไรอีก เหตุผลที่นางรีบบอกเรื่องนี้ก็เพราะนายน้อยของตระกูลเจียงมีอายุสิบสามปีแล้ว และเขาจะต้องแต่งภรรยาในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า

อย่างที่สองคือ ครอบครัวกู้ย้ายไปอยู่บ้านใหม่ จากนี้ไปคงจะมีคนมากมายที่อยากได้กู้ซินเถา ถ้าไม่บอกกู้ซินเถาในตอนนี้ก็กลัวว่าจะถูกบุรุษธรรมดาหลอก ตอนนี้จะแค่สอนบทเรียนให้กู้ซินเถาและสัญญากับนางว่าจะไม่มีบุรุษธรรมดาคนไหนที่จะเข้าตานางได้

อาการของกู้เสี่ยวอี้ดีขึ้นทุกวันและนางก็กลับมามีชีวิตชีวาและร่าเริงเหมือนก่อนหน้านี้ เมื่อไปหาท่านหมอหม่า เขาก็คิดว่ามันน่าเหลือเชื่อจนถึงกับบอกว่าเป็นไปไม่ได้

“ชีพจรของเสี่ยวอี้ครั้งสุดท้าย เหมือนกับ…” ท่านหมอหม่าลังเล แต่เมื่อเห็นว่าเด็กหญิงคนนี้ยังมีชีวิตอยู่ ท่านหมอหม่าจึงรู้สึกอายเล็กน้อย และเมื่อมองกู้เสี่ยวหวานก็อับอายยิ่งขึ้น

ดูเหมือนว่าทักษะทางการแพทย์ของเขาจะยังไม่ดีพอ

…………………………………………………………………………………………………………………………

สารจากผู้แปล

บ้านใหญ่กู้นี่ฝันหวานไปเถอะ เตรียมใจหากว่าไม่เป็นไปตามหวังไว้หน่อยก็แล้วกัน

ไหหม่า(海馬)